webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

356

บทที่ 356 ราวกับฟ้ากับเหว

จ้าวจวินฮั่นเอนหลังพิงเบาะเกาอี้อย่างเบื่อหน่าย ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย

“จัดการเรื่องของตัวเองให้ดีเถอะ”

ทั้งๆ ที่อยู่ต่อหน้าคนของเจียงหนานบันเทิงแบบนี้ ทั้งผู้จัดการส่วนตัวและผู้ช่วยของเฝิงหนาน แต่เขากลับไม่คิดที่จะไว้หน้ากันเลยสักนิด

สีหน้าเฝิงหนานดูไม่พอใจเป็นอย่างมาก มือกำแน่นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก

ช่างแต่งหน้า Dora ทำตามคำสั่งของเซี่ยเชาฉวิน โดยการไปคุยกับทางผู้จัดการส่วนตัวของชุยซิ่งว่าลำดับการเดินพรมแดงมีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย จากนั้นก็กลับมาที่รถเหมือนเดิม

ตอนนี้แฟนคลับที่อยู่ข้างนอกพากันตะโกนเรียกเสียงดังยิ่งกว่าเดิม นักข่าวที่อยู่บริเวณนั้นก็กำลังจับจ้องหลิวเย่ที่ยืนอยู่ข้างรถเขม็ง

ในมือถือของเถาเถา ข้อความของหัวหน้าถูกส่งมาหาหล่อนเรื่อยๆ ทั้งมีความดีใจ และมีความกังวลไปพร้อมๆ กันด้วย

“กระแสตอบรับจากข่าวที่ลงไปดีมาก แต่อย่างไรก็ต้องมีหลักฐานมายืนยันนะ”

หลังจากที่หัวหน้าสำนักข่าวหลงสิงได้รับข้อมูลจากเถาเถา ก็ได้สั่งให้ลูกน้องรีบลงข่าวลงบนอินเทอร์เน็ตในทันที และผลที่ออกมาก็คือได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก

หลายๆ คนต่างก็พากันเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ถึงแม้ว่าจะได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าคำถามต่างๆ ก็มากขึ้นด้วยเช่นกัน แต่ทว่าผลจริงๆ จะออกมาดีหรือร้ายนั้นก็ยังไม่รู้ได้

ถ้าหากว่าข่าวที่เถาเถาได้มาคือความจริง การที่สำนักข่าวหลงสิงสามารถแย่งข่าวใหญ่มาลงก่อนได้นั้น ก็ถือว่าเป็นการสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองได้ด้วย ถือเป็นการเปิดสถานภาพของตัวเอง และหลังจากนี้ชาวเน็ตทั้งหลายก็จะสามารถจดจำ ‘สำนักข่าวหลงสิง’ ได้

แต่ถ้าหากว่าข่าวที่เถาเถาให้เอามาลงนี้เป็นเรื่องเหลวไหลมั่วซั่ว ไม่มีที่มาที่ไปแล้วละก็ ในครั้งนี้สำนักข่าวหลงสิงจะต้องเป็นแค่พวกเรียกร้องความสนใจแน่ๆ และอาจจะจะต้องกลายเป็นแค่ตัวตลกของแวดวงเดียวกันไป!

ตอนนี้หัวหน้ากำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะตอนนี้เหล่าชาวเน็ตทั้งหลายก็กำลังมีความเคลือบแคลงสงสัยกับข่าวนี้ไม่น้อย ถึงแม้ว่าจะมีรูปที่หลิวเย่ยืนอยู่ข้างรถก็ตาม แต่มันก็ยังไม่สามารถระบุอะไรได้ทั้งนั้น

อีกทั้งคนที่นั่งอยู่ในรถจะใช่เจียงเซ่อหรือไม่ก็ยังไม่มีใครยืนยันได้ แต่สำนักข่าวหลงสิงกลับกล้าที่จะออกข่าวว่าหลิวเย่กำลังจะมีการร่วมงานกับเจียงเซ่ออีกครั้งเสียอย่างนั้น ในความเป็นจริงแล้วก็ดูจะเป็นเรื่องแต่งมากไปหน่อยแล้ว

หลังจากที่หัวหน้าตัดสินใจที่จะปล่อยข่าวออกไป ก็เป็นไปตามที่คิดว่าได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม แต่ก็ดูเป็นสิ่งที่น่ากังวลไม่น้อย จึงสั่งให้พนักงานคนที่เหลือเร่งหาข้อพิสูจน์เรื่องนี้ทันที

คนในวงการหลายๆ คนก็ได้เห็นข่าวที่แสนน่าดึงดูดสายตาของสำนักข่าวหลงสิงแล้วเช่นกัน เหล่าสื่อของสำนักข่าวใหญ่ต่างๆ ที่ได้เห็นหัวข้อข่าวแบบนั้นแล้วก็ไม่คิดที่จะเชื่อ หลายๆ คนที่เห็นข่าวที่ไม่มีมูลแบบนั้นแล้วก็พากันเดาว่าคงเป็นการอำเล่นเท่านั้น

ในสถานการณ์แบบนี้ แน่นอนว่าหัวหน้าของสำนักข่าวหลงสิงจะต้องมีความกดดันเพิ่มขึ้นมา

มือถือของเขาส่งเสียงแผดร้องไม่หยุด เถาเถาก็ยังไม่ได้ตอบอะไรกลับมา หัวหน้าจากที่ตอนแรกก็ตื่นเต้นดีใจ หลังๆ มาก็เริ่มไม่สบายใจเสียแล้ว และเริ่มโมโหที่เถาเถาไม่ยอมตอบข้อความกลับมาเสียที

ช่างภาพของสำนักข่าวหลงสิงมองเถาเถาอย่างกังวล ก่อนจะกระซิบเตือนหล่อน

“หัวหน้าบอกให้เธอรีบๆ ตอบข้อความเขาด่วนเลย ไม่อย่างนั้นจะส่งติงหรูมาทำงานสัมภาษณ์แทนนะ”

ปลายจมูกของเถาเถาเริ่มมีเหงื่อซึมออกมา มือถือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของเธอกะพริบหน้าจอเป็นระยะๆ หลังจากที่บอกข่างใหม่กับหัวหน้าไป ข้อความจากหัวหน้าก็มีเข้ามาไม่หยุด

ตอนนี้หล่อนยังยืนยันอะไรไม่ได้ทั้งนั้น และไกลๆ นั่นหลิวเย่ก็กำลังยืนอยู่ข้างรถและคุยกับเซี่ยเชาฉวินและเจียงเซ่อเหมือนเดิม

ในเขตที่เหล่าสื่อและนักข่าวสามารถยืนได้ มีใครคนหนึ่งเหลือบไปเห็นว่าไกลๆ นั้นมีรถคันสีดำคันหนึ่ง มีคนเปิดประตูรถออกมา จากนั้นก็เดินไปยังจุดที่หลิวเย่กำลังยืนอยู่ คนที่เห็นตะโกนออกมาทันที

“จางจิ้งอาน!”

เพียงแค่ชื่อนั้นถูกตะโกนเรียกออกมา นักข่าวที่กำลังสนใจหลิวเย่ก็รีบหันไปมองในทันที

เถาเถาเองก็ไหลตามไปด้วย หล่อนหันไปตามนักข่าวคนอื่นๆ ไม่ง่ายเลยกับการที่ได้มียืนอยู่ในมุมแบบนี้ แต่อย่างไรก็ได้เห็นจริงๆ ว่าจางจิ้งอานกำลังก้าวเดินไปยังจุดที่หลิวเย่ยืนอยู่

พอหลิวเย่เห็นว่าจางจิ้งอานเดินมา ก็ยืนตัวตรงทันที

ในขณะเดียวกัน Dora ที่เดินกลับมาที่รถก็เปิดประตูรถออก ในที่สุดคนในรถที่เหล่าแฟนคลับและสื่อนักข่าวกำลังสงสัยว่าเป็นใครก็เปิดเผยโฉมหน้าออกมาเสียที

คนที่เดินลงมาจากรถคือเซี่ยเชาฉวินที่อยู่ในชุดสูทสีขาวทั้งตัว ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เถาเถาเห็นแล้วว่าคนที่ออกมาคนแรกคือ Dora และพอจะเอาไว้ว่าคนที่อยู่ในรถจะต้องเป็นเจียงเซ่อก็ตาม แต่พอตอนนี้ได้เห็นว่าเซี่ยเชาฉวินเดินลงมาจากรถ ความตื่นเต้นของเธอก็ค่อยๆ กลับเข้าที่เข้าทางเสียที

“อ่า......”

เหล่าสื่อทั้งหลายที่ยืนมองอยู่ต่างก็อุทานออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ทุกๆ คนต่างก็ไม่มีใครจำได้ว่า Dora เป็นใคร แต่ต้องไม่ใช่กับเซี่ยเชาฉวินผู้มีชื่อเสียงโด่งดังคนนี้แน่นอน

ไม่ว่าจะเป็นนักข่าวหรือแฟนคลับ ไม่มีใครไม่รู้จักผู้จัดการส่วนตัวมือทองของหัวเซี่ยผู้มีชื่อเสียงคนนี้

แต่ก่อนเคยเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเถาเฉิน เมื่อปีก่อนเพิ่งจะเปลี่ยนใจมาเป็นผู้จัดการของเจียงเซ่อเพียงคนเดียว งั้นถ้าคิดได้แบบนี้แล้ว คนในรถก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจียงเซ่อ

พอเซี่ยเชาฉวินเดินลงมาจากรถ Dora ยังคงเปิดประตูรถค้างเอาไว้ หล่อนเดินอ้อมรถไปอีกด้าน จากนั้นก็เปิดประตูรถออก และเจียงเซ่อที่อยู่ในชุดกระเกาะอกสีขาวมุกก็ปรากฏตัวต่อสายตาทุกคน

“เจียงเซ่อ”

เสียงแฟลตดังขึ้นรัวๆ ในวินาทีที่เหล่าแฟนคลับที่มายืนออได้เห็นเจียงเซ่อ ก็เกิดคึกคักแตกตื่นกันขึ้นมามากกว่าเดิม มีแฟนคลับของเจียงเซ่อหลายคนที่พอได้เห็นว่ามีชื่อเจียงเซ่ออยู่ในใบรายชื่อแขกรับเชิญของงานเลี้ยงการกุศล ‘สือไต้เฟิงฉ่าย’ ในคืนนี้ด้วย ก็พากันมารอเพื่อที่จะเจอเธอ

จนกระทั่งตอนนี้ที่ได้เห็นเจียงเซ่อปรากฏตัวออกมา เหล่าแฟนคลับก็พากันตะโกนร้องเรียกอย่างตื่นเต้น

เถาเถาเองก็อยู่ในกลุ่มผู้คน ทันทีที่หล่อนได้เห็นเจียงเซ่อ หล่อนเองก็ทนไม่ไหว ตะโกนออกไปอย่างเสียงดัง

“เจียงเซ่อ ฉันรักเธอ!”

พอหล่อนตะโกนออกไป คนรอบๆ ที่เป็นนักข่าวเหมือนกับหล่อนก็หันมามองกันเต็ม เถาเถาหน้าขึ้นสีขึ้นมาทันที แต่ในขณะที่กำลังเหมือนตกที่นั่งลำบากนั้น กลุ่มแฟนคลับที่อยู่ไกลๆ นั่นก็ดูจะตื่นเต้นขึ้นมามากกว่าหล่อนเสียอีก ทั้งตะโกนทั้งกรี๊ดจนกลบสิ่งที่หล่อนทำไปเมื่อครู่ได้อย่างดี

พอเจียงเซ่อเดินลงมาจากรถเธอก็สอดสายตาไปรอบๆ ดวงตาคู่สวยของเธอเปล่งประกายระยิบระยับเล่นกับแสงไฟ

ขาคู่นั้นของเธอเรียวสวย ทันทีที่เธอออกมา ไม่ต้องพูดอะไร เธอก็เหมือนมีประกายแสงสว่างออกมาจากตัวแล้ว ไม่จำเป็นต้องยกมือโบก ก็สามารถดึงดูดและเรียกความสนใจจากทุกคนได้ และยากที่จะละสายตาออกจากเธอด้วย

ไม่ว่าจะเป็นช่างภาพหรือแฟนคลับต่างก็พากันยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปของเธอเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นทุกท่วงท่า สายตาที่เธอมองไปรอบๆ หรือจะเป็นรอยยิ้มเล็กๆ ทุกรูปที่ถ่ายได้ต่างก็สมบูรณ์แบบราวกับว่าผ่านการตกแต่งมาแล้วเรียบร้อย

“เซ่อเซ่อ ฉันรักเธอ......”

“เจียงเซ่อสวยมากเลย......”

“ชอบโจวเหวยมากเลยน้า ชอบหนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ มากๆ!”

“โต้วโค่ว โต้วโค่วมองทางนี้หน่อยจ้า!”

“……”

มีแฟนคลับบางคนถึงกับตะโกนเรียกชื่อตัวละครที่เธอแสดงในหนังออกมา และคนที่อยากจะเข้าไปใกล้ๆ เธอก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ

หน่วยรักษาความปลอดภัยเริ่มจับมือกัน เพื่อที่จะกั้นไม่ให้มีใครออกมาจากเขตที่กำหนดเอาไว้

“เจียงเซ่อ ผมชอบคุณมากเลย......”

ผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มคนตะโกนออกมาเสียงดัง ความจริงแล้วคงไม่มีทางได้การตอบรับจากเจียงเซ่อแน่ๆ ตอนแรกเธอลงมาจากรถแล้วก็กะว่าจะเดินไปหาจางจิ้งอานและหลิวเย่เลย แต่เพราะได้ยินเสียงของชายคนนั้นตะโกนเรียก จึงหยุดชะงักไปเล็กน้อย

เธอหันหน้ากลับไป แล้วหาที่มาของเสียง

ชายหนุ่มที่ตะโกนเรียกเธอพยายามใช้แรงเบียดตัวออกมาจนติดกับเจ้าหน้าที่ที่ยืนเป็นรั้วกั้นอยู่ ตอนที่เจียงเซ่อหันตัวกลับไป ก็เห็นเขาในทันที

เขาตื่นเต้นจนหน้าแดงไปหมด การที่ได้เห็นเจียงเซ่อตัวเป็นๆ แบบนี้ เธอสวยยิ่งกว่าในจอหนังเสียอีก

เธอสวมชุดราตรีสีขาว สูงยาวเข่าดี ไม่เหมือนกับโจวเหวยที่ดูสดใสและเรียบๆ ใน ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ สักเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้คนที่ได้เห็นหวั่นไหวและประทับใจเสียยิ่งกว่าตอนที่ได้เห็นในหนังเสียอีก