281

บทที่ 281 ผลสะท้อนกลับ

“ดิฉันดูไปตั้งสองรอบแน่ะค่ะ”

โจวเมี่ยวชูนิ้วขึ้น ก่อนจะเลียริมฝีปากอย่างตื่นเต้น “ในหนังคุณแสดงได้ดีมากเลยค่ะ ดิฉันชอบคุณมากๆ เลย”

คำพูดของหล่อนทำเอาโม่อานฉีหลุดหัวเราะออกมา โจวเมี่ยวก็สังเกตเห็นว่าเจียงเซ่อเองก็กำลังยิ้มๆอยู่เหมือนกัน แถมยังพยักหน้าให้อีกด้วย

“ขอบคุณค่ะ”

โจวเมี่ยวนิ่งไปราวกับว่ากำลังโดนชมเชยอย่างไรอย่างนั้น ลิฟต์เคลื่อนตัวขึ้นมาถึงชั้นที่ยี่สิบหก หล่อนก็ยังคงยืนเหม่อลอย แม้แต่คำว่า ‘ลาก่อนค่ะ’ ก็ยังลืมพูดออกไป จนกระทั่งเจียงเซ่อและโม่อานฉีทั้งสองคนเดินออกจากลิฟต์ไปแล้ว หล่อนก็เพิ่งจะได้สติขึ้นมา และคิดอยากที่จะตามไปคุยด้วยอีก แต่พอคิดถึงกฎของบริษัทแล้ว หล่อนก็สูญเสียความกล้าไปในทันที

โม่อานฉีหันหน้าไปมองหล่อน โจวเมี่ยวดูท่าทางจะเสียใจหงอยไม่น้อย แถมยังมองมาที่เจียงเซ่อด้วยท่าทางน่าสงสารอีก

“ตั้งแต่ที่หนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ เข้าฉายไป ผลกระทบที่ตามเธอมานี่ก็เยอะเหมือนกันนะเซ่อเซ่อ”

หลังจากที่หนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ เข้าฉายไปได้สองวัน ผลตอบรับจากการขายตั๋วหนังถือว่าไม่เลวเลย นอกจากฝีมือการถ่ายหนังของหลินซีเหวินที่ไม่เลวแล้ว ด้านการตลาดของทีมฝ่ายขายก็ทำได้ดีไม่น้อย

เวลาที่เขาเลือกออกฉายก็ดี ในรายชื่อหนังที่เข้าฉายพร้อมๆ กับหนังของเขานั้น ไม่มีเรื่องไหนที่จะมาสู้กับเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ได้เลยด้วย ทำให้ยอดจำหน่ายบัตรหนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ไปกดยอดขายบัตรของเรื่องอื่นๆ ที่เข้าฉายพร้อมกันไปเสียหมด และทำให้กลายเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ ในข่าว

เจียงเซ่อเองก็ได้อานิสงส์จากหนังเรื่องนี้จนกลายเป็นที่จับตามอง จากตัวเลขยอดผู้ติดตามประมาณหนึ่งล้านหกแสนกว่าตามแอคเค้าท์ส่วนตัวต่างๆ ของเธอนั้น ได้เพิ่มเป็นสิบล้านกว่าคนแล้ว คำวิจารณ์ก็มากมาย ตอนที่เดินเข้ามาในซื่อจี้หยินเหอ พนักงานต้อนรับที่อยู่ข้างหน้ายังแสดงตัวว่าเป็นแฟนคลับที่ชื่นชอบมากด้วยซ้ำ ถึงได้รู้ว่าบทบาทที่เจียงเซ่อเล่นในหนังมันเป็นที่ประทับใจต่อคนดูมากแค่ไหน

ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้ยินเสียงพนักงานคนอื่นเรียกขึ้นมา

“คุณเซี่ย”

เจียงเซ่อหันหน้าไป ก็พบว่าเป็นเซี่ยเชาฉวินที่อยู่ในชุดสูทสีเทาเดินออกมาจากลิฟต์

ในมือของหล่อนมีเอกสารปึกหนึ่ง พอหล่อนเห็นเจียงเซ่อแล้ว ก็พยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าให้ตามหล่อนมา

“ยอดสถิติของหนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ในอเมริกาเหนือออกมาแล้วนะ”

และบนใบหน้าของเซี่ยเชาฉวินก็ปรากฏรอยยิ้มที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยๆ ขึ้นมา “ดูจากวันแรกแล้ว ยอดขาบบัตรหนังก็ถือว่าไม่เลวเลย”

ช่วงก่อนที่จะเปิดกล้องหนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ก็ได้เจอกับปัญหาที่ว่าต่งหมิงเซิงได้ถอนทุนกลับไป ทำให้ตอนนั้นทั้งคนในวงการบันเทิงและคนอื่นๆ มองว่าหนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ นั้นต้องไม่รอดแน่ๆ เพียงเพราะเรื่องที่ว่าต่งหมิงเซิงถอนทุนออกไป ดังนั้นเผยอี้ถึงได้เข้ามาช่วยในส่วนของที่ต่งหมิงเซิงดึงออกไปแทน พร้อมๆ กับเนี่ยต้านและคนอื่นๆ ต่างก็ร่วมกันมาช่วยลงทุน และในขณะเดียวกัน ผลที่ออกมาก็ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

ตอนนั้นที่เผยอี้มาช่วยลงทุน เขาก็ไม่ได้คิดถึงว่าอยากจะได้เงินอะไรเลย แต่พอหนังได้เริ่มเข้าฉายแล้ว ยอดขายบัตรหนังกลับได้รับผลตอบรับที่ไม่ธรรมดา

ยอดสถิติการขายบัตรหนังภายในประเทศ ภายในสองวันก็ได้ถึงหกร้อยล้านแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะยังสู้ไม่ได้กับเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ของจางจิ้งอาน แต่หนังภายในประเทศนั้น หนังเรื่องนี้ก็ถือว่าได้เป็นที่ยอมรับว่าเป็นหนังที่โดดเด่นเรื่องหนึ่งแล้ว อย่างน้อยถ้าหากว่ายังมีแนวโน้มที่จะเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ แล้วละก็ กว่าจะถึงวันสุดท้ายของการฉายหนัง ไม่เพียงแค่เผยอี้จะไม่ขาดทุนจากการลงทุนในครั้งนี้ แต่ยังสามารถทำเงินได้มากขึ้นเป็นเท่าตัว

“The Occasion of Beiping” เริ่มเข้าฉายภายในประเทศตั้งแต่วันที่หนึ่งเดือนมกราคม แต่เริ่มเข้าฉายในอเมริกาเหนือช้ากว่าภายในประเทศหนึ่งวัน แต่ยอดสถิติของวันแรกก็ออกมาเรียบร้อยแล้ว

“ยอดขายบัตรวันแรกได้ถึงห้าล้านแปดแสนหนึ่งหมื่นเหรียญสหรัฐฯ ตามบทความนิตยสารต่างๆ และกลุ่มนักวิจารณ์ต่างก็พูดถึงหนังเรื่องนี้เอาไว้ดีมากๆ ถ้าดูจากยอดขายบัตรแล้ว มันก็พอจะเทียบเท่ากับหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ก่อนหน้านี้ของจางจิ้งอานได้เลย นี่ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีมากเลยนะ เซ่อเซ่อ”

และเพราะว่าได้ยินข่าวดีๆ แบบนี้มา ทำให้เวลาที่เซี่ยเชาฉวินเดินนั้น หล่อนก็เหมือนกับฝีเท้ากำลังลอยอยู่เลย

ถ้ามองจากมุมมองของนานาชาติแล้วละก็ หลินซีเหวินแทบจะเทียบกับจางจิ้งอานไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เพราะจางจิ้งอานเคยได้สร้างหนังที่โด่งดังมามากมาย เลยทำให้เป็นที่รู้จักในแวดวงต่างประเทศอย่างกว้างขวาง

ดังนั้นในตอนที่หนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ได้เข้าฉาย ก็มีบริษัทมากมายที่เข้ามาแย่งกันนำไปเผยแพร่ โรงหนังภาพยนตร์กว่าสามพันห้าร้อยค่ายต่างก็เอา ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ไปฉาย สุดท้ายจึงทำให้ยอดขายบัตรหนังในวันแรกพุ่งขึ้นสูงถึงหกล้านเหรียญสหรัฐฯ และได้รับเกียตริเป็นผู้ชนะยอดขายบัตรหนังภายในวันนั้นไปเลยด้วย และกลายเป็นที่โด่งดังมากภายในอเมริกาเหนือ

แต่การที่หนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ของหลินซีเหวินสามารถเข้าฉายในอเมริกาเหนือได้ ก็ถือว่าเป็นผลงานของพวกเนี่ยต้านเลย เพราะยังไงเสียผู้กำกับของหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีชื่อเสียงเทียบเท่ากับจางจิ้งอานเลย แถมทีมนักแสดงก็ยังไม่ได้ดีพร้อมอะไรขนาดนั้น

ตัวพระเอกนางเอกถึงแม้ว่าจะมีชื่อเสียงมากภายในประเทศ แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบกับหลิวเย่ใน ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ได้ ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่หลินซีเหวินใจกล้าใช้นักแสดงหน้าใหม่อย่างเจียงเซ่อมาแสดงในหนัง ‘The Occasion of Beiping’ เลย

ตอนแรกแม้แต่คนในวงการด้วยกันเองก็ยังดูแคลนต่อสถานการณ์ข้างหน้าของหนังเรื่องนี้ การฉายวันแรกในอเมริกาเหนือ ค่ายโรงหนังที่เอา ‘The Occasion of Beiping’ ไปเข้าฉายก็มีแค่สองพันสองร้อยกว่าค่ายเท่านั้น เทียบกับเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ในตอนนั้นแล้วก็เป็นแค่หนึ่งในสาม แต่สุดท้ายพอยอดสถิติของวันแรกออกมา ก็ทำให้หลายๆ คนเกิดความแปลกใจขึ้นมาไม่น้อย

ยอดขายบัตรหนังวันแรกของ ‘The Occasion of Beiping’ ทำได้ถึงห้าล้านแปดแสนหนึ่งหมื่นเหรียญสหรัฐฯ ถึงแม้ว่าจะได้ไม่เท่ากับเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ แต่คนที่มีสายตาหลักแหลมต่างก็ดูออก ว่าใครแพ้ ใครชนะ

ตามที่หนังได้รับผลตอบรับที่ดีกลับมา ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่หลังจากนี้จะมีการเพิ่มรอบหนัง ‘The Occasion of Beiping’ อีก และแน่นอนว่าจะต้องได้เข้าฉายในโรงอื่นๆ เพิ่มขึ้นด้วย ยอดขายบัตรหนังในต่างประเทศก็อาจจะสามารถแซงหน้า ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ได้ด้วยซ้ำ ถ้าหากว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ งั้นมันก็คงกลายเป็นเรื่องที่ทั้งน่าแปลกใจและน่าดีใจไปพร้อมๆ กัน และมันก็จะส่งผลดีต่อหน้าที่การงานของเจียงเซ่อในอนาคตด้วย

“กรรมการในงานหนังภาพยนตร์ที่ชื่อซีเอ่อ เธอยังจำได้ไหม?”

เซี่ยเชาฉวินนำเจียงเซ่อเข้ามาในห้องประชุมห้องหนึ่ง และปิดประตูปิดหน้าต่างอย่างมิดชิดเพื่อไม่ได้คนข้างนอกเห็นหรือได้ยิน หล่อนมองตามเจียงเซ่อที่ลากเก้าอี้ออกมาแล้วนั่งลง จากนั้นก็พยักหน้าให้หล่อน หล่อนจึงพูดต่อทันที

“ซีเอ่อเขาประทับใจในตัวเธอมาก เขาวิจารณ์เธอเอาไว้สูงมากด้วย เขาคิดว่าการแสดงของเธอใน ‘The Occasion of Beiping’ มันดูโดดเด่นกว่านักแสดงสาวคนไหนๆ ของหัวเซี่ยในช่วงนี้เลย เรียกได้ว่าเป็นตัวแทนสาวงามของทางตะวันออก”

ผู้ช่วยของหล่อนยกกาแฟเข้ามาให้ หล่อนจิบมันเล็กน้อย “ถ้าหากว่า ‘The Occasion of Beiping’ สามารถรักษาระดับการเพิ่มขึ้นได้แบบนี้ไปเรื่อยๆ ละก็ เป็นไปได้สูงที่จะสามารถกลบพวกหนังที่ออกฉายไล่เลี่ยกันได้ และกลายเป็นผู้ชนะยอดขายบัตรหนังมากที่สุดภายในหนึ่งสัปดาห์”

ถ้าเป็นแบบที่เซี่ยเชาฉวินอ้างมาจริงๆ ละก็ อย่างนั้นหนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ก็อาจจะกลายเป็นที่ฮือฮาในอเมริกาเหนือไปเลย และถึงตอนนั้นชื่อเสียงของเจียงเซ่อก็จะมีมากขึ้นด้วย

เซี่ยเชาฉวินวางแก้วลง สายตาจดจ้องไปที่แววตาของเจียงเซ่อ

“ถ้าหากว่าเป็นแบบนั้น เธอยังยืนยันที่จะเล่นเรื่อง ‘Evil’ อยู่อีกไหม?”

เธอถือว่าประสบความสำเร็จจากเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ มากพออยู่แล้ว ที่อเมริกาเหนือเองก็กำลังให้ความสนใจต่อ ‘The Occasion of Beiping’ มาก และมันก็ไม่ใช่ว่าเนื้อเรื่อง การถ่ายทำหรือนักแสดงของเรื่องนี้มันดีหรือเหนือกว่าเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ แต่อย่างใด แต่มันเป็นเพราะว่า วิธีการเสนอเนื้อเรื่องและเสื้อผ้าหน้าผมมันเป็นที่น่าสนใจ ตัวละครโต้วโค่วในเรื่องที่เจียงเซ่อแสดงนั้นก็ดูเบาบางแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ สูงส่งแต่ก็แพรวพราว ให้ความรู้สึกถึงหญิงสาวชาวหัวเซี่ยที่มากความสามารถ ราวกับเป็นตัวแทนแบบฉบับความงามของชาวตะวันออก ทำให้ชาวต่างชาติที่ได้ดูหนังฟอร์มใหญ่ต่างๆ นานจนเหมือนกับที่กินแฮมเบอร์เกอร์และมันฝรั่งทอดจนเลี่ยนแล้ว ได้ลองเปลี่ยนมากินอาหารต้นตำรับของหัวเซี่ย จนพากันติดใจในรสชาติ

หรือพูดได้ว่า ความสำเร็จของ ‘The Occasion of Beiping’ แทนที่จะพูดแค่ว่าเป็นเพราะเนื้อเรื่องและการแสดงของนักแสดง มันก็ไม่เท่ากับคำพูดที่ว่าวัฒนธรรมของชาวตะวันออกนั้นช่างมีเสน่ห์ ทำให้ชาวต่างชาติตกตะลึงได้

“เบื้องต้นตอนนี้หนังเพิ่งเข้าฉายภายในประเทศได้แค่สองวัน เมื่อตอนเช้าวันนี้ประธานลัวติดต่อมาหาฉัน”