webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

253

บทที่ 253 โดดเด่น

แต่คำพูดที่ยวี๋เว่ยพูดออกมาก็กำลังหมายถึงการเงินของเจียงเซ่อกำลังตรึงเครียดอยู่ด้วย เจียงเซ่อเองก็พอจะเข้าใจ

ตั้งแต่ที่ได้ถ่ายโฆษณาให้กับแบรนด์กางเกงยีนส์ของ Adeele ไป เจียงเซ่อก็ไม่ได้รับงานเพิ่มอีกเลย แต่กลับต้องใช้เงินเหมือนกับใช้น้ำ ไม่เคยมีใครมาพูดเตือนเรื่องเงินที่เหลืออยู่ของเธอ และเธอเองก็ไม่ทันจะได้สังเกต พอตอนนี้ได้มานั่งฟังยวี๋เว่ยไล่เรียงมาแต่ละอย่างแล้ว เจียงเซ่อก็รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังได้เจอกับสถานการณ์ฉุกเฉิน

โชคดีที่เซี่ยเชาฉวินมาช่วยกอบกู้เธอได้ทันเวลา โดยการส่งสคริปคำพูดที่เธอจะต้องพูดในงานหนังภาพยนตร์มาให้ ถึงจะสามารถหยุดการพูดของยวี๋เว่ยได้ และมันก็ทำให้เจียงเซ่อโล่งขึ้นเยอะ

หญิงสาวที่แสนเฉลียวฉลาดคนนี้ได้แสดงความสามารถออกมาให้ได้เห็นแล้ว ทั้งสองฝ่ายต่างก็ยินดีที่จะตกลงทำงานร่วมกัน หลังจากที่นัดเวลามาเซ็นสัญญากันเรียบร้อยแล้ว ยวี๋เว่ยก็ไม่ได้พูดอะไรให้กลายเป็นการรบกวนเจียงเซ่ออีก เธออ่านสคริปที่ได้มาอยู่หลายรอบ ประมาณห้าโมงได้ รถที่เธอนั่งก็มาจอดอยู่หน้างานหนังภาพยนตร์แล้ว

ที่นอกศูนย์ประชุมนานาชาติอ้าวหลิน ข้างนอกนี่มีแฟนคลับที่มารอดูรอฟังพร้อมกับมือถือที่ถูกยกขึ้นเตรียมถ่ายรูปเต็มไปหมด อีกทั้งยังมีตำรวจกลุ่มใหญ่ที่อยู่ในเครื่องแบบบอดี้การ์ดกำลังยืนดูแลความปลอดภัยอยู่ด้วย ข้างนอกงานนี้คนเยอะจนมืดฟ้ามัวดินไปหมด ทั้งๆ ที่อากาศในช่วงเข้าเดือนมกราคมก็หนาวเย็นขนาดนี้ แต่ข้างนอกกลับดูร้อนระอุไปหมด ตอนนี้เหล่าแฟนคลับพากันชูมือถือชูป้ายไฟกันเต็มไปหมด อีกทั้งยังมีการตะโกนเรียกชื่อเหล่าศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบอีกด้วย

พรมแดงผืนหนึ่งที่ทอดยาวจากทางเข้าจนไปถึงภายในห้องจัดงาน นักข่าวจากสำนักต่างๆ ที่ยืนอยู่หลังเส้นเขตความปลอดภัยพากันชูกล้องถ่ายรูปและกดชัตเตอร์ไม่หยุด

นอกจากตอนช่วงหนึ่งทุ่มที่เป็นเวลาเริ่มงานแล้ว การเดินพรมแดนด้านนอกก็สำคัญไม่แพ้กัน ตอนที่เจียงเซ่อก้าวลงมาจากรถ เธอก็ถอดเสื้อคลุมออกแล้วส่งให้เซี่ยเชาฉวิน ตอนนี้บนพรมแดงมีเหล่าดารามากมายที่กำลังยืนโพสท่าถ่ายรูปอยู่ ตอนที่เจียงเซ่อเดินเข้าไป ก็เห็นแล้วว่าไกลๆ นั่นมีเฝิงหนานยืนอยู่

หล่อนสวมชุดเกาะอกกระโปรงยาวสีดำ ตรงเอวคอดนั่นมีเข็มขัดสีทองรัดเอาไว้ ทำให้ข้างบนดูเหมือนเป็นเปลือกหอยที่ห่อหุ้มทรวงอกเอาไว้ ส่วนกระโปรงด้านล่างก็ติดกัน โชว์ผิวขาวผ่องราวกับหิมะ กับผมที่ถูกดัดลอนเป็นเกลียวสวย ดูแล้วเซ็กซี่ขึ้นไม่น้อย

ไม่ว่าจะเป็นสื่อจีนของสื่อของต่างประเทศ ก็ล้วนแล้วพากันถ่ายหล่อน หล่อนได้ใช้โอกาสที่หล่อนได้เล่นเป็นคุณหนูเอกุชิในเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ มาทำให้ตัวเองเริ่มมีชื่อเสียงในต่างประเทศได้สำเร็จ

บนพรมแดงเองก็ยังมีดาราคนอื่นๆ ยืนอยู่ด้วย แต่ดาราเหล่านั้นกลับไม่น่าสนใจเท่ากับหล่อนเลย นักข่าวชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งเอาแต่ถ่ายเธอไม่หยุด หล่อนเปลี่ยนท่าไปเป็นท่าเท้าเอว พอตอนที่เจียงเซ่อเดินเข้ามาบนพรมแดงบ้าง หล่อนก็ทำทีเมินเฉย และหันหน้าไปอีกทางทันที

เพื่อป้องกันไม่ให้การเดินพรมแดนช่วงหน้าประตูมันดูเงียบเหงาเกินไป ทันทีที่เจียงเซ่อก้าวเท้าขึ้นไปบนพรมแดง หล่อนก็เข้าไปทักทายกับเหล่าสื่อภายในประเทศทันที พอเธอเริ่มก้าวเข้าไป ก็เริ่มมีหลายคนที่สังเกตเห็นเธอแล้ว และกล้องเหล่านั้นก็หันมาที่เธอทันที

ถ้าเทียบกับภาพลักษณ์เฝิงหนานที่ให้ความเซ็กซี่และมีเสน่ห์แพรวพราวแล้ว เจียงเซ่อก็คงให้ความรู้สึกสบายอกสบายใจและทันสมัย เธอเดินไปอย่างไม่ช้าไม่เร็ว ปล่อยให้มีช่วงเวลาให้คนได้ถ่ายรูป รูปภาพเหล่านี้จะถูกนำไปลงในข่าวในวันพรุ่งนี้ เพราะฉะนั้นจะโพสท่าลวกๆ ไม่ได้เด็ดขาด

เธอหันไปวาดรอยยิ้มให้กับกล้องที่เรียกเธอ แววตาใสแจ๋วมองไปรอบๆ ทำให้ทีมงานของเหล่าสื่อต่างๆรู้สึกเหมือนว่ากำลังโดนเธอมองอยู่อย่างไรอย่างนั้น

ตอนนี้ความสูงของเจียงเซ่อก็เริ่มเผยความได้เปรียบออกมาแล้ว ทันทีที่เธออยู่บนพรมแดง เธอก็เปรียบเสมือนดั่งหงส์ในฝูงกา เอวคอดเล็กและเรียวขายาวที่ยืนสง่า ทำให้เหล่าดาราตัวเล็กคนอื่นๆ ดับแสงไปเลย

ที่สำคัญที่สุดก็คือ ถึงแม้ว่าเธอจะสูง แต่มันก็เป็นสัดส่วนที่ดี สวรรค์ได้ประทานใบหน้าที่งดงามและบุคลิกที่มีเอกลักษณ์ให้กับเธอ เพียงแค่แปบเดียวก็มีคนหันมาสนใจเธอแล้ว เช่นเดียวกับเหล่าสื่อต่างประเทศที่ถ่ายเฝิงหนานอยู่ในตอนแรกก็พากันหันมา พวกเขาหันไปคุยกันเล็กน้อย ด้วยแววตาเป็นที่เป็นประกาย กล้องหลายตัวที่หันไปทางเฝิงหนานในตอนแรก ต่างก็พากันหันมาทางเจียงเซ่ออย่างไม่ได้นัดหมาย

ในพรมแดง เฝิงหนานยังคงรักษารอยยิ้มเอาไว้ได้ดี แต่รอยยิ้มที่มีอยู่มันเริ่มที่จะฝืดเสียแล้ว

หล่อนพยายามระงับความโกรธความหงุดหงิดในใจ และพยายามที่จะไม่หันไปทางที่เจียงเซ่อยืนอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นสังเกตเห็นแววตาที่กำลังหงุดหงิดของตัวเอง ถึงตอนนั้นพวกนักข่าวจะต้องไปเขียนข่าวชุ่ยๆ แน่ๆ แต่ตอนนี้หล่อนเองก็กำลังโมโหพวกสื่อต่างประเทศที่กำลังพากันไปถ่ายเจียงเซ่อมาก

จากตอนแรกที่มีคนถ่ายแค่ไม่กี่คน แต่สักพักก็พากันไปสนใจตรงนั้นกันหมด

เฝิงหนานยังคงโพสท่าอยู่บนพรมแดงไม่หยุด แต่กล้องที่ยังถ่ายหล่อนอยู่ก็มีแค่ไม่กี่ตัวแล้ว และกลายเป็นว่าส่วนใหญ่พากันหันไปกดชัตเตอร์ถ่ายเจียงเซ่อกันหมด

กับในสถานการณ์แบบนี้ทำให้เซี่ยเชาฉวินรู้สึกแปลกใจไม่น้อย เหล่าสื่อนักข่าวของต่างประเทศยังพากันตะโกนเรียกเจียงเซ่อด้วยภาษาอังกฤษ เพราะหวังว่าเธอจะหันไปหาบ้าง เจียงเซ่อหันหน้าไป และเสียง ‘แชะ’ของชัตเตอร์ก็ดังขึ้นไม่หยุด เฝิงหนานยืนอยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครถ่ายมาที่ตัวเองอีก หล่อนก็ระงับความหงุดหงิด วาดรอยยิ้มแล้วเดินเข้าไปในงานทันที

จ้าวจวินฮั่นเองก็เข้าไปรอหล่อนข้างในแล้ว พอเห็นว่าเธอเดินเข้ามา ท่าทางเหมือนกำลังไม่พอใจอะไรสักอย่าง เพราะเห็นคิ้วของหล่อนที่ขมวดเข้าหากัน

“ในงานแบบนี้ เธอเองก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่ อย่าให้โดนถ่ายได้ล่ะ”

เขาถือผ้าคลุมไหล่ขนแกะแคสเมียร์สีเทาเอาไว้ แล้วมองดูการแต่งตัวของเฝิงหนานในวันนี้ แววตาเผยความไม่พอใจออกมา แต่ก็พยายามเก็บมันเอาไว้ คลี่ผ้าคลุมออกแล้วคลุมให้หล่อน

“ข้างนอกนั่นเกิดอะไรขึ้น”

เฝิงหนานแทบไม่รู้สึกหนาวเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้ในใจเธอมันรู้สึกโมโหเดือดดาลจนพูดอะไรไม่ออก

การที่สื่อนอกจะเกิดชื่นชอบดาราสาวของฝั่งเอเชียไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในสองปีมานี้คนที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศจริงๆ ก็มีแค่เถาเฉินคนเดียว

ถ้าหากว่าวันนี้ตัวหล่อนได้เจอกับเถาเฉินแล้วโดนแย่งซีนไปละก็ว่าไปอย่าง แต่เจียงเซ่อคืออะไร?

บนพรมแดงนั่น ที่วันนี้ตัวหล่อนได้รับความสนในจากตากล้องต่างประเทศ มันก็เป็นเพราะได้รับอิทธิพลมาจางจางจิ้งอานที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศอยู่แล้ว และตัวหล่อนก็ได้เล่นบท ‘คุณหนูเอกุชิ’ ในหนังของเขา แล้วเจียงเซ่อล่ะมีอะไร?

บนใบหน้าของหล่อนมีรอยยิ้ม แต่น้ำเสียงที่พูดออกมาฟังดูก็รู้ว่ากำลังระงับความโกรธอยู่

จ้าวจวินฮั่นฟังสิ่งที่เธอพูด เขาเลียริมฝีปากแล้วมองออกไปข้างนอกนั่น ตอนนี้เหมือนว่าเจียงเซ่อกำลังโดนสื่อเหล่าต่างประเทศนั่นเรียกรั้งตัวเธอจนต้องติดอยู่ข้างนอก แสงแฟลตสว่างวูบวาบบนตัวเธอไม่หยุด ทำให้ผิวขาวๆ ของเธอมันสว่างขึ้นเป็นเท่าตัว เป็นผู้หญิงสวยอย่างหาตัวจับยาก และดึงดูดสายตามากจริงๆ

ถึงการแต่งตัวของเธอในวันนี้จะไม่ได้น่าดึงดูดเหมือนของเฝิงหนาน แต่กลับดูมีระดับกว่าเฝิงหนานอยู่มากโข

ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายของเธอ หรือจะเป็นบุคลิกที่โดดเด่นกว่าใครๆ นั่น ทุกท่าทางการกระทำ มันเหมือนว่ากำลังได้มองวิวที่สวยงาม

ชุดราตรีชุดนั่นมันเหมาะสมกับเธอมาก มันไม่ทำให้เธอกลายเป็นคนที่ดูเยอะเกินไป แต่ก็ไม่ปกปิดจนเกินไปจนกลายเป็นพวกล้าสมัย เมื่อเทียบกันแล้ว ชุดเสื้อผ้าของเฝิงหนานมันก็ดึงดูดสายตาดี แต่ดูมันจะติดเซ็กซี่แพรวพราวไปเสียหน่อย

บวกกับที่เจียงเซ่อเองก็มีรูปร่างสัดส่วนที่ไม่แพ้ผู้หญิงยุโรปอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีความอรชรร่างบางอย่างคนหัวเซี่ยอีกด้วย เธอเป็นเหมือนผลงานชิ้นเอกของพระเจ้าเลยจริงๆ บวกกับการแต่งหน้าที่ช่วยชูบุคลิกส่วนตัวของเธอออกมาได้อย่างดี

จ้าวจวินฮั่นมองดูครู่หนึ่ง ในใจของเขาเริ่มคิด ถ้าตัวเองเป็นนักข่าว แล้วได้เห็นผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ละก็ เป็นเขาก็คงถ่ายเหมือนกัน

แต่เป็นเพราะเฝิงหนาน เขาจึงไม่ได้พูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา เพียงยิ้มมุมปากเท่านั้น

“ก่อนหน้านี้เธอเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ของ Gang Hua Jewelry นี่ ภาพโปสเตอร์ที่ออกมาก็เป็นที่ฮือฮาอยู่พอสมควร!”

เฝิงหนานเองก็ไม่ได้ทำอะไรที่เกี่ยวกับต่างประเทศนัก ตั้งแต่ที่มาเกิดใหม่ แน่นอนว่าหล่อนก็เคยคิดว่าอยากจะเป็นเหมือนเถาเฉิน ที่เป็นถึงดาราสาวแนวหน้าของซื่อจี้หยินเหอ และโกอินเตอร์แบบนั้นบ้าง ดังนั้นสิ่งที่เธอทำเป็นอย่างแรก คือการชิงลงทุนหนัง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ของจางจิ้งอานก่อน และยินยอมที่จะเล่นบทหญิงสาวชาวญี่ปุ่นที่ต้องโดนทำร้ายให้อับอาย จนทำให้เฝิงจงเหลียงโมโหขนาดนั้น แต่นั่นก็เพื่อที่ดึงดูดความสนใจจากสื่อต่างประเทศ