webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

441

บทที่ 441 รับน้ำใจไว้

ในเมื่อตอนแรกสวีโจวจี้เองก็ไม่เห็นแก่ความเป็นญาติมิตรต่อกัน แต่ใช้การเจรจากันแบบธุรกิจ อย่างนั้นในวันนี้ที่ชื่อเสียงของเจียงเซ่อเองก็ไม่ได้อยู่ในระดับที่จะพูดคุยแบบเดิมได้อีกแล้ว การเซ็นสัญญา เงื่อนไขและตัวเงินในครั้งนี้ แน่นอนว่าจะทำแบบเดิมไม่ได้อีกเช่นกัน ถ้าอ่อนให้ก็จะยิ่งทำให้กังหัวได้สมใจ

“ทำไมคุณเซี่ยถึงได้ยอมตอบตกลงที่จะให้คุณเจิ้งได้มาเจอกับเจียงเซ่อล่ะคะ?” โม่อานฉีรู้สึกสงสัย ตามนิสัยของเซี่ยเชาฉวินแล้ว แต่เดิมหล่อนก็คงจะไม่มีทางตอบคำถามนี้แน่ๆ แต่ดูท่าทางตอนนี้คงจะอยู่ในอารมณ์ที่ไม่ได้แย่อะไร

“ครั้งนี้ทางกังหัวตั้งใจที่จะต่อสัญญาถึงห้าปี ส่วนเรื่องของค่าตัว ก็ได้ส่งใบเสนอตัวเลขมาให้แล้ว”

พอเซี่ยเชาฉวินพูดถึงตรงนี้ ก็ตวัดนิ้วไปมาเป็นเลข ‘เจ็ด’ “ในทุกๆ ปีจะได้ค่าใช้จ่ายมาจำนวนนี้”

ในทุกๆ ปีจะมีการจ่ายค่าตัวพรีเซนเตอร์ถึง ‘เจ็ดล้าน’ ถ้าสัญญาห้าปี ก็รวมกันได้สามสิบกว่าล้านแล้ว เมื่อลองเทียบกับราคาที่เจียงเซ่อเคยได้เมื่อครั้งแรก ก็ถือว่าพลิกขึ้นมาสูงไม่น้อย ในตัวเลขราคานี้ กับดาราสาวๆ หลายคนในหัวเซี่ยเองก็ยังไม่มีโอกาสที่จะทำได้ขนาดเจียงเซ่อเลยด้วยซ้ำ

กังหัวไม่สามารถนิ่งสงบของเอาไว้ได้ เลยโดนคนอื่นควบคุมเอา การที่พวกเขายอมลงไพ่ตายสุดท้ายออกมาทำให้เซี่ยเชาฉวินรู้สึกพอใจได้ไม่น้อย มิน่าล่ะหล่อนถึงได้ยอมที่จะให้เจิ้งซื่อหรงมาพบกับเจียงเซ่อ

จริงๆ แล้วเจิ้งซื่อหรงเองก็รอมาเกินพอแล้ว เขามาครั้งนี้ก็ได้แบกความมั่นใจของสวีโจวจี้มาด้วย พอได้เห็นหน้าเจียงเซ่อแล้ว ผู้ชายคนนี้ที่เคยเจอกับเจียงเซ่อที่ฮ่องกงเมื่อตอนนั้น ก็ประคองของขวัญของกังหัวมาให้กับเจียงเซ่อในทันที

นั่นก็คือเพชรที่ถูกเข้าตัวเรือนมาเป็นอย่างดี เมื่อสามสิบปีก่อน คนกลุ่มหนึ่งของกังหัวได้ขุดพบเพชรสีแดงสะดุดตาก้อนหนึ่งเข้า น้ำหนักของมันมีถึง 15.9 กะรัตเลยทีเดียว

คนของทางกังหัวเคยได้ส่งมาที่ตี้ตูเพื่อให้เผยอี้กับเจียงเซ่อดูมันไปแล้ว และทั้งสองคนต่างก็ชื่นชอบเพชรเม็ดนี้ จากนั้นก็ได้พูดคุยเจรจากับช่างออกแบบทันที

ตอนนี้เพชรเม็ดนั้นได้ถูกเจียระไนจนแยกเป็นสองชิ้น เป็นรูปทรงสามเปลี่ยมเปล่งประกาย งดงามมากจริงๆ สีของมันไม่เปลี่ยนเลย ยังคงเป็นสีแดงบริสุทธิ์ มันถูกบรรจุเอาไว้ในกล่อง กระทบกับแสงไฟจนวาววับ

“นี่คือของขวัญที่ทางคุณสวีฝากผมนำมาให้คุณในการเจอกันครั้งนี้นะครับ เป็นการแสดงความยินดีการแต่งงานให้กับคุณและคุณเผย”

ตอนที่เจิ้งซื่อหรงพูดออกมา ก็ลอบมองสีหน้าของเจียงเซ่อไปด้วย ก่อนจะเม้มปาก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลง

“เพราะว่าช่วงนี้สุขภาพร่างกายของคุณสวีไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่สามารถเดินทางมาที่ปารีสเองได้ แต่ว่าเขาเองก็หวังว่าจะได้มาเจอกับคุณเองเลยนะครับ”

เพชรสองเม็ดนี้ไม่ใช่ธรรมดาๆ เลย เพชรสีแดงแบบนี้ไม่ได้มีให้เห็นกันง่ายๆ โดยเฉพาะกับเพชรเม็ดโตที่ได้รับการตัดเจียระไนและฝังลงในแหวนคู่แบบนี้ ส่วนราคาของมันก็ไม่น้อยไปกว่าราคาค่าตัวพรีเซนเตอร์ที่ทางกังหัวเสนอให้เจียงเซ่อเลยสักนิด

เจียงเซ่อหยิบแหวนวงหนึ่งขึ้นมา และลองสวมลงบนนิ้วนางของตนเอง เจิ้งซื่อหรงที่เห็นแบบนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะลอบถอนหายใจโล่งอก

แหวนสองวงนี้มันออกมาเป็นอย่างที่เจียงเซ่อและเผยอี้คิดเอาไว้และขนาดของมันก็ตรงกันเป๊ะๆ แหวนทั้งสองวงมีขนาดเล็กและขนาดใหญ่สมกันพอดี พอเพชรเม็ดสีแดงบริสุทธิ์นั่นไปอยู่บนนิ้วมือที่เรียวสวยของเธอแล้ว มันก็ดูงดงามจนเผลอที่จะกลั้นหายใจไม่ได้

“สวยมากเลยนะครับ” เจิ้งซื่อหรงชมเปาะ “ได้ยินจากพี่เชาฉวินว่า คุณมาอยู่ที่นี่ได้ระยะหนึ่งแล้ว และงานของคุณก็ยุ่งมากๆ หรือว่าจะเป็นการเตรียมตัวสำหรับหนังเรื่องต่อไปกันหรือครับ ที่จริงคงไม่เหมาะสมเท่าไหร่ที่จะพูดถึงเรื่องงานอื่น แต่ว่านะครับคุณเจียง คุณเองก็รู้ เรื่องสัญญาระหว่างทาง Gang Hua Jewelry และคุณ มันควรที่จะเรียบร้อยไปตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วแล้ว แต่ว่าเป็นเพราะตารางงานของคุณที่ดูยุ่งมาก เลยไม่ได้มีโอกาสได้ทำเรื่องนี้ให้มันสำเร็จเสียที”

เขาจิบน้ำเล็กน้อย แล้วพูดต่อ

“ตั้งแต่ที่ได้ร่วมงานกับคุณมา ทั้งสองฝ่ายต่างก็ยินดี คุณสวีถึงได้ต้องการที่จะมีการต่อสัญญากับคุณ ส่วนรายละเอียดทั้งหมดผมได้เคยพูดคุณกับพี่เชาฉวินเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ทราบว่าคุณมีข้อเสนอแนะอย่างอื่นที่อยากจะเพิ่มเติมบ้างหรือเปล่า”

เจิ้งซื่อหรงนั้นมาเสียเวลาอยู่ที่ฝรั่งเศสอยู่นานแล้ว แต่เซี่ยเชาฉวินก็เอาแต่เลื่อนออกไปจนสวีโจวจี้แทบจะอาละวาด แถมยังเอาแต่โทรข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อด่าว่าเขาทำงานไม่ได้เรื่องอีก

ในเวลานี้ถือว่าไม่ง่ายเลยที่จะได้มีโอกาสมาเจอหน้ากัน แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมเสียโอกาสที่จะสะสางเรื่องนี้ให้เสร็จแน่ๆ

ก็อย่างที่เจิ้งซื่อหรงพูด เขาได้วางความบริสุทธิ์ใจเอาไว้อย่างเต็มที่ เจียงเซ่อเองก็ต้องการที่จะร่วมงานกับกังหัวต่ออยู่แล้ว และจุดมุ่งหมายที่ออกมาเจอในวันนี้ก็เพื่อที่จะพูดเรื่องการต่อสัญญานั่นแหละ และตอนนี้เจิ้งซื่อหรงก็ได้เปิดประเด็นออกมาตรงๆ แล้ว เธอเองก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ตกลง จึงเอ่ยต่อทันที

“พี่เชาฉวินได้เอารายละเอียดต่างๆ ให้ดิฉันดูแล้วล่ะค่ะ ตัวดิฉันเองก็ไม่ได้มีข้อเสนอแนะอย่างอื่นอีก แต่เรื่องของค่าตอบแทน ดิฉันอยากจะแก้ไขมันอีกนิดหน่อย”

พอเธอพูดแบบนั้นออกมา เจิ้งซื่อหรงก็ชะงักไป ก่อนจะพยักหน้า

ที่จริงค่าตอบแทนที่ทางกังหัวได้เสนอให้ไปนั้นก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจแล้ว และสวีโจวจี้ยังยินยอมที่จะมอบแหวนคู่นั้นและเสนอเงินค่าตอบแทนที่สูงลิ่วอีก แต่เอาจริงๆ ก็เป็นเพราะว่าเห็นแก่ตระกูลเผยนั่นแหละ

สำหรับหัวเซี่ยแล้ว Gang Hua Jewelry เองก็เป็นที่หนึ่งไม่ก็ที่สองมาตลอด แต่สำหรับระดับโลกแล้ว ยังถือว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำหรับ Gang Hua Jewelry อยู่

ตอนนี้เจียงเซ่อพูดถึงเรื่องเงินค่าตอบแทนของการเป็นพรีเซนเตอร์ขึ้นมา ที่จริงตัวเจิ้งซื่อหรงเองก็เตรียมตัวเรื่องนี้มาแล้วเหมือนกัน

ทางกังหัวมีท่าทางโอนอ่อนแล้วแล้ว เจียงเซ่อจึงถือโอกาสนี้คุมเกมมันก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของเรื่องนี้อยู่แล้ว โชคดีที่ก่อนเขาจะมา สวีโจวจี้เองก็ได้กำหนดตัวเลขให้เขามาแล้ว ตอนนี้จึงทำได้แค่กัดฟัน แล้วพูดออกไป

“คุณลองเสนอมาสิครับ พวกเรายังเจรจาเรื่องนี้กันได้แน่นอน”

“ดิฉันเห็นด้วยกับตัวสัญญา พี่เชาฉวินเองก็เคยพูดมาแล้ว ทางกังหัวต้องการที่จะต่อสัญญา พรีเซนเตอร์จากสามปีเป็นห้าปี และทุกปีจะจ่ายถึงเจ็ดล้าน ใช่ไหมคะ?”

เจิ้งซื่อหรงตอบกลับ

“ใช่ครับ แต่ถ้าคุณยังไม่พอใจกับตัวเลขในครั้งนี้ เราก็ยังสามารถคุยกันได้ครับ”

ตอนที่เขาพูด ก็แอบกัดฟันไปด้วย แก้มของเขาสั่นเล็กน้อย เซี่ยเชาฉวินที่สวมแว่นกันแดดยกชาขึ้นดื่ม ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น

“คุณเข้าใจผิดแล้วละค่ะ” เจียงเซ่อส่ายหัว “ฉันตกลงเรื่องการเซ็นสัญญาห้าปี เรื่องตัวสินค้าที่เป็นเครื่องเพชรจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ขอให้เป็นตัวเครื่องเพชรเหมือนเดิม แต่ว่าในเรื่องของราคานั้น จากตอนแรกที่เป็นสามสิบห้าล้าน ให้เปลี่ยนเป็นห้าล้านก็พอแล้ว”

คำพูดของเธอทำเอาเจิ้งซื่อหรงชะงักไป เหมือนกับว่าไม่ทันได้ดึงสติกลับมา เจียงเซ่อก้มมองแหวนที่อยู่ตรงหน้า แล้วยิ้มขึ้น

“ส่วนเรื่องเงินค่าตอบแทนอื่น เอาเป็นว่าพอให้ฉันสามารถซื้อแหวนคู่นี้ได้ก็พอแล้วล่ะค่ะ”

ท่าทางการกระทำของเจียงเซ่อทำให้เจิ้งซื่อหรงแปลกใจเป็นอย่างมาก หรือแม้แต่เซี่ยเชาฉวินเองก็ต้องเงยหน้าขึ้นมามอง แววตาภายใต้แว่นกันแดดสีดำ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พูดอะไร แต่ใบหน้าของหล่อนก็แสดงออกว่ากำลังสงสัยและแปลกใจไม่น้อย

“คุณ คุณเจียงครับ ผมยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่” ตอนแรกเจิ้งซื่อหรงคิดว่าเธอจะบอกว่าค่าตอบแทนสามสิบห้าล้านมันจะต่ำไปเสียอีก ตอนแรกก็พอจะเตรียมใจไว้กับคำพูดที่เจียงเซ่อจะพูดออกมา แต่นอกจากเจียงเซ่อจะไม่ได้บอกว่าค่าตัวมันต่ำไปแล้ว แต่กลับขอลดค่าตัวลงอีกต่างหาก

“ดิฉันเชื่อว่าราคาของตัวแหวนนี้คงไม่ใช่แค่สามสิบล้านแน่ๆ และดิฉันไม่ได้คิดที่จะคุยเรื่องค่า พรีเซนเตอร์กับพวกคุณตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”

เจียงเซ่อพูดอย่างใจเย็น

“ทางกังหัวนั้นมีความบริสุทธิ์ใจจริงๆ ส่วนของขวัญที่ทางคุณสวีมอบให้ดิฉัน ดิฉันก็คงต้องรับเอาไว้ แต่ว่าดิฉันกับเผยอี้ได้สั่งทำแหวนเอาไว้ และคิดว่าไม่ควรที่จะได้รับมาในวิธีแบบนี้ ฉันเชื่อว่าถ้าเขาอยู่ที่ฝรั่งเศสตอนนี้ ก็คงไม่เห็นด้วยที่จะรับของขวัญแบบนี้จากคุณสวีแน่ๆ ค่ะ”

ตอนนี้ตัวเธอเองก็มีเงินแล้ว ตัวแหวนก็สวยมากจริงๆ ไม่ใช่ว่าเธอซื้อไม่ได้เสียหน่อย ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ทางกังหัวมามีน้ำใจกันแบบนี้

ธุรกิจก็ส่วนธุรกิจ แต่ของอะไรแบบนี้เธอก็ชอบที่จะออกเงินซื้อมาเองเสียมากกว่า

และถ้าเผยอี้รู้ว่าแหวนคู่นี้เธอเป็นคนจ่ายเงินซื้อมาเอง ก็คงจะเกิดงอนเธอเข้าแน่ๆ

พอเจียงเซ่อคิดได้แบบนั้น มุมปากก็กระตุกยิ้มขึ้นเล็กๆ