webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

296

บทที่ 296 สัมภาษณ์

หลังจากนัดเวลากันเรียบร้อยแล้ว โม่อานฉีก็วางสายไป เถาเถากำมือถือแน่น ทุกคนที่นั่งประชุมกันเมื่อกี้ยังไม่มีใครออกจากห้อง ภาพตอนที่หล่อนคุยโทรศัพท์กับโม่อานฉีเมื่อครู่ เพื่อร่วมงานทุกคนต่างก็ได้ยินกันหมดแล้ว

ใบหน้าของหล่อนยังเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา แต่กลับยิ้มจนตาโค้งเป็นพระจันทร์เสี้ยว

“หัวหน้าคะ เจียงเซ่อตอบตกลงให้ดิฉันเข้าไปสัมภาษณ์แล้วค่ะ นัดเอาไว้ตอนบ่ายสามครึ่ง มีเวลาสัมภาษณ์ยี่สิบนาที ที่โรงแรมรุ่ยจี๋ชั้นที่ยี่สิบสามชั้นวีไอพีค่ะ”

ตอนที่เถาเถาพูดแบบนั้นขึ้นมา ทุกคนที่อยู่ในห้องก็นิ่งแข็งกันไปหมด แสงที่สอดส่องผ่านกระจกบานใหญ่เข้ามาในห้อง ทำให้ใบหน้าและสายตาของทุกๆ คนดูยิ่งตกตะลึงและแปลกใจเข้าไปอีก เสียงเครื่องปรับอากาศในห้องประชุมดูเงียบผิดจากทุกวัน ติงหรูเบิกตากว้าง สีหน้าราวกับว่าไม่อยากจะเชื่ออย่างไรอย่างนั้น

ครั้งนี้ในใจของทุกๆ คนในสำนักข่าวหลงสิงต่างรู้กันดี ถ้าอยากจะได้โอกาสสัมภาษณ์เดี่ยวแบบนี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ข้างล่างคือพนักงานของสำนักข่าว ข้างบนคือหัวหน้าสำนักข่าว สำหรับเรื่องที่เจียงเซ่อจะตกลงให้สำนักข่าวหลงสิงเข้าไปสัมภาษณ์หรือไม่ ในใจของทุกๆ คนไม่มีความมั่นใจอยู่แล้ว

ดังนั้นตั้งแต่แรก หัวหน้าจึงต้องตัดสินใจเลือกสิ่งที่เหลืออยู่เป็นสิ่งสุดท้าย เพราะในตอนนั้นก็ไม่มีใครหรือนักข่าวคนไหนจะตอบตกลงรับคำหัวหน้าสักคน เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าคงเป็นไปไม่ได้

แต่สุดท้ายก็มีพนักงานใหม่ผู้ใจร้อนเสนอตัวขึ้นมา ตอนนั้นทุกคนต่างหัวเราะเยาะและสงสัยในตัวหล่อน แต่หล่อนก็ยังทำตัวราวกับเรือที่แล่นมาอย่างไม่กลัวอะไร และสุดท้ายก็ได้โอกาสสัมภาษณ์มา

ก่อนที่จะมีการสัมภาษณ์ เถาเถาเองก็ได้พยายามทำการบ้านทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ ทุกๆ คำถามหล่อนก็ไตร่ตรองและพิจารณาอยู่หลายครั้ง

เจียงเซ่อนัดให้สัมภาษณ์ที่โรงแรมรุ่ยจี๋ ในตอนที่รถของสำนักข่าวหลงสิงเข้ามาจอดอยู่ที่ข้างล่างโรงแรมรุ่ยจี๋นั้น ซื่อจี้หยินเหอก็ได้จัดคนมาคอยตรวจตัวเถาเถาว่าพกอะไรมาหรือไม่ หลังจากตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว เถาเถาก็เพิ่งรู้ว่า การให้สัมภาษณ์ของเจียงเซ่อในครั้งนี้ จะไม่มีการอนุญาตให้ถ่ายภาพออกไปเด็ดขาด ในตอนที่พูดคุยกันหล่อนก็ได้สอบถามมาเรียบร้อยแล้ว ว่านี่เป็นคำสั่งของผู้จัดการส่วนตัวเซี่ยเชาฉวิน ถ้าหากว่าแอบถ่ายออกไปละก็ จะไม่ปล่อยเอาไว้เช่นกัน

เวลาที่นัดกันไว้ก็คือตอนบ่ายสามโมงครึ่ง เถาเถามาถึงที่ให้สัมภาษณ์ก่อนเวลากว่าครึ่งชั่วโมงได้ หล่อนคอยเตรียมตัวคำถามและสิ่งที่ตัวเองอยากพูดอยู่เรื่อยๆ เพราะกลัวว่าถ้าได้เข้าไปเจอกับไอดอลของตัวเองแล้ว จะลืมคำถามที่อยากจะถามไปเสียก่อน

ห้องวีไอพีชั้นที่ยี่สิบสามถูกป้องกันเอาไว้อย่างมิดชิด ตามที่ชื่อเสียงของเจียงเซ่อที่มีมากขึ้น แถมฐานะจุดยืนก็สูงขึ้น ซื่อจี้หยินเหอเองก็ให้ความสำคัญกับเธอมากขึ้นด้วย

เถาเถาชอบเธอมากๆ แต่ในขณะเดียวกันก็กังวลด้วย

หญิงสาวในฝันของหล่อนกำลังก้าวขึ้นสู่ที่สูงมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนตัวหล่อนถ้าไม่พยายามขึ้นอีกละก็ ถ้ายังไม่สร้างผลงานความดีความชอบในวงการนี้ น่ากลัวว่าในอนาคตคงไม่มีโอกาสได้สัมภาษณ์หรือเจอเจียงเซ่อด้วยตัวเองแบบนี้อีก

ครั้งนี้หล่อนอ้างสิทธิ์ว่าเป็นแฟนคลับของเจียงเซ่อ และคงเป็นเพราะเหตุการณ์ที่โรงจอดรถของโรงภาพยนตร์ IMAX ทำให้เจียงเซ่อยังจำหล่อนได้อยู่ เลยได้โอกาสมาสัมภาษณ์แบบนี้ ครั้งต่อไปก็ไม่รู้ว่าจะโชคดีแบบนี้อีกหรือเปล่าด้วย

บ่ายสามสามสิบห้าแล้ว และก็มีคนเดินมาเรียก ‘สำนักข่าวหลงสิง’ อย่างตรงเวลา เถาเถาลุกขึ้นยืน แต่ปากกาเจ้ากรรมที่เสียบไว้ที่อกดันหล่นพื้นเสียได้ หล่อนไม่ทันได้สนใจเก็บมันขึ้นมา รีบตะโกนออกไปทันที

“มาแล้วคะ!”

“ตามดิฉันมาเลยค่ะ” ตอนที่โม่อานฉีเห็นเด็กสาว ก็ยิ้มแล้วกวักมือเรียก

เถาเถาเตรียมคำถามมาตั้งหลายข้อ มีทั้งคำถามที่หัวหน้ารีเควสมา เกี่ยวกับ ‘การร่วมงานกันระหว่างหลิวเย่และเจียงเซ่อ กำลังถ่ายทำหนังอะไร รู้สึกอย่างไรกับเหล่าคำวิพากษ์วิจารณ์บนอินเทอร์เน็ต’ อะไรประมาณนั้น แล้วก็มีคำถามของตัวหล่อนเองด้วย

แต่พอเดินเข้ามาในห้องที่ถูกปิดประตูไว้อย่างมิดชิดแล้ว ก็เจอกับเจียงเซ่อที่กำลังเสียบหลอดดูดน้ำจากแก้วอยู่ เหมือนกับว่าลืมทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้ว หล่อนจ้องตาโต แล้วถามออกมาราวกับกำลังเหม่อ

“ทำไมผอมลงขนาดนี้ล่ะคะ?”

เจียงเซ่อสวมเสื้อเชิ๊ตสีขาวคอรัฟเฟิล*ปกเสื้อจีบระบายขนาดใหญ่ คู่กับกางเกงฮาเร็มเข้ารูปสีดำ และรองเท้ามาร์ติน ผมถูกรวบขึ้น แต่งหน้าอ่อนๆ เวลาที่หันข้าง ก็จะสามารถเห็นกรอบหน้าได้อย่างชัดเจน แต่ก็เห็นได้ชัดว่าผอมจนเรียกหนังหุ้มกระดูกได้เลย

นิ้วมือที่กำรอบแก้วน้ำนั่น มันดูขาวซีดจนเห็นรอยเส้นเลือดฝอยได้อย่างชัดเจน ดูผอมกะหร่องก่องไปหมด

เจียงเซ่อหันหน้ามามอง ใบหน้าของเธอก็ดูเล็กลงด้วย เล็กจนเห็นรอยเส้นเลือดตรงข้างขมับอย่างชัดเจน ปลายคางเหมือนกับถูกบีบจนเล็ก แต่เพราะอายุเธอก็ยังน้อย เลยยังมีความมีน้ำมีนวลของเด็กสาวอยู่บ้าง

เถาเถายังจำความประทับใจที่เจอเธอทั้งสองครั้งได้ แต่ครั้งนี้มันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเธอผอมลงจนไม่เหลือเค้าคนเดิมเลยสักนิด หล่อนเกิดร้อนใจขึ้นมาเป็นอย่างมาก

“เกิดอะไรขึ้นหรือคะ?”

น้ำเสียงของหล่อนฟังดูก็รู้เป็นห่วงเป็นอย่างมาก

“เป็นคำสั่งของบริษัทหรือคะ?”

“นี่ถือว่าเป็นคำถามแรกหรือเปล่าคะ?”

เจียงเซ่อวางแก้วน้ำลง แล้วมองไปที่เด็กสาวที่พอเข้ามาก็แสดงความเป็นห่วงทันที เธอทักออกไปหนึ่งประโยค เถาเถาได้ยินอย่างนั้นก็ส่ายหน้าทันที

“เชิญนั่งก่อนค่ะ”

น้ำเสียงและบุคลิกของเธอยังคงเหมือนกับครั้งก่อนที่ได้เจอ อีกทั้งยังมีการหยอกล้อหล่อนเล่นด้วย ดูแล้วไม่เหมือนกับคนที่กำลังกังวลใจเลยสักนิด คงจะไม่ได้รับผลกระทบจากพวกคำวิพากษ์วิจารณ์แย่ๆ บนอินเทอร์เน็ตเลย

“ช่วงนี้ฉันลดน้ำหนักอยู่น่ะค่ะ เป็นการเตรียมตัวกับหนังเรื่องใหม่ ตอนนี้ก็ผอมจนคนรอบๆ ข้างเริ่มจะจำฉันไม่ได้แล้วด้วย เพราะงั้นการสัมภาษณ์ครั้งนี้จึงไม่อนุญาตให้มีการถ่ายวีดิโอหรือถ่ายรูปไงคะ”

เจียงเซ่อพอจะดูออกว่าคนที่ชื่อเถาเถาตรงหน้านี้ยังตื่นเต้นอยู่ ในตอนที่เธอพูด เถาเถาก็จับสมุดบันทึกแน่น ตาคู่นั้นจ้องเธอเขม็ง ราวกับว่ากลัวว่าจะพลาดอะไรจากเธอไป

“หนังเรื่องใหม่จะต้องทำให้ร่างกายผอมหรือคะ?”

เถาเถาถามออกไป ตอนนี้หล่อนกำลังทำตัวเหมือนแฟนคลับที่ได้อยู่ต่อหน้าไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบ และรู้สึกร้อนรนกังวลใจที่เห็นเจียงเซ่อต้องผอมลงขนาดนี้ สายตาของหล่อนคู่นั้นมันสื่อความรู้สึกออกมาทั้งหมด เจียงเซ่อพยักหน้าเบาๆ

“แค่อยากจะให้ใกล้เคียงกับตัวละครที่อยู่ในเรื่องมากที่สุดน่ะค่ะ”

นักข่าวตัวน้อยตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก ริมฝีปากหล่อนขยับไปมา ราวกับว่าไม่รู้ว่าพอเจียงเซ่อพูดจบแล้ว ตัวเองจะพูดอะไรต่อดี

“ดิ ดิฉันยังไม่เคยสัมภาษณ์เดี่ยวมาก่อนเลย เพราะงั้นเลยตื่นเต้น.......” และหล่อนก็มักจะบอกถึงความรู้สึกในใจของตัวเองอยู่เสมอ

“อย่าตื่นเต้น” เจียงเซ่อค่อยๆ ยิ้มขึ้นมา “ฉันเองก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์เดี่ยวแบบนี้บ่อย อย่าเอาความตื่นเต้นมาใส่ให้ฉันสิคะ ฉันยังต้องให้สัมภาษณ์อีกหนึ่งสำนักข่าวนะ”

เธอไม่ได้พูดปลอบขวัญด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนอะไร พอเธอพูดจบ เถาเถาก็มองด้วยสายตามึนๆ โม่อานฉีที่นั่งอยู่ด้านข้างหลุดหัวเราะออกมา

เถาเถาเองก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มขึ้น หญิงสาวในฝันของหล่อนไม่ได้เย็นชาหรือหยิ่งอย่างที่คิดไว้เลยสักนิด หล่อนถอนหายใจออกมา เหมือนกับว่าเริ่มผ่อนคลายบ้างแล้ว และเตรียมถามคำถามที่เตรียมมาทันที

“เซ่อเซ่อกำลังเตรียมตัวกับหนังเรื่องใหม่ แถมช่วงนี้ก็มีกระแสข่าวมาตลอดว่ากำลังจะร่วมงานกับหลิวเย่ด้วย เป็นหนังเรื่องนี้หรือเปล่าคะ?”

“ใช่ค่ะ”

เจียงเซ่อพยักหน้าตอบอย่างมีความสุข

เถาเถาเพิ่งพบว่าการสัมภาษณ์เธอก็ไม่ได้ดูยากอย่างที่ตัวเองคิดนัก เธอไม่ได้พูดอะไรมากมาย แต่คำพูดของเธอก็ไม่ได้มีการปกปิดอะไร ไม่เห็นเหมือนกับดาราที่ดูน่ากลัวอย่างที่รุ่นพี่นักข่าวคนอื่นๆ เจอเลย ที่ชอบทำเหมือนนักข่าวเป็นตัวตลก ชอบแสดงละครใส่ พอพูดไปพูดมา ถามอะไรไปก็เลี่ยงไม่ตอบ พอหมดเวลาให้สัมภาษณ์และกลับมานั่งทำข่าว ก็พบว่าไม่ได้ข้อมูลกลับมาเลยสักนิด

สิ่งที่นักข่าวไม่ชอบก็คือการเจอกับดาราประเภทนี้ที่สุด ทั้งๆ ที่ยุ่งมาทั้งวัน แต่กลับเหมือนสูญเสียเวลาไปเปล่าๆ กลับมาก็ยังต้องมาโดนด่าตอนเรียบเรียงเนื้อหาอีก ตัวเองต้องนั่งปวดหัวพิจาณากับสิ่งที่ได้มาเพื่อที่จะหาข้อมูลที่ใช้ได้ที่สุดไปลงข่าว

แต่เจียงเซ่อไม่ใช่ เธอตอบเถาเถาอย่างชัดเจนในสิ่งที่หล่อนต้องการรู้ และสิ่งอื่นที่นอกเหนือจากนั้น ถ้าเธอพูดได้ เธอก็จะพูด