webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

277

บทที่ 277 สภาพการณ์

ในตอนนี้เฝิงหนานมีเงินอยู่ในมือไม่มากนัก แต่การที่หล่อนทำเป็นถือไพ่เหนือกว่าโดยการบอกเลิกกับจ้าวจวินฮั่น แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่ยังเกี่ยวข้องกับเรื่องในอนาคตที่หล่อนกำลังคิดอยู่ด้วย เพราะหล่อนจดจำหนังเรื่องต่างๆ ที่ทำยอดขายได้มหาศาลเอาไว้อย่างขึ้นใจ และสิ่งพวกนั้นก็คือหนึ่งในไพ่ตายของหล่อนเอง ตั้งแต่ที่หล่อนมาเกิดใหม่ก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครทั้งนั้น จ้าวจวินฮั่นเองก็ไม่มีทางรู้เรื่องพวกนี้

หล่อนฉกฉวยโอกาสประสบการณ์ในการเกิดใหม่ของตัวเอง สำหรับตลาดหนังในโลกก่อนหน้านี้หล่อนรู้และเข้าใจมันเป็นอย่างดี หล่อนรู้ว่าผู้กำกับคนไหนที่จะทำให้ตัวหล่อนดังได้ รู้ว่าหนังเรื่องไหนจะโด่งดัง สำหรับโลกใบใหม่ใบนี้ หล่อนก็เหมือนเป็นผู้ที่รู้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า หล่อนรู้สึกได้ถึงหัวใจของตัวเองที่กำลังโลดแล่น มีเรื่องมากมายที่หล่อนจะต้องลงมือทำ

ก็แค่เงินเล็กๆ น้อยๆ ที่ลงทุนไปในตอนนั้นจะไปคิดถึงให้มากความทำไม ถ้า ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ทำเงินให้หล่อนไม่ได้ หล่อนก็ยังมีหนังเรื่องต่อไปที่จะแสดงอยู่แล้ว แถมยังเรื่องต่อไปยังเป็นตัวเอกอีกด้วย เงินที่หล่อนจะสะสมได้ในอนาคต มันอาจจะได้มากกว่าเจียงหัวกรุ๊ปเลยก็ได้ แล้วจ้าวจวินฮั่นมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้กับหล่อนกัน?

“คุณคิดว่ากับอีแค่คุณวิเคราะห์ได้ เขียนบทได้ เล่นหนังได้ คุณก็เหนือกว่าแล้วอย่างนั้นหรือ?” ปลายสายอย่างจ้าวจวินฮั่นหัวเราะเยาะ “เฝิงหนาน คุณหนูแห่งวิสาหกิจจงหนาน ทำไมถึงได้เป็นคนที่ไร้เดียงสาแบบนี้นะ? หรือนี่ผมจะประเมินคุณสูงไปหน่อย? บทหนังที่คุณเขียนมันก็ดี คุณเองก็ถือว่าแสดงเก่งด้วย แต่ได้รางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแล้วยังไง? คุณมีทุนหรือเปล่า? คุณมีเงินไหม?” คำพูดของจ้าวจวินฮั่นทำเอาเฝิงหนานสั่นไปทั้งตัว “ถ้าไม่มีผมช่วยลงทุน คุณก็คงทำได้แค่เขียนบท คงไม่มีทางได้แสดงหรอกนะครับ ลำพังคุณจะออกได้แค่กี่ร้อยล้านกัน? คุณจะชวนนักแสดงมาแสดงกับคุณได้เหรอ จะหาผู้กำกับมาถ่ายคุณได้หรือเปล่า?”

“คุณ......”

เฝิงหนานกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จ้าวจวินฮั่นก็ไม่เปิดโอกาสให้หล่อนได้พูด

“คุณคิดว่าแค่ก่อนหน้านี้ที่คุณไปเกลี้ยกล่อมคุณต่งของหัวโถวให้เขาถอนทุนออกจาก ‘The Occasion of Beiping’ ได้ เพื่อให้เขาเลือกที่จะมาลงทุนกับหนังเรื่องต่อไปของคุณแทนนั่นเป็นเรื่องที่สุดยอดแล้วหรือไง? ที่คุณต่งเขายอมมาลงทุนให้คุณ หันมาสนใจในกำลังของคุณ ทั้งหมดนั่นก็เพราะคุณแซ่เฝิง เพราะว่าคุณเป็นว่าที่ภรรยาของตระกูลจ้าวอย่างผมเท่านั้นแหละน่า!”

จ้าวจวินฮั่นกระตุกกระดุมข้อมือเสื้อออก แล้วหัวเราะด้วยน้ำเสียงเย็นๆ

“เลิกกับผม แล้วการร่วมมือกันระหว่างตระกูลจ้าวและตระกูลเฝิงไม่เกี่ยวอะไรกับคุณงั้นเหรอ? ถ้าไม่มีตระกูลจ้าวและตระกูลเฝิง คุณก็ลองคิดเอาเองสิ ว่าคุณจะกลายเป็นแค่ตัวอะไร?”

เฝิงหนานในตอนแรกที่ยังได้ใจเพียงเพราะจ้าวจวินฮั่นโทรหาตัวเองไม่หยุด ได้ใจที่จ้าวจวินฮั่นผู้สูงส่งกำลังเป็นเดือดเป็นร้อนต่อตัวหล่อนนั้น กลับต้องมารู้สึกเหมือนกำลังโดนฉีกหน้าเพียงสิ่งที่จ้าวจวินฮั่นกำลังพูดออกมา

“เงินส่วนที่ได้มาจากหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ นั่น ถ้าไม่มีชื่อของตระกูลเฝิงกับตระกูลจ้าวแล้วละก็ แม้แต่พื้นที่ข้างๆ ของจางจิ้งอานคุณก็ไม่มีสิทธิ์ด้วยซ้ำ คนที่อยากจะเอาเงินไปลงทุนให้กับ ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ มีตั้งมากมาย คิดว่าจะมาถึงมือคุณได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรอ?”

ตอนนี้เขาเริ่มจะสงสัยแล้วว่าตระกูลเฝิงโอ้อวดเฝิงหนานมากเกินไปหรือเปล่า ถ้าหากว่าหล่อนเรียนโรงเรียนที่เป็นระบบสองภาษาจริงๆ ล่ะก็ ภาษาอังกฤษก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งภาษาพื้นฐานของหล่อนเลย แต่ในงานหนังภาพยนตร์ ในตอนที่หล่อนอยู่ต่อหน้ากลุ่มกรรมการที่เป็นชาวต่างประเทศ หล่อนกลับไม่พูดอะไรสักคำ หรือแม้แต่อีกฝ่ายพูดคุยเรื่องอะไรกันหล่อนก็ฟังไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ

หลังจากที่เข้าวงการบันเทิงมา หล่อนก็เหมือนจะมีเรื่องกับเจียงเซ่อที่มีพื้นฐานฐานะธรรมดาๆ อยู่ตลอด ใจคอก็คับแคบ จะลงมือทำอะไรก็ไม่สมกับว่าเป็นบุตรสาวที่เกิดในตระกูลเฝิงอย่างไรอย่างนั้น หรือบางทีก็ทำไม่เป็นขั้นไม่เป็นตอนด้วยซ้ำ

จ้าวจวินฮั่นยังจำได้ ครั้งแรกที่ได้พบกับเฝิงหนาน ถึงแม้ว่าหล่อนจะไม่ได้พูดอะไรมากมาย แต่ในตอนนั้นบุคลิกเธอก็ดูโดดเด่นมาก มีมารยาทที่ดี การพูดการจาน่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะทำอะไรก็เหมือนกับว่าได้รับการอบรมมาอย่างดี ถึงดูไม่ค่อยมีอะไรให้น่าสนใจนัก แต่ก็ดูเหมาะที่จะมาเป็นคุณนายของตระกูลจ้าวในอนาคต

แต่ใครจะไปรู้ว่าพอได้มาเริ่มรู้จักสนิทสนมกันแล้ว หล่อนจะกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้? ราวกับหมอนที่ปักลาย ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง

หรือไม่รู้ว่าตอนนั้นเฝิงหนานก็แค่แกล้งทำออกมาได้ดี จนแม้แต่เขาก็ยังหลงกลแบบนี้!

ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าตระกูลจ้าวและตระกูลเฝิงยังต้องร่วมมือกันแล้วละก็ เขาก็คงไม่มาทนแบกรับสถานการณ์แบบนี้ และคงไม่รอให้เฝิงหนานเป็นคนเอ่ยขอเลิกแน่ๆ เพราะเขานี่แหละที่จะเป็นคนสลัดหล่อนเอง

“หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!”

เฝิงหนานกำหมัดแน่น ต้องคอยหายใจเข้าลึกๆ อยู่ตลอดเวลา คำพูดดูถูกและเหยียดหยามของจ้าวจวินฮั่นมันทำให้หล่อนลุกลี้ลุกลนไปหมด ในตอนนี้ ณ วินาทีนี้หล่อนเป็นเหมือนแมวตัวหนึ่งที่โดนเหยียบหาง จ้าวจวินฮั่นเริ่มสงสัยที่หล่อนมีนิสัยไม่เหมือนกับเฝิงหนานคนเดิม หล่อนตกใจจนต้องกอดตัวเองไว้แน่น แล้วแผดเสียงออกมาราวกับคนเป็นโรคประสาท

“หุบปาก!”

หล่อนกลัวเหลือเกินว่าความลับของหล่อนจะหลุดออกไป เพราะหล่อนรู้ว่าตัวเองไม่ใช่เฝิงหนานตัวจริง เพราะงั้นถึงแม้ว่าหล่อนจะรู้อยู่แล้วว่าจ้าวจวินฮั่นก็แค่ทักออกมาเท่านั้น แต่หล่อนก็รู้สึกพาลโกรธไปหมด โกรธยิ่งกว่าเรื่องอื่นๆ

“ผมเองก็ไม่อยากจะพูดอะไรแล้วเหมือนกัน เรื่องที่คุณไปพูดกับพวกนักข่าวผมจัดการไปแล้ว เรื่องอะไรที่ควรพูด เรื่องอะไรที่ไม่ควรพูด คุณเองก็น่าจะพอคิดได้อยู่แล้วนะ คุณโกรธผม แต่ไปลงกับตระกูลเฝิงตระกูลจ้าว มันก็ไม่มีอะไรดีต่อคุณหรอกนะจะบอกให้”

จ้าวจวินฮั่นเองก็เหนื่อยการที่จะคุยกับหล่อนมากไปกว่านี้แล้ว

“ถ้าจะอุตส่าห์ใช้วิธีไปพูดเรื่องบ้าๆ กับพวกนักข่าวแบบนี้ละก็ ผมก็ขอให้คุณคิดให้ดีๆ แล้วกัน ว่าจะตอบคำถามของพวกนักข่าวหลังจากนี้ยังไง ข่าวก็ออกมาแล้วนี่ที่คุณเผลอทำท่าทางไม่พอใจในงานหนังภาพยนตร์ ก็คิดหาวิธีแก้ไขเอาเองก็แล้วกัน จบมาจากมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งไม่ใช่หรือ น่าขายหน้าชะมัด!”

เขาพูดถึงตรงนี้ ไม่รอให้เฝิงหนานได้พูดโต้ตอบอะไรกลับ เขาก็วางสายไปในทันที

เสียงตัดสายดังออกมาจากอีกฝั่ง เฝิงหนานกัดฟันแน่น แล้วเขวี้ยงมือถือลงมืออย่างแรง ‘ปึก’ เสียงกระทบดังลั่น หน้าจอมือถือแตกร้าว หล่อนก็ยังไม่สาแก่ใจ เข้าไปใช้เท้าเหยียบกระทืบมันอีกด้วยความโมโห หล่อนแผดเสียงกรีดร้องออกมาอีกหลายครั้งเพื่อระบายความโกรธที่อยู่ในใจของตัวเอง

ทำแบบนั้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกุมศีรษะตัวเองแน่น จนเริ่มสงบลงในระดับหนึ่ง แล้วนึกถึงสิ่งที่จ้าวจวินฮั่นพูดขึ้นมาก่อนหน้านี้ หล่อนเปิดข่าวดูอีกครั้ง และมันก็ทำให้หล่อนต้องกัดฟันแน่นอีกครั้งเช่นกัน

ก่อนหน้านี้หล่อนยังโมโหที่บนข่าวไม่มีพื้นที่ของตัวหล่อนเลยสักนิด เพราะมันกลบโดยข่าวของ ‘ The Occasion of Beiping’ ที่เกี่ยวกับเจียงเซ่อไปหมดแล้ว แต่นี่ผ่านไปได้แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง หัวข้อพาดข่าวของเว็บค้นหาข้อมูลของหัวเซี่ยก็เปลี่ยนไปเสียแล้ว คุณหนูเอกุชิพูดภาษาหัวเซี่ยตอบสื่อนอกกลางงานหนังภาพยนตร์ หรือว่าจะไม่ค่อยถนัดภาษาอังกฤษกันนะ?

ในตอนที่เฝิงหนานได้เห็นข่าวนั่น หล่อนก็รู้สึกเหมือนกล้ามเนื้อมันหดตัวไปหมด

เรื่องวุ่นวายที่จ้าวจวินฮั่นหมายถึงคงจะเป็นเรื่องนี้แน่ บนข่าวยังมีรูปประกอบรูปหนึ่ง มันเป็นรูปที่เจียงเซ่อกำลังยืนพูดคุยอยู่กับเชี่ยซ่าเหลย หล่อนเองก็อยู่ในภาพด้วย ไม่รู้ว่าตอนนั้นโดนใครถ่ายเอาไว้

คนที่มาแอบถ่ายรูปหล่อนรูปนี้จะต้องไม่ใช่ผู้หวังดีแน่ๆ หล่อนขมวดคิ้ว มุมปากยกยิ้มเกร็งๆ ขึ้นมาเล็กน้อย ความอารมณ์เสียและความอิจฉามันปรากฏอยู่บนใบหน้าอย่างชัดเจน ในทางกลับกัน เจียงเซ่อกลับโดนถ่ายออกมาได้สวยสง่า เธอสวมชุดราตรีที่สั่งทำขึ้นมา เมื่อเทียบกับเฝิงหนานแล้ว ทั้งบุคลิก และลักษณะท่าทางแล้วก็ดูดีกว่ามาก ดูก็รู้ว่าคนที่ถ่ายภาพนี้จะต้องรู้สึกชื่นชอบเธอมากกว่าแน่ๆ เธอที่กำลังวาดรอยยิ้มเล็กๆ นั่นมันเป็นมุมที่ใครเห็นต่างก็ต้องหลงใหล

ส่วนบทความของเนื้อข่าวก็เป็นคำพูดต่างๆ ที่อัดไว้มาจากเมื่อคืน รวมไปถึงตอนที่เจียงเซ่อให้สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษกับสื่อนอกอย่างลื่นไหล ทำเอาเหล่ากรรมการหลายๆ คนรู้สึกประทับใจ แต่หล่อนกลับทำตัวโง่ เสียมารยาทโดยการใช้ภาษาหัวเซี่ยถามเจียงเซ่อออกไป ในข่าวยังมีการใช้ประโยคสั้นๆ มานิยามภาพอีกด้วยว่า ‘เฝิงหนานเอ่ยถามอย่างเจ้าเล่ห์ แต่เจียงเซ่อตอบกลับไปอย่างง่ายดาย’

และคำตอบที่เจียงเซ่อตอบกลับเฝิงหนานในตอนนั้น ก็ยังดึงดูดเชี่ยซ่าเหลยได้อีกด้วย ทำให้ผู้กำกับชื่อดังสัญชาติอิตาลีคนนี้เข้าร่วมสนทนาด้วยทันที

พอเฝิงหนานเห็นข่าวนี้แล้ว ก็ทำได้แค่รู้สึกกระวนกระวาย ไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรดี

หล่อนคิดไม่ถึง ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานหนังภาพยนตร์เมื่อคืน จะโดนคนถ่ายเอาไว้ได้แบบนี้ แถมตอนนี้ก็ยังโดนเอาไว้เล่นข่าวแบบนี้อีก

เว็บข่าวอื่นๆ ก็เริ่มเอาข่าวนี้ขึ้นแทนแล้วเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเว็บวิเคราะห์ข่าว ทวิตเตอร์หรือเวยป๋อ ต่างก็กำลังพูดถึงเฝิงหนานกันเต็มไปหมด และมีหลายๆ คนกำลังต่อว่าว่าหล่อนทำขายหน้า