บทที่ 382 PROOF OF LIFE (1)
แต่ในฝั่งคนที่โดนจับตัวมา เฉิงเจี้ยนกั๋วที่รู้สึกเคียดแค้นและเหยียดหยามถังจิ้งมาตั้งแต่แรก กลับค่อยๆเกิดความสงสารและเห็นใจในภายหลัง
เป็นถึงพระเอกของหนังเรื่องนี้ เฉิงเจี้ยนกั๋วที่แสดงเป็นหลิวเย่ก็ไม่ได้เป็นคนไม่ดีมาตั้งแต่กำเนิด
ตอนแรกที่เขามาเข้าร่วมขบวนการการลักพาตัวถังจิ้ง มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ จางจิ้งอานนั้นได้สร้างปมเอาไว้ให้กับเขาเอาไว้ทั้งในชาติกำเนิดและฐานะ และจุดนี้เองที่ทำให้เขาเกิดความผูกพันกับถังจิ้งในภายหลัง และค่อยๆ แยกแยะได้ และสิ่งเหล่านั้นก็จะค่อยๆ แสดงให้คนดูได้เห็นด้วย
เมื่อหลายปีก่อนเฉิงเจี้ยนกั๋วได้แต่งงานและมีลูกสาวหนึ่งคน ส่วนภรรยาของเขานั้นป่วยตาย เหลือเอาไว้เพียงแค่ลูกสาวที่เป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่กำเนิดให้กับเขา
ไม่ง่ายเลยกว่าที่จะเลี้ยงดูมาจนถึงสิบปีด้วยความหวั่นใจ จนกระทั่งได้พบกับคนที่พอจะมีหัวใจเข้ากันได้ แต่กลับเป็นเพราะว่าเขาไม่มีเงินมากพอที่จะให้ลูกได้ผ่าตัด และต้องปล่อยให้โอกาสนั้นลอยหายไปต่อหน้าต่อตา หลังจากนั้นก็ได้ยินว่า คนที่ ‘แย่ง’ หัวใจที่ควรจะเป็นของลูกสาวเขาไป คือคนที่มีเงินทองคนหนึ่ง
หลังจากนั้นเขาก็ไปโวยวายไม่พอใจที่เรื่องทั้งหมดมันเป็นแบบนั้น แต่กลับต้องโดนข้อหาเจตนาก่อเรื่องทะเลาะวิวาทจนโดนตำรวจจับ และต้องอยู่ในคุกอยู่หลายวัน
หลังจากกลับมาบ้านแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามีเพื่อนบ้านใจดีคอยดูแลให้ ก็คงจะเกิดเรื่องไม่ดีกับลูกสาวของตัวเองแน่ๆ
แต่เพราะว่าเขาหายไปจากบ้านหลายวัน ทำให้ลูกสาวของเขานั้นเกิดการหวาดผวา จนต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง
เธอมีโรคหัวใจที่อยู่ในขึ้นที่ร้ายแรงแล้ว และไม่สามารถที่จะรับรู้เรื่องราวที่สะเทือนอารมณ์ได้อีก และหมอที่เจอกันทุกวันก็คอยเตือนอยู่เสมอ เช่นเดียวกันกับทางโรงพยาบาลที่ออกบิลค่ายาค่ารักษามาตลอด สุดท้ายเฉิงเจี้ยนกั๋วก็ยอมที่จะเอาตัวไปเสี่ยง ยอมเข้าร่วมกระบวนการลักพาตัวถังจิ้ง
เขารู้สึกหยามเหยียดลูกสาวของคนมีชื่อเสียงคนนี้มากๆ คิดว่าถ้าเธอกลายเป็นคนที่ยกแขนก็ไม่ได้ ขยับมือก็ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้สักอย่างแบบนี้แล้ว ลูกสาวของเขาก็คงไม่ได้ด้อยไปกว่าเด็กคนนี้เลย ทั้งๆ ที่เป็นคนเหมือนกันแท้ๆ แต่กลับโดนแบ่งแยกชนชั้น
เธอมีทั้งคนขับรถและคนรับใช้คนติดตามดูแล แต่ตอนที่ตัวเองถูกขังคุกเอาไว้ กลับเกือบจะเกิดเรื่องขึ้นกับลูกสาวเขา
ดังนั้นตอนที่ถ่ายคลิปเฆี่ยนตีถังจิ้งนั้น เขาจึงแสดงออกไปอย่างชัดเจนว่าเกลียดแค้นมากแค่ไหน เหมือนเขาต้องการที่จะนำความเกลียดชังที่มากล้นต่อสังคม ไปลงที่เด็กสาวคนนี้ให้หมด
ตอนที่เฉิงเจี้ยนกั๋วทำการลักพาตัวถังจิ้งมานั้นก็ดูตั้งใจและเอาจริงเอาจังเป็นอย่างมาก ทำให้กลายเป็นที่ดึงดูดของโทมัสหัวโจกและคิดว่าเฉิงเจี้ยนกั๋วต้องเป็นพวกใจดำอำมหิต และกล้าที่จะทำเรื่องร้ายแรงได้ง่ายๆ และเริ่มที่จะเกิดความเชื่อใจต่อเขา ให้เขามีหน้าที่คอยเฝ้าถังจิ้ง ในขณะที่รอการส่งเงินมาจากตระกูลถัง
ในช่วงที่ต้องอยู่กับถังจิ้งนั้น เฉิงเจี้ยนกั๋วก็ค่อยๆ โดนถังจิ้งดึงดูด
ลูกสาวคนเล็กสุดของผู้มีชื่อเสียงถังเหว่ยหัวคนนี้ มีนิสัยที่ไม่เหมือนกับแม่และพี่สาวของเธอเลยสักนิด เธอไม่แม้แต่จะแสดงท่าทางวางอำนาจบาตรใหญ่ ไม่แม้แต่จะทำตัวเย่อหยิ่ง กลับกันเธอเป็นคนที่เรียบง่าย อ่อนโยนไม่เหมือนกับเป็นลูกคุณหนูผู้ร่ำรวยเลยสักนิด
หนำซ้ำเธอยังมีความหวาดกลัวอีกด้วย เวลามองอะไรก็มักจะชอบมองด้วยความหวาดหวั่นและระมัดระวัง ยากที่จะทำให้คนอื่นมองเธอในทางที่ไม่ดีได้
ถ้าหากว่าบอกว่าเฉิงเจี้ยนกั๋วยอมทำเพื่อลูกจนเป็นจอมปีศาจที่ด่ำดิ่งอยู่ในนรก อย่างนั้นเธอก็คงจะเป็นทูตสวรรค์ที่ไม่ประสีประกับโลกใบนี้เลย
ตระกูลถังก็เหมือนกับกำแพงผืนหนึ่ง ที่กีดกั้นเธอเอาไว้จากโลกภายนอก ถ้าไม่ใช่เพราะการโดนลักพาตัวในครั้งนี้ เธอก็คงไม่มีทางรู้ว่าโลกภายนอกมันมีเรื่องราวที่มืดหม่นขนาดนี้อยู่ด้วย
เธอก็เหมือนกับเด็กคนหนึ่ง บริสุทธิ์และมีจิตใจที่ดี จนเฉิงเจี้ยนกั๋วเริ่มที่จะไม่สามารถกลั้นใจทำร้ายเธอได้อีกต่อไป
โทมัสเองก็เริ่มที่จะทนรำคาญไม่ได้อีกต่อไป อาชญากรที่ต้องรอตระกูลถังแกล้งทำเป็นยืดเวลาออกไปอยู่ตลอด เริ่มที่จะเกิดความรำคาญเต็มทน
ในดวงตาสีฟ้าของเขา มักจะเต็มไปด้วยแววตาแห่งความชั่วร้ายราวกับงูพิษ และเฉิงเจี้ยนกั๋วก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกตินั้นได้
ในแต่ละวันที่ได้เฝ้าดูถังจิ้งนั้น เขาก็เริ่มที่จะเกิดความรู้สึกสงสารต่อถังจิ้งขึ้นมา สิ่งที่เรียกว่าความรู้สึกดีๆ ค่อยๆ แทรกซึมฝังรากเข้าไปในจิตใจ และมันก็มีแนวโน้มที่จะก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาด้วย
เขาเป็นแค่ดินโคลน ส่วนเธอนั้นเป็นถึงทองที่เกิดมาบนฐานะที่สูงส่ง
เธอรู้จักเปียโน วาดรูปและศิลปะทางด้านต่างๆ และมันเป็นสิ่งที่เขาไม่รู้จักเลยสักอย่าง และมันก็ดูไม่เหมาะกับเขาด้วย เขามักจะคิดอยู่เสมอว่า ถ้าหากว่าลูกสาวไม่ได้เกิดมาในครอบครัวอย่างเขา แล้วเธอจะได้เป็นอย่างถังจิ้งหรือเปล่า อ่อนโยน งดงาม และได้เรียนรู้อะไรมากมายขนาดนี้?
ในระยะเวลาสั้นๆ ที่ได้รู้จักกัน ถังจิ้งก็ได้สอนให้เขาเขียนชื่อของลูกสาวตัวเอง
เขาได้ถามคำถามที่น่าขำต่อถังจิ้งไปมากมาย แต่เธอก็ยังคงตอบกลับมาอย่างอบอุ่นและไม่รำคาญเลยสักนิด มีบางทีที่เหมือนจะยังกลัวๆ อยู่บ้าง แต่ก็มักจะพยามยามอธิบายออกมาได้อย่างน่าสงสารและเต็มไปด้วยเจตนาที่ดี
ความรู้สึกในใจของเฉิงเจี้ยนกั๋วค่อยๆ เปลี่ยนไป เขาเริ่มที่จะเสียใจและคิดว่าตัวเองไม่ควรที่จะเอาความเกลียดชังมาลงกับคนที่ไม่มีความผิดและน่าสงสารขนาดนี้
หลังจากที่โทมัสได้ตกลงเงื่อนไขกับทางตระกูลถังเรียบร้อยแล้ว ว่าทางนั้นจะขอลดค่าประกันตัวลงหน่อย เฉิงเจี้ยนกั๋วก็เริ่มที่จะสังหรณ์ใจแปลกๆ ขึ้นมา
ชาวต่างชาติที่ใจดำอำมหิตคนนี้ คงมีแผนว่าจะฆ่าตัวประกันหลังจากที่ได้เงินมาแล้วแน่ๆ และทุกคนก็คิดที่จะหนีกันไปไกลสุดหล้าฟ้าเขียว
และมันก็เป็นจริงในตอนที่คนร้ายทุกคนรวมตัวประชุมกัน โทมัสเริ่มที่จะออกความคิดแนวๆ นั้นออกมา และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทุกคนคิดและวางแผนเอาไว้กันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และปัญหายุ่งยากอย่างการตายของถังจิ้ง มันจะเป็นสิ่งที่จะช่วยลดความยุ่งยากของพวกเขาลง และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้พวกตำรวจเจอร่องรอยเบาะแสจนเสี่ยงที่จะต้องถูกจับได้
ส่วนเงินส่วนแบ่งที่เขาจะได้ มันก็มากพอที่จะนำมันไปเป็นค่ารักษาพยาบาลให้กับลูกสาวตัวเอง และจะได้อยู่กับลูกสาว ได้มีชีวิตที่สุขสบายไปตลอดอีกครึ่งชีวิต
แต่ทำไมในใจของเขากลับไม่มีความสุขเลยสักนิดเลยล่ะ? กลับกันเขากลับรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองในตอนแรกด้วย
ถังจิ้งไม่ได้เป็นคนที่พรากโอกาสการปลูกถ่ายหัวใจของลูกสาวเขาไป แล้วการที่เอาความแค้นทั้งหมดมาลงกับคนที่ไม่รู้เรื่องและไม่ได้มีความผิด ถือโอกาสใช้ชีวิตหนึ่งชีวิตแลกเป็นเงินเพื่อนำไปต่อชีวิตของลูกสาวตัวเอง นี่มันสมควรแล้วอย่างนั้นหรือ?
เขานึกถึงรอยยิ้มของถังจิ้งที่เคยได้เห็น ถูกลักพาตัวมาตั้งหลายวัน ที่จริงเธอควรที่จะมีสภาพอ่อนล้าและจนตรอก รอยฟกช้ำดำเขียวที่โดนทุบตีไปก็ยังไม่จางลงเลยด้วยซ้ำ ต้องอยู่ในสภาพที่น่าหวาดกลัวขนาดนี้ ถ้าโทมัสควักลูกตาของเธอออกมา มันก็เหมือนกับการที่เขาจามมีดลงไปบนหัวของเธอนั่นแหละ เธออาจจะต้องถูกฆ่าท่ามกลางความมืดมิดไปทั้งแบบนั้น แต่เธอก็ยังมีรอยยิ้มที่ดูขลาดกลัวอยู่บนใบหน้าเสมอ
คนแบบนี้น่ะเหรอ ที่ควรจะหายไปจากโลก?
เจียงเซ่อที่อ่านถึงตรงนี้ ก็สูดลมหายใจเข้าลึก
เธอเปิดมือถือที่อยู่ข้างๆ ขึ้น ตอนนี้เกือบจะตีหนึ่งแล้ว เธออ่านบทหนังจนเพลินไปเลย ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองอ่านมากว่าเกือบสามชั่วโมงได้แล้ว
ยังเหลือฉากสุดท้ายอีกไม่กี่บทเท่านั้น ตอนที่เนื้อเรื่องทั้งหมดเข้าสู่ช่วงสุดท้าย จะเป็นช่วงที่สนุกที่สุด เป็นส่วนที่ไขรายละเอียดทั้งหมดออกมาได้อย่างชัดเจน
เธอค่อยๆ ขยับตัวไปมา ลูบๆ แขนที่มีขนอ่อนลูกชัน ก่อนจะลุกออกจากเตียงแล้วเทน้ำดื่มแก้วหนึ่ง ดื่มไปได้ครึ่งแก้ว ก็ยืนลังเลอยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายก็ปีนขึ้นเตียงและหยิบบทหนังที่ยังอ่านไม่จบขึ้นมาอ่านต่อ
ในตอนที่ตระกูลถังเลือกที่จะเลือกเงินทอง และละทิ้งเรื่องความรู้สึกของครอบครัวไป ในขณะที่ทางตำรวจกำลังหลอกล่อและต่อกรกับพวกอาชญากรเพื่อที่จะลองหาเบาะแส แต่กลับไม่ได้อะไรเลยจากกลุ่มอาชญากรที่ทั้งป่าเถื่อนและมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเหล่านั้น สติและมโนธรรมของเฉิงเจี้ยนกั๋วก็ค่อยๆ กลับมา
หัวใจของลูกสาวเขามันเสียไปแล้ว แต่ใจของเขามันยังไม่เสียไปเสียหน่อย เขาเริ่มที่จะเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปต่อถังจิ้งทั้งหมด
ถังจิ้งก็เป็นเหมือนแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาในยามเช้า ทั้งๆ ที่เธอก็ยังอายุน้อยขนาดนี้ ประสบการณ์ก็ไม่ได้อะไรมากมาย เธอไม่ควรที่จะต้องมาตายแบบนี้เลย
คนที่มีมโนธรรมกลับคืนมาเริ่มมีความคิดเห็นที่ต่างกับกับหัวหน้ากองโจรที่ชั่วร้าย ตอนนี้ความถูกต้องและความชั่วร้ายเริ่มที่จะตีกันไปหมด สุดท้ายเฉิงเจี้ยนกั๋วก็ตัดสินใจที่จะให้เธอได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ช่วยเหลือเธอออกจากที่นั่น
แน่นอนว่าขั้นตอนของมันจะต้องยากลำบากมาก การกระทำของเฉิงเจี้ยนกั๋วถูกโทมัสจับได้อย่างรวดเร็ว เขาต้องเผชิญหน้ากับการไล่ล่าในระหว่างหลบหนี เฉิงเจี้ยนกั๋วยื้อเวลาเอาไว้อย่างถึงที่สุด เพื่อที่จะให้พวกตำรวจได้เบาะแสและตามหาจนเจอ