webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

260

บทที่ 260 เข้าชิง

เฝิงหนานพอจะเดาหัวข่าวในเช้าวันพรุ่งนี้ได้เลย กับดาราสาวเจียงเซ่อที่ถูกขานชื่อเข้าชิงถึงสามครั้งทั้งๆ ที่ก็เข้าวงการพร้อมๆ กันกับหล่อน แต่กลับต้องเสียรางวัลให้กับอีกคนไป

ตอนนี้ในใจของหล่อนมันผิดหวังจนพูดไม่ออก พิธีกรยังไม่ได้เปิดซองจดหมายในมือออก หล่อนก้มหน้าลง ไม่อยากจะเห็นภาพหนัง ‘เกี่ยวกับที่ฉันรักเธอ’ ที่อยู่บนหน้าจอนั่น

ที่จริงหนังเรื่องนี้ควรเป็นหล่อนที่ได้เล่นมัน ถ้าเป็นหล่อนละก็ มันจะต้องออกมาดีกว่าเจียงเซ่อแน่ๆ!

แต่เป็นเพราะว่าซื่อจี้หยินเหอถึงกับเป็นคนลงมือเอง ทำให้เฝิงหนานต้องพลาดจากมันไปต่อหน้าต่อตา และตกไปเป็นของเจียงเซ่อแทน

อีกนัยหนึ่ง การที่เจียงเซ่อได้รับเกียรติขานชื่อถึงสามครั้งแบบนี้ ที่จริงมันก็ควรที่จะเป็นของหล่อน แต่มันกลับโดนเจียงเซ่อแย่งไป

พิธีกรที่อยู่บนเวทีขานชื่อผู้ที่ได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมครบแล้ว และผู้มอบรางวัลก็กำลังเปิดซองจดหมายออกมา แต่เฝิงหนานกลับไม่สามารถรักษารอยยิ้มบนใบหน้าได้อีกต่อไป ทั้งๆ ที่ตอนนี้ทุกคนในงานกำลังจดจ้องสายตามาที่ตัวหล่อนและเจียงเซ่อ เฝิงหนานกลับคิดว่าสายตาที่กำลังมองมาที่หล่อนนั้น มันเหมือนว่ากำลังเยาะเย้ยตัวหล่อนอยู่อย่างไรอย่างนั้น

“ผู้ที่ได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมก็คือ” พิธีกรก้มหน้าดูซองจดหมายเล็กน้อย และดึงการ์ดที่อยู่ข้างในออกมา

“คุณเฝิงหนาน จากเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ครับ”

เสียงปรบมือจากทั้งงานดังขึ้นมา ผู้ดำเนินรายการส่งสัญญาณว่าให้แพนกล้องไปยังจุดที่ทีมงานหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ นั่งอยู่ ใบหน้าจอใหญ่นั่น กลับเป็นภาพใบหน้าของเฝิงหนานที่ดูผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก

หล่อนยังไม่ทันจะได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ ไอ้รอยยิ้มยินดีที่ดูแข็งทื่อได้ถูกคนในงานและชาวเน็ตต่างๆ ที่กำลังดูอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เห็นหมดแล้ว

และเมื่อเทียบกับลักษณะท่าทางของเจียงเซ่อที่ขึ้นไปรับรางวัลด้วยความมั่นใจก่อนหน้านี้แล้ว กับท่าทางของเฝิงหนานในตอนนี้ดูไม่ดีเอาเสียเลย

และเมื่อจ้าวจวินฮั่นที่นั่งมองอยู่อีกด้านเห็นท่าทางของหล่อนแบบนั้นแล้ว เขาก็กำหมัดแน่น ในใจคอยก่นด่าหล่อนไม่หยุด!

เขาชักจะสงสัยว่าเฝิงหนานเป็นบ้าไปแล้วหรือเปล่า กับในงานที่ใหญ่ขนาดนี้ แต่หล่อนกลับทำให้ทุกคนรู้สึกว่าหล่อนแพ้แล้วอย่างไรอย่างนั้น ถึงแม้ว่าในใจของหล่อนจะคิดแบบนั้นจริงๆ แต่หล่อนก็ไม่ควรที่จะแสดงออกมาทางสีหน้าแบบนี้สิ!

สิ้นเสียงปรบมือ เฝิงหนานเงยหน้าขึ้น ก็พบว่าเป็นรูปใบหน้าของตัวเองที่อยู่บนหน้าจอใหญ่นั่น เหมือนว่าเพิ่งจะได้สติกลับมา ใบหน้าของหล่อนเริ่มมีรอยยิ้ม และลุกขึ้นขอบคุณไปรอบๆ ด้าน ถึงจะรีบเดินขึ้นบนเวทีไป

ถ้าไม่มีเจียงเซ่อที่เป็นนักแสดงหน้าใหม่เหมือนกันและทำกิริยาท่าทางได้ดีกว่าในก่อนหน้านี้ ท่าทางของเฝิงหนานที่ดูผิดหวังก่อนหน้านี้ก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย

แต่มันเป็นเพราะว่าทั้งสองคนเข้าวงการในระยะไล่เลี่ยกัน และบนอินเทอร์เน็ตก็มีการเอาพวกเธอทั้งสองคนมาเปรียบเทียบกันอยู่หลายครั้งหลายครา ในงานหนังภาพยนตร์ครั้งนี้ ทั้งสองคนก็เหมือนได้แบ่งรางวัลกันอีก ดังนั้นการแสดงออกกิริยาท่าทางก็คงจะต้องโดนเปรียบเทียบกันอย่างแน่นอน

ตอนนี้ในใจของเฝิงหนานกำลังรู้สึกแย่กับท่าทางเมื่อครู่ของตัวเองมาก และการกล่าวสุนทรพจน์ในถัดมา หล่อนจะพยายามอย่างมากที่จะชดเชยความประทับใจให้กับท่าทางไม่ดีของเธอเมื่อครู่นี้ และเพราะว่ามีการเตรียมพร้อมคำพูดมาก่อนหน้านี้แล้ว จนกล่าวคำสุดท้ายเสร็จ ก็ยังพอทำให้ทุกคนเริ่มรู้สึกดีกับหล่อนมากขึ้น

หลังจากมอบรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมเรียบร้อยแล้ว งาหนังภาพยนตร์ก็ได้แจกรางวัลไปอีกเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงรางวัลสูงสุดของงาน

และแล้วเถาเฉินที่อยู่ในชุดราตรีสีทองสง่าก็ดินขึ้นเวทีมาพร้อมกับซองจดหมายในมือ ตอนที่หล่อนเดินขึ้นไป ไม่ใช่แค่คนที่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์เท่านั้น เพราะแม้แต่คนที่นั่งอยู่ในงานเองก็พากันปรบมือเกรียวกราว

เถาเฉินเป็นดาราสาวในความดูแลของเซี่ยเชาฉวิน ฐานะจุดยืนถือว่าสูงทีเดียว

ถึงแม้ว่าเจียงเซ่อและหล่อนจะเซ็นสัญญาต่อผู้จัดการส่วนตัวคนเดียวกัน แต่นี่ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เจียงเซ่อได้เห็นเถาเฉินตัวจริงเสียงจริง

ชุดราตรีสีทองมันช่วยขับสีผิวที่ขาวราวกับหิมะของหล่อนได้ดี เมื่อเทียบกับดารารุ่นน้องแล้ว เถาเฉินเองก็ถือว่าอายุไม่น้อยแล้ว ตอนนี้หล่อนก็อายุราวๆ สามสิบต้นๆ แต่เพราะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ผมยาวสวยถูกม้วนขึ้นมา ดูสุภาพและน่าเคารพมากๆ

ทันทีที่หล่อนปรากฏตัว หล่อนก็กลายเป็นจุดรวมสายตาจากทุกๆ คน บุคลิกและรูปลักษณ์ภายนอกของหล่อน สมแล้วที่เป็นถึงดาราแถวหน้าและโด่งดังที่สุดของซื่อจี้หยินเหอ แน่นอนว่าหน้าตาของเถาเฉินไม่ธรรมดาเลย แต่นอกจากความสวยที่ไม่ธรรมดาของหล่อนแล้ว มันก็ดูน่าดึงดูดมากๆ ด้วย และเป็นเพราะว่าหล่อนนั้นทำให้ทุกคนรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของตัวหล่อนได้ ราวกับว่าพอหล่อนออกมา แม้แต่พิธีกรที่อยู่บนเวทีเองก็ดับแสงไปในทันที

“ฉันไม่ได้กลับประเทศมานานแล้วค่ะ” เพียงแค่เถาเฉินพูดออกมา เหล่าสื่อนักข่าวต่างๆ ที่อยู่ไกลๆ ก็เริ่มตื่นตัวกระตือรือร้นขึ้นมาอีกครั้ง และแฟลตและเสียงกดชัตเตอร์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือแม้แต่กล้องต่างๆภายในงานก็รีบพากันจับภาพไปที่ตัวหล่อน

“รู้สึกดีใจมากที่ทางงานหนังภาพยนตร์เชิญมาในครั้งนี้ ได้เจอกับผลงานดีๆ มากมายที่เกิดขึ้นมา พร้อมๆ กับเหล่านักแสดงที่เติบโตก้าวหน้าขึ้น”

เพียงแค่หล่อนกล่าว มันก็สามารถเรียกความสนใจจากสายตาทุกคนภายในงานได้แล้ว

สำหรับหลายๆ คนในหัวเซี่ยแล้ว เถาเฉินถือเป็นความภาคภูมิใจของพวกเขา หนังภาพยนตร์ที่มีหล่อนเป็นนักแสงดนำ ทุกเรื่องล้วนแล้วมียอดขายบัตรที่ดี นอกจากชื่อเสียงภายในประเทศที่ขึ้นแบบไม่มีวันตกแล้ว หล่อนเองก็ถือว่าเป็นคนแรกของดาราสาวในประเทศ ที่โกอินเตอร์ออกไปยังตลาดวงการบันเทิงนานาชาติ และได้เข้าร่วมแสดงหนังภาพยนตร์ของต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกๆ คนได้เห็นถึงความก้าวหน้าของหล่อนอยู่ตลอดเวลา

เวลาที่เธอพูด คนทั้งงานต่างก็ได้ยินเสียงถ่ายรูปดังขึ้นมาอยู่ตลอดเช่นกัน ใบหน้าของใครหลายๆ คนต่างแสดงออกถึงความใฝ่หาและเคารพเลื่อมใสในตัวหล่อนมากๆ

เจียงเซ่อเองก็สังเกตเห็น ว่าแม้แต่คนที่ได้ยินว่าเธอได้รับรางวัลไปเมื่อก่อนหน้านี้ อย่างฟ่านจืออวิ๋นที่แสดงออกว่ากำลังอิจฉาเธอก็ยังดวงตาเป็นประกายเมื่อได้มองเถาเฉิน

เหล่านักข่าวที่ยืนอยู่ไกลๆ นั่นต่างก็พากันหยิบปากกาอัดเสียงขึ้นมาเพื่อบันทึกสิ่งที่เถาเฉินพูดเอาไว้ นี่ถือว่าเป็นความแตกต่างระหว่างตัวเธอกับนางเอกแนวหน้าของซื่อจี้หยินเหอใช่หรือเปล่า?

สีหน้าของเจียงเซ่อเผยความรู้สึกว่าน่าสนใจออกมา เธอไม่ได้รู้สึกว่าพลังที่ออกมาจากเถาเฉินนั้นอยู่เหนือเธอเลยสักนิด กลับกันมันทำให้เธอรู้สึกพุ่งพล่านมีชีวิตชีวาด้วยซ้ำ

เถาเฉินที่อยู่บนเวทีกล่าวเกริ่นนำเรียบร้อยแล้ว จากนั้นหล่อนก็เริ่มเข้าสู่การประกาศผลรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมอย่างเป็นทางการ

“ในครั้งนี้ ผู้ที่ได้เข้าชิงรางวัลสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมได้แก่......”

เถาเฉินพูดถึงตรงนี้ก็เงยหน้าขึ้น สายตากวาดมองไปรอบๆ งาน และหน้าจอที่อยู่บนเวทีก็เปลี่ยนไปตามคำที่หล่อนพูด ปรากฏเป็นภาพเปลวเพลิงที่กำลังโชติช่วง พร้อมๆ กับเสียงของชายหนุ่มที่ดูต่ำและทรงพลังเป็นอย่างมากมารับช่วงต่อจากหล่อน

“ในครั้งนี้ ผู้ที่ได้เช้าชิงรางวัลสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมได้แก่ ‘Weekend Love’ ลู่มี่ ‘The Occasion of Beiping’ ฟ่านจืออวิ๋น......”

ฟ่านจืออวิ๋นที่ได้รับการเรียกชื่อก็ยกมือขึ้นปิดปาก ใบหน้าเผยความยินดีและตื่นเต้น

เจียงเซ่อหันไปแสดงความยินดีกับหล่อน กับรางวัลที่แสนสำคัญแบบนี้ การที่ฟ่านจืออวิ๋นได้รับการขานชื่อ ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วจะไม่ได้รับเกียรติในตอนสุดท้าย แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย

ฟ่านจืออวิ๋นยิ้มหวานขอบคุณ แต่สียงของชายบนหน้าจอก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“‘เกี่ยวกับที่ฉันรักเธอ’ เจียงเซ่อ......”

‘หือ’ ในตอนที่ชื่อของเจียงเซ่อถูกเรียกออกมา ภายในงานก็เริ่มมีเสียงอุทานแปลกใจจนไปถึงรู้สึกอึ้งไม่หยุด ในนาทีนี้หลายๆ คนเริ่มจะลืมไปแล้วว่ายังประกาศรายชื่อผู้ที่เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมไม่จบ เพราะตอนนี้ในหัวของทุกคนมีแต่ความคิดที่ว่า เจียงเซ่อได้เข้าชิงรางวัลอีกแล้ว

เฝิงหนานที่อยู่ไกลๆ นั่นกำลังกำถ้วยรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมเอาไว้แน่น และแรงที่เธอกำมันก็แรงราวกับจะทำให้รางวัลชุบสีทองนั่นหักเป็นสองท่อนก็ไม่ปาน!

เจียงเซ่อได้ถูกเรียกชื่อในรายการเขาชิงรางวัลอีกแล้ว ถึงแม้ว่ารางวัลนี้จะไม่ได้เป็นของเธอแน่นอน แต่ในงานหนังภาพยนตร์ครั้งนี้ เธอที่เป็นแค่นักแสดงหน้าใหม่และได้ใช้โอกาสจากหนังได้แค่สองเรื่อง แต่กลับได้ถูกเรียกชื่อไปถึงสี่ครั้งในช่วงเวลาสำคัญ แถมหนึ่งในนั้นก็ยังเป็นตอนที่ประกาศรายชื่อผู่ที่เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมอีก

โอกาสพิเศษแบบนี้ ในงานหนังภาพยนตร์นานชาติหัวเซี่ย น้อยครั้งมากที่จะเกิดขึ้น!

ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วเธอจะไม่ได้รับรางวัลนี้ไป แต่ก็เห็นๆ อยู่ว่าถูกเรียกชื่อไปตั้งสี่ครั้ง มันก็มากพอที่จะทำให้เธอกลายเป็นจุดเด่นและดูเปล่งประกายในงานหนังภาพยนตร์ครั้งนี้แล้ว

ตอนแรกเฝิงหนานคิดว่าจะถือโอกาสให้งานหนังภาพยนตร์ในครั้งนี้ทำให้ทุกคนตะลึงกับหล่อนมากขึ้น และเขี่ยพวกดาราหน้าใหม่ที่เข้าวงการพร้อมกันกับหล่อนออกไปซะ แต่หล่อนกลับกลายเป็นดาวสว่างตาดวงใหม่ที่คว้าน้ำเหลว รางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมที่อยู่ในมือ กับการที่ได้ยินว่าเจียงเซ่อถูกเรียกชื่อในรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม มันทำให้หล่อนรู้สึกว่านี่มันน่าตลกสิ้นดี