webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

387

บทที่ 387 ใจกล้า

แฟนคลับที่ชื่นชอบเจียงเซ่อส่วนใหญ่แล้วจะรู้จักแฟนหนุ่มของเผยอี้ในมุมที่ มีเงินและมีอิทธิพล แค่รู้ว่ามีคนแบบนั้นอยู่ นอกจากนี้ก็ไม่ได้รู้อะไรไปมากกว่านั้นแล้ว

เขามีหน้าตาเป็นอย่างไร อายุเท่าไหร่ ชื่อแซ่อะไรเป็นคนแบบไหน ก็ไม่เคยมีแฟนคลับคนไหนเคยได้รู้

เท่าที่ผ่านมาหลายปีนี้ เจียงเซ่อเองก็ไม่เคยมาเดินจูงมือแฟนหนุ่มให้คนอื่นได้เห็นมาก่อน จนหลายๆคนเริ่มที่จะสงสัย ว่าจริงๆ แล้วเจียงเซ่อมีแฟนหรือเปล่า หรือว่าแค่พูดกับสื่อไปอย่างนั้น

ชาวเน็ตบางกลุ่มที่ไม่ชอบเจียงเซ่อก็เริ่มถากถาง ว่าแฟนหนุ่มของเจียงเซ่อนั้น ก็คงจะเป็นคนรวยแบบที่นักข่าวเคยสัมภาษณ์เธอในตอนที่เปิดกล้องหนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ แน่ๆ

คนพวกนั้นคิดว่าที่เจียงเซ่อบอกว่าแฟนหนุ่มนั้นยังเรียนหนังสืออยู่ ก็คงเป็นแค่คำที่เธอพูดไปส่งๆเท่านั้น พอพูดว่าเป็นชายหนุ่มที่มีเงิน หลายๆ คนก็คงจะนึกถึงเศรษฐีที่อายุครึ่งร้อยกันทั้งนั้น ดังนั้นพอได้เห็นตอนที่เผยอี้เปิดเผยตัวออกมา จึงทำให้เหล่าแฟนหนังและเหล่าชาวเน็ตฮือฮาได้ขนาดนั้น

เผยอี้ที่อยู่ในเฟรมกล้องนั้นตัวสูงใหญ่ ดูท่าทางมีออร่าและมีฐานะที่ไม่ธรรมดาเลย บุคลิกดูสูงส่ง ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้ว พอยืนคู่กับเจียงเซ่อก็ดูเหมาะสมเข้ากันเป็นอย่างมาก ไม่มีความเหมือนหรือคล้ายคลึงกับ ‘เศรษฐี’ ตัวอ้วนอายุมากอย่างงที่ใครๆ คิดกันเลยสักนิด

นอกจากจะมีรูปร่างหน้าตาภายนอกที่ดูดีไม่แพ้กับพวกพระเอกแล้ว บุคลิกและการวางตัวก็ยิ่งดูสูงส่งกว่าที่คิดเอาไว้มากทีเดียว

จากปากของชาวเน็ตที่ได้เดินตามเขามาตลอดทางที่อยู่สนามบิน ตัวเขานั้นทำให้คนอื่นรู้สึกสนใจเอามากๆ และดูดีกว่ารูปที่เหล่าชาวเน็ตได้เห็นกันเสียอีก ตอนที่อยู่ในสนามบิน มีหลายๆ คนก็ยังคิดว่าเขาเป็นดาราด้วยซ้ำ

ถึงแม้ว่าจะสวมแว่นดำเอาไว้ แต่พอเขาหันใบหน้ามา แม้แต่หญิงสาวที่นักข่าวไปสัมภาษณ์ก็ยังรู้สึกขาอ่อนจะล้มเลยด้วยซ้ำ

น้อยครั้งที่เจียงเซ่อจะพูดถึงเรื่องความรู้สึกออกมา เพราะงั้นพอภาพที่เธอกำลังสนิทสนมและชิดใกล้กับแฟนหนุ่มถูกถ่ายออกมา เหล่าสื่อทั้งหลายจึงพากันแพร่ข่าวออกไปอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ในระยะเวลาสั้นๆแค่ไม่กี่นาที ก็เหมือนว่าเรื่องราวทั้งหมดได้ถูกกระจายไปหมดแล้ว แถมตอนนี้ก็ยังขึ้นเป็นหัวข้อข่าวในข่าวบันเทิงแล้วด้วย

เรื่องแบบนี้ ถ้าเป็นดารา การที่ได้เป็นกระแสก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่สำหรับตัวตนและฐานะของเผยอี้นั้นมันไม่จำเป็นเลย

ตระกูลเผยนั้นอยู่อย่างสงบมาโดยตลอด เซี่ยเชาฉวินกังวลว่าถ้าเจียงเซ่อและเผยอี้เป็นข่าวกันแบบนี้ จะทำให้คนในตระกูลเผยไม่พอใจเอาได้ ถึงตอนนั้นก็อาจจะพากันโกรธเจียงเซ่อ ดังนั้นตอนที่ได้เห็นข่าว ก็รีบโทรมาเตือนเธอทันที

เจียงเซ่อรับคำ หลังจากวางสายไปแล้ว พอกำลังจะคุยเรื่องนี้กับเผยอี้ ยังไม่ทันได้พูดอะไร มือถือของเผยอี้ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

“คุณปู่”

ศูนย์การค้านั้นมีแต่เสียงวุ่นวายเต็มไปหมด เผยอี้ดึงมือเจียงเซ่อไปหลบในมุมๆ หนึ่ง พอเขาเรียกออกมาแบบนั้น เจียงเซ่อก็รู้ได้ทันทีว่าปลายสายที่เขากำลังพูดด้วยนั้นคือใคร

คุณปู่เผยต้องกำลังโมโหอยู่แน่ๆ เขาตอบกลับมาด้วยเสียงที่ดังมาก ดังจนเสียงมันทะลุผ่านลำโพงมือถือของเผยอี้มาจนเธอเองก็ได้ยินชัดเจน

แต่เขาก็ยังคว้าตัวเจียงเซ่อมาไว้ในอ้อมแขน เพื่อป้องกันไม่ให้คนภายนอกได้เห็น เขาก้มตัวลงมา และยืนประจันหน้ากับเจียงเซ่อ และตั้งใจที่จะเลื่อนมือถือไปใกล้เธอมากขึ้น เพื่อให้เธอฟังได้อย่างถนัด

“นี่แกยังกล้ารับสายอีกหรือ!”

คุณปู่เผยตะโกนกลับมาเสียงดังสนั่น ถึงจะไม่เห็นหน้าเพราะคุยกันผ่านมือถือ แต่เจียงเซ่อก็พอจะนึกถึงท่าทางตอนที่เขาโกรธออก

เผยอี้ยกมือข้างที่ถือถุงขึ้นเกลี่ยผมของเธอ มืออีกข้างก็ถือมือถือเอาไว้ แล้วกะพริบตาปริบๆ ใส่เจียงเซ่อ

“มีอะไรงั้นหรือครับคุณปู่?”

“ยังจะกล้าถามอีก! ฉันถามแกหน่อย โรงเรียนก็ยังไม่ปิดเทอม วิชาที่แกต้องเรียนก็ยังเรียนไม่ครบ ชื่อแกเองก็อยู่ในใบรายชื่อการฝึกซ้อมของครูผู้ฝึกแล้ว แล้วทำไมยังกล้าแอบหนีออกมาอีก?” พอคุณปู่เผยพูดถึงตรงนี้ เขาก็เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดต่อ

“จะกลับมาตี้ตูก็ไม่มีบอกกล่าวกันก่อนสักคำ กว่าฉันจะรู้ว่าหลานชายตัวเองกลับมาบ้าน ก็ต้องมารู้ผ่านข่าวบนหนังสือพิมพ์อย่างนั้นหรือ!”

พอพูดถึงตรงนี้ ก็เหมือนว่าจะเริ่มเก็บความโมโหเอาไว้ไม่อยู่แล้ว น้ำเสียงเหมือนกับกำลังตะคอกใส่อย่างแรง

“แกรีบไสหัวกลับไปกว่างโจวเดี๋ยวนี้!”

“ผมไม่ไปหรอก”

พอคุณปู่เผยว่าเสร็จ ก็ดูเหมือนเผยอี้จะไม่ได้กลัวคำขู่ของเขาเลยสักนิด แถมยังหัวเราะออกไปอีก

“ก่อนจะกลับมาตี้ตู ผมเองก็ได้แจ้งกับทางนั้นไว้เรียบร้อยแล้วนี่ แถมยังขอลาไปแล้วด้วย แต่ดูเหมือนว่าจะมีบางคนอยากจะกลั่นแกล้งผมละมั้ง”

พอเขาพูดแบบนั้น มุมปากของเขาก็ยกขึ้น เหมือนกับว่ากำลังพูดเรื่องขำๆ

“ส่วนเรื่องการฝึก ผมลงชื่อไปไม่ใช่ของเดือนมิถุนา แต่เป็นเดือนพฤศจิกาต่างหาก ถ้าหากจะมาเปลี่ยนเป็นเดือนมิถุนา ก็คงจะมีใครบางคนตั้งใจที่จะสับเปลี่ยนแก้ไขชื่อของผมแล้วล่ะครับ”

เจียงเซ่อแนบหลังพิงกำแพง และโดนเขากักตัวเอาไว้ในวงแขน ปลายนิ้วของเขาลูบวนอยู่บนเรือนผมของเธอ บางทีก็ยกมันขึ้นไปดมบ้าง ไม่รู้ว่าเธอใช้แชมพูอะไรสระผม ถึงได้รู้สึกสะอาดและหอมจนน่าหลงใหลได้ขนาดนี้ เส้นผมนุ่นลื่นของเธอเกลี่ยไปเกลี่ยมาอยู่ในมือของเขา ก็เหมือนกับตัวเธอที่กำลังตกอยู่ใต้อ้อมกอดของเขา

เขาจูบลงไปบนกลุ่มผมหนึ่งที คุณปู่เผยที่โดนเขาไล่ต้อนถามแบบนั้น ก็รีบพูดขึ้นมาทันที

“เหลวไหล! ฉันไม่อนุญาตให้แกฝึกเดือนพฤศจิกาหรอกนะ! แกกลับไปที่โรงเรียนเดี๋ยวนี้ ส่วนเรื่องอื่นฉันจะจัดการเอง”

เผยอี้หัวเราะ ตอนนี้สายตาของเขากำลังหวานเยิ้มเป็นอย่างมาก เจียงเซ่ออยู่ในระดับสายตาเขาพอดี จะทำอะไรก็ง่ายไปหมด

ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เขารู้สึกสบายใจและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เขาเห็นว่าเธอกำลังเม้มริมฝีปาก และพยายามหายใจอย่างระมัดระวัง ไม่กล้าที่จะเปล่งเสียงใดๆ ออกมาทั้งนั้น ราวกับว่ากลัวว่าจะโดนคุณปู่เผยจับได้ว่าตัวเองก็อยู่กับเขาด้วย

ท่าทางแบบนั้นดูน่ารักและว่าง่ายมากๆ แต่ก็ทำเอารู้สึกสงสารได้เหมือนกัน

เขาทำใจกล้าก้มหน้าลงไปอีกนิด ปลายสายอย่างคุณปู่เผยยังคงพูดไปเรื่อยๆ แต่เขากลับเอียงหน้าจูบลงไปบนริมฝีปากของเธอเสียอย่างนั้น

เจียงเซ่อที่ไม่ทันได้รู้ตัวและไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้ อยากจะห้ามแต่ก็เหมือนว่าจะสายไปเสียแล้ว และเขาเองก็ยังแอบจูบลงมาอีกที

“ยังไงก็มีชื่ออยู่ในการฝึกซ้อมของเดือนมิถุนาแล้ว แกเองก็กลับไปเตรียมตัวก่อน ส่วนเรื่องขอลาฉันไม่อนุญาต......”

ปลายสายอย่างคุณปู่เผยยังคงจัดการวางแผนให้เผยอี้ไม่หยุด มือที่กำลังถือมือถือเอาไว้แตะลงบนข้างแก้มของเธอแล้ว บางทีอาจเป็นเพราะวางศูนย์การค้าแห่งนี้จะเปิดแอร์แรงไปหน่อย ผิวของเธอถึงได้เย็นเฉียบ แถมยังดูเริ่มจะแข็งแล้วด้วย

ริมฝีปากของเธอหยักได้รูป เหมือนกับเชอร์รี่ที่ห้อยอยู่บนก้าน สีแดงธรรมชาติ ถึงจะไม่ได้แดงเท่าแต่ก็ทำให้รู้สึกถึงความอ่อนนุ่มและความสดใหม่ได้

เมื่อลองแตะลงไปเบาๆ กลิ่นหอมหวานของมันก็ยังติดมาให้ได้ตราตรึง

ที่จริงเผยอี้แค่ต้องการที่จะแกล้งเธอเท่านั้น แต่เมื่อได้ลองชิมแล้วก็อยากจะลิ้มรสอีกเรื่อยๆ แค่ลองแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ก็ยังได้กลิ่นหอมหวานติดมาเลยด้วยซ้ำ มือข้างที่คว้าเอาเจียงเซ่อเอาไว้ค่อยๆ คลายออก ถุงที่ห้อยอยู่บนปลายนิ้วของเขาตกลงบนพื้น เขาประคองใบหน้าของเจียงเซ่อเอาไว้ แล้วจูบลงไปบนริมฝีปากของเธออีกครั้ง

ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ความปรารถนาของเขาก็เหมือนจะมีมากขึ้นกว่าเดิม ถึงแม่ว่ารอบๆ นี้จะไม่มีคน แต่เขาก็ยังใช้ร่างของตัวเองบังตัวเธอเอาไว้ และปล่อยให้เวลาแห่งความใกล้ชิดนี้เป็นของตัวเอง

ปลายจมูกของเขาคลอเคลียอยู่บนแก้มของเธอ ยิ่งผิวเนื้อได้ใกล้ชิดและบดเบียดกันมากเท่าไหร่อารมณ์มันก็ยิ่งพลุ่งพล่านจนแทบจะคุมไม่ได้ แววตาของเหมือนกับว่าจะกลืนกินอีกฝ่ายให้ได้

ปลายสายอย่างคุณปู่เผยยังคงดุด่าไปเรื่อยๆ มือถือเลื่อนมาอยู่ที่ข้างๆ ใบหูของเจียงเซ่อ เธอได้ยินเสียงของคุณปู่เผยทุกๆ คำพูด แต่เผยอี้ที่อยู่ตรงหน้าก็ยังเอาแต่เมินเฉยไม่สนใจ คอยแต่จะรั้งเธอเข้าไปในอ้อมกอด หน้าผากของทั้งสองแนบชิดกัน ลมหายใจที่พรั่งพรูออกมาวนเวียนอยู่ในพื้นที่แคบๆ ที่เผยอี้สร้างมันขึ้นมา ร่วมใจและร่วมมือแบ่งปันรสจูบให้แก่กัน และแบ่งมันให้กับคุณปู่เผยที่กำลังโมโหเป็นฟืนเป็นไฟด้วย