webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

298

บทที่ 298 ตอบโต้

ถ้าเทียบกับบทสัมภาษณ์พิเศษที่อ่านแล้วประทับใจของเถาเถา ทั้งหัวเซี่ยจื่อซวิ้น สือไต้บันเทิง เฉวียนฉิวหัวเซี่ยและสำนักข่าวอื่นๆ ที่มีอิทธิพลอีกหลายๆ แห่งเองก็กำลังลงข่าวเช่นกัน และข่าวเหล่านั้นก็ยืนยันแล้วว่าหลิวเย่และเจียงเซ่อกำลังจะร่วมงานกันจริงๆ

ถึงแม้ว่ารายละเอียดเกี่ยวกับหนังใหม่ที่กำลังจะถ่ายทำนั้นยังเป็นความลับอยู่ แต่ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่สำคัญมากจากทีมงานหนังก็มีหลุดๆ มาบ้างเป็นสีสัน

บนข่าวนั้นมีการพูดถึงผู้กำกับ พระเอกนางเอกเอาไว้เรียบร้อยแล้ว นักข่าวจากสามสำนักข่าวใหญ่ต่างก็กระจายไปสัมภาษณ์หลิวเย่และเจียงเซ่อ ทั้งชาวเน็ตและแฟนคลับของหลิวเย่ หลังจากที่คนเหล่านั้นได้เห็นข่าวต่างๆ ที่ออกมาแล้ว ก็พอจะรู้ต้นสายปลายเหตุ

ในบทสัมภาษณ์ หลิวเย่ได้กล่าวไว้ว่า ที่ตนรับร่วมงานกับเจียงเซ่อ ไม่ใช่เพราะอารมณ์ชั่ววูบ และไม่ได้ถูกใครบังคับทั้งนั้น แต่เพราะได้ตั้งใจพิจารณาจนแน่ใจมาอย่างดีแล้ว

ถึงแม้ว่าตอนที่หัวเซี่ยจือซวิ้นจะมีเข้าไปสัมภาษณ์หลิวเย่แค่สิบนาทีสั้นๆ แต่มันก็มากพอกับคำตอบที่หลิวเย่ตอบมาแล้ว

ตรงหัวข้อข่าวที่ออกมา หลิวเย่เข้าใจและได้ขอร้องเหล่าแฟนคลับ ว่าอย่าได้หลงเชื่อหรือถูกข่าวลือให้ร้ายเหล่านั้นนำทาง เขายังเผยอีกว่า หนังเรื่องนี้ผู้กำกับจ้าวได้เตรียมตัวเอาไว้ตั้งแต่ต้นปีที่แล้วแล้ว และเขาก็ได้ติดต่อหาตนตั้งแต่ตอนนั้น แต่เพราะว่าตนยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกหลายๆ อย่าง จึงไม่ได้ตอบตกลงรับงานไป จนกระทั่งมาถึงช่วงหลังๆ นี้

‘เพราะงั้นก็เลยได้รับงานหนังเรื่องนี้เอาไว้ครับ เพราะว่าผมได้เห็นถึงศักยภาพของเจียงเซ่อที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด เธอไม่ได้มาพูดประจบหรือมาคุยโวโอ้อวดตน และไม่ได้ใช้อำนาจอะไรมาบังคับผมทั้งนั้น แต่เธอได้ตั้งใจและแสดงให้เห็นอย่างจริงจัง และมันก็ทำให้ผมตอบตกลงที่จะเล่นหนังเรื่องนี้ทันทีเลยครับ’

‘ถ้าหากว่ามีการบีบบังคับอย่างที่บนโลกโซเชียลบอกเอาไว้จริงๆ ผมก็คงไม่อดทนมาได้จนเกือบจะหนึ่งปีแบบนี้แน่ๆ ครับ แบบนั้นผมคงจะตอบรับไปตั้งแต่ตอนที่ผู้กำกับจ้าวเอาบทมาให้ผมดูแล้ว คงไม่ยืดเยื้อจนมาถึงตอนนี้ครับ’

ตามที่สำนักข่าวใหญ่ๆ ได้ลงข่าวมา โดยเฉพาะกับข่าวที่ทั้งสามสำนักข่าวทรงอิทธิพลได้ลงเอาไว้ ก็พอจะตัดสินได้แล้วระหว่างอำนาจและความจริง และมันก็สามารถทำให้เหล่าแฟนคลับวางใจไปได้เยอะทีเดียว

คำตอบของจ้าวร่างเองก็ไม่ต่างอะไรกับหลิวเย่นัก ตอนที่สื่อไปขอสัมภาษณ์เขา เขาก็เอาแต่หัวเราะ ‘ฮ่าๆ’ ออกมาไม่หยุด

“ถ้าเกิดว่าบังคับได้ เรื่องมันก็คงจะง่ายกว่านี้แล้วครับ ผมเองก็คงไม่ต้องไล่ติดต่อหลิวเย่มาเกือบปีแบบนี้ และนี่เขาก็เพิ่งจะยอมตอบตกลงผมเอง”

ทุกฝ่ายต่างก็ให้คำตอบ เรื่องทุกอย่างราวกับน้ำลดต่อผุด ถึงแม้ว่าบนอินเทอร์เน็ตจะยังมีคนคอยยุแยงอย่างไม่ฟังเหตุผลใดๆ อยู่ แต่ก็มันก็ทำให้มันกลายเป็นประเด็นไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

และวิกฤตของเจียงเซ่อในครั้งนี้ เพราะได้อิทธิพลที่แข็งแกร่งของเซี่ยเชาฉวิน ยังไม่ทันถึงครึ่งวันก็ตัดปัญหาออกไปได้แล้ว

พวกคอมเม้นท์ในด้านลบต่างๆ ถูกลบออกไปจนสะอาด อีกทั้งหนังเรื่อง ‘Evil’ นั้นมีพวกเนี่ยต้านเป็นคนลงทุนสนับสนุนอยู่ด้วย ทำให้ตอนนี้หนังเรื่อง ‘Evil’ กลายเป็นที่จับตามองของใครหลายๆ คนมากทีเดียว หลังจากที่เซี่ยเชาฉวินจัดการเรื่องที่ตัวเองพอจะจัดการได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่เรื่องนอกเหนือจากนี้หล่อนก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเหล่านักลงทุนอย่างพวกเนี่ยต้านไปเลย

เมื่อคืนที่ผ่านมา พวกเหล่าแอคเค้าท์ของบริษัทต่างๆ ที่ตั้งใจมาปั่นและคอยลงคอมเม้นท์มุ่งร้ายได้ถูกระงับภายในประเทศไปแล้ว ส่วน IP เองก็ถูกล็อคห้ามเอาไว้ด้วย

แต่นี่มันก็แค่เพิ่งเริ่มต้น

ในบริษัทเจียงหนานบันเทิง เฝิงหนานกำลังหลับ สไตล์ลิสต์กำลังประคองขาของหล่อน พร้อมกับน้ำยาทาเล็บสีดำเงา และกำลังทาลงไปบนเล็บเท้าของหล่อน

ในห้องทำงานไม่มีใครพูดอะไร มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะขยับสั่นครืดขึ้นมา

เฝิงหนานไม่ได้สนใจที่จะหันไปมอง แต่พอผู้ช่วยของหล่อนที่อยู่ข้างๆ มองดูแล้ว ก็เรียกหล่อนขึ้นมา

“คุณเฝิงคะ เป็นคุณจ้าวโทรมาค่ะ”

บริษัทเจียงหนานบันเทิงเป็นบริษัทที่เฝิงหนานร่วมมือกับจ้าวจวินฮั่นสร้างมันขึ้นมา ก่อนหน้านี้ ทั้งสองคนดูสนิทสนมกันมากๆ และคนในบริษัทก็คิดว่ามันกำลังไปได้ด้วยดี

แต่ผ่านไปได้ไม่นาน คู่หมั้นชายหญิงที่ดูจะปรองดองกันดีก็แตกแยกกันเสียอย่างนั้น จ้าวจวินฮั่นก็เข้าบริษัทน้อยลงทุกทีๆ กลับกันเป็นเฝิงหนานที่ค่อยๆ ควบคุมทุกอย่างในบริษัท

แต่ก่อนมักจะเห็นทั้งคู่เข้าบริษัทพร้อมกันบ่อยๆ นี่ก็เพิ่งจะผ่านมาไม่นานเอง แม้แต่โทรหากันก็ยังน้อยเต็มทีแล้ว

เฝิงหนานลืมตาขึ้น แล้วยื่นมือไปคลำหามือถือ ปลายสายน้ำเสียงของจ้าวจวินฮั่นเหมือนกำลังระงับความโกรธสุดๆ แล้ว

“คุณเป็นบ้าไปแล้วหรือยังไง?”

หลังจากที่ทั้งสองคนแตกกัน ทุกครั้งที่เขาโทรมาหาหล่อน ก็มักจะเป็นเรื่องไม่ดีทั้งนั้น

“คุณเป็นคนหาไอ้พวกบริษัทเน็ตเวิร์คพวกนั้นมาใช่ไหม? ข่าวบนอินเทอร์เน็ตพวกนั้นคุณเป็นคนปล่อยออกไปใช่ไหม?”

เฝิงหนานหัวเราะขึ้นจมูกออกมาทีหนึ่ง แล้วมองไปยังเล็บเท้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีดำอย่างไม่สนใจใยดี และสีดำที่ถูกแต่งแต้มก็ทำให้นิ้วเท้าของหล่อนดูขาวขึ้นอีก

“ถ้าใช่แล้วจะทำไมเหรอ แล้วถ้าไม่ใช่แล้วจะยังไงคะ?”

ที่จริงร่างกายของเฝิงหนานมันเป็นที่น่าพอใจสำหรับหล่อนมากๆ เพราะรูปลักษณ์และเรือนร่างของหล่อน ร่างกายที่ดูไม่มีรอยตำหนิไม่มีพิษมีภัย ผิวกายที่ถูกดูแลรักษามาอย่างดี เหมือนกับว่าถูกดูแลมาตั้งแต่หัวจรดเท้า ทุกพื้นที่ของผิวหล่อนมันขาวเนียนละเอียดราวกับหิมะ หล่อนยืดตัวไปลูบเรียวขาของตนเอง แต่ก็เหลือบไปเห็นรอยหนังแตกข้างหัวแม่โป้งเข้า หล่อนชะงักไปในทันที

แต่ก่อนมันไม่มีนี่ หล่อนลนขึ้นมาทันที มันเป็นส่วนผิวหนังกระด้างจุดหนึ่ง และมันก็เริ่มเป็นสีเหลืองแล้วด้วย แถมยังนูนออกมาเป็นวงกลมอีก และเป็นเพราะว่าผิวที่เหลือในส่วนอื่นๆ มันขาวหมด จึงทำให้เห็นรอยด่างพร้อยนั่นได้อย่างชัดเจน

“เกิดอะไรขึ้น?”

ท่าทางของหล่อนดูจริงจังไม่น้อย สไตล์ลิสต์ที่กำลังทาเล็บให้หล่อนอยู่เอ่ยขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“คุณเฝิง นี่คงจะเป็นเพราะคุณใส่รองเท้าส้นสูงบ่อยเกินไป”

“คุณได้ฟังที่ผมพูดบ้างไหม?”

ในขณะที่เฝิงหนานกำลังคุยกับสไตล์ลิสต์ถึงเรื่องรอยบนเท้านั่น ปลายสายอย่างจ้าวจวินฮั่นเองก็เริ่มหงุดหงิดจนอยากจะซัดคนให้ได้แล้ว

“คุณ......” ตอนแรกเขาเกือบจะด่าออกไปอยู่แล้ว แต่พอได้คุยกับหล่อนไปไม่กี่ประโยค ก็พบว่าถึงจะด่าไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา

“ช่างเถอะ ผมแค่จะบอกคุณว่า หนังเรื่อง ‘Revenge’ ของคุณ ทางหัวโถวมีความต้องการที่จะถอนทุนออก นักลงทุนคนอื่นๆ เองก็มีความคิดจะถอนออกด้วยเหมือนกัน เรื่องที่คุณไปหาพวกบริษัทเน็ตเวิร์คมา ตอนนี้บริษัทพวกนั้นก็โดนจัดการไปแล้วด้วย ถ้าคุณจัดการเรื่องนี้ไม่ได้ละก็ เงินที่ผมตกลงจะช่วยหนังเรื่อง ‘Revenge’ ของคุณก็จะไม่ร่วมลงทุนอีกสักแดงเดียว”

ข่าวร้ายที่เขานำมาบอกในครั้งนี้ มันทำให้เฝิงหนานตะลึงงันไปในทันที หล่อนยังไม่ทันจะได้ถามอะไรกลับด้วยซ้ำ พอนึกถึงที่จ้าวจวินฮั่นพูดก่อนหน้านี้แล้ว ต่อให้เฝิงหนานโง่แค่ไหนก็ต้องเดาออก เรื่องที่ต่งหมิงเซิงถอนทุนออกแบบนี้ ยังไงมันก็ต้องเกี่ยวกับที่หล่อนไปจ้างให้พวกบริษัทเน็ตเวิร์คไปกดเจียงเซ่อลง

หนังเรื่อง ‘Revenge’ เรื่องนี้หล่อนเองก็เตรียมตัวมานานเหมือนกัน หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ถูกเขียนและกำกับจากผู้กำกับเล็กๆ ในโลกอดีต ตอนที่หนังเข้าฉาย มันก็เป็นที่ตกตะลึงของคนดูเป็นอย่างมาก

และเพราะทุนสร้างหนังที่ไม่ถึงสามล้าน แต่สุดท้ายกลับได้ยอดขายบัตรไปกว่าแปดสิบล้านเลยทีเดียว ตอนนั้นมันเลยกลายเป็นที่ฮือฮาในวงการหนังของหัวเซี่ยอยู่ไม่น้อย ทั้งผู้กำกับและนักแสดงโด่งดังขึ้นมาภายในคืนเดียวเลยด้วยซ้ำ

ผู้กำกับของหนังเรื่องนี้มีชื่อว่าหลี่ลี่ เขาใช้เวลาในการเขียนบทหนังเรื่องนี้กว่าสองปีเต็มๆ ตอนที่ถ่ายทำก็เป็นเพราะตัวเองยังเป็นแค่มือใหม่ ทำให้ต้องเจออุปสรรคตลอด แต่เมื่อผ่านเจ็ดปี หนังเรื่องนี้ก็ได้เข้าฉายในโรงหนังสักที

พอเฝิงหนานได้มาเกิดใหม่ และตัดสินใจแล้วที่จะเข้าวงการบันเทิง ก็ตั้งมั่นว่าจะรวบหนังที่มียอดขายที่ดีที่สุด รวมไปถึงหนังที่ได้ผลตอบรับดีมาไว้ในมือให้ได้ และหนังเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาดสุดๆ แน่นอนว่าหล่อนต้องไม่ปล่อยมันไป

หล่อนใช้เวลาอยู่หลายเดือนในการคิดถึงเนื้อเรื่องในหนัง และเขียนออกมาเป็นบทหนังใหม่ หล่อนไม่ได้ต้องการจะใช้หนังเรื่องนี้ในการทำเงิน ตอนนั้นที่เอาหนังเรื่องนี้ไปพูดเกลี้ยกล่อมต่งหมิงเซิง ก็แค่อยากจะให้เขามองเห็นว่าหล่อนสามารถทำเงินได้เท่านั้นเอง เพื่อให้เขามาลงทุนสนับสนุนงานหนังเรื่องต่อๆ ไปของหล่อนในอนาคต