webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

302

บทที่ 302 เตรียมการ

ในความเคร่งขรึมและจริงจังของเฝิงจงเหลียงนั้นก็ซ่อนความเป็นห่วงเอาไว้ด้วย ก่อนที่เจียงเซ่อจะกลับ เขาก็ได้สั่งให้แม่บ้านหวางเตรียมยาสมุนไพรบำรุงร่างกายต่างๆ มอบให้กับเจียงเซ่อด้วย

“เด็กสาวสมัยนี้ ชอบลดความอ้วนเลียนแบบคนอื่น ตอนที่พวกเราเป็นวัยรุ่นกัน ในบ้านแทบจะไม่มีอะไรให้กินด้วยซ้ำ มีอะไรกินก็กินหมด”

เจียงเซ่อเต็มใจฟังเขาบ่นไปเรื่อยๆ จากนั้นเขาก็สั่งให้เสี่ยวหลิวตัดดอกเยว่จี้มาให้อีกหนึ่งช่อใหญ่ ดอกไม้นั่นมันหอมแตะจมูกเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีหยาดน้ำค้างติดมาด้วย

หลังจากที่เธอขับรถออกจากบ้านตระกูลเฝิงไปแล้ว รถค่อยๆ ขับไกลออกไป เฝิงจงเหลียงยังคงยืนค้ำไม้เท้ามองอยู่ที่เดิม ตอนที่เธออยู่ ก็รู้สึกว่าบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาในบ้านมันช่างผ่านไปเร็วจริงๆ พอเธอไปแล้ว ก็รู้สึกว่าบ้านมันเงียบเหงาขึ้นมากทีเดียว

เขาถอนหายใจออกมา เสี่ยวหลิวเองก็มองเขาอย่างสงสาร จึงอดไม่ได้ที่จะพูดออกไป

“คุณท่านคิดถึงคุณหนูหรือครับ?”

เขาอยู่ข้างเฝิงจงเหลียงมานานหลายปี ความรู้สึกของเขาตนก็เข้าใจดี เขามีนิสัยแบบนนี้ ตอนที่ได้เห็นเจียงเซ่อ ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าเขากำลังคิดถึง ‘เฝิงหนาน’ อยู่ เสี่ยวหลิวพูดต่อ

“หรือว่าจะลองโทรหาดีไหมครับ อย่างไรเสียก็เป็นหลาน......”

“ไม่ต้องหรอก”

เฝิงจงเหลียงส่ายหน้า ก่อนจะยกไม้เท้าขึ้นเล็กน้อยแล้วเคาะลงไปบนพื้น ท่าทางดูเสียใจไม่น้อย

“เด็กแซ่เจียงนั่น บอกว่าจะเอาแผ่นหนังมาให้ฉัน ไม่ถามเลยสักนิดว่าฉันชอบอะไร! เจ้าเด็กคนนี้ ไม่มีความน่าเชื่อถือในคำพูดเลยสักนิด”

เขาบ่นพึมพำไปเรื่อย แต่พอครึ่งเดือนหลังจากนั้นเธอก็มาอีกครั้ง และเอาแผ่นหนังละครงิ้วมาให้เขาตั้งชุดหนึ่ง ทำเอาเฝิงจงเหลียงต้องนั่งถอนหายใจอยู่นาน

เวลาผ่านไปจนมาถึงปลายเดือนพฤษภาคม เจียงเซ่อผอมลงไปแล้วกว่าแปดโลครึ่ง และผอมลงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้อยู่มาก

เพราะทุนมันได้ตามที่ต้องการมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ทีมงานกองถ่ายเองก็ได้จัดตั้งเรียบร้อยทำการเตรียมตัวอย่างดี และฉากที่จะต้องถ่ายทำกันในตอนนี้ก็คือที่มณฑลซีหนาน และมันเป็นครั้งที่สองแล้วที่เจียงเซ่อมาที่นี่

เจียงเซ่อมาถึงที่หมายก่อนวันจริงสองสามวัน ในกองถ่ายเธอและหลิวเย่ร่วมงานกันไปอย่างราบรื่น เพราะว่าจะต้องถ่ายฉากที่มีเกี่ยวข้องแค่เธอก่อน ดังนั้นเจียงเซ่อจึงต้องมาที่กองก่อนหลิวเย่

ทีมงานกองถ่ายมาถึงที่มณฑลซีหนานแล้วสองสามวัน และได้นำอุปกรณ์ถ่ายทำทั้งหลายลงมาจากโรงแรมสามดาวใกล้ๆ เรียบร้อยแล้ว และทีมงานทั้งหมดก็พักอยู่ในที่เดียวกัน

ก่อนที่รถจะมารับเจียงเซ่อไป ทีมงานที่จัดการเรื่องหาที่พักก็ยังกังวลว่าเจียงเซ่อจะไม่พอใจกับที่พักที่เตรียมเอาไว้ให้ด้วยซ้ำ และเริ่มคิดกลัวไปต่างๆ นาๆ พอรถมาจอดยังที่หมายแล้ว ก็รีบเข้าไปอธิบายด้วยรอยยิ้มกับเจียงเซ่อทันที

“คุณเจียง ที่เป็นโรงแรมที่ใกล้กับที่ถ่ายทำที่สุดแล้ว ถึงมาตรฐานมันจะดูน้อยไปเสียหน่อย แต่ก่อนหน้านี้ที่พวกเรามาถึง ก็ได้พูดคุยกับทางโรงแรมเอาไว้ให้แล้ว ว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ แน่นอนว่า พี่คังเองก็สั่งเอาไว้แล้ว ว่าถ้าคุณไม่โอเคที่จะพักที่นี่ ก็สามารถเปลี่ยนโรงแรมใหม่ได้นะครับ”

เซี่ยเชาฉวินและโม่อานฉีเองก็มากับเธอด้วย เซี่ยเชาฉวินใส่แว่นดำเอาไว้ ดวงตาที่อยู่ภายใต้กรอบแว่นนั่นมองสำรวจเข้าไปข้างในโรงแรม ถึงแม้ว่าจะไม่พูดอะไรออกมา แต่ก็จะมองข้ามไม่ได้เด็ดขาด

เจียงเซ่อเป็นถึงนักแสดงสังกัดซื่อจี้หยินเหอ อีกทั้งยังมีเซี่ยเชาฉวินเป็นผู้จัดการส่วนตัว แถมยังได้ยินมาว่าคนที่ร่วมลงทุนหนังในครั้งนี้ยังเป็นถึงกลุ่มเพื่อนสนิทของเธออีกด้วย คนที่หนุนหลังเธออยู่ล้วนแล้วเป็นคนสำคัญทั้งนั้น และคุณคังที่ทีมงานคนนี้พูดถึง ก็เป็นถึงรองผู้กำกับของกองถ่ายหนังเรื่อง ‘Evil’ นี่เอง คอยรับผิดชอบการวางแผนโดยรวม และเป็นคนที่ได้รับการเลือกมาจากกลุ่มนักลงทุน ถือว่าสิทธิ์อำนาจมากเช่นกัน

พอทีมงานพูดจบ เจียงเซ่อก็ส่ายหัว ก่อนที่เธอจะมาที่นี่ก็ได้สอบถามมาเรียบร้อยแล้ว ที่นี่อยู่ใกล้สถานที่ถ่ายทำมากที่สุด ในทุกๆ วันที่ต้องเดินทางไป ก็ใช้เวลาแค่ไม่กี่สิบนาทีเท่านั้น

แต่ที่จริงก็มีโรงแรมสี่ดาวอยู่ด้วยเช่นกัน แต่มันอยู่ในเมือง และอยู่ห่างจากสถานที่ถ่ายทำไปกว่าหนึ่งชั่วโมงได้ ถ้าต้องเสียเวลาแบบนี้ในทุกๆ วัน ก็ดูจะน่าเสียดายเวลาไปหน่อย

“ไม่ต้องหรอกค่ะ”

เธอไม่ได้เล่นเนื้อเล่นตัวอะไร อีกทั้งก็คิดว่าที่นี่ก็เหมาะสมดีอยู่แล้ว และนั่นก็ทำให้ทีมงานถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

“อ้อใช่แล้ว ฉากสถานที่ได้เตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้วนะครับ ก่อนที่คุณจะมาถึง ผู้กำกับจ้าวเองก็ได้รับข่าวแล้ว”

เจียงเซ่อขึ้นเครื่องบินเที่ยวเก้าโมงสี่สิบห้านาทีมาที่นี่ และตอนนี้ก็ประมาณบ่ายโมงพอดี เขาดูเวลาแวบหนึ่ง

“ทางโรงแรมได้เตรียมอาหารเอาไว้ให้คุณแล้ว ผู้กำกับจ้าวฝากบอกว่า ตอนบ่ายสามโมงให้คุณแวะไปที่สถานที่ถ่ายทำด้วยนะครับ ให้คุณได้ไปดูการเดินกล้องเสียหน่อย เพื่อที่จะได้ง่ายต่อการถ่ายทำมากขึ้น”

ตั้งแต่ที่เริ่มเตรียมการจนมาถึงตอนเริ่มถ่ายทำ ระยะเวลาแค่นี้ก็ถือว่าเร่งรีบมากแล้ว โดยเฉพาะมาเริ่มถ่ายในเดือนมิถุนายนแบบนี้ เจียงเซ่อเข้าใจดี จ้าวร่างคงอยากให้มันเหมาะสมกับหนังที่เธอแสดงไปอย่างเรื่อง ‘เกี่ยวกับที่ฉันรักเธอ’ ที่จะเข้าฉายในภายหลังจากนี้

และเพื่อจะให้เธอสามารถเข้าร่วมการโปรโมทหนังในภายหลังได้ด้วย และจ้าวร่างก็ได้พูดคุยกับทางบริษัทเผยแพร่ภาพยนตร์ไปแล้วเมื่อตอนต้นปี ว่าจะเลื่อนการฉายหนังไปในช่วงเดือนสิงหาคมแทน ก็เพื่อที่จะให้เจียงเซ่อได้มีเวลาจัดการตัวเองหนึ่งเดือน ให้เธอได้บำรุงร่างกายที่ผอมไปกลับมาเหมือนเดิม

ระยะเวลาในการถ่ายทำจึงเร่งงรีบเป็นอย่างมาก ถ้าสามารถประหยัดเวลาได้ก็จะประหยัดเอาไว้ให้หมด แค่ทีมงานเอ่ยกล่าวขึ้นมาแบบนั้น เจียงเซ่อก็ตอบรับในทันที

มณฑลซีหนานแดดแรงไม่น้อย ถึงแม้ว่าตอนนี้เพิ่งจะเข้าต้นเดือนมิถุนายน แค่อุณหภูมิข้างหน้าห้องก็ปาเข้าไปกว่าสามสิบห้าองศาแล้ว บริเวณตรงกลางของสถานที่ถ่ายทำเป็นพื้นที่ว่าง รอบด้านทั้งสี่ทิศมีศาลาพักร้อนตั้งเอาไว้ จ้าวร่างสวมแว่นกันแดดสีดำ ในมือถือบทหนังเอาไว้ กำลังนั่งคุยอยู่กับคนเขียนบทหนัง ‘Evil’ ที่นั่งอยู่ข้างๆ

ตอนที่เจียงเซ่อนั่งรถมาถึงก็ยังไม่บ่ายสามด้วยซ้ำ เป็นช่วงเวลาที่แดดกำลังแผดเผา ก่อนที่เธอจะลงจากรถเซี่ยเชาฉวินก็ได้บีบครีมกันแดดใส่มือตัวเอง จากนั้นก็ทาลงไปบนบริเวณที่ไม่มีอะไรปกปิดอย่างใบหน้า ลำคอและแขนให้เธอเรียบร้อย

เธอสวมกระโปรงยาวปกปิดเรียวขาของตัวเองอย่างมิดชิด แค่ก้าวลงจากรถไอร้อนก็สาดลงมาทันที

ทีมงานได้เตรียมรถพรมน้ำเพื่อทำให้อุณหภูมิโดยรอบลดลงแล้ว และกล้องถ่ายทำก็ได้ติดตั้งเอาไว้อยู่รอบด้าน

“เจียงเซ่อมานี่สิ”

พอจ้าวร่างเห็นเธอ ก็กวักมือเรียกทันที

วันนี้ไม่ใช่วันที่จะถ่ายจริง แต่ก็มีบางงานที่ต้องเตรียมตัวให้เรียบร้อยเสียตั้งแต่วันนี้

ตัวบทที่ผ่านการแก้ไขเจียงเซ่อก็ได้อ่านมันมาแล้ว และบทพูดก็จำได้อย่างขึ้นใจ จ้าวร่างลองต่อบทกับเธอไปสองสามประโยค เธอก็สามารถเล่นต่อได้ทันที และมันก็ทำให้จ้าวร่างพึงพอใจเป็นอย่างมาก พยักหน้าออกมาอย่างอารมณ์ดี

พรุ่งนี่จะต้องเริ่มถ่ายเป็นฉากแรก และที่สำคัญก็คือเป็นฉากเดี่ยวๆ ของเจียงเซ่อ เป็นฉากสำคัญที่เป็นพาร์ทอดีตของตัวเธอ ฉากที่ต้องวิ่งหาลูกสาวของตัวเองไปทั่ว แต่กลับพบว่าสามีของตัวเองนั้นได้กลับไปมีชีวิตที่มีความสุขแล้วหลังจากที่ต้องเจ็บปวดจากการสูญเสียลูกสาวไป เขามีแฟนใหม่เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ละทิ้งชีวิตคู่สามีภรรยาที่น่าอึดอัดที่ได้เจอไปแล้ว

คนที่จะมาเล่นเป็นสามีของจางยวี่ฉินเป็นนักแสดงที่มีชื่อว่าเว่ยจั้ว อายุราวๆ สามสิบปี เพราะว่าต้องร่วมงานกัน เจียงเซ่อจึงเอ่ยทักทายเขาไป เขาแลบลิ้นเลียมุมปากอย่างตื่นเต้น ก่อนจะรีบเข้าไปจับมือและขอโทษที่เสียมารยาทกับเจียงเซ่อ

“หลังจากที่ลูกสาวของจางยวี่ฉินหายตัวไปแล้ว ก็ได้ไปแจ้งความเอาไว้ถึงสามเดือนกว่า แต่ก็ไม่เคยได้ข่าวคราวกลับมาเลย และในใจของเธอเองก็ชัดเจนแล้วว่าลูกสาวตัวเองจะต้องเจอเรื่องร้ายและอาจไม่มีชีวิตอยู่อีกแล้ว”

จ้าวร่างอธิบายเนื้อหาของบทหนังคร่าวๆ คนแต่งบทหนัง ‘Evil’ นั่งอยู่ข้างๆ ฟังไปพยักหน้าไป

“แต่เธอจะต้องยังมีความรู้สึกที่ไม่อยากยอมรับด้วย ในความเข้าใจของเธอ ถ้าหากว่าลูกสาวยังมีชีวิตอยู่ เธอก็จะต้องช่วยจูจูให้ได้ แต่ถ้าลูกสาวตายแล้วจริงๆ เธอก็ต้องหาศพของจูจูให้ได้ และจะต้องลากตัวฆาตกรมาชดใช้ให้ได้ และนั่นก็เป็นการตัดสินใจของคนเป็นแม่”

เพราะงั้นในสถานการณ์นี้ ขอแค่เธอได้เบาะแสเพียงเล็กน้อย เธอก็จะทุ่มกำลังตามหาอย่างเต็มที่