webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

337

บทที่ 337 ออกเดินทาง

“ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรแล้วล่ะค่ะ นี่คือเงื่อนไขทั้งหมดของฉัน” เจียงเซ่อส่ายหัว และถึงแม้ลัวอ้าวจะต่อรองลดเวลาเหลือแค่ห้าปี เจียงเซ่อก็ยังไม่สนใจเหมือนเดิม

“ฉันยังคงยืนยันเงื่อนไขของฉันเอง เรื่องต่อสัญญาในภายภาคหน้าคุณก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป นอกเสียจากว่าฉันจะไม่อยู่ในวงการนี้อีกต่อไปแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันก็รับรองได้ ว่าในการต่อสัญญาครั้งต่อไป ฉันจะยังคงต่อกับซื่อจี้หยินเหออย่างแน่นอน”

พอได้คำสัญญาแบบนั้นจากเธอแล้ว ลัวอ้าวก็ค่อยๆ เบาใจลง แต่เขาก็ยังมีท่าทีสงสัยและไม่เข้าใจ

“งั้นถ้าไม่ว่าอย่างไรก็จะต่อสัญญากับซื่อจี้หยินเหออยู่แล้ว สองปี สามปีหรือห้าปี มันจะแตกต่างกันตรงไหนล่ะครับ? คุณยอมที่จะแบ่งเป็น 50% แต่กลับไม่ยอมเซ็นสัญญาที่เสนอไป ว่าบริษัทจะได้ส่วนแบ่งแค่ 40% เท่านั้น ”

เงื่อนไขแบบนี้ถ้าคนทั่วไปมองมาก็คงจะคิดว่าเจียงเซ่อช่างโง่เหลือเกิน และมันก็ทำให้ลัวอ้าวนึกไม่ถึงเช่นกัน ดูๆ แล้วเจียงเซ่อก็ไม่ใช่คนโง่ เขาจึงรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก

“ผมขอถามหน่อยนะครับ มันเป็นเพราะอะไรกันแน่ ที่ทำให้คุณตัดสินใจแบบนี้?”

เจียงเซ่อไม่ได้ตอบคำถามเขา แต่ในใจของเธอมีคำตอบที่แน่นอนแล้ว

เธอไม่ได้โง่จริงๆ ที่ตัดสินใจแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าเธอไม่ได้ชอบเงินอย่างที่ลัวอ้าวคิด กลับกันมันเป็นเพราะว่าเธอต้องการต่างหาก ไม่ใช่แค่ 10% ที่หักมา แต่เป็นมากกว่านั้น

หลังจากที่เจียงเซ่อตัดสินใจที่จะต่อสัญญากับซื่อจี้หยินเหอแล้ว เป้าหมายของเธอก็ชัดเจนมากขึ้น ไม่ว่าจวี้เฟิงจะเสนอและอยากจะดึงเธอออกมาแค่ไหนเธอก็ไม่สน และถึงซื่อจี้หยินเหอจะยอมลดเปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งให้เธอก็ไม่ตอบรับ เหตุผลของมันก็คือ เธออยากจะสร้างสถานะในซื่อจี้หยินเหอให้สูงกว่านี้

สูงมากพอที่จะทำให้ซื่อจี้หยินเหอกล้าที่จะทำทุกอย่างเพื่อรักษาเธอเอาไว้

แค่ 10% มันไม่สามารถดึงดูดเธอได้หรอก เพราะที่จริงจำนวนเหล่านั้นมันต้องเป็นของเธออยู่แล้ว การที่ลัวอ้าวเอามาดึงดูดแบบนี้ก็ดูไม่ค่อยจริงใจเท่าไหร่

เธอนึกถึงเซี่ยเชาฉวิน ลัวหยิ่นเคยพูดเอาไว้ว่า เขาจะยอมแบ่งหุ้นของตัวเองให้กับคนที่มีความสามารถจริงๆ เท่านั้น

จากนั้นทางร้านคาเฟ่ก็ได้นำของหวานหน้าตาน่าอร่อยมาเสิร์ฟ มีทั้งคุ้กกี้ที่เพิ่งจะนำออกมาจากเตาอบ และเค้กก้อนหนึ่งที่ถูกตัดแบ่งมาอย่างดี แฟนคลับที่มาเสิร์ฟตั้งหน้าตั้งตารอคอย เจียงเซ่อจึงตักชิมตามมารยาท

หลังจากที่เธอพูดคุยธุระ นัดเวลาเซ็นต่อสัญญา และออกมาจากคาเฟ่เรียบร้อยแล้ว พนักงานเสิร์ฟก็พากันรุมแย่งเค้กที่เธอตักกินกันทันที

ตกดึกพอโม่อานฉีเปิดอินเทอร์เน็ตดู ก็พบว่าบนหน้าเว็บหัวเซี่ยจือซวิ้นมีข่าวของเจียงเซ่ออยู่ด้วย

“เจียงเซ่อปรากฏตัวในร้านคาเฟ่ใจกลางกรุง” และหัวข้อนั้นก็เด่นชัดมากๆ ด้วย

ข่าวนี้มาจากเวยป๋ออีกทีหนึ่ง และการนัดเจอกันระหว่างเจียงเซ่อและลัวอ้าวก็โดนแอบถ่ายเอาไว้ด้วย

ถึงแม้ว่าจะเป็นภาพแอบถ่าย แต่คนที่แอบถ่ายมาก็ดูจะเป็นคนที่ชื่นชอบเจียงเซ่อ ท่าทางผ่อนคลายของเธอก็ยังคงดูนิ่งเรียบอย่างเคย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แต่งหน้า แต่ก็ยังดูสวยงามราวกับว่าแต่งภาพมาแล้ว หาจุดด่างพร้อยไม่เจอเลย

ผู้โพสเวยป๋อบอกว่าตัวเองได้เจอเจียงเซ่อที่ร้านคาเฟ่ใจกลางเมือง และเธอก็เหมือนกำลังคุยธุระกับใครบางคนอยู่ด้วย

ก็แค่ข่าวง่ายๆ แบบนี้ แต่เป็นเพราะหนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ ที่เจียงเซ่อเล่นเพิ่งจะเข้าฉายไป อีกทั้งยังเป็นที่สนใจของคนทั่วๆ ไปอยู่แล้วด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่หนังที่มีค่าอะไรมากมาย แต่ก็สามารถทำให้กลายเป็นหัวข้อข่าวใหญ่ได้

นี่ก็ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่เป็นเครื่องยืนยันความดังของเจียงเซ่อ โม่อานฉีนั่งดูคำวิจารณ์อย่างภูมิใจ หลายๆ คนต่างก็พากันอิจฉาคนที่ได้เจอกับเจียงเซ่อโดยบังเอิญ บางคนก็เสียดายที่ไม่ได้เจอเองด้วยซ้ำ

ลมพัด ม้าร้อง : ทั้งๆ ที่ไปธุระตอนบ่ายก็ผ่านตรงนั้น ทำไมถึงไม่แวะเข้าไปนั่งๆ เสียหน่อยนะ?

โซฟาที่หรูหราคือทุ่งหญ้าแพร์รี่แอฟริกา : บริษัทก็อยู่ใกล้ๆ แค่นี้ นัดลูกค้าออกไปเจอกันที่ร้านกาแฟด้วย รู้งี้นัดไปเจอที่ร้านนี้ดีกว่า

หน้าร้อนมาเยือน : อิจฉาคนที่ได้เจอหญิงสาวในฝันจริงๆ

อากาศร้อนจริง : หญิงสาวในฝันสวยมากจริงๆ!

......

หลายๆ คนต่างออกความคิดไปในทางเดียวกัน และโม่อานฉีก็ยังเลื่อนอ่านคอมเม้นท์ไปเรื่อยๆ

โพสของคนที่ถ่ายรูปเจียงเซ่อมาลงถูกรีโพสไปเกินหมื่นครั้งแล้ว และดูท่าตัวเจ้าของโพสเองก็ไม่ได้คิดว่าแค่ข่าวคราวเล็กๆ ก็จะดังขึ้นมาขนาดนี้ได้ และเขาก็เหมือนจะทำอะไรไม่ถูกแล้ว ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นเขาก็โพสข้อความใหม่ เขาลงรูปเค้กมาสองสามรูป และเขียนเอาไว้ว่า

อาหารที่หญิงสาวในฝันชื่นชอบ!

......

จากนั้นคอมเม้นท์ก็เริ่มครึกครื้นขึ้นอีกครั้ง

การอภิปราย : เอาตรงๆ นะ ฉันว่าเจียงเซ่อที่เงียบมากจริงๆ ตั้งแต่เรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ จนมาถึงเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ การโปรโมทของเธอก็ถือว่าน้อยครั้งมาก ยิ่งกิจกรรมตารางงานต่างๆ ก็น้อย ปกติก็ไม่ค่อยได้โชว์ตัวเท่าไหร่ด้วย แถมช่วงนี้บนแอคเค้าท์ก็ไม่ค่อยมีพวกรูปงานถ่ายแบบแล้วด้วย ก็น่าแปลกที่ทุกครั้งมีข่าวคราวของเธอออกมา ก็มักจะกลายเป็นหัวข้อข่าวได้อย่างรวดเร็วแบบนี้

หมุนสิ หมุนสิ เจ้ากังหัน : ข้างบนพูดถูกแบบไม่รู้จะถูกยังไงแล้ว! ทำให้แฟนคลับที่ไม่ค่อยได้เห็นข่าวของเจียงเซ่อเท่าไหร่ หรือบางทีก็ยังต้องหาข่าวที่ไม่ค่อยจะเกี่ยวข้องเท่าไหร่มาหาข่าวของเจียงเซ่ออีกทีด้วย

หลี่ไท่ป๋าย : ก่อนหน้านี้สองวันก็ยังมีข่าวของเจียงเซ่ออยู่ไม่ใช่หรือ? แต่ไม่เท่าไหร่ก็โดนข่าวของเหยาเสียงเข้ามาทับเสียก่อน แล้วหลังจากนั้นก็หาข่าวของเธอไม่เจออีกเลย เหมือนข่าวถูกลบออกไป หรือว่าเธอไปผิดใจกับใครอีกหรือเปล่า?

……

คอมเม้นท์ด้านล่างยังคงโต้ตอบกันไม่หยุด หลายๆ คนเกิดความกังวลเกี่ยวกับคอมเม้นท์ของ ID ที่ชื่อ ‘หลี่ไท่ป๋าย’ จากนั้นก็พากันถามถึงความเป็นไปในช่วงนี้ของเจียงเซ่อต่อเจ้าของโพส

โม่อานฉีนั่งอ่านมันอยู่พักหนึ่ง จนอดไม่ได้ที่จะติดต่อหาเจียงเซ่อ และคุยเรื่องที่เกิดขึ้น

แต่เหมือนว่าเจียงเซ่อจะไม่ได้สนใจพวกเรื่องบนอินเทอร์เน็ตเท่าไหร่นัก หลังจากที่เธอต่อสัญญากับซื่อจี้หยินเหออีกสองปีเรียบร้อยแล้ว เธอก็เริ่มยุ่งขึ้นมาอีกครั้ง

สถานที่ที่ทางมหาวิทยาลัยจะพานักศึกษาไปฝึกงานคือที่อันหยาง เจียงเซ่อเองก็ได้อีเมล์จากทางมหาวิทยาลัยมาเมื่อวานนี้

ถึงแม้ว่าเธอจะเรียนสาขาประวัติศาสตร์ และมันก็ใกล้เคียงกับโบราณคดีอยู่มาก แต่พอได้ลองเตรียมตัวที่จะเลือกวิชาเลือกโบราณคดีแล้ว เจียงเซ่อก็พบว่ามันมีช่องว่างความแตกต่างกันมากพอสมควร

กลุ่มคนที่จะไปฝึกงานได้นัดรวมตัวเพื่ออกเดินทางในช่วงกลางเดือนตุลาคม ก่อนที่จะออกเดินทางเจียงเซ่อก็ใช้เวลาช่วงนี้ อ่านและจำเนื้อหาบทเรียนที่สาขาโบราณคดีเรียนกัน อีกทั้งยังมีพวกศิลปะโบราณสถานต่างๆ และความรู้พื้นฐานวิธีดูต่างๆ อีกด้วย และอ่านเกี่ยวกับพวกสัตว์และพืชพันธุ์เอาไว้คร่าวๆ ในครึ่งเดือนนี้เธอยุ่งจนหัวหมุนไปหมด เพื่อเป็นการประหยัดเวลา เธอก็เข้าไปในเว็บบอร์ดสาขาโบราณคดีของมหาวิทยาลัยเพื่อหาเฉพาะจุดสำคัญมา จนกระทั่งก่อนวันออกเดินทางหนึ่งวัน เธอก็เอาความรู้เบื้องต้นทั้งหมดย่อจดเอาไว้ในสมุดบันทึก

ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ก็คอยไปเรียนรู้และท่องจำจากการไปฝึกงานศึกษาโบราณคดีเอา

หลังจากที่มหาวิทยาลัย ได้รับการอนุญาตจากหน่วยโบราณวัตถุแล้ว ก็พานักศึกษาบินไปที่อันหยางทันที

ในกลุ่มนักศึกษากลุ่มนี้ เจียงเซ่อกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนอย่างช่วยไม่ได้

ตอนนี้เธอเป็นนักแสดงหญิงที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดังในวงการบันเทิง รูปร่างหน้าตาก็สวย บวกกับเป็นคนที่เพิ่งมาเข้าร่วมกับสาขาโบราณคดีแบบนี้แล้วด้วย เพราะงั้นจึงได้รับสายตาแปลกใจมองมาที่เธอตลอดทาง

ในสาขาโบราณคดีของมหาวิทยาลัยนั้น การที่จู่ๆ ก็มีเจียงเซ่อเพิ่มเข้ามา นักศึกษาที่มาฝึกงานก็มีไม่มากนัก อีกทั้งยังมีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายด้วย

ก่อนที่จะออกเดินทางเธอก็พยายามทำตัวเงียบที่สุดแล้ว แต่เมื่อเทียบกางเกงยีนส์ที่คู่กับเสื้อเชิ้ตสีเข้มกับนักศึกษาสาวคนอื่นๆ ที่มีผิวสีน้ำผึ้งแล้ว ผิวของเธอก็ถือว่าขาวราวกับหยก ยิ่งสวมเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์แบบนี้ก็ยิ่งเหมือนจะไปเดินแบบอย่างไรอย่างนั้น ดูไม่เหมือนกับว่ากำลังไปศึกษาโบราณคดีเลยสักนิด

การฝึกงานในครั้งนี้ ทั้งการขุดเหล่าของโบราณต่างๆ ในครึ่งเดือนแรก และการนำมาวิจัยในเกือบสองเดือนหลังนั้น ถือว่าสำคัญทั้งสิ้น เพราะว่าหลังจากที่กลับมาถึงมหาวิทยาลัยแล้วก็ยังต้องมีการเขียนรายงานด้วย