244

บทที่ 244 คนที่

เจียงเซ่อแค่อยากจะมั่นใจกว่านี้อีกสักนิด แล้วค่อยไปเจอกับหลิวเย่ ถึงตอนนั้นจำได้เกลี้ยกล่อมง่ายขึ้นหน่อย

“พี่เซี่ยบอกว่า รอให้เธอบอกเวลาให้ชัดเจนก่อน แล้วเขาจะช่วยนัดให้อีกที”

ถ้ามีเซี่ยเชาฉวินคอยออกหน้าให้แบบนี้ บวกกับที่เจียงเซ่อเองก็มีเผยอี้หนุนหลังอยู่ ถึงแม้ว่าหลิวเย่จะคิดว่าเธอไม่เหมาะสมกับบทจางยวี่ฉินในเรื่อง ‘Evil’ ก็ตาม แต่อย่างน้อยเขาก็น่าจะออกมาเจอกับเธออยู่แล้ว

โม่อานฉีจับผมตัวเองเล่น มีท่าทีลังเลอยู่ไม่น้อย

“แต่ว่านะเจียงเซ่อ ตอนนี้การแข่งขันในวงการบันเทิงมันดุเดือดอยู่พอสมควรเลย แหล่งทุนของในประเทศเองก็เริ่มมีจะมีจำกัดแล้วนะ นอกจากจ้าวรั่วจวินกับกับพวกดาราสาวๆ นั่น มันก็มีดาราใหม่ๆ ผุดขึ้นมาตั้งมากมาย นอกจากเธอแล้ว ก็ยังมีเฝิงหนานอีกคน เธอเคยสนใจมันบ้างหรือเปล่า?”

ดาราในประเทศต่างก็พากันมุ่งมั่นสู่จุดสูงสุดกันทั้งนั้น แย่งกันที่จะได้ขึ้นเป็นข่าวพาดหัว แข่งกันเรื่องจำนวนแฟนคลับ แย่งโฆษณา แย่งขึ้นปกนิตยสารเพื่อยกระดับตัวเอง ทั้งงานละคร งานหนัง ไม่ว่าจะเป็นบทอะไรต่างก็มีการแย่งชิงกันทั้งนั้น

แผนที่เซี่ยเชาฉวินได้วางไว้ให้เจียงเซ่อมันก็มีเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว ว่าไม่ได้จะให้เธอไปเล่นละครเด็ดขาด ต้องจ้องมองไปที่งานหนังภาพยนตร์เท่านั้น แต่ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว การแข่งขันมันก็ยิ่งดุเดือดเข้าไปใหญ่

และคนที่ได้เป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์หรูต่างๆ ของต่างประเทศ ดาราที่จะได้รับการพิจารณาเป็นอันดับแรกๆ ก็คือเถาเฉิน หลิวเย่และดาราในระดับเดียวกันไล่ไปเรื่อยๆ และนอกจากแบรนด์สินค้าที่ยังหลงเหลืออยู่ นอกจากแบรนด์ที่ได้เซ็นสัญญาเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ไปเรียบร้อย ก็จะเป็นสิ่งที่ดาราคนอื่นๆ พากันแย่งชิงกัน

กับอุปทานที่มีสูงกว่าอุปสงค์แบบนี้ การแย่งชิงกันจะดุเดือดก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว

ดาราใหม่ที่ได้เผยโฉมหน้าในปีนี้นั้น นอกจากเจียงเซ่อแล้ว ก็ยังมีเฝิงหนานอีกคน หล่อนถือโอกาสเปิดตัวโดยการเล่นบทคุณหนู ‘เอกุชิ’ ในหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ และตอนนี้ก็มีแฟนคลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน

หลังจากที่หนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ได้รับกระแสคำวิจารณ์ดีๆ มากมายที่ไหลมาราวกับสายน้ำ เพราะทุกตัวละครต่างก็ได้แสดงฝีมือออกมาอย่างโดดเด่น ทำให้ชื่อเสียงและยอดขายบัตรของหนังเรื่องนี้เป็นถึงโชคสองชั้น เพราะโรงหนังแต่ละที่ต่างก็พากันออกมาบอกว่าจะขยายเวลาการเข้าฉายหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ให้นานจนไปถึงช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน จนมาถึงตอนนี้ ยอดขายบัตรหนังก็ปาเข้าไปแล้วถึงประมาณสองร้อยห้าสิบล้าน

และเพราะเฝิงหนานที่อยู่ในฐานะพิเศษ อีกทั้งยังได้แสดงบทที่โดดเด่นในหนัง แถมยังเป็นบทที่ทุกคนต่างก็ให้ความสงสารและชื่นชอบ ทำให้หล่อนได้รับยอดขายบัตรจากแฟนคลับที่เพิ่มขึ้นมามากมาย

ช่วงนี้จึงจะได้เห็นหล่อนเดินสายไปกับจางจิ้งอานอยู่บ่อยๆ หรือแม้แต่รายการที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าง ‘คนดังนั่งคุย’ ที่มีเซิ่งจิ้งจือเป็นพิธีกร จางจิ้งอานก็ยังพาหล่อนไปด้วย

หลังจากที่ได้เปิดตัวไปและความนิยมก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ยอดแฟนคลับที่ติดตามหล่อนก็มากขึ้นทุกวันๆ และตอนนี้แอคเค้าท์บนอินเทอร์เน็ตของหล่อน ก็มีคนมากดติดตามจนใกล้จะถึงสามล้านแล้วด้วย มันเยอะกว่าเจียงเซ่อถึงสองเท่าเชียว

แต่การที่เจียงเซ่อยังมีแฟนคลับติดตามจนมาถึงตอนนี้ได้ ก็คงเป็นเพราะภาพโฆษณาที่สวยงามของ Gang hua Jewelry ที่ยังสามารถใช้ความสวยของเธอในการดึงแฟนคลับเอาไว้เท่านั้น

นอกจากนี้แล้ว ในแอคเค้าท์โซเชียลต่างๆ ของเธอ สิ่งที่ถูกโพสลงบ่อยๆ ก็มีแค่ภาพถ่ายแบบในชุดต่างๆ และภาพที่ถูกแอบถ่ายตอนเดินออกไปข้างนอกเท่านั้น แต่ก็มีเหล่าแฟชั่นบล็อกเกอร์มากมายที่สังเกตเห็นเธอ และชื่นชมไปถึงสไตล์ลิสต์ และนี่ก็จะเป็นการเพิ่มบุคลิกที่โดดเด่นให้กับเธอด้วย ว่าช่วงนี้เหมือนว่าเธอจะได้รับเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์อีกแล้ว

พอเจียงเซ่อเห็นท่าทางโม่อานฉีที่ดูหนักใจแบบนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา

“แล้วมันทำไมล่ะคะ?”

“เริ่มมีคนเอาหล่อนมาเปรียบเทียบกับเธอแล้วนะ”

เพราะพวกเธอต่างก็เป็นดาราใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมา หนังเรื่องแรกที่ได้แสดงก็เป็นหนังของจางจิ้งอานอย่าง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ แต่มันก็เป็นเพราะว่าฐานะที่แตกต่างกัน อีกคนได้เล่นบทที่มีบทพูด และได้ออกฉากอยู่ไม่น้อย กับอีกคนที่ได้ออกมาแค่ไม่กี่สิบวิเท่านั้น

แน่นอนว่าตอนนี้ทุกคนต่างก็ยอมรับว่าเธอมีรูปร่างหน้าตาที่สะสวย แต่ในเรื่องของการแสดงนั้น ถึงจะมีซูเพ่ยเอินของ ‘สือไต้ผิงซัว’ ที่เคยได้เขียนชื่นชมการแสดงของเจียงเซ่อขึ้นมา แต่ทุกคนก็ยังคิดว่า ในหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ นั้น บทที่เฝิงหนานได้แสดงมันให้ความรู้สึกที่ลึกมากกว่า

บนเว็บข้อมูลหนัง มีคนสร้างโพลขึ้นมาให้เลือกว่าฉากของนักแสดงหญิงคนไหนในเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ที่เศร้าที่สุด ถึงเจียงเซ่อจะเป็นแค่ตัวประกอบแต่ก็ได้เป็นหนึ่งในตัวเลือกด้วย แต่การจัดอันดับของเธอก็ยังเป็นรองจากเฝิงหนานอยู่ห่างพอสมควร

“ฉันกลัวว่ามันจะส่งผลต่อเธอในภายหลังน่ะสิ”

ถ้าเจียงเซ่อยังต้องตามหลังเฝิงหนานแบบนี้ เธอก็อาจจะเป็นได้แค่หินใต้เท้า ที่ปล่อยให้หล่อนเหยียบขึ้นไป

“พวกเธอทั้งสองคนต่างก็เป็นคนที่ได้เข้าไปอยู่ในรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ แล้ว ทั้งเฝิงหนานเองก็ยังจบมาจากมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งเหมือนกันอีก แถมยังมีผลการเรียนที่ยอดเยี่ยม จบมาจากคณะอักษร ถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง เซิ่งจิ้งจือชื่นชมหล่อนพอตัวเลยล่ะ”

เจียงเซ่ออายุยังน้อยจริงๆ นั่นแหละ ครั้งแรกที่ได้ไปออกรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ ก็เพราะความสวยของตัวเอง ถ้าเทียบกันแล้ว มันก็ยังต้องอยู่หลังเฝิงหนานจริงๆ

“พวกชาวโซเชียลกำลังตั้งตารอดูหนังดีๆ อยู่นะ”

พอโม่อานฉีมองเห็นว่าเจียงเซ่อกำลังจะเดินขึ้นบ้านไป หล่อนก็รีบตามไปทันที

“มีคนพูดกันว่าโต้วโค่วในเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ เองก็พบเจอกับเรื่องร้ายจนเป็นจุดเปลี่ยน และต้องพบกับความอัปยศอดสูเหมือนกัน ตอนนี้เลยมีคนพนันว่า หลังจากที่หนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ได้เข้าฉายแล้ว การแสดงของเธอจะสู้เฝิงหนานได้หรือเปล่า”

เจียงเซ่อชะงักเท้าที่กำลังจะเดินขึ้นบันไดทันที โม่อานฉีเห็นเธอหันกลับมามอง เธออยู่ในชุดอยู่บ้านสบายๆ สายตาที่มองลงมาหาโม่อานฉีนั่น มันดูละมุนและอบอุ่นไม่น้อย แต่โม่อานฉีกลับมองเห็นเป็นภาพราชินีที่กำลังจะสวมมงกุฎแทนเสียอย่างนั้น ความรู้สึกที่เชื่อมั่นในตัวเอง มันอ่อนโยนราวกับฝนในฤดูใบไม้ผลิ ที่สาดพรมไปทั่วหัวคิ้วที่กำลังขมวดของหล่อน

“เปรียบเทียบหรือ?”

โม่อานฉีที่ได้สติก็พยักหน้าให้ หล่อนยิ้มแล้วตอบกลับไป

“งั้นพี่ช่วยเลือกแทนฉันหน่อยนะคะ พนันได้เลยว่าฉันต้องชนะ”

ในหนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ไม่เพียงหลินซีเหวินเท่านั้นที่เอาจริงเอาจังกับเจียงเซ่อมากๆ เจียงเซ่อเองก็กดดันตัวเองอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เธอไม่เคยคิดที่จะไปเปรียบเทียบกับเฝิงหนาน แต่ถ้าจะต้องเปรียบเทียบกันจริงๆ แล้วละก็ เธอก็ไม่คิดว่าตัวเองจะแพ้หรอกนะ

โม่อานฉีขบริมฝีปาก เหมือนว่าทำไมจู่ๆ เจียงเซ่อก็ทำให้เธอเกิดความแปลกใจขึ้นมาได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา หล่อนคิดมาตลอดว่าเจียงเซ่อเป็นคนที่มีนิสัยเย็นชาและอ่อนโยน แต่ยังไม่เคยเห็นเธอทำหน้าแบบนี้มาก่อนเลย

ถ้าจะบอกว่าเซี่ยเชาฉวินเป็นคนที่แข็งทั้งนอกทั้งในแล้วละก็ งั้นเจียงเซ่อก็คงเป็นพวกภายนอกดูอ่อนโยนแต่ข้างแต่แข็งแกร่งละมั้ง

“จะออกไปข้างนอกหรือ?”

เจียงเซ่อที่เดินขึ้นไปข้างบนแล้ว และโม่อานฉีไม่ได้ตามขึ้นไป เพราะนี่ก็เหมือนเป็นภาพความเคยชินตั้งแต่ที่เผยอี้ยังอยู่ หล่อนเดินไปที่บันไดแล้วถามออกไป และเจียงเซ่อก็ตอบว่า ‘อืม’ ก่อนจะพูดต่อ

“จะออกไปซ้อมเต้นสักหน่อยน่ะค่ะ”

มาถึงตรงนี้แล้ว ถึงตัวหล่อนจะพูดอะไรไปตั้งเยอะตั้งแยะ แต่เจียงเซ่อก็ยังมีกะใจจะไปซ้อมเต้นเสียอย่างนั้น โม่อานฉีตบๆ หน้าผากตัวเอง และเกิดนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้อีก ตอนนี้เฝิงหนานมีแนวโน้มที่จะมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เซี่ยเชาฉวินเองก็เหมือนจะไม่รีบไม่ร้อนอะไร เจียงเซ่อเองก็เหมือนกัน แล้วทำไมตัวหล่อนถึงได้ร้อนใจอยู่คนเดียวแบบนี้เนี่ย?

หลังจากที่เผยอี้ไปจากตี้ตูแล้ว ชีวิตของเจียงเซ่อก็ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย เธอฝึกซ้อมเต้นมาแล้วสองวัน จากนั้นก็ทำการบ้านในวันที่ไม่ได้ไปเรียนจนเสร็จครบ จากนั้นก็ไปที่เรือนจำหญิงอีกครั้ง

ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่เธอได้เห็นไต้เจีย โม่อานฉีเองก็ได้มอบตัวสินค้าของ Adeele ให้กับเฉายวี้แล้ว ทำให้เฉายวี้ยิ่งรู้สึกดีกับเจียงเซ่อเข้าไปใหญ่อีก หลังจากที่ถามนู่นถามนี่เจียงเซ่ออยู่หลายครั้งหลายคราแล้ว ในที่สุดหล่อนก็ยินยอมที่จะให้เจียงเซ่อได้พบกับไต้เจียในห้องส่วนตัวอีกครั้ง

ถ้าให้เทียบกับตอนแรกที่ไต้เจียในเวอร์ชั่นนิ่งเงียบจนเหมือนตายด้านแล้ว ครั้งนี้ที่ได้พบไต้เจีย แววตาคู่นั้นของหล่อนมันดูกำลังเฝ้ารอและมีประกายความหวังแล้ว

วินาทีที่หล่อนถูกผู้คุมขังพาตัวมา หล่อนสูดหายใจเข้าลึกๆ เหมือนเส้นเลือดมันเต้นตุบๆ ไปหมด ขอบตาแดงก่ำ และริมฝีปากที่ขบจนช้ำไปหมด แก้มขาวทั้งสองข้างที่ดูตอบลงมันสั่นระริก เหมือนว่ากำลังควบคุมความรู้สึกตื่นเต้นที่อยู่ในใจ

“ได้ยินมาว่า เธอช่วยฉันหาทนายเหรอ จะช่วยฉันพลิกคดีอย่างนั้นหรอ?”