webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

250

บทที่ 250 ช่วงชิง

งานหนังภาพยนตร์ของหัวเซี่ยในปีนี้ มันก็พอดีกับที่มีหนังที่เจียงเซ่อเล่นถึงสองเรื่องเข้าชิงรางวัล นอกจากเรื่อง ‘เกี่ยวกับที่ฉันรักเธอ’ แล้ว ก็ยังมีเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ด้วย และมันก็เป็นครั้งแรกของการเข้าร่วมการพิจารณาคัดเลือก

“ลำดับการเรียกชื่ออยู่ที่ประมาณเลขที่ยี่สิบของผลคัดเลือกนะ”

น้ำเสียงของเซี่ยเชาฉวินเรียบนิ่ง

“แต่เท่าที่ฉันรู้มา รางวัลนักแสดงตัวประกอบหญิงยอดเยี่ยม เฝิงหนานเองก็มีชื่อเข้าร่วมชิงจาก ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ด้วยเหมือนกัน ในแวดวงนี้หล่อนก็ถือว่ามีคุณสมบัติดีพอตัว ถือว่าเป็นคู่แข่งของเธอเลยนะ

หรือพูดได้ว่า รางวัลตัวประกอบหญิงยอดเยี่ยมในงานหนังภาพยนตร์ในครั้งนี้ เจียงเซ่อจะต้องเจอกับเฝิงหนานตรงๆ และอาจจะโดนเปรียบเทียบด้วย

รางวัลมีแค่อันเดียว และทั้งสองก็เป็นนักแสดงหน้าใหม่ ถ้าสามารถคว้ารางวัลมาได้ สำหรับทั้งสองคนนั้นมันมีความหมายที่แตกต่างกัน นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ทั้งสองคนได้พัฒนาไปในวงการได้อย่างราบรื่นมากขึ้น แต่สิ่งที่มากกว่านั้น คือทั้งหมดจะถูกส่งไปถึงสื่อทั่วโลก และจะได้ออกข่าวไปตามช่องทางข่าวต่างๆ ในแต่ละประเทศ

ในขณะเดียวกันมันก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการก้าวหน้า และนั่นก็หมายถึงชื่อเสียงที่จะขยายกว้างขึ้นด้วย และมันก็จะมีผลดีต่อการที่จะร่วมมือเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์กับแบรนด์หรูใหม่ๆ และได้ร่วมมือกับผู้กำกับต่างประเทศอีกด้วย

“ดังนั้นงานหนังภาพยนตร์ครั้งนี้มันสำคัญมากนะ ทางบริษัทเองก็กำลังพยายามที่จะเรียกเสียงโหวตให้เธอเต็มที่ โดยเฉพาะหนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ที่จะต้องได้รางวัลนักแสดงสมทบหญิงดีเด่น”

ในใจเจียงเซ่อก็คิดเอาไว้เหมือนกัน เธอยังเป็นแค่นักแสดงหน้าใหม่ ถึงในหนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับที่ฉันรักเธอ’ เธอจะแสดงเป็นนางเอก แต่การที่จะชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมก็ดูจะไม่มีหวังสักเท่าไหร่

แต่ทว่าสิ่งที่เซี่ยเชาฉวินพูดออกมานั้น ดูเหมือนว่าทางซื่อจี้หยินเหอเองก็ตั้งใจที่จะออกหน้าให้ด้วย ดังนั้นเรื่องนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีหวังเสียทีเดียว

“มีโอกาสสูงไหมคะ?”

เจียงเซ่อถามออกไป และทำสัญญาณมือว่าให้ไปที่บริษัทก่อน โม่อานฉีเริ่มออกรถ จากนั้นก็มุ่งไปที่ซื่อจี้หยินเหอทันที

“แค่มีชื่อเข้าร่วม ก็ถือว่ามีโอกาสสูงแล้ว”

ถึงแม้ว่ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงดีเด่นมันจะเทียบไม่ได้กับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม แต่งานหนังภาพยนตร์ที่สามปีมีครั้งแบบนี้ ยังไงมันก็ต้องยิ่งใหญ่มากแน่นอน และสิ่งที่เซี่ยเชาฉวินต้องการให้เธอได้ก็ไม่ใช่นักแสดงนำหญิงยอดยเยี่ยมด้วย ดังนั้นถึงจะมีซื่อจี้หยินเหอช่วยออกหน้า แต่มันก็เป็นแค่ความหวังเล็กๆเท่านั้น

“ในกรรมการสามสิบคน นอกจากหนึ่งในสามที่เป็นชาวต่างชาติ อีกสองในสามก็ล้วนแล้วเป็นคนของประเทศเราเอง มีสามคนในนั้นที่มีความสัมพันธ์อันดีกับโหวซีหลิ่ง และอีกคนที่คบค้าสมาคมกับฉางยวี่หูมานาน”

นั่นก็หมายความเป็นเพราะรายชื่อกรรมการสี่คนนี้ เซี่ยเชาฉวินถึงได้เลือกที่จะส่งชื่อเจียงเซ่อเข้าชิง และแสดงว่าหล่อนต้องมีความมั่นใจในระดับหนึ่งแล้ว

“กรรมการอีกคนหนึ่ง คือซูเพ่ยเอินที่อยู่ใน ‘สือไต้ผิงซิว’ เธอยังจำได้ใช่ไหม?”

เจียงเซ่อนึกถึงตอนที่หนังเริ่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ เข้าฉายแรกๆ ซูเพ่ยเอินเองก็ได้เขียนบทความวิจารณ์ให้กับเธอด้วย และเขาก็ชื่นชมเธอว่าเป็นอีกคนที่แสดงได้ดี อีกทั้งบทความวิจารณ์ของเขาก็ยังทำให้ชื่อเสียงของเธอมันเพิ่มขึ้นด้วย แน่นอนว่าเธอต้องจำเขาได้

“ช่วงไม่กี่ปีมานี้เขาไม่ค่อยได้ปรากฏตัวอยู่ในวงการบันเทิงสักเท่าไหร่ แต่บารมีเขาก็ยังสูงอยู่พอควร ในงานหนังภาพยนตร์ครั้งนี้ เขาเองก็เป็นหนึ่งในกรรมการ เขาชื่นชมในตัวเธอมากเลยนะ โอกาสที่จะโหวตให้เธอก็มีสูง”

ถ้าหากว่าซูเพ่ยเอินเลือกที่จะโหวตให้เธอเหมือนกัน ในคณะกรรมการทั้งสามสิบคน อย่างน้อยก็มีถึงห้าใบที่โหวตให้เธอแล้ว และคะแนนในใบโหวตก็ไม่ใช่น้อยๆ ด้วย เป็นการยืนยันว่าถ้าลงชื่อเข้าชิงแล้ว เจียงเซ่อก็มีโอกาสสูงที่จะได้รางวัลนักแสดงสมทบหญิงดีเด่น ดังนั้นน้ำเสียงของเซี่ยเชาฉวินถึงได้ดูมั่นใจขนาดนั้น

“อัตราความเป็นไปได้ในปีที่แล้วๆ มา ถ้ามีกรรมการเลือกเธอมากกว่าสิบคนขึ้นไป รางวัลนี้ก็คงจะเป็นของเธอแน่นนอน”

เซี่ยเชาฉวินพูดสิ่งที่ตัวเองต้องการพูดจนจบ “นอกจากนี้ ในงานหนังภาพยนตร์ ทางหัวเซี่ยเองก็ได้เชิญแขกผู้มีเกียรติมากมายมาด้วย หนึ่งในนั้นมีผู้กำกับหนังสัญชาติอิตาลีอย่างเชี่ยซ่าเหลยอยู่ด้วย ต่อหน้าเขาเธอจะต้องทำตัวให้เขาประทับใจให้มากที่สุด เข้าใจใช่ไหม?”

ตอนที่หล่อนพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา น้ำเสียงก็ดูจริงจังมากๆ แสดงว่าไม่ได้แค่พูดไปอย่างนั้น เจียงเซ่อนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า

“เข้าใจแล้วค่ะ”

หลังจากที่เลือกที่จะแวะไปที่บริษัทก่อน และรับเอกสารข้อมูลคณะกรรมการที่เซี่ยเชาฉวินได้เตรียมให้เรียบร้อยมา เป็นเอกสารปึกหนาปึกหนึ่ง และเพราะว่าแต่ไหนแต่ไรมา รายชื่อคณะกรรมการของงานหนังภาพยนตร์นั้นถือเป็นความลับ ดังนั้นทางซื่อจี้หยินเหอก็เลยต้องใช้เส้นสายภายในเพื่อค้นหารายชื่อเหล่านั้นมา ที่จริงเวลาก็ดูกระชั้นชิดอยู่พอสมควร และสิ่งที่เซี่ยเชาฉวินรีเควสมาก็ถือว่าหนักเหมือนกัน อีกทั้งข้อมูลที่เซี่ยเชาฉวินรวบรวมมาให้ก็ดูเยอะและดูยุ่งยากไม่น้อย ดังนั้นในข้อมูลคณะกรรมการ ยังมีข้อมูลของกรรมการชาวต่างชาติบางคนยังไม่ทันได้แปลออกมาเลยด้วยซ้ำ มีทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษปะปนกัน และเซี่ยเชาฉวินก็ต้องการให้เจียงเซ่อจดจำข้อมูลตรงนี้ให้หมดภายในสิ้นเดือนนี้ด้วย

โม่อานฉีมองดูเอกสารข้อมูลปึกใหญ่ที่เจียงเซ่อโอบออกมาแล้ว ก็รู้สึกเห็นใจอยู่ไม่น้อย ก่อนจะยื่นมือไปช่วยถือเอาไว้ ก็ถือว่าไม่ใช่เบาๆ เลย

กับเอกสารปึกนี้ พอลองพลิกๆ เปิดดูแล้ว ก็เจอแต่ตัวอักษรที่ปะปนกันไปหมด มันไม่ได้มีแค่รายชื่อของกรรมการ และฐานะครอบครัวเท่านั้น มันยังมีทั้งสิ่งที่ชอบเป็นพิเศษจนไปถึงรางวัลที่พวกเขาเคยได้ และทั้งหมดนี้ต้องท่องจำให้ได้ก่อนสิ้นเดือน นี่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ เลย

นอกจากนี้แล้ว ก็ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับสื่อใหญ่ต่างๆ จากหลายๆ ประเทศด้วย โม่อานฉีที่แค่พลิกๆ ดูก็เริ่มรู้สึกปวดหัวแล้ว

ถึงแม้ว่าซื่อจี้หยินเหอเองก็ได้ให้โอกาสที่แสนยิ่งใหญ่ให้กับเจียงเซ่อมา ทำให้เธอที่ทั้งๆ ที่เข้าวงการได้ไม่ถึงสองปีก็ได้โอกาสที่จะเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบหญิงดีเด่นแล้ว แต่ในขณะเดียวกัน สิ่งที่เซี่ยเชาฉวินต้องการให้เจียงเซ่อทำก็ถือว่าสูงมาก ก็ดูอย่างข้อมูลปึกใหญ่ปึกนี้ คนทั่วๆ ไปที่ดูแล้วก็ต้องพูดว่ายากอย่างแน่นอน

“หรือว่า เอาแบบนี้ดีไหมเซ่อเซ่อ ข้อมูลพวกนี้ เรามาแบ่งกันจำคนละครึ่ง เดี๋ยวฉันจะช่วยเธอจำส่วนหนึ่งด้วย”

หลังจากขึ้นรถมาแล้ว โม่อานฉีมองแฟ้มเอกสารอย่างขยาด ก่อนจะวางมันเอาไว้ที่เบาะหลัง หลังจากขับรถออกมาแล้ว หล่อนก็หันไปมองเจียงเซ่อเล็กน้อย และทำตัวสละชีพเป็นสุภาพบุรุษ

“จะได้เป็นการผ่อนแรงเธอด้วย”

ตั้งแต่ที่หล่อนเป็นผู้ช่วยของเจียงเซ่อมา ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ถือว่าไม่แย่เลย แต่สิ่งที่หล่อนเสนอมา เจียงเซ่อกลับส่ายหน้าปฏิเสธ

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถึงตอนนั้นแล้วค่อยคอยเตือนฉัน ว่าอย่าทำอะไรผิดพลาดก็พอ”

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเปิดเอกสารดู จากนั้นก็เปิดไฟในรถขึ้น

“มันก็เหมือนกับการท่องหนังสือไม่ใช่หรือ? ก็ถือซะว่าเป็นช่วงก่อนสอบไง!”

“ฮะฮ่า”

โม่อานฉีหัวเราะออกมา และมองผ่านกระจกและเห็นว่าเธอกำลังเปิดอ่านเอกสารข้อมูล และหล่อนก็ไม่คิดจะไปกวนเธออีก

หน้าที่ที่เซี่ยเชาฉวินได้มอบหมายให้เธอมามันหนักอึ้งสุดๆ เจียงเซ่อจึงทำได้แค่ขอลาหยุดเรียนกับทางมหาวิทยาลัยเป็นเวลาหนึ่งเดือน และเตรียมตัวที่จะสะสางสิ่งนี้ให้เรียบร้อยก่อน แล้วหนึ่งเดือนหลังจากนั้นก็ค่อยกลับไปเรียนเสริมจากที่ขาดไปทั้งหมด และเตรียมตัวสอบจริงๆ และแน่นอนว่าเธอก็ต้องหยุดไปที่เรือนจำหญิงด้วย ทางโรงละครเองก็ได้โทรไปบอกกับต่งฉาวผิงเรียบร้อยแล้ว

ในข้อมูลเหล่านี้ เจียงเซ่อได้แบ่งเวลาออกเป็นห้าวัน เพื่อจัดการกับข้อมูลที่แสนวุ่นวายนี้ให้มันดูเรียบร้อยมากขึ้น ตัดพวกสิ่งที่ไม่สำคัญออกและย่อสรุปให้เหลือน้อยแต่ได้ใจความมากที่สุด จากนั้นก็ปรินท์ออกมาใหม่ ทำแบบนี้แล้วเวลาจะอ่านจำจะได้ง่ายขึ้น

ภายในเดือนกว่าๆ นี้ นอกจากที่เธอจะต้องบำรุงความงามและเข้าเรียนฝึกซ้อมการเต้นแล้ว เวลาที่เหลือเธอก็จะเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน จนกระทั่งช่วงค่ำของวันที่ยี่สิบเก้า เซี่ยเชาฉวินก็โทรมาถามเรื่องข้อมูลที่ให้เธอมาจำทั้งหมดว่าได้หรือไม่ และเจียงเซ่อก็ตอบกลับไปอย่างสงบ

“ก็พอได้แล้วละค่ะ”

คำตอบนั้นของเธอ ทำให้คนที่ชอบที่จะสามารถควบคุมเรื่องต่างๆ ได้ คนที่ไม่เคยเสียสมาธิ และเหมือนว่าจะสงบเรียบนิ่งอยู่เสมออย่างเซี่ยเชาฉวินต้องเกิดความแปลกใจไม่น้อย และนิ่งเงียบไปอยู่นาน

ที่จริงตอนที่เซี่ยเชาฉวินสั่งให้คนเตรียมข้อมูลเหล่านั้นให้เรียบร้อย และตอนที่ตัวหล่อนเองบอกให้เจียงเซ่อพยายามจำมันให้หมดนั้น แต่จริงๆ แล้วในใจของหล่อนก็ไม่ได้ต้องการให้เจียงเซ่อท่องจำมันทั้งหมดหรอก

เธอแค่ต้องจำสิ่งที่จำเป็น เพื่อเวลาที่เธอไปพูดคุยกับคนในงานจะได้ไม่ดูแย่หรือกลายเป็นคนไม่รู้เรื่อง บวกกับสิ่งที่ตัวหล่อนแนะนำไป แค่นั้นมันก็เพียงพอที่จะทำให้เธออยู่ในงานได้อย่างราบรื่นแล้ว