webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

251

บทที่ 251 รู้สึกดี

ดังนั้นตอนที่บอกให้เจียงเซ่อจำมันทั้งหมด จริงๆ แล้วมันก็แค่นิสัยส่วนตัวและความเคยชินของเซี่ยเชา ฉวินเอง ที่เป็นคนเข้มงวด

ที่จริงลึกๆ ในใจหล่อนแล้ว ไม่ได้หวังว่าเจียงเซ่อจะจำได้อะไรขนาดนั้น

การที่จะได้พูดคุยกับกรรมการทั้งสามสิบคนก็ถือว่าเป็นอะไรที่ดูยิ่งใหญ่ พนักงานบริษัทที่เป็นคนรวบรวมข้อมูลในตอนนั้นก็ใช้คนไปกว่าสิบคน ใช้เวลาหาข้อมูลต่างๆ มาแบบไม่หลับไม่นอนกว่าหนึ่งอาทิตย์ถึงจะเสร็จเรียบร้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกของที่ชอบเลย ยิ่งเป็นพวกผลงานต่างๆ ก็ยิ่งเข้าไปใหญ่

หล่อนไม่คิดมาก่อน ว่าเจียงเซ่อจะสามารถจำมันได้ทั้งหมด

“จำได้หมดแล้วหรือ?”

เซี่ยเชาฉวินอดไม่ได้ที่จะถามออกไป และเจียงเซ่อก็ยืนยันกลับเช่นเดิม

“ไม่มีปัญหาค่ะ”

หล่อนพลิกๆ สุ่มเปิดข้อมูลดู แล้วถามขึ้น

“ไหนลองพูดเกี่ยวกับ Christopher มาคร่าวๆ สิ”

เซี่ยเชาฉวินพูดมาคนหนึ่ง เป็นคนเขียนบทหนังและช่างถ่ายภาพยนตร์ชาวอังกฤษคนหนึ่ง หล่อนถามขึ้นมา และเจียงเซ่อก็ตอบกลับไป

“Christopher ปีนี้อายุสี่สิบเอ็ดปี เกิดที่ลอนดอน คุณพ่อเป็นชาวอเมริกา ทำงานอยู่ที่บริษัทสายการบิน AA คุณแม่เป็นแม่บ้าน ในครอบครัวมีพี่น้องสี่คน”

เธอพูดถึงข้อมูลภูมิหลังก่อน ดูท่าจะไม่ได้โม้จริงๆ

“……เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยลอนดอนประเทศอังกฤษ ภรรยาคือ Beryl ที่เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยของเขา และตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ที่สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย หลังจากแต่งงานกันแล้วก็มีลูกด้วยกันสองคน คนโต……”

เซี่ยเชาฉวินถอนหายใจออกมา ฟังเธอพูดถึงข้อมูลภูมิหลังของ Christopher จากข้อมูลพื้นฐานทั่วไปจนไปถึงสิ่งที่เขาชื่นชอบและชื่อเสียงของเขา

นี่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่เซี่ยเชาฉวินพูดถึง ถึงแม้ว่าเจียงเซ่อจะแค่พูดถึงข้อมูลพื้นๆ ของเขาออกมา แต่ตอนที่หล่อนพูดถึงคนๆ นั้นขึ้นมา หล่อนเองต้องทำเป็นเหมือนรู้ แต่จริงๆ ก็ต้องใช้เวลาในการเปิดหาข้อมูลเหมือนกัน

แต่ตอนที่เซี่ยเชาฉวินถามขึ้นมา เธอเองก็ไม่ได้เกิดนิ่งไปและไม่ได้มีอาการลังเลเลยสักนิด แสดงให้เห็นว่าเธอท่องจำขึ้นใจแล้วจริงๆ เธอสามารถจำข้อมูลเหล่านั้นเอาไว้ในหัว แค่หล่อนถามขึ้น เธอก็สามารถพูดออกมาได้แล้ว

กับโทรศัพท์สายนี้ ทำให้เซี่ยเชาฉวินรู้สึกสับสนอยู่ไม่น้อย หล่อนรู้ว่าเจียงเซ่อมีความขยันและมีจิตใจที่แน่วแน่แค่ไหน แต่หล่อนก็คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเจียงเซ่อจะมีความมุมานะถึงขนาดนี้

หล่อนมีดาราที่ต้องดูแลถึงสองคน เถาเฉินเองก็มีความตั้งใจและรู้จักที่จะแสวงหาความก้าวหน้าดี ตอนแรกที่เซี่ยเชาฉวินตกลงที่จะรับเถาเฉินเป็นดาราในความดูแลของตัวเองนั้น ก็เป็นเพราะว่าเห็นถึงข้อดีจุดนี้ของหล่อน

จนมาถึงวันนี้ เถาเฉินเองก็ยังตั้งใจที่จะหาทางก้าวหน้าเช่นเดิม จนได้กลายเป็นเป็นดาราสาวแถวหน้าของประเทศ และตอนนี้ก็ไปไกลถึงนานาชาติแล้วด้วย ถือเป็นการยืนยันด้วยว่าเซี่ยเชาฉวินมีสายตาที่เฉียบคมแค่ไหน

แต่ถ้าให้เทียบกับเถาเฉินแล้ว เจียงเซ่อเองก็ถือว่ามีความตั้งใจไม่แพ้หล่อนเลย หรืออาจจะมีมากกว่าหล่อนด้วยซ้ำ

เซี่ยเชาฉวินยังจำพอจะจำได้ ตอนที่เข้าสู่ปีที่สองที่เธอดูแลเถาเฉิน ตอนนั้นทั้งสองคนต่างก็ไม่ได้มีฐานะขนาดนี้ และคำพูดหรือคำสั่งของเธอก็ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรมากในบริษัทเหมือนในตอนนี้

ในตอนนั้น หนังเรื่องแรกที่เถาเฉินได้รับเล่น เป็นหนังที่กำลังจะเข้าฉายและเซี่ยเชาฉวินเองก็ต้องแย่งชิงมาอย่างยากลำบากไม่น้อย ตอนนั้นทั้งเถาเฉินและเซี่ยเชาฉวินต่างก็มุ่งหวังไปที่รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในงานหนังภาพยนตร์เช่นกัน

ตอนนั้นเซี่ยเชาฉวินเพิ่งจะเข้ามาอยู่ในบริษัทได้ไม่นาน ฐานะยังไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก และเถาเฉินเองก็เทียบไม่ได้เลยกับเจียงเซ่อในตอนนี้

ในบริษัท ก็ต้องเป็นไปตามความสามารถและฝีมือที่มี เซี่ยเชาฉวินในตอนนั้นที่ไม่มีอะไรเลยต้องออกโรงด้วยตัวเอง จนได้รายชื่อของเหล่าคณะกรรมการมา จากนั้นก็ต้องใช้ระยะเวลาเพียงสั้นๆ ในการตรวจสอบหาข้อมูลต่างๆ ของกรรมการเหล่านั้น ใช้เวลาอยู่ครึ่งเดือนกว่าๆ ถึงจะสามารถรวบรวมข้อมูลทั้งหมดออกมาได้ และหลังจากที่เรียบเรียงสำเร็จแล้ว ก็ส่งให้เถาเฉินจำ

เถาเฉินใช้เวลากว่าหนึ่งเดือน หล่อนเองก็ถือว่าเป็นนักแสดงที่มีความตั้งใจและพยายามอย่างมาก แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถที่จะจำข้อมูลทั้งหมดได้ จำได้แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น และเมื่อถึงวันงาน เถาเฉินก็ถือว่าประสบความสำเร็จและเปล่งประกายเป็นอย่างมาก เซี่ยเชาฉวินใช้ประโยชน์จากการรู้ข้อมูลเหล่านี้ มาสานสัมพันธ์ต่อเหล่ากรรมการในภายหลังด้วย

แต่สุดท้ายสิ่งที่เถาเฉินหวังเอาไว้ก็เป็นจริง คือการที่หล่อนได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ เรื่องในตอนนั้น มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว

แต่ก็เพราะเคยเกิดสิ่งเหล่านั้นขึ้น มันก็เลยทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนและเถาเฉินสนิทสนมกันมากขึ้น มันไม่ได้เกิดขึ้นหลังจากที่เถาเฉินประสบความสำเร็จ แต่ที่หล่อนเลือกที่จะคว้าเถาเฉินไว้ ก็เป็นเพราะเถาเฉินเป็นคนที่ทำทุกอย่างอย่างจริงจัง และทำให้หล่อนอดที่จะชื่นชมไม่ได้

สำหรับเซี่ยเชาฉวินแล้ว งานหนังภาพยนตร์ของหัวเซี่ยในปีนั้นมันเป็นเหมือนการก้าวแรกในการเดินทางไกลของหล่อน หลายปีมาแล้วที่เธอไม่ได้คิดถึงมัน ตอนนี้ฐานะในบริษัทของหล่อนสูงมาก การที่จะหาข้อมูลเหล่านี้ถือว่าเป็นเรื่องเล็กๆ ไปเลย อีกทั้งยังไม่ต้องเป็นคนเสาะหาเองเลยด้วยซ้ำ และตอนนี้เถาเฉินก็ไม่ใช่แค่ดาราเล็กๆ อีกต่อไป แต่เป็นถึงเบอร์หนึ่งของซื่อจี้หยินเหอ

แต่ทว่าเมื่อได้คุยโทรศัพท์กับเจียงเซ่อในคืนนี้แล้ว มันก็ทำให้เซี่ยเชาฉวินต้องนึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นขึ้นมา

หล่อนนึกถึงตัวเองในตอนนั้นที่แทบจะไม่ได้หลับไม่ได้นอน วันๆ เอาแต่ทำงานแบบไม่มีพักในตอนนั้น แล้วหล่อนก็นึกถึงในปีก่อนๆ ที่ผ่านมา คนภายนอกต่างก็คิดว่าความสำเร็จของหล่อนมันน่าอิจฉา พอเห็นว่าหล่อนได้รับคำชมเชยจากลัวหยิ่น แถมยังแบ่งหุ้นให้หล่อนจนได้มีหน้ามีตา แต่กลับไม่มีใครเห็นเลยว่าเบื้องหลังของหล่อนมันต้องพยายามมากแค่ไหน จนกระทั่งมาถึงตอนนี้ หล่อนยังคงสามารถรักษาระดับความสำเร็จเอาไว้ได้ดีเสมอ แต่มันก็ไม่ได้มีเคล็ดลับอะไรทั้งนั้น ก็แค่พยายามที่จะไม่ปล่อยวางตัวเองก็เท่านั้นเอง

เซี่ยเชาฉวินเคยคิดว่าตัวเองรู้จักเจียงเซ่อดีแล้ว ถึงจะเกิดมาในฐานะระดับต่ำ แต่ก็ถือว่าเป็นคนที่มีโชคพอตัว เธอทำให้โหวซีหลิ่งให้ความสำคัญกับเธอได้ ฉางยวี่หูคอยปกป้อง และแฟนหนุ่มก็ไม่ใช่คนที่จะหาได้ทั่วๆ ไปอีก

หล่อนเข้าใจมาตลอดว่าความโชคดีเป็นหนึ่งในความสำเร็จของเจียงเซ่อ หล่อนเข้าใจว่าตัวเองเข้าใจถึงข้อดีของเธอทั้งหมดแล้ว แต่ตอนนี้กลับพบว่าตัวเองยังไม่เข้าใจในตัวเธอดีพอ

จนตอนนี้เซี่ยเชาฉวินก็เกิดรู้สึกบางอย่างขึ้นมาในใจ หล่อนรู้สึกถึงสิ่งที่เคยรู้สึกมาก่อน มันเป็นความรู้สึกเดียวกัน หล่อนรู้สึกว่าเจียงเซ่อเหมือนตัวหล่อนมากๆ ถ้าบอกว่าอำนาจของเธอมันสื่อออกมาทางสายตา คำพูดและการกระทำแล้วละก็ งั้นอำนาจของเจียงเซ่อก็คงจะถูกซ่อนเอาภายใน และจะถูกปล่อยออกมาทุกครั้งในเวลาสำคัญ

หล่อนเผยรอยยิ้มจริงใจออกมา ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เซี่ยเชาฉวินรู้สึกมีความสุขไม่น้อย หล่อนรู้สึกเลยด้วยซ้ำว่าทั้งร่างกายตัวเองมันมีชีวิตชีวาไปหมด ความทะเยอทะยานที่มีพลังมหาศาลมันกลับมาอีกครั้ง

ความรู้สึกที่มีความหวังต่างๆ ก็ไหลวนกลับมา หล่อนแทบอดใจไม่ไหวอยากจะดื่มเหล้าสักแก้วเลยด้วยซ้ำ

ที่จริงแล้วหล่อนเป็นคนที่ควบคุมตัวเองเก่งเป็นอย่างมาก ทุนวันนี้หล่อนจึงแทบไม่แตะต้องกับสิ่งที่จะมีผลกระทบต่อตัวเองเลยเด็ดขาด

แต่ตอนนี้เธอกลับเรียกชื่อผู้ช่วยจางฉือ และสั่งให้หล่อนไปเหล้ามาแก้วหนึ่ง และเธอก็พูดเต็มเสียงอย่างไม่ได้คิดจะปิดบังปลายสายอย่างเจียงเซ่อเลยสักนิด หล่อนถามขึ้น

“เซ่อเซ่อ เธอทำได้ยังไงกัน?”

เจียงเซ่อเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะจริงๆแล้วเธอเกิดมาในครอบครัววิสาหกิจเฝิงหนาน การคบค้าสมาคมแบบนี้ การที่จะเรียนรู้และมีข้อมูลของคนที่จะสานสัมพันธ์ไว้ในมือ สำหรับเธอมันก็เหมือนเป็นการบ้านที่เธอต้องทำ เธอยังไม่ทันได้รู้สึกว่านี้มันลำบากอะไรด้วยซ้ำ

เธอไม่คิดเลยด้วยซ้ำว่าเซี่ยเชาฉวินจะมาเกิดรู้สึกดีกับเรื่องนี้ที่เธอทำ เพียงแค่รู้สึกว่าน้ำเสียงของเซี่ยเชาฉวินฟังดูอ่อนโยนขึ้น และก็น้อยมากที่หล่อนจะใช้น้ำเสียงแบบนี้คุยกับเธอ

“คิดว่าต้องทำได้ มันก็ต้องทำได้ คืนนี้ก็จะดูอีกนิดหน่อยว่ามีจุดไหนที่ยังต้องเสริมบ้าง แต่ว่าโดยรวมก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะค่ะ”

“โอเค เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเจ็ดโมงเช้าฉันจะขับรถไปรับเธอ ช่วงบ่ายก็เตรียมไปที่งานเลย คืนนี้ก็เข้านอนเร็วหน่อยล่ะ”

เจียงเซ่อวางสาย จับมือถือค้างไว้แล้วคิดอะไรนิดหน่อย

พอลองพิจารณาคำพูดของเซี่ยเชาฉวินดูแล้ว ก็ทำได้แค่ไตร่ตรองไปอย่างนั้น แต่ไหนแต่ไรมาหน้าที่ขับรถไปรับไปส่งก็เป็นของโม่อานฉีอยู่แล้วนี่

ยังไงซะตอนนี้ดาราที่อยู่ในความดูแลของเซี่ยเชาฉวินก็มีถึงสองคน สิ่งไหนที่สำคัญกว่า ในใจของเจียงเซ่อรู้ดีเสมอ ดังนั้นในเวลาส่วนมาก เซี่ยเชาฉวินจะอยู่กับเถาเฉินมากกว่า ส่วนในด้านการทำงานของเจียงเซ่อ ปกติก็จะเป็นการโทรศัพท์มาอยู่แล้ว

แต่ตอนนี้หล่อนกลับบอกว่าจะมารับเธอด้วยตัวเอง หรือว่านี่จะหมายความว่า เซี่ยเชาฉวินกำลังจะเปลี่ยนการทำงานในอนาคต จะหันมาสนใจที่จะอยู่กับเธอมากกว่า?

ในห้องเปิดฮีตเตอร์เอาไว้ เธอมองไปยังหน้าต่างที่ที่สะท้อนเงาของตัวเอง แล้วยิ้มขึ้นบางๆ