webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

236

บทที่ 236 ที่สุดแห่งยุค

ไม่ว่าจะเป็นแบบเรียบง่ายดูบริสุทธิ์ หรือจะเป็นแบบสง่างามหรูหรา เจียงเซ่อก็เข้ากับมันทั้งหมด

เครื่องประดับแต่ละรูปแบบที่อยู่บนตัวของเธอ ก็ล้วนแล้วทำให้คนที่ได้เห็นต้องตกตะลึงกันไปเป็นแถบๆ โดยเฉพาะรูปที่เธอสวมชุดสีส้มแดงนั่น รูปที่เธอทำท่าทางสบายๆ และปล่อยตัว เธอสวมแค่สร้อยเพชรเส้นเดียวเท่านั้น เครื่องเพชรที่ละเอียดอ่อนนั่นอยู่บนไหปลาร้าสวย และตัวเพชรก็อยู่บนหน้าอกของเธอพอดี มันมีความยั่วยวนออกมาให้รู้สึกอย่างบอกไม่ถูก

และในตอนที่สื่อนักข่าวที่อยู่ในห้องแถลงและชาวเน็ตที่กำลังดูอยู่คิดว่าภาพนี้เป็นภาพที่สวยที่สุดแล้วนั้น แต่พอผ่านไปอีกไม่กี่วินาที ภาพที่ปรากฏขึ้นต่อจากนั้น มันก็ต้องลบความคิดก่อนหน้านี้ของทุกคนไปในทันที

เหมือนความสวยและความสง่าของเธอมันพุ่งออกมาจากกล้องที่ถ่าย รอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก เปลือกตาที่ปิดลงเบาๆ มันทำให้ทุกคนต่างก็รู้สึกเหมือนเพิ่งจะได้ผ่านคืนงานเลี้ยงที่แสนดีงามมา

เครื่องเพชรที่แสนแวววาวและความสวยของตัวเธอมันหลอมรวมกัน จนถึงสุดท้าย ผู้ที่ได้เห็นรูปที่ปรากฏขึ้นมาแล้ว ต่างก็ไม่สามารถบอกได้เลยว่าเป็นเพราะเครื่องประดับที่ทำให้เธอสวยขึ้น หรือเป็นเพราะความสวยของเธอเองที่ทำให้ความสวยของเครื่องประดับมันมีมากขึ้นไปอีก

รูปภาพขนาดใหญ่ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอนั่น เครื่องประดับทุกชุดที่อยู่บนตัวเธอนั้นมันสวยจนทำให้ไม่มีใครสามารถจับผิดอะไรได้เลย

จนกระทั่งถึงรูปสุดท้ายถูกโชว์เสร็จแล้ว หน้าจอก็กลายเป็นสีดำ

เหล่านักข่าวที่กำลังจิตใจจดจ่อจนต้องกลั้นหายใจมองรูปบนนั้นก็พ่นลมหายใจยาวออกมา คนมากมายที่ได้เห็นรูปนั้นสวยงามมากมายเหล่านั้นแล้ว ต่างก็พากันพูดไม่ออกเช่นกัน

แต่ทว่ามันก็เหมือนว่ายังไม่ได้แสดงความฝันครั้งใหม่ของกังหัวออกมาจริงๆ ไฟในห้องแถลงยังคงไม่ถูกเปิดขึ้นมา

ผ่านไปหนึ่งนาทีก็แล้ว จนคนที่ดูผ่านอินเทอร์เน็ตเองก็เริ่มทนไม่ไหว รีบเม้นข้อความอย่างร้อนรน

Angelia: เกิดอะไรขึ้น? ทำไมยังไม่เปิดไฟอีกล่ะ หรือว่ายังมีอีกรูป?

ช่วงเวลาแห่งความสุข : เหมือนว่ารูปที่เปิดให้ดูไปก่อนหน้านี้ จะไม่มีเครื่องประดับที่เป็นความฝันครั้งใหม่ของกังหัวนะ หรือพวกเขาอยากให้มันเป็นตัวปิดท้าย เลยเปิดให้ดูหลังสุด?

เถาเถาเองก็ทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน แต่พอกำลังจะเม้นอะไรบ้างแล้ว ก็เหลือบไปเห็นว่าเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างๆ ตัดหน้าเม้นไปก่อนแล้ว

กู่หัวถิง : มีคนในงานถามบ้างไหม นี่มันเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?

เถาเถาแอบดูสถานการณ์นั้นอยู่เงียบๆ อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

ตอนนี้เหล่าพนักงานในหลงสิงต่างพากันคอมเม้นเห็นด้วยกันใหญ่ ทุกคนต่างต้องการให้คนในงานถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น และมีหลายคนที่ต้องการให้มีทีมงานของกังหัวออกมาพูดอะไรเสียหน่อย

และขณะที่ทุกคนกำลังเกิดความสงสัยปนร้อนใจ ในภาพห้องแถลงก็มีเสียงดนตรีดังขึ้นมาพอดี

ทุกคนจ้องมองอย่างไม่ละสายตาไปไหน บนหน้าจอนั่นสว่างจ้าขึ้นมา ก่อนที่จะค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น พร้อมกับเสียงดนตรีที่ดังคลอ เหมือนมันกระแทกตากระแทกใจ

เถาเถาขยับหน้าเข้าไปใกล้หน้าจออีกนิด พยายามทำตาโตสุดๆ เพราะกลัวว่าจะพลาดอะไรไป

แต่ทว่าในบ้านของเนี่ยต้านในตอนนี้ เผยอี้และคนอื่นๆ เองก็กำลังดูถ่ายทอดสดของงานนี้อยู่เช่นกัน

ในตอนที่บนหน้าจอนั่นปรากฏภาพของเจียงเซ่อขึ้นมาอีกครั้ง เผยอี้ก็รู้สึกเหมือนว่าชั่วนาทีนั้น หัวใจของเขากำลังโดนกระแทกอย่างแรง ทั้งในแววตา ในใจ และในหัวสมองมันมีแต่เจียงเซ่ออยู่เต็มไปหมด

รูปที่กังหัวเผยให้เห็นครั้งนี้เป็นรูปสีขาวดำที่ต้องใช้ความกล้าเป็นอย่างมากในการถ่ายและเอาออกมาโชว์อย่างนี้

ในรูป เจียงเซ่อสวมชุดราตรีสีขาว บนศีรษะมีผ้าคลุมผืนบางคลุมเอาไว้ เธอหลับตาลง ใบหน้าที่อยู่ใต้ฝ้าคลุมผืนนั้น มันให้ความรู้สึกถึงความงดงามที่มองแล้วรู้สึกจะลอยไปในอากาศให้ได้

เธอยื่นมือยกผ้าคลุมนั่นขึ้น ภาพจากกล้องถ่ายติดมาเพียงแค่ใบหูเล็กๆ ของเธอ และบนใบหูของเธอก็มีตุ้มหูฝังเพชรแบบเรียบง่ายติดอยู่ด้วย มันเปล่งประกายจนเป็นเหมือนแสงสว่างตาบนรูป

ตุ้มหูอีกข้างไม่ได้ถ่ายให้เห็น แต่ช่างภาพได้ใช้การเล่นแสง และถ่ายแสงสะท้อนอันแวววาวของตัวเพชรออกมา

ภาพที่ช่างภาพถ่ายออกมามันทำให้คนมองรู้สึกหวั่นไหวไม่น้อย และมันก็ให้ความรู้สึกได้มากกว่ารูปก่อนๆ อย่างมากมาย

รูปมันมีทั้งความมีชีวิตชีวา ความบริสุทธิ์ กับตัวเครื่องเพชรที่มันแวววาวและความสวยอย่างมีระดับของมันนั้นเข้ากันได้เป็นอย่างดี ทำให้คนที่กำลังดูหลายๆ คนต่างก็ต้องจ้องกันตาโต ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า การถ่ายแบบเครื่องประดับจะสามารถถ่ายแนวนี้ออกมาได้ด้วย!

เจียงเซ่อที่อยู่ในภาพขาวดำนั่นมันสวยจนทำให้คนมองต้องหายใจติดขัดไปหมด ทั้งแสงเงาในดวงตา ทั้งขนตายาวงอนที่ลู่ลง กับไลน์ดั้งเป็นสันสวยนั่นอีก มุมปากที่เหมือนกำลังยกยิ้มขึ้นนั่นก็ยิ่งทำให้ไม่อยากละสายตาไปไหนเลย

ชุดราตรีแนววินเทจที่ดูหรูหรานั่น กับตุ้มหูที่เธอใส่อยู่มันก็ดูสวยเข้ากันมากๆ เหมือนกับเป็นการเพิ่มรายละเอียดนู่นนี่เล็กๆ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจสำหรับช่างภาพ ออกมาเป็นรูปภาพที่แสนงดงามจนแทบอยากจะร้องไห้ให้ได้เลย

เผยอี้มองเจียงเซ่อที่อยู่บนรูปนั่นแล้ว ก็แทบจะกะพริบตาไม่ได้เลย เพราะเขาจิตนาการไปไกลกว่าคนอื่นมากมายนัก

ชุดราตรีสีขาวที่เจียงเซ่อสวมใส่อยู่นั้นมันเหมือนกับภาพชุดแต่งงานในฝันของเขาเลย เธอสวมออกมาแล้วดูดีไม่ใช่น้อยด้วย

เขาเสียใจที่ไม่ได้อยู่ข้างๆ เจียงเซ่อตอนที่เธอทำงานถ่ายโฆษณาอยู่ที่ปารีส ไม่ได้ไปเห็นตอนนั้นด้วยตาตัวเอง และตอนนี้ก็ยังทำได้แค่มองภาพโปสเตอร์อย่างเสียใจแบบนี้อีก

ภาพๆ นั้นถูกค้างเอาไว้ประมาณหนึ่งนาทีได้ หนึ่งนาทีหลังจากนั้น ภาพก็ค่อยๆ เลือนหายไป

แต่ถึงแม้ว่ามันจะหายไปแล้ว แต่แรงบันดาลใจที่ทิ้งไว้ให้กับทุกคนที่ได้เห็นยังคงติดตรึงอยู่เช่นเดิม หลายๆ คนที่พอหลับตาลง ก็ยังสามารถนึกถึงภาพๆ นั้นของเธอขึ้นมาได้ด้วยซ้ำ ภาพที่เจียงเซ่อหลับตาและและกำลังยกผ้าคลุมขึ้นมา มือคู่นั้นที่เนียนละเอียดและขาวจัดราวกับหยก กับตุ้มหูฝังเพชรเม็ดนั้น มันส่องสว่างจนตาพร่าไปหมด

สวีโจวจี้ที่สังเกตเห็นว่านานพอสมควรกว่าที่คนในห้องแถลงจะพากันทอดหายใจยาวออกมาแล้ว ก็รู้ได้ทันทีว่าที่หายใจออกมายาวขนาดนั้นก็เป็นเพราะเผลอหยุดหายใจไปตอนที่ได้เห็นรูปของเจียงเซ่อนั่นเอง เพราะเหมือนว่ากำลังโดนแย่งความสนใจไป ทำให้แทบจะลืมหายใจกันทีเดียว

และผลที่ออกมาเป็นแบบนั้นก็ทำให้สวีโจวจี้รู้สึกพอใจไม่น้อย

ตอนนั้นที่เซี่ยเชาฉวินตัดสินใจอย่างพละการว่าให้ถ่ายชุดเครื่องเพชรที่เป็นชุดในฝันออกมาเป็นขาวดำ ตอนนั้นเขาเองก็ยังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยู่เลย จนกระทั่งโดนเซี่ยเชาฉวินปลอบใจมาก่อน แต่ความโกรธนั่นก็ยังไม่ได้หายไปแต่อย่างใด ก็แค่โดนเก็บเอาไว้ก่อนเท่านั้น

มันถึงขึ้นที่เขาจะสั่งให้ถ่ายใหม่เลยด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่าไม่อยากจะไปหาเรื่องเผยอี้ แต่เครื่องประดับแห่งความฝันชุดนี้ก็สำคัญมากจริงๆ ถึงจะมีทั้งอำนาจของเผยอี้ หรือแม้กระทั่งคำยืนยันจากเซี่ยเชาฉวินก็ตาม มันก็ไม่สามารถทำให้เขาวางใจได้จริงๆ

ในช่วงเวลานั้น เจิ้งซื่อหรงก็โดนเขาด่ากราดไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

การถ่ายทำโฆษณานั้น โดยเฉพาะกับการถ่ายโฆษณาเครื่องเพชรแล้ว การที่เลือกที่จะถ่ายเป็นขาวดำออกมา ถือว่าเป็นอะไรที่เสี่ยงมากสำหรับกังหัว

เพราะมันก็ไม่เคยมีใครกล้าที่จะเอาสินค้าของตัวเองมาทำขนาดนี้อยู่แล้ว

แต่ทว่าความโกรธของสวีโจวจี้นั้น ในนาทีที่ได้เห็นงานถ่ายโฆษณาที่ทำเสร็จเรียบร้อยจากปารีสแล้ว ไอ้ความรู้สึกที่โกรธจนใจเต้นมันก็ค่อยๆ หายไปในทันที และค่อยๆ กลายเป็นความพึงพอใจและชื่นชม

ภาพถ่ายต่างๆ ของเจียงเซ่อมันสวยมากจริงๆ เทคนิคการถ่ายรูปของช่างภาพ Basile เองก็ยอดเยี่ยมสุดๆ เขารู้และฉลาดในการจับจุดที่ดีที่สุด และใช้เทคนิคอื่นๆ เข้ามาใช้รวมกัน และถ่ายเพชรออกมาได้อย่างเปล่งประกายอย่างไม่มีวันดับ

ถ้าหากว่าถ่ายภาพออกมาเป็นสีสันละก็ การใช้เทคนิคการเล่นแสงเงาแบบนี้ ภาพที่ออกมาก็คงจะเหมือนๆ กับที่แพร่หลายทั่วไปแน่ๆ

แต่กับภาพที่มีสีเรียบง่ายแบบนี้แล้ว กับเขาที่มีจุดยืนเป็นของตัวเองแบบนั้น มันก็ยิ่งเป็นการเพิ่มความหรูหราให้กับตัวเพชรยิ่งกว่าเดิม และทำให้ภาพถ่ายภาพนี้ดูโดดเด่นขึ้นมาอีกด้วย!

ดังนั้นสวีโจวจี้จึงไม่มีคอมเม้นใดๆ ต่อภาพถ่ายโฆษณาเหล่านี้อีก เงินที่จ่ายออกไปมันก็ดูสมน้ำสมเนื้อดี เขาเหมือนจะพอนึกถึงสิ่งที่จะได้กลับมาหลังจากนี้เลยด้วยซ้ำ ถ้าถึงวันที่ต้องปล่อยภาพโฆษณาออกไปแล้วละก็ ผู้บริโภคก็จะจำรูปแบบของโฆษณาได้ ว่ามันต้องเป็นของกังหัวแน่ๆ และวันหลังเมื่อทุกคนนึกถึงภาพเครื่องเพชรขาวดำขึ้นมา ก็จะนึกถึงกังหัวคำๆ นี้ได้อย่างขึ้นใจ!