webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

252

บทที่ 252 เตรียมพร้อม

เซี่ยเชาฉวินขับรถมาถึงตั้งแต่ตอนเจ็ดโมงหล่อนจอดรถเอาไว้ในโรงรถ ตอนที่เดินขึ้นมา เจียงเซ่อก็เก็บรายละเอียดเสร็จเรียบร้อยพอดี เธอสวมหูฟังและกำลังเดินลงมาจากบันได

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในชุดที่สวยหรูอะไร ถึงมันจะเป็นแค่สีพื้นๆ สีเดียว แต่การแต่งกายของเธอก็ไม่มีอะไรที่จะต้องให้เซี่ยเชาฉวินคอยจับผิด

เธอสวมกางเกงยีนส์ขาเดปสีน้ำเงินที่ทาง Adeele ส่งมาให้ ส่วนท่อนบนเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวสบายๆ ปกคอเสื้อที่ถูกปาดออกไปด้านข้างโชว์ ทำให้ได้เห็นหัวไหล่ที่ดูอิ่มเอิบ

ชายเสื้อเชิ้ตของเธอถูกมัดขึ้น ส่วนปลายกระบอกเสื้อก็ถูกพับขึ้นมา ทำให้ได้เห็นข้อมือที่มีผิวเนื้อขาวสวยๆ นั่น และเธอก็สวมสร้อยข้อมือที่มีจิวกุหลาบสีทองประดับของ Gang Hua Jewelry ด้วย และมันก็ยิ่งขับให้ผิวของเธอดูสว่างขึ้นอีก

เซี่ยเชาฉวินคิดว่าตัวหล่อนเองก็มีความสามารถในการเก็บรายละเอียดพอตัว การแต่งตัวของเธอมันอยู่ระดับที่พอดี มันไม่ได้ดูเป็นผู้ใหญ่เกินไป และก็ไม่ได้ดูฟุ้งเฟ้อหรูหราเกินไป ไม่เลือกที่จะเอาเครื่องประดับมาสวมใส่ไปทั่วตัว

แทนที่เธอจะใส่แบรนด์เนมเต็มตัว แต่เธอเลือกที่จะใส่เสื้อผ้าธรรมดาๆ แต่เรือนร่างและบุคลิกของเธอมันสามารถทำให้เสื้อผ้าเหล่านี้มันดูดีขึ้นมาได้ และความหรูหราของเครื่องประดับชิ้นเดียวก็สามารถทำให้เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่นั้นมันดูแพงขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ถ้าแต่งตัวแบบนี้ออกจากบ้านละก็ มันก็ดูเหมาะสมกับเธอที่ยังเป็นวัยรุ่นสาวสดใสคนหนึ่งแล้ว อีกทั้งยังสามารถโชว์เรียวขาสวยและเอวเล็กๆ นั่นได้อีกด้วย ถึงแม้ว่าจะโดนนักข่าวมาแอบถ่าย ก็คงไม่มีมุมไหนที่จะออกมาดูแย่

เซี่ยเชาฉวินส่งมื้อเช้าให้เธอ เจียงเซ่อขอบคุณแล้วยื่นมือออกไปรับ

“พี่เชาฉวินทานแล้วหรือคะ?”

เธอถามออกไป เซี่ยเชาฉวินส่ายหัว

“แล้วนั่นฟังอะไรอยู่?”

เจียงเซ่อเดินเข้าไปในห้องครัวแล้วหยิบจานออกมา จากนั้นก็แบ่งมื้อเช้าออกเป็นสองจาน อีกทั้งยังรินนมสดอีกสองแก้วด้วย พอได้ยินเซี่ยเชาฉวินถามขึ้นมา เธอก็ดึงหูฟังออก

“ข้อมูลของกรรมการน่ะค่ะ ฉันอ่านมันแล้วอัดเสียงใส่เอาไว้ เวลาไม่มีอะไรทำก็เปิดมันฟัง” มันก็ถือเป็นการย้ำเตือนตัวเองไปด้วย

เธอยื่นหูฟังข้างหนึ่งให้เซี่ยเชาฉวิน เซี่ยเชาฉวินเองก็รับมาฟังอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้า

หลังจากทานมื้อเช้ากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เซี่ยเชาฉวินก็ดื่มนมตามเข้าไป

“รางวัลนักแสดงสมทบหญิงดีเด่นในรอบนี้ มีโอกาสสูงที่เธอจะได้มันมา ฉันให้คนเตรียมสคริปพูดบนเวทีเอาไว้ให้เธอแล้ว เดี๋ยวเธอก็ท่องมันเอาไว้ละกัน”

หล่อนไม่ได้พูดอะไรมากมายนัก แต่ดูท่าทางแล้วก็คงจะมั่นใจอยู่พอสมควร แสดงว่าในงานหนังภาพยนตร์ครั้งนี้ เซี่ยเชาฉวินเองก็คงจะพยายามมาไม่น้อย พอออกมาจากบ้านแล้ว ตลอดช่วงเช้าเธอก็อยู่แต่ในห้องแต่งหน้า พอถึงช่วงบ่ายเธอก็ต้องรีบไปยังบ้านที่โม่อานฉีได้เช่าให้เธอเอาไว้

ทั้งชุดราตรี เครื่องประดับ รองเท้าและกระเป๋าต่างๆ ก็ได้ถูกส่งมาให้แล้ว อายุเธอยังน้อย ดังนั้นเซี่ยเชา ฉวินก็ไม่ได้ต้องการที่จะขายเธอให้ไปในทางดาราสาวที่มีเสน่ห์แพรวพราวอะไรแบบนั้น ชุดราตรีที่หล่อนเลือกให้เธอใส่ก็ยังเป็นแบรนด์ Julien ของฝรั่งเศส ที่ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมงานที่สนิทกัน Julien เองก็มีประทับใจต่อสาวชาวหัวเซี่ยอย่างเจียงเซ่อเช่นกัน และชุดราตรีในครั้งนี้หล่อนก็เป็นคนลงมีตัดเย็บเองเลยด้วย

หลิวลี่จื้อช่วยเธอสวมชุดราตรี เซี่ยเชาฉวินเห็นแล้วก็พยักหน้าพอใจ

เจียงเซ่อเองก็ดูแลสัดส่วนร่างกายของตัวเองดีมากเช่นกัน ดูก็รู้แล้วว่าช่วงที่ผ่านมาเธอคงจะหมั่นซ้อมเต้นอยู่บ่อยๆ และผลดีที่เธอได้รับก็เห็นได้เร็วเช่นกัน ขนาดสัดส่วนเสื้อที่ส่งให้ Julien ตัดในครั้งนี้ก็ได้เปลี่ยนไปแล้วด้วย หลังจากที่ได้เรียนเต้นแล้ว ทั้งเอว มือ และความกว้างของหลังเธอก็ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน และมันก็ดูสวยขึ้นมาด้วย

ตรงแขนเสื้อ Julien ได้ออกแบบตัดเย็บออกมาในรูปแบบดอกลิลลี่ และทำให้ด้านหน้าด้านหลังติดกันให้หมด ตรงบริเวณหน้าอกก็ปักเป็นรูปดอกลิลลี่ที่เบียดอัดกันแน่น เอวถูกรวบแน่น กระโปรงชุดราตรีเป็นแบบหางปลา เพื่อเป็นการเน้นไลน์สะโพกและขาเรียวสวยทั้งสองข้างของเธอให้มันดูยาวยิ่งขึ้น

บุคลิกภายนอกของเธอดูสดใสมากขึ้น ยิ่งบวกกับที่ Julien เลือกสีชุดราตรีให้เป็นสีขาวบริสุทธิ์แล้วนั้น ก็ยิ่งดูเหมือนกับหญิงสาวที่แสนสวยแต่ไม่ชอบที่จะสนใจใครนัก

ครึ่งท่อนล่างที่ดูมีไลน์อรชรอ้อนแอ้นถูกปกคลุมเอาไว้ ส่วนท่อนบนก็โชว์เรียวแขนและหัวไหล่สวย แถมยังได้เห็นไหปลาร้าสวยที่ยาวเด่นไปถึงลำคอระหงนั่นอีกด้วย อีกทั้งหน้าอกที่ถูกชุดราตรีปกคลุมเอาไว้ จนกระทั่งสไตล์ลิสต์จัดการตรวจความเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างที่ออกมาก็ดูเหมือนอาหารมื้อหรูมื้อหนึ่ง จากนั้นก็สวมแต่งเครื่องประดับเข้าไป ออกมาแล้วก็ช่างดูน่าเป็นที่ประทับใจมากๆ

ผมดำของเจียงเซ่อถูกจัดแต่งขึ้นมาใหม่ เนื่องด้วยที่ชุดราตรีของเธอช่างแต่งหน้าสไตล์ลิสต์จึงไม่คิดที่จะเลือกทำอะไรมากมาย จึงทำแค่แบ่งผมตรงกลางและถักเปียรวบไปไว้ด้านหลัง เพื่อเปิดโชว์หน้าใบหน้าที่ดูสดใส ผมที่ยังเหลืออยู่ก็ปล่อยไปด้านหลัง เพื่อเป็นการปิดแผ่นหลังของชุดราตรีที่เว้าหลังเป็นตัว V แบบนั้น เวลาเดินก็จะได้เห็นอยู่บ้างวับๆ แวมๆ

ในตอนที่กำลังจะแต่งหน้า ช่างแต่งหน้าก็ยังพิจารณาอยู่ว่าจะแต่งอย่างไรดีนั้น เซี่ยเชาฉวินก็มีสายโทรเข้ามาพอดี แต่แค่แปบเดียวก็หันกลับมา แล้วพูดกับเจียงเซ่อ

“นักบัญชีที่ฉันหาให้เธอมาถึงแล้วนะ”

ครั้งนั้นหลังจากที่เซ็นสัญญากับทาง Gang Hua Jewelry เรียบร้อยแล้ว เซี่ยเชาฉวินก็ได้เสนอว่าจะหานักบัญชีให้เธอ แต่ก็ยังหาที่เหมาะสมได้เสียที บวกกับที่เจียงเซ่อเองก็มีเรื่องนู่นนี่ให้ทำเยอะแยะไปหมด เรื่องนี้ก็เหมือนจะลืมไปเลย คิดไม่ถึงว่าเซี่ยเชาฉวินจะหันมาบอกว่านักบัญชีมาถึงแล้ว

เธอพยักหน้า ช่างแต่งหน้าก็หันไปคุยกับเซี่ยเชาฉวินครู่หนึ่ง แล้วหันมาเริ่มแต่งหน้าให้เธอ

หลังจากที่เก็บของอะไรเรียบร้อยและออกมาแล้ว เซี่ยเชาฉวินดูเวลา ตอนนี้ก็ใกล้จะสี่โมงเย็นแล้ว

งานหนังภาพยนตร์จะเริ่มเดินพรมแดงในตอนหนึ่งทุ่มตรง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นกะทันหัน ยังไงก็ต้องไปถึงที่นั่นก่อนเวลา

ก่อนที่จะเดินทางไป เซี่ยเชาฉวินก็ตรวจดูสิ่งที่ต้องเอาไปอีกครั้ง นอกจากเครื่องประดับอีกสองชุดที่อยู่บนรถแล้ว ตัวชุดราตรีเองก็เตรียมไปเผื่ออีกชุดหนึ่งด้วย หลังจากมั่นใจว่าไม่มีอะไรตกหล่นแล้ว เซี่ยเชาฉวินก็เปิดประตูรถเข้าไปนั่งฝั่งเก้าอี้ข้างคนขับ โม่อานฉีเองก็กำลังช่วยเจียงเซ่อเปิดประตูเพื่อให้เธอเข้าไปนั่งด้านหลัง แต่ยังไม่ทันที่เจียงเซ่อจะได้ขึ้นไปนั่ง ที่นั่งเบาะหลังก็มีหญิงสาวอายุราวๆ สี่สิบคนหนึ่ง หล่อนสวมชุดสูทและดูเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถคนหนึ่งเงยหน้าขึ้นมา หล่อนเลื่อนแว่นที่สวมอยู่ขึ้น แล้วยื่นมือมาหาเจียงเซ่อ

“คุณเจียง สวัสดีค่ะ ฉันชื่อยวี๋เว่ยนะคะ”

หล่อนคือนักบัญชีที่เซี่ยเชาฉวินหามาให้นั่นเอง หล่อนจบมาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของเยอรมัน เคยมีประสบการณ์ทำงานกับผู้มีชื่อเสียงที่ประเทศอังกฤษอยู่เจ็ดปี เรื่องการจัดการการเงินถือว่าชำนาญเป็นอย่างมาก

คนที่เซี่ยเชาฉวินหามา ก็ล้วนแล้วเป็นคนที่ผ่านการคัดกรองมาอย่างดีแล้ว ถึงจะมาให้เจียงเซ่อต่อได้ อันที่จริงน่าจะผ่านการพิจารณามาแล้วมาสามรอบแล้วก็ได้ เลือกจนไม่มีให้เลือกได้อีก

ตอนนี้ทรัพย์สินของเจียงเซ่อก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะเพิ่งรับงานเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ให้กับสินค้าไปตั้งสองตัว แถมยังได้รับค่าตัวจากหนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับที่ฉันรักเธอ’ มาแล้วด้วยซ้ำ แต่พอเมื่อแบ่งออกไปให้ในส่วนของซื่อจี้หยินเหอแล้ว เงินที่มาถึงมือเธอจริงๆ ก็ไม่ได้เยอะอะไรนัก

บวกกับถึงแม้ว่ารายได้เธอจะมีมากขึ้น แต่รายจ่ายก็ถือว่ามีมากเหมือนกัน มีที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยก็คือค่าชุดราตรีของ Julien สองชุดนี้ มันก็ปาเข้าไปเกือบหกแสนกว่าแล้ว และถึงแม้ว่าเครื่องประดับจะได้มีของ Gang Hua Jewelry มาสนับสนุนอยู่แล้ว แต่เครื่องประดับอื่นๆ ก็ต้องเป็นเจียงเซ่อซื้อเองอยู่ดี

แล้วยังไงตอนนี้เธอก็มีเรียนเต้น ไหนจะค่าเสริมสวยที่ต้องจ่ายทีก็ก้อนใหญ่อีก ไม่ว่าจะค่าอะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็ถูกคิดออกมาหมดแล้ว ในตอนที่ยวี๋เว่ยกำลังร่ายผลทรัพย์สินของเจียงเซ่อให้ฟังอยู่นั้น เจียงเซ่อก็อดไม่ได้ที่จะยกมือนวดขมับตัวเอง

“แล้วตอนนี้ฉันมีเงินเหลือเท่าไหร่หรือคะ?”

“คุณเจียง สิ่งที่คุณควรจะถามก็คือ คุณยังเหลือยอดเงินที่จะต้องใช้คืนอีกเท่าไหร่นะคะ”

ซองแดงที่สวีโจวจี้ให้เธอมาในตอนนั้นก็ถือว่าเป็นทรัพย์สินภายในของเธอเอง แต่แน่นอนว่าเงินก้อนแค่นั้นมันไม่พอใช้หรอก ตามที่มีคนในกลุ่มเพิ่มมากขึ้น เงินเดือนที่จะต้องออกให้ก็ปาเข้าไปเกือบหกแสนแล้ว

“นั่นยังไม่นับเงินเดือนของฉันด้วยนะคะ”

ยวี๋เว่ยยิ้มให้เจียงเซ่อ แต่เจียงเซ่อกลับยิ้มแทบไม่ออกแล้ว

“นี่ฉันจนขนาดนี้แล้วหรือเนี่ย?”

“พรืด” โม่อานฉีที่กำลังขับรถอยู่ข้างหน้าได้ยินอย่างนั้นแล้วก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ยวี๋เว่ยเองก็หัวเราะตาม

“คุณวางใจเถอะค่ะ เงินเดือนเดือนนี้ของฉันไม่แพงหรอก ดิฉันเซ็นสัญญากับคุณเซี่ยเอาไว้สามปี มาคอยดูแลรายได้ของคุณ เพื่อเป็นการวางแผนรายรับในอนาคตของคุณ ดังนั้นฉันคิดว่าค่าตัวฉันคงไม่แพงเกินไปหรอกค่ะ”

ถ้าให้แปลคำพูดแล้ว ก็คือหล่อนให้ความสำคัญกับศักยภาพที่ดีขึ้นในอนาคตของเจียงเซ่อมากกว่า ไม่ใช่แค่ผลประโยชน์ในตอนนี้