บทที่ 446 คุณสมบัติ
ไม่เพียงแค่สำนักข่าวหลงสิงเท่านั้น เพราะนักข่าวจากสำนักข่าวบันเทิงอื่นๆ ก็กำลังจ้องมองหาตัวดาราเหมือนกัน ถ้าหากว่ามีใครที่โดดเด่นออกมาที่สุด ก็ยังต้องมีการนัดสัมภาษณ์กันในภายหลังอีกด้วย
การเดินทางไปฝรั่งเศสในครั้งนี้ คนในแวดวงหนังภาพยนตร์ก็คงจะเปรียบมันว่าเป็นเหมือนการเดินทางไปแสวงบุญอะไรสักอย่าง แต่สำหรับซูหมิ่นแล้ว มันก็แค่ที่ที่เหล่าดาราประลองความโด่งดังของตัวเองก็เท่านั้น
ใบหน้าของเถาเถายังคงใฝ่ฝันถึงแต่ภาพของเทศกาลหนังภาพยนตร์ในครั้งนี้ น้ำเย็นๆ ที่ซูหมิ่นมาเพื่อปลุกหล่อนก็ไม่ได้ช่วยดับไฟที่กำลังค่อยๆ ลุกโชนเลยสักนิด หล่อนยังคงมองซ้ายมองขวาไปรอบๆ
วันนี้ในสนามบินหัวเซี่ยดูคึกคักเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็สามารถเห็นเหล่านักข่าวที่กำลังจะมุ่งหน้าไปที่ฝรั่งเศสเหมือนกัน และเหมือนว่าเถาเถาจะสังเกตเห็นเข้ากับอะไรบางอย่าง หล่อนหันมาสะกิดซูหมิ่นอย่างตื่นเต้น
“พี่ซู ดูนั่นสิคะ”
หล่อนยกมือขึ้น แล้วชี้ไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตรงนั้นมีชายคนหนึ่งที่ดูไม่ได้สะดุดตาอะไรมากมายนั่งอยู่ เรือนผมสีขาวของเขาถูกหวีไปด้านหลังอย่างเรียบร้อย ข้างในสวมเป็นเสื้อเชิ้ต และทับด้วยชุดสูทที่ดูเป็นทางการ อากาศช่วงเดือนมีนาคมของตี้ตูนั้นยังมีความเย็นอยู่เล็กน้อย ถึงแม้ว่าในสนามบินจะเปิดฮีตเตอร์เอาไว้ แต่ท่อนบนของเขาก็มีเสื้อสีเหลืองอีกตัวคลุมอยู่ ดูไม่เหมือนกับผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่มีท่าทางเร่งรีบเลยสักนิดเดียว
เขาถือปากกาไว้แท่งหนึ่ง ขายกไขว้กันเอาไว้ สมุดบันทึกตั้งอยู่บนขาของเขาอีกที และดูเหมือนว่ากำลังจดบันทึกอะไรบางอย่างอยู่ด้วย เหมือนเสียงประกาศหรือเสียงเซ็งแซ่ที่อยู่รอบๆ ไม่ได้ไปรบกวนจิตใจที่กำลังจดจ่อของเขาเลยสักนิดเดียว
“นั่นมันซูเพ่ยเอินนี่นา”
แวบเดียวเถาเถาก็จำได้แล้วว่านั่นคือซูเพ่ยเอิน และเหมือนว่าสายตาของหล่อนจะทำให้ซูเพ่ยเอินเริ่มรู้สึกตัวแล้ว ชายอาวุโสคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาและยิ้มให้กับหล่อน
“แล้วซูเพ่ยเอินมีอะไรน่าแปลกใจกันล่ะ?” ซูหมิ่นรู้สึกขบขันกับท่าทางตื่นเต้นของหล่อน “ตอนนี้จะเจอใครก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแล้ว เพราะไม่ว่าเธอจะมองไปทางไหน เธอก็จะเห็นแต่ดารากับนักข่าวทั้งนั้นแหละ”
ซูเพ่ยเอินคือนักวิจารณ์หนังภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียง ไม่เพียงแค่ในประเทศเท่านั้น เพราะแม้แต่ในต่างประเทศเองเขาก็มีชื่อเสียงไม่น้อย และถ้าเทศกาลหนังภาพยนตร์ของฝรั่งเศสยังเชิญสำนักข่าวหลงสิงมาได้ การที่ซูเพ่ยเอินได้บัตรเชิญไปงานครั้งนี้ก็ง่ายกว่าตอนที่ทั้งสองคนขอไปหลายเท่า
และยังไงเสียเขาก็เป็นคนที่เกี่ยวข้องกับวงการหนังภาพยนตร์ การที่ฝรั่งเศสจัดเทศกาลหนังภาพยนตร์แบบนี้ขึ้นและเชิญเขาไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรอยู่แล้ว
สิ่งที่ซูหมิ่นพูดก็ถูก ในห้องรับรองวีไอพีทั้งหลายในสนามบินตอนนี้ ก็คงจะมีเหล่าดารามากมายกำลังนั่งรอขึ้นเครื่องอยู่ และตอนที่พูดนั้นซูหมิ่นก็มองไปรอบๆ และชี้ให้ดู
“ตรงนั้นคือเฝิงหนาน เห็นไหม?” พอหล่อนพูดแบบนั้น ก็เลื่อนหน้าเข้าไปใกล้กับเถาเถาและกระซิบ
“ดูเหมือนว่าหล่อนเองก็มีผลงานหนังที่จะไปเข้าชิงรางวัลที่เทศกาลหนังภาพยนตร์ด้วย เกิดมามีชาติตระกูลที่ดี มีฝีมือการแสดง มีรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม มีความสามารถ ว่ากันว่าหนังที่จะเข้าชิงในเทศกาลหนังครั้งนี้ เป็นหนังที่หล่อนทั้งกำกับและแสดงเองเลยด้วยนะ บางทีว่าหลังงานหนังในครั้งนี้จบลง หล่อนก็อาจจะดังขึ้นมาเลยก็ได้”
ซูหมิ่นพูดจบ ก็จ้องไปที่เถาเถาแวบหนึ่ง
“ตาช่างไม่มีแววจริงๆ จะไปดูซูเพ่ยเอินทำไมกัน สนใจคนที่มีแววและอาจจะได้สัมภาษณ์อย่าง เฝิงหนานไม่ดีกว่าหรือ”
เถาเถาไม่ได้พูดอะไร ซูหมิ่นเปิดฝาขวดน้ำออก แล้วดื่มไปสองอึก จากนั้นก็พูดต่อ
“ฉันพอจะมีคอนเนคชั่นกับทีมงานของหล่อนอยู่บ้าง ว่ากันว่าเพื่อที่จะเข้าร่วมงานหนังภาพยนตร์ในครั้งนี้ เฝิงหนานได้ทุ่มเงินไปกับการสั่งตัดชุดราตรีไปถึงยี่สิบชุดเลยนะ บนพรมแดงครั้งนี้ หล่อนจะต้องเฉิดฉายมากแน่ๆ”
เถาเถาก้มหน้าลงเปิดดูตารางงานของตัวเอง ในตารางงานจองหล่อน หนังเรื่อง ‘Revenge’ ของ เฝิงหนานนั้นก็อยู่ในตารางของหล่อนเหมือนกัน
แต่แค่ว่าหล่อนชอบเจียงเซ่อมากกว่าเท่านั้นเอง ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องดูหนังของเจียงเซ่อก่อน หล่อนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
“หนังเรื่อง ‘Revenge’ ที่เฝิงหนานถ่ายทำเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าจะมีคุณภาพแค่ไหนกัน ได้ยินมาว่าหนังเรื่องนี้หล่อนทำมานิยายสั้นเรื่องหนึ่ง ก็คงจะไม่เลวเหมือนกัน ถึงได้ผ่านมาเข้าร่วมชิงรางวัลในเทศกาลหนังภาพยนตร์ของฝรั่งเศสได้...”
พอหล่อนพูดจบ ซูหมิ่นก็หันไปมองหล่อนด้วยแววตาอดกลั้นอยู่ครู่ใหญ่
“เธอยังเข้าร่วมงานแบบนี้น้อยไปจริงๆ นั่นแหละ” พอหล่อนพูดจบ เถาเถาก็เงยหน้ามองหล่อนด้วยแววตาที่น้อมรับคำสั่งสอน ซูหมิ่นกำลังมองไปยังเฝิงหนานที่กำลังถูกสัมภาษณ์อยู่ไกลๆ นั่น ตอนนี้หล่อนอยู่ในชุดที่ตั้งอกตั้งใจแต่งมาเป็นอย่างดี นักข่าวหลายๆ คนต่างก็ต้องนั่งยองลงเพื่อถ่ายรูปหล่อน ซูหมิ่นกดเสียงต่ำลง
“จะดีหรือไม่ดี จะมาพูดตอนนี้มันก็ยังเร็วไป เพราะเทศกาลหนังของฝรั่งเศสก็มีการส่งคำร้องขอที่แตกต่างกันออกไป”
เทศกาลงานหนังภาพยนตร์ของฝรั่งเศสที่หนึ่งปีจัดครั้งหนึ่งนั้นมีการแบ่งประเภทของรางวัลออกไปมากมาย ถ้าหากว่าเป็นหนังแนวย้อนยุค ในเทศกาลหนัง หนังที่เป็นแนวย้อนยุคนั้นจะถูกฉายในโรงภาพยนตร์ และทีมงานที่ได้บัตรเชิญไปก็สามารถที่จะขอเข้าไปดูได้
นอกจากประเภทนี้แล้ว ก็ยังมีประเภทที่ต้องแข่งขันกันและประเภทอื่นๆ อีกมากมาย ประเภทการแข่งขันก็คือจะต้องมีการชิงรางวัลใหญ่ในงานเทศกาลหนังภาพยนตร์ และนั่นก็คือรางวัลที่เหล่าผู้กำกับทั้งหลายพากันใฝ่ฝันที่จะได้รับมันมา ทุกครั้งที่มีงานหนังภาพยนตร์ ก็มักจะมีผู้กำกับที่โด่งดังและมีความสามารถมากมายคอยเอาผลงานหนังของตัวเองมาชิงรางวัลอยู่เสมอ แต่ก็มีการตกรอบ และทางงานเทศกาลหนังภาพยนตร์ก็ยังเลือกหนังที่ความโดดเด่นที่สุดเพื่อให้ได้รางวัลไป
แต่ประเภทนอกเหนือจากนั้น ก็ยังมีประเภทที่ไม่จำเป็นต้องลงแข่งขันอะไร แต่เอาเงินเข้านิดหน่อย หนังเหล่านั้นก็จะถูกฉายให้ทุกคนได้ดู แต่จะไม่ได้เข้าร่วมงานชิงรางวัล สำหรับคนในวงการแล้ว จะมองว่ามันเป็นทางที่ง่ายเกินไป แต่ผู้กำกับหน้าใหม่หลายๆ คนก็ยินดีที่จะเอาผลงานตัวเองมาเข้าในประเภทนี้ แค่คนในประเทศรู้ว่าหนังนั้นเคยได้เข้าร่วมเทศกาลหนังภาพยนตร์ที่ฝรั่งเศส ก็เพียงพอที่จะให้คนดูในประเทศที่ไม่ได้รู้ลึกอะไรมากถือว่าเป็นเรื่องที่มีหน้ามีตาพอแล้ว
เฝิงหนานเองก็ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้กำกับหน้าใหม่ประเภทนี้ ถึงแม้ว่าหนังเรื่อง ‘Revenge’ ของหล่อนจะได้มีการเข้าร่วมงานเทศกาลหนังภาพยนตร์ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ประเภทที่จะเอาไปชิงรางวัล
การที่หล่อนทำแบบนั้น ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าหล่อนเองก็รู้แก่ใจดีว่าผลงานหนังของหล่อน ไม่สามารถคว้ารางวัลมาได้แน่ๆ
เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้ไปอยู่ท่ามกลางหนังที่มีความโดดเด่นกว่า แล้วถูกคัดออกไปอย่างรวดเร็ว จนถูกสื่อในประเทศซักถามด้วยความข้อสงสัยแล้ว หล่อนจึงเลือกอย่างชาญฉลาดด้วยการเอาเฉพาะชื่อเสียง และให้เทศกาลงานหนังในครั้งนี้เป็นตัวช่วยในการโปรโมตหนังของตัวเอง ถึงตอนนั้นหล่อนก็แค่ไปเดินบนพรมแดงสักรอบ ชื่อเสียงของหล่อนก็เพิ่มขึ้นแล้ว และเมื่อหนังเรื่อง ‘Revenge’ ของหล่อนเข้าฉายหลังจากนั้น ก็ไม่ต้องกลัวว่ายอดขายจะไม่ดีแล้ว
“เมื่อลองเทียบกันแล้ว หนังเรื่อง ‘Evil’ ที่เจียงเซ่อคนโปรดของเธอแสดง จ้าวร่างก็ได้มีการเข้าชิงรางวัลในครั้งนี้ด้วย”
ซูหมิ่นถือขวดน้ำเอาไว้
“ที่จ้าวร่างทำแบบนั้น ก็แสดงว่าคงคาดหวังในหนังเรื่อง ‘Evil’ ของตัวเองสูงไม่น้อยเลย และมั่นใจว่าหนังของตัวเองก็ไม่เลวเหมือนกัน อย่างน้อยก็คงไม่ถูกคัดออกตั้งแต่รอบแรกๆ หรือไม่ก็คงเป็นเพราะมั่นใจในตัวเองมากเกินไป”
เฝิงหนานที่ยืนอยู่ไกลๆ นั่นกำลังโพสท่าถ่ายรูปไปเรื่อยๆ หล่อนสวมชุดราตรีสีแดงโชว์แผ่นหลังที่มีเชือกผูกคลายๆ ผิวขาวๆ ที่อยู่ใต้สีเสื้อสีสดทำให้ยิ่งดูเป็นที่น่าดึงดูดสายตาสุดๆ ท่ามกลางแสงไฟหล่อนแต่งหน้าได้อย่างโดดเด่นกว่าใครๆ และกำลังให้สัมภาษณ์กับนักข่าวอยู่
หลังจากที่เจียงเซ่อมาถึงที่เมืองนีซและมายังจุดนัดรวมตัวกับกลุ่มของจ้าวร่างเรียบร้อยแล้ว ก็ยังเหลือเวลาอีกแค่สองวันก็จะถึงวันเปิดเงินเทศกาลหนังภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ
งานเทศกาลหนังภาพยนตร์ฝรั่งเศสนั้นจัดขึ้นในเมืองเล็กๆ ที่อยู่ถูกอ่าวเปอร์เซียอ้อมล้อมเอาไว้ วิวทิวทัศน์จึงมีความสวยงามตระการตาไม่น้อย
เมืองเล็กๆ ที่มักจะมีแต่ความสงบเริ่มคึกคักขึ้นเพราะว่ามีการจัดเทศกาลหนังภาพยนตร์ ร้านอาหารขึ้นชื่อหลายร้านก็ได้ถูกเหล่าผู้มาเข้าร่วมงานในครั้งนี้จับจองเอาไว้หมดแล้ว
รอบๆ ข้างมีบูธขายอาหารจากหลากหลายประเทศเต็มไปหมด อีกทั้งยังมีคนดูมากมายที่กำลังถือป้ายไปมาเพื่อหาบัตรผ่านเข้าไปในงาน
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ โชคดีที่ทางทีมงานได้จัดการจองร้านอาหารในพื้นที่เอาไว้ตั้งแต่เมื่อหนึ่งปีที่แล้วในราคาที่สูงพอสมควร จึงไม่ต้องคอยแบกอุปกรณ์ต่างๆ นาๆ ที่จะนำมาถ่ายงานหนังภาพยนตร์ในครั้งนี้ไปไหนไกลๆเหมือนกับกลุ่มอื่นๆ แถมยังต้องนั่งรถโดยสารแบกของกลับมาอีก