webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

331

บทที่ 331 ต่างคนต่างมี

หัวเซี่ยจือซวิ้นเป็นสื่อที่ใหญ่ที่สุดของหัวเซี่ย ถ้าหากว่าพวกเขาเป็นคนลงข่าวแล้วละก็ ผลกระทบที่ตามมาจะไม่ใช่แบบข่าวทั่วๆ ไปแน่นอน

เจียงเซ่อหน้านิ่งไป ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมา

ตอนนี้ไม่ว่าจะเว็บไหนหรือแหล่งข่าวไหน ก็ล้วนแล้วมีข่าวที่เจียงเซ่อและเชี่ยซ่าเหลยนัดเจอกันที่ร้านเป็ดย่าง และมีรูปที่หัวเซี่ยจือซวิ้นแอบถ่ายมาด้วย และรูปมันก็ชัดเจนมากๆ

บนข่าวมันเขียนเอาไว้ว่า : ผู้กำกับชาวอิตาลีแอบเข้ามาในหัวเซี่ยเพื่อนัดพบเจียงเซ่อ หรือว่ากำลังพูดคุยเกี่ยวกับการร่วมงานในหนังเรื่องใหม่กันนะ?

ข่าวนี้มันเพิ่งจะลงได้เมื่อเจ็ดแปดนาทีก่อน แต่มันก็ถูกดันขึ้นเป็นหัวข้อข่าวใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังเป็นที่ดึงดูดของเหล่านักวิจารณ์ชาวเน็ตมากมายอีกด้วย

ชาวเน็ตล้วนแล้วเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งต่อข่าวนี้ แต่ส่วนใหญ่ก็กำลังแสดงความยินดีต่อเจียงเซ่อ

ในปีนี้เธอมีหนังถึงสองเรื่องที่เข้าฉาย อีกทั้งยอดขายบัตรหนังของทั้งสองเรื่องก็ไม่ใช่น้อยๆ นอกจากเธอจะมีรูปร่างหน้าตาที่สวยแล้ว เธอก็ยังมีฝีมือการแสดงที่ดีด้วย ชาวเน็ตหลายๆ คนต่างก็คิดว่าถ้าหากเจียงเซ่อได้ร่วมงานกับเชี่ยซ่าเหลยจริงๆ ละก็ เธอก็เหมือนเป็นตัวแทนของหญิงสาวชาวหัวเซี่ยที่ได้ไปเฉิดฉาย และล้วนพากันสนับสนุนเธอในครั้งนี้ด้วย

แต่ยิ่งมีคนเข้ามาชื่นชมและสนับสนุนมากเท่าไหร่ ในใจของเจียงเซ่อมันก็ยิ่งรู้สึกแย่ลง

เพราะว่าที่เธอมาเจอกับเชี่ยซ่าเหลยในครั้งนี้ยังไม่ได้พูดคุยถึงรายละเอียดเยอะอะไรขนาดนั้น แต่ตอนนี้กลับโดนคนเอามาเปิดโปงจนกลายเป็นที่สนใจไปเสียหมด พากันมาแสดงความยินดี และนั่นมันก็อาจจะทำให้เชี่ยซ่าเหลยเกิดรู้สึกไม่ดีขึ้นมาได้ และคิดว่าเรื่องพวกนี้เธอเป็นคนทำขึ้นมาเอง เพื่อที่จะเป็นการยกระดับชื่อเสียงตัวเองขึ้นมา

เซี่ยเชาชวินยังคงโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ พอเรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกมา หล่อนก็เริ่มที่จะพิจารณาสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อในภายหลังได้แล้ว และมันก็ไม่มีส่วนไหนที่จะดีต่อเจียงเซ่อเลย

ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะได้ขึ้นพาดหัวข้อข่าวใหญ่ แต่สุดท้ายมันก็เป็นแค่ในระยะสั้นๆ

สิ่งที่สำคัญก็คือ ถ้าหากว่าเรื่องนี้ยิ่งลุกลามใหญ่โตไปเรื่อยๆ แล้ว แต่การร่วมมือระหว่างเชี่ยซ่าเหลยและเจียงเซ่อไม่ได้เป็นไปตามที่คาดเดากันเอาไว้ ภายหลังก็คงจะทำให้พวกชาวเน็ตทั้งหลายเกิดความรู้สึกที่ย้อนแย้งกับในตอนแรก และหาว่าเป็นเจียงเซ่อที่สร้างละครฉากใหญ่ขึ้นมาเอง เพื่อที่จะทำให้ตัวเองมีชื่อเสียงมากขึ้น

แล้วคนที่เป็นผู้บงการการสร้างข่าวพวกนี้ขึ้นมา จริงๆ แล้วเป็นใครกันแน่?

เจียงเซ่อรี่ตาลง แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก

เซี่ยเชาฉวินแจ้งกลุ่มคนที่เจียงเซ่อว่าจ้างทั้งหมด หล่อนรู้ข่าวนี้ช้าไป คนที่สร้างข่าวนี้ขึ้นมาถือว่าฉลาดมาก รู้ขั้นตอนการจัดการ และรู้ว่าจะปกปิดหูตาหล่อนได้ยังไง รอให้หัวเซี่ยจือซวิ้นได้เตรียมการจนพร้อมที่จะลงข่าวนี้ในอีกไม่กี่นาที หล่อนถึงค่อยได้ข่าว จนต้องตกมาเป็นผู้ถูกกระทำเสียแทนแบบนี้

หล่อนกำมือถือแน่น และยังคงติดต่อหาคนนู้นคนนี้ไปทั่ว

“ฉันรู้ว่าเรื่องมันมาจนถึงตอนนี้แล้ว จะให้พวกคุณมาลบข่าวที่มันกำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้ก็คงจะเสียหายไม่น้อย อีกทั้งถ้าลบไปยังไงก็ต้องส่งผลต่อตัวเจียงเซ่ออยู่ดี แต่ถ้าไม่ลบมันล่ะ แต่เปลี่ยนเป็นการขึ้นหัวข้อข่าวอีกแบบแทน?”

น้ำเสียงของหล่อนนิ่งเรียบ ปลายสายถามหล่อนกลับมา จากนั้นหล่อนก็ค่อยๆ ยิ้มขึ้น

“แน่นอนค่ะ ฉันรู้ว่าข่าวพวกนี้ไม่มีทางที่จะเอาอย่างอื่นมาแทนกันได้ง่ายๆ” หล่อนหันหน้ากลับมามองเจียงเซ่อแวบหนึ่ง แล้วกลับไปคุยกับคนในสายต่อ

“ฉันจำได้ว่า ในงานเลี้ยงปิดกล้องเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ มีโปรดิวเซอร์คนหนึ่งมีข่าวว่าโดนทำร้าย ที่แซ่เหยาใช่ไหมล่ะคะ?”

พอเจียงเซ่อได้ยินแบบนั้น ในใจก็ชะงักไป เซี่ยเชาฉวินพูดต่อ

“แน่นอนว่าคงไม่ใช่แค่เรื่องนี้ ฉันเข้าใจว่าเรื่องนี้ดูไม่ค่อยน่าสนใจสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดว่าโปรดิวเซอร์ชื่อดังคนนี้เป็นพวกเสพยาเสพติด และกำลังจะโดนจับกุมล่ะ?”

คำพูดของหล่อนทำเอาโม่อานฉีที่นั่งถือมือถืออยู่ข้างหน้าตะลึงงันไปเลย หล่อนหันขวับไปมอง แต่เซี่ยเชาฉวินกลับมองโม่อานฉีด้วยสายตาที่นิ่งเรียบไม่ได้รู้สึกอะไร

“แน่นอนว่าฉันรู้ว่าตอนนี้เขายังไม่ได้ถูกจับตัว แต่ฉันก็มีวิธีที่จะทำให้เขาโดนจับได้ พูดตรงๆ เลยนะคะ เขาเคยทำให้คนเบื้องบนไม่พอใจ ปีก่อนก็เคยโดนซ้อมจนกระดูกหักไปเสียหลายท่อน เพราะงั้นเขาถึงเหมือนหายเข้ากลีบเมฆโดยตลอด ข่าวนี้พอที่จะกดข่าวการร่วมงานของเจียงเซ่อและเชี่ยซ่าเหลยลงได้ไหมล่ะคะ?”

และคำตอบที่หล่อนได้กลับมาก็คือแน่นอน

เซี่ยเชาฉวินวางสายลง จากนั้นก็โทรติดต่อไปอีกครั้ง และสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็ว

หล่อนไม่ได้คิดจะเอาใครมาเป็นแพะรับบาปแบบส่งๆ ตั้งแต่ตอนแรกที่ได้เซ็นสัญญากับเจียงเซ่อ เซี่ยเชาฉวินเองก็ได้สืบเรื่องตั้งแต่ตอนที่เจียงเซ่อเข้าวงการมาแล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอบ้าง

รู้ว่าเจียงเซ่อเคยมีเรื่องผิดใจกับไอ้บ้าเหยาเสียงมาก่อน และรู้มาว่าเขานั้นเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบไปเสียเอง

และตอนนั้นก็เป็นเพราะเรื่องนี้ ที่ทำให้เผยอี้และเจียงเซ่อได้รู้จักกัน หลังจากนั้นเผยอี้ก็เป็นคนจัดการเก็บเหยาเสียงไปเรียบร้อย

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเพราะเหยาเสียงเคยมีเรื่องผิดใจกับเจียงเซ่อ จากนั้นก็ไปผิดใจกับเผยอี้ต่อ ทำให้จัดการกับเขาได้ง่ายขึ้น

แต่อย่างไรจุดอ่อนของเขาก็ถือว่ามีมากพอสมควร พอเอ่ยชื่อของเผยอี้ขึ้นมา ในเวลาสำคัญๆ แบบนี้ก็ถือว่ามีประโยชน์ไม่น้อย เพราะมันสามารถช่วยเจียงเซ่อแก้ไขสถานการณ์ในตอนนั้นได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันตัวเผยอี้เองก็มีฐานะที่พิเศษกว่าคนอื่น ทางตำรวจเองก็คงจะทำงานเร็วไม่น้อย ยิ่งข่าวออกเร็วเท่าไหร่ มันก็ยิ่งช่วยกดข่าวของเจียงเซ่อลงได้ไวเท่านั้น

พอขับรถมาถึงคอนโดที่เจียงเซ่อเช่าเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เรื่องที่เหยาเสียงและเพื่อนในวงการคนอื่นๆรวมตัวเสพสารเสพติดกัน ก็โดนเปิดโปงออกมาอย่างรวดเร็ว และข่าวตำรวจได้ดำเนินการเข้าจับกุมก็กลายเป็นข่าวใหญ่ของวันนั้นอย่างรวดเร็ว

พอข่าวที่เจียงเซ่อและเชี่ยซ่าเหลยนัดเจอกันมาเจอข่าวที่ใหญ่กว่าขึ้นมาแบบนี้ นอกจากชาวเน็ตจะได้เห็นข่าวเหยาเสียงโดนจับกุมข้อหาเสพยาเสพติดแล้ว ก็ยังได้รู้ถึงกิตติศัพท์ด้านลบของเหยาเสียงในวงการบันเทิงอีกด้วย ทั้งดูถูกดารานักแสดงสาวในกองถ่าย และนอกจากกลุ่มเพื่อนที่เป็นกลุ่ม ‘คนที่มีความชื่นชอบสิ่งเดียวกัน’ จะโดนจับกุมแล้ว ก็ยังมีเพื่อนร่วมงานที่มีอุดมการณ์เดียวกันที่โดนจับกุมไปด้วย

ทิศทางความสนใจของข่าวที่เปลี่ยนจากเจียงเซ่อร่วมงานกับผู้กำกับต่างชาติ กลายมาเป็นคนในวงการบันเทิงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหยาเสียงก็ดูเหมือนล้วนแล้วมีข่าวฉาวทั้งสิ้น

สื่อใหญ่ต่างๆ ถึงขนาดร่ายเรียงรายชื่อดาราสาวที่เคยทำงานกับเหยาเสียงออกมา อีกทั้งยังมีรายชื่อของเพื่อนสนิทที่ไปมาหาสู่กับเขาบ่อยๆ อีกด้วย

แต่ก็มีดาราอีกหลายคนที่ออกมาปฏิเสธ และประกาศว่าไม่ได้มีการรู้จักกับเหยาเสียงเป็นการส่วนตัวอะไรทั้งสิ้น

รวมไปถึงผู้ที่เคยร่วมงานและผู้กำกับที่เคยร่วมงานกับเหยาเสียงเองก็ออกมาปฏิเสธเรื่องที่ว่าสนิทสนมกับเขา เพียงแปบเดียวก็กลายเป็นเรื่องสั่นสะเทือนไปทั้งวงการ เหล่าเว็บข่าวใหญ่ต่างๆ พากันพาดหัวข่าวเพื่อให้กลายเป็นที่ดึงดูดให้คนเข้ามากดดู และนั่นก็ยิ่งทำให้ชาวเน็ตพากันพูดคุยเรื่องนี้กันอย่างสนุกสนาน

พอข่าวเรื่องที่เจียงเซ่อได้ออกมาเจอกับเชี่ยซ่าเหลยถูกข่าวที่ใหญ่กว่ามากดลงไป ไม่เกินครึ่งชั่วโมง ข่าวของเธอก็โดนกดไปอยู่ด้านล่าง และไม่มีใครกล่าวถึงมันอีกเลย

พอคนให้ความสนใจน้อยลง เซี่ยเชาฉวินก็เริ่มตามลบข่าวเหล่านั้นทิ้ง

หลังจากเกิดเรื่องไปได้หนึ่งชั่วโมง จนตอนนี้ก็เริ่มที่จะหาข่าวเกี่ยวกับที่เชี่ยซ่าเหลยและเจียงเซ่อเจอกันไม่ได้แล้ว เพราะสิ่งที่ชาวเน็ตพากันพูดถึงมากที่สุด ก็คือเรื่องที่เหยาเสียงโดนจับตัว

เซี่ยเชาฉวินนั่งลงบนโซฟา คิ้วขมวดเข้าหากัน

ถึงแม้ว่าเรื่องนี้หล่อนจะสามารถจัดการมันลงได้อย่างรวดเร็ว และความสนใจของชาวเน็ตก็มุ่งไปที่เหยาเสียงโดนจับแทนแล้ว แต่เรื่องภาพที่เชี่ยซ่าเหลยและเจียงเซ่อนัดพบกันถูกถ่ายเอาไว้ก็ยังเป็นความจริงที่เกิดขึ้นอยู่ดี

คนอื่นอาจจะจำเรื่องนี้ไม่ได้ แต่เชี่ยซ่าเหลยจะต้องจำได้แน่นอน

หล่อนหันไปมองเจียงเซ่อครู่หนึ่ง นี่ควรจะเป็นโอกาสที่ดี แต่กลับมีคนคอยสร้างเรื่องชักใยอยู่เบื้องหลังจนทำให้ทุกอย่างกลายเป็นความไม่แน่นอนไปเสีย

เจียงเซ่อก้มหน้าดูข่าว ด้วยอารมณ์ที่นิ่งเงียบ ไม่มีท่าทางกังวลหรือร้อนใจ

บนมือถือมีรูปใบหน้าของเหยาเสียงในตอนที่กำลังถูกจับกุมตัว มันดูตกใจและลนลานสุดๆ เขาถูกสวมกุญแจมือ และก้มหน้าลง พยายามหดตัวหลบหลีกกล้องทุกตัวที่กำลังจับภาพเขา เหมือนไก่ตัวหนึ่งที่เอาแต่ก้มหน้าหนี

“เซ่อเซ่อ......”

เจียงเซ่อเป็นคนฉลาด ในสถานการณ์แบบนี้เธอเองก็คงจะเข้าใจดี เรื่องที่เธอไปเจอกับเชี่ยซ่าเหลย จะต้องมีคนตั้งใจทำมันขึ้นมาแน่ๆ