webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

348

บทที่ 348 คัดเลือก

เรื่องหลังจากนั้น เจียงเซ่อก็ไม่ได้ยินถึงมันอีกเลย อีกอย่างเรื่องพวกนี้ มันก็ไม่ได้เป็นความทรงจำที่ดีสำหรับเธอด้วย ยิ่งเวลาผ่านนานมากเท่าไหร่เรื่องๆ นี้ก็ก็ยิ่งถูกฝังลงลึกลงไปในใจเธอมากเท่านั้น และไม่ได้พูดถึงขึ้นมาอีก

เธอไม่ชอบพูดคุยถึงเรื่องที่เป็นความทรงจำแย่ๆ เท่าไหร่ เมื่อเริ่มสงบลงแล้ว เธอก็ถามออกไป

“นี่ฉันรบกวนเวลาเรียนของนายหรือเปล่า?”

“เผยอี้”

มีใครบางคนจากฝั่งเผยอี้เรียกชื่อเขาขึ้นมา เสียงเหมือนจะเป็นผู้หญิงด้วย แต่น้ำเสียงดูจริงจังเคร่งขรึมไม่น้อย

“เข้าเรียนแล้วนะ มัวทำอะไรอยู่?”

“เปล่า”

เผยอี้บอกปัดไป

“เซ่อเซ่อโทรมากหาผมแบบนี้ ไม่ว่าจะเวลาไหนก็ไม่รบกวนทั้งนั้นแหละครับ”

เขาไม่สนใจคนที่กำลังเรียกเขาเลยด้วยซ้ำ แล้วก็หันมาคุยกับเจียงเซ่อต่อ พอได้ยินน้ำเสียงของเธอที่ค่อยๆ สงบลงแล้ว ความอึมครึมในก่อนหน้านี้ก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลงด้วย

เจียงเซ่อจัดผม แล้วปิดกระจกรถขึ้นมา จากนั้นก็ดึงทิชชู่มาเช็ดตาตัวเอง

“ฉันกลับก่อนละกัน นายก็ไปเข้าเรียนเถอะ”

เผยอี้ยังไม่อยากวางสาย เพราะมันยากเหลือเกินที่เธอจะโทรมาหาเขาแบบนี้ ถ้าวางไปเฉยๆ ก็ดูจะน่าเสียดายไปหน่อย รู้สึกสิ้นเปลืองโอกาสที่หาได้ยากแบบนี้จริงๆ

“ข้อมูลจากการไปทัศนศึกษาครั้งที่แล้วรวบรวมเสร็จหรือยังครับ?”

“อื้ม”

เธอตอบกลับมาเบาๆ มีโทรศัพท์กั้น ไม่เห็นแม้แต่หน้าของเธอ แต่เผยอี้กำลังจิตนาการว่าตอนนี้เจียงเซ่อกำลังก้มหน้าอยู่แน่ๆ และกำลังสงบอารมณ์ตัวเองหลังจากที่สูญเสียการควบคุมไปเมื่อกี้ เธอเพิ่งจะร้องไห้ ตาของเธอจะต้องแดงแน่ๆ

แต่นิสัยเธอเป็นคนที่รั้นอยู่ไม่น้อย คงไม่ชอบให้ใครได้เห็นในตอนที่ตัวเองกำลังรู้สึกแย่อยู่แน่ๆ ดังนั้นจะต้องก้มหน้าปิดตาปกปิดความรู้สึกเอาไว้ พยายามปกปิดน้ำตาที่ยังไม่แห้งดี

จู่ๆ เขาก็รู้สึกเสียใจ ถ้าหากว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ตี้ตูละก็ เขาก็จะสามารถกอดเธอเอาไว้ได้ และคอยปลอยโยนเธอ

ทั้งสองพูดคุยกันอีกนิดหน่อย จนกระทั่งมีใครบางคนเคาะกระจกรถที่เธอนั่งอยู่ เธอปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ แล้วลดกระจกลง

คนข้างนอกคือชายหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ในเครื่องแบบหน่วยรักษาความปลอดภัย ดูเหมือนว่าเขาจะคิดไม่ถึงว่าพอลดกระจกลงมาแล้วจะได้เจอกับใบหน้าที่ทำให้ต้องตกตะลึงได้ขนาดนี้ ใบหน้าสวยนั่นดูคุ้นตา เหมือนกับว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

“คุณครับ เหมือนว่ารถของคุณจะจอดอยู่ตรงนี้นานแล้วนะครับ” เขาพูดเสียงเบา “เกือบจะหนึ่งชั่วโมงแล้วนะครับเนี่ย......”

ใบหน้าของผู้รักษาความปลอดภัยขึ้นสีเล็กน้อย ก่อนที่มันจะค่อยๆ แดงขึ้นเรื่อยๆ อีก หูก็แดงมาก พูดออกมาอย่างหวั่นๆ ไม่กล้าที่จะเงยหน้าสบสายตาคู่สวยของเจียงเซ่อตรงๆ ตอนแรกกะจะมาบอกว่าให้ออกรถไปได้แล้ว แต่พอได้เห็นหน้า กลับพูดไม่ออกสักคำ

“ฉันขวางรถคนอื่นอยู่หรือคะ?”

เจียงเซ่อคิดไม่ถึงเลยว่าที่ตัวเองกะว่าจะขอจอดข้างทางสักครู่หนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเธอจอดมาเกือบจะหนึ่งชั่วโมงเสียแล้ว

เธอชะโงกตัวออกไปดูที่กระจกมองหลังรถเล็กน้อย ก็พบว่าด้านหลังนั่นมีรถคันหนึ่งจอดต่อเธออยู่ และรถของเธอก็จอดอยู่ตรงบริเวณทางออกด้วย เลยกลายเป็นว่าขวางรถคนอื่นอยู่

“ขอโทษด้วยนะคะ”

เจียงเซ่อกล่าวขอโทษออกไป จากนั้นก็สตาร์ทรถทันที ผู้รักษาความปลอดภัยคนนั้นปัดๆ มือ

“ไม่เป็นไรครับไม่เป็นไร”

จนเธอขับรถออกไปเรียบร้อยแล้ว ผู้รักษาความปลอดภัยคนนั้นก็ยืนมึนงงอยู่กับที่ เอาแต่คิดว่าเคยเห็นใบหน้านั้นที่ไหน ผู้หญิงที่สวยขนาดนั้น ถ้าหากว่าตนเคยเห็น ก็คงไม่มีทางลืมแน่ๆ

เขายืนคิดอยู่ครู่หนึ่ง และก็เกิดนึกขึ้นมาได้แล้ว ก่อนจะพูดออกมาเสียงดัง “เจียงเซ่อ!”

นั่นคือเจียงเซ่อ! เธอเป็นนางเอกในหนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ ที่เขาเพิ่งไปดูมานี่เอง แฟนสาวของเขาขอบหนังเรื่องนี้มาก ถึงขนาดอ้อนให้เขาไปดูด้วยกันในโรงหนังถึงสองรอบแน่ะ

ก่อนหน้านี้แฟนสาวของเขาก็เคยพูดถึงอยู่บ่อยๆ หลายครั้งที่แฟนสาวพูดถึงเจียงเซ่อ แถมยังติดตามแอคเค้าท์ต่างๆ ของเจียงเซ่ออีก ถือว่าเป็นแฟนหนังเลยล่ะ!

“อ๊า......”

เขาวิ่งไปสองสามก้าว เหมือนว่าอยากจะตามไป แต่ทว่ารถออกตัวไปไกลแล้ว จะหาเจออีกได้อย่างไรกัน?

ผู้รักษาความปลอดภัยเคาะหัวตัวเองสองทีอย่างหงุดหงิด ทั้งๆ ที่เมื่อกี้เจียงเซ่ออยู่ตรงหน้าตัวเองแท้ๆ ทั้งๆ ที่มีโอกาสได้ขอลายเซ็นเธออยู่แล้วเชียว กลับไปจะได้เอาไปให้แฟนและแฟนจะต้องดีใจมากแน่ๆ แต่เขากลับพลาดโอกาสนั้นไป!

เจียงเซ่อวางสายจากเผยอี้ไป แล้วนำรายงานที่เขียนเสร็จแล้วส่งให้กับศาสตราจารย์เถียน

และเพราะว่าเธอเลือกที่จะไปฝึกงาน เลยทำให้พลาดการสอบของคณะประวัติศาสตร์ เธอจะต้องมาสอบใหม่ เธอลองตรวจสอบเวลาสอบของมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งดูแล้ว หลังจากที่นั่งทำการบ้านที่ขาดไปอยู่หลายวัน เซี่ยเชาฉวินก็โทรมาหา และถามว่าจะรับเล่นหนังเรื่องไหน

ระยะนี้เจียงเซ่อยุ่งจนแทบปลีกตัวออกมาไม่ได้เลย แม้แต่เวลาที่จะไปนึกถึงเรื่องวันนั้นที่ตัวเองสติแตกก็ไม่มี พอเซี่ยเชาฉวินมาเรียกสติเธอแล้ว เธอก็เริ่มจัดการรวบรวมสรุปสิ่งที่ทบทวนไปให้เรียบร้อย จากนั้นก็เธอก็ลองทำแนวข้อสอบดู หลังจากที่เริ่มมั่นใจแล้วว่าจะไม่ผิดพลาด ถึงได้ค่อยหยิบบทหนังที่เซี่ยเชาฉวินเอามาให้ก่อนหน้านี้มาเปิดดู

ในหนังหลากหลายเรื่องนี้ มีสองเรื่องที่เป็นหนังรัก เทียบกับเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอแล้ว’ บทนั้นสองเรื่องนั้นก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษ ถ้าเจียงเซ่อรับเล่นหนังแนวนี้ในตอนนี้ ก็คงจะไม่มีอะไรให้ได้ก้าวหน้านัก แถมโอกาสที่หนังเรื่องนี้จะช่วยส่งเสริมเธอก็มีไม่มาก อย่างมากก็แค่ใช้ใบหน้าหากินก็เท่านั้นเอง

เธอวางบทหนังสองเรื่องนั้นลงอย่างงไม่คิดลังเล หรือแม้แต่ตัวบทที่ยังอยู่ในรูปแบบนิยายเธอก็ไม่คิดที่จะเปิดดู แต่หันไปสนใจกับบทหนังเรื่องอื่นแทน

เรื่องที่ยังเหลืออยู่นั้น เจียงเซ่อใช้เวลาไปกว่าสามวันในการดูภาพรวมทั้งหมดของแต่ละเรื่อง จากนั้นก็ลองเปิดดูที่เป็นนิยายไปรอบหนึ่ง และมันก็มีอยู่สองเรื่องที่ทำให้เธอเกิดความสนใจขึ้นมา

เรื่องหนึ่งมีชื่อว่า ‘Dark Shadow’ ส่วนอีกเรื่องชื่อว่า ‘Suspect’ *Suspect (ซัสเป็คท์ แปลว่า ผู้ต้องสงสัย)

เรื่อง ‘Dark Shadow’ นั้นเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับในวัยเด็ก เป็นเด็กสาวคนหนึ่งที่เคยได้พบเจอกับเรื่องที่สะเทือนจิตใจอย่างรุนแรง จนเมื่อโตขึ้นก็กลายเป็นเงาดำขนาดใหญ่และดูร้ายแรงในจิตใจของเธอ และมันก็เป็นตัวที่ดึงดูดให้เกิดเรื่องราวต่างๆ หลังจากนั้น

บทหนังเรื่องนี้ถือว่าน่าสนใจมากๆ ถ้าหากว่าเจียงเซ่อรับเล่นเรื่องนี้ละก็ สำหรับเธอแล้ว ถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายไม่น้อย

ส่วนเรื่อง ‘Suspect’ นั้น เป็นบทหนังที่เปิดฉากด้วยคดีฆาตกรรมคดีหนึ่ง ทางตำรวจได้รับแจ้ง ถึงรายละเอียดและขั้นตอนต่างๆในคดีฆาตกรรม จนกระทั่งหาตัวผู้ต้องสงสัยเจอ

บทหนังนิยายสองเรื่องนี้ถือว่าไม่เลวเลย แต่เมื่อลองเทียบกันแล้ว เรื่อง ‘Suspect’ ถือว่าทำให้เธอสนใจได้มากกว่าเรื่องไหนๆ เหมือนทั้งเรื่องมีแค่สองสถานที่ง่ายๆ แต่เนื้อเรื่องกลับเกี่ยวโยงถึงกันทั้งหมด ในทุกตอนทุกสถานการณ์ ทุกๆ ครั้งที่ตำรวจและผู้ต้องสงสัยปะทะกัน ก็ล้วนแล้วเต็มไปด้วยความตึงเครียดและตื่นเต้น

ในบทหนังเรื่อง ‘Suspect’ นางเอกเป็นตำรวจหญิงที่มีชื่อว่าเฉินซวินหราน เป็นคนที่มีความเป็นธรรมสูง เนื้อเรื่องทั้งหมดนั้นก็ถือว่ามาจากตัวเธอเช่นกัน ตอนที่เซี่ยเชาฉวินเอาพวกบทหนังมาให้เธอ หล่อนก็ได้วงบทตัวละคนที่ชื่อว่า ‘เฉินซวินหราน’ ด้วยสีแดงเอาไว้อีกด้วย ดูท่าว่าบทหนังเรื่องนี้ เจียงเซ่อคงจะต้องรับเล่นเอาไว้เสียแล้ว และตัวละครที่เธอจะได้แสดงก็คือตำรวจหญิงที่ชื่อว่า 'เฉินซวินหราน' นั่นเอง

แต่เจียงเซ่อก็เกิดความลังเลอยู่ครู่ใหญ่ สายตาเธอจ้องมองไปที่ตัวละครผู้ต้องสงสัยหญิงที่ชื่อว่าจงฉี และตัวละครนี้นี่เองที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นฆาตกรฆ่าคนของเรื่องนี้

เมื่อเทียบกับตัวละคร ‘เฉินซวินหราน’ ที่เต็มไปด้วยคุณธรรมบทนี้แล้ว คาแรคเตอร์ของผู้ต้องสงสัยหญิง ‘จงฉี’ นั้น ถือว่ามีความซับซ้อนขึ้นเป็นเท่าตัว และมันก็ดึงดูดเจียงเซ่อได้มากด้วย

จนกระทั่งเซี่ยเชาฉวินโทรมาหาเธอและถามว่าได้ตัดสินใจหรือยังว่าจะรับเล่นเรื่องไหน เจียงเซ่อก็ตอบว่าเรื่อง ‘Suspect’ และเซี่ยเชาฉวินเองก็ไม่ได้แปลกใจที่เธอเลือกจะรับเล่นเรื่องนี้

“ก็คิดไว้อยู่แล้วว่าเธอจะต้องสนใจเรื่องนี้” หล่อนเงียบไปครู่หนึ่ง “แต่ฉันคงต้องของเตือนเธอเอาไว้ก่อนนะ ในบทหนังทั้งหลายที่ฉันให้เธอเลือก หนังเรื่องนี้เป็นหนังทุนต่ำ” เว้นไปครู่หนึ่ง เซี่ยเชาฉวินจึงพูดต่อ

“ส่วนผู้กำกับคือฮั่วจือหมิง”