webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

235

บทที่ 235 หายใจ

ตอนที่เจียงเซ่อเดินคล้องแขนสวีโจวจี้ออกมา ในห้องทำงานของบริษัทหลงสิง เถาเถาที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ถึงกับต้องยกมือขึ้นทาบหน้าตัวเองทันที

ถึงจะเป็นคนที่จ้องจะจับผิดเจียงเซ่อก็เถอะ ต้องปฏิเสธไม่ได้แน่ๆ ว่าเธอเปล่งประกายมากแค่ไหน

เธอกำลังยืนอยู่ข้างเจ้าพ่อแห่งวงการเครื่องประดับของโลกอย่างมสวีโจวจี้ ด้วยท่วงท่าที่สง่างามไม่ด้อยไปกว่าใคร

แสงไฟระยิบระยับส่องลงมาจนทำให้ผิวของเธอแทบจะกลายเป็นสีขาวหิมะ ผมยาวเงาของเธอเรียงตัวสวยไปด้านหลัง โชว์ใบหน้าที่งดงามและสุภาพ เธอยิ้มๆ เล็กน้อย พอถูกกล้องต่างๆ จับภาพเอาไว้แล้ว ภาพที่ได้ออกมามันก็ออกมาสวยเหมือนกับว่าปรับภาพมาหมดแล้ว

เธอไม่ได้สวมเครื่องประดับมากมายอะไรนัก มีเพียงกำไลข้อมือและตุ้มหูเพชรคู่หนึ่งเท่านั้น แสงไปที่กระทบลงทำให้เกิดแสงแวววาว

ภาพจากนักข่าวที่อยู่ในห้องแถลงเริ่มทยอยปล่อยออกมากันแล้ว ทีนี้เถาเถาก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดเข้าไปอีกที่ไม่ได้ตามรุ่นพี่ไปทำข่าวที่ฮ่องกง

ยวี๋เจียเจีย : พวกเธอเห็นไหม? เจียงเซ่อที่อยู่ในงานโคตรสวยเลย!

ครั้งนี้ยวี๋เจียเจียเป็นนักข่าวที่ทางหลงสิงเลือกให้ไปทำข่าวที่ฮ่องกงโดยเฉพาะ หล่อนปล่อยรูปออกมาไม่หยุด ส่วนเถาเถาที่ยังอยู่ในห้องทำงานในตี้ตูก็ตามเซฟเก็บรูปจนมือระวิง

ส่วนรอบๆ ตัวเธอต่างก็พากันพูดถึงงานแถลงข่าวครั้งนี้กันอย่างคึกคัก ส่วนในเว็บเพจของ Gang Hua Jewelry เองก็มีคอมเม้นไหลผ่านแอย่างรวดเร็วและดุเดือด

ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าเจียงเซ่อจะมีชื่อเสียงพอหรือไม่พอ ผลงานจะมากหรือจะน้อย นิสัยจะเป็นอย่างไร ต่างก็ไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้ทุกคนสนใจแล้ว

อย่างน้อยก็เรื่องเสื้อผ้าแล้ว ที่เธอสามารถเอาคนทั้งห้องแถลงข่าวอยู่

ชุดกระโปรงสีเหลืองสว่างที่อยู่บนตัวเธอมันยิ่งทำให้ดูสง่าแต่ก็ยังไม่หมดความเป็นเด็กสาวไป บวกกับเครื่องประดับที่ไม่หวือหวา ตอนที่เธอก้าวเท้าออกมาเธอก็ดูจริงจังและมีเกียรติมากๆ มีโอกาสน้อยมากที่จะทำให้ขาเธอออกมาดูสั้น

ในช่องถ่ายทอดสดของกังหัว ก็มีหลายคนที่จำกระโปรงที่เจียงเซ่อสวมใส่อยู่ได้ มันดูเหมือนกับของช่างตัดเสื้อยอดฝีมือของฝรั่งเศสอย่าง Julien เพราะว่าเมื่อครึ่งเดือนก่อน แอคเค้าท์งขของ Julien ชาวฝรั่งเศสคนนี้ได้ลงรูปเสื้อที่เพิ่งตัดเสร็จที่ดูเป็นชุดกระโปรงที่เต็มไปด้วยความเป็นเด็กสาวออกมาด้วย

ในห้องแถลงข่าว สวีโจวจี้ได้กล่าวอะไรนิดหน่อย จากนั้นก็ปล่อยให้นักข่าวได้มีโอกาสถามขึ้นมาอีก

“คุณสวีคะ อย่างที่เราทุกคนรู้กันดี แบรนด์กังหัวเป็นแบรนด์ที่เกือบจะมีอายุครบหนึ่งร้อยปีแล้วด้วยซ้ำ และก่อนหน้านี้ ก็ไม่เคยมีแบรนด์ แอมบาสเดอร์เลยสักคน และทำไมจู่ๆ ถึงได้ตัดสินใจที่จะจ้างแบรนด์ แอมบาสเดอร์ขึ้นมาล่ะคะ?”

พูดถึงเรื่องธุรกิจก็ต้องตอบเรื่องธุรกิจ สินค้าสักชิ้นสำหรับดารานั้น จะต้องมีผลกำไรจากการขายเท่านั้น ถึงจะโดนเชื้อเชิญให้มาเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ได้

แต่ทุกคนต่างก็รู้ ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ว่าแค่ราคาของเครื่องประดับชุดหนึ่งมันก็เกิดค่าตัวดาราแล้วด้วยซ้ำ ดังนั้นก่อนหน้านี้ ก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ากังหัวได้เซ็นสัญญากับดาราคนไหน นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยที่พวกเขาทำสัญญาอะไรแบบนี้ แถมยังเลือกที่จะเซ็นกับดาราหน้าใหม่อีก แต่พอเสียงของนักข่าวจบลง

“ไม่ทราบว่าจริงๆ แล้วมีเรื่องอะไรเข้ามาเกี่ยวด้วยหรือเปล่าคะ?”

คำพูดนั้นของนักข่าวคนนั้นทั้งคมและตรง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พูดว่าเป็นเพราะเซี่ยเชาฉวินหรือเปล่า แต่สื่อต่างๆ ที่ได้ยินอย่างนั้นก็เข้าใจเป็นอย่างดี

เพราะเซี่ยเชาฉวินเป็นถึงผู้จัดการมือทองของซื่อจี้หยินเหอ แถมดาราที่อยู่ในความดูแลก็ยังเป็นถึงนางเอกแนวหน้าของประเทศอย่างเถาเฉิน ส่วนคนใหม่ที่เพิ่งมาก็คือเจียงเซ่อ

ในขณะเดียวกันหล่อนก็เป็นคนฮ่องกง และผู้มีชื่อเสียงทางด้านเครื่องประดับอย่างสวีโจวจี้เป็นถึงคุณลุงของหล่อนเองด้วย ทำให้มีหลายคนเกิดสงสัยขึ้นมาว่าที่เจียงเซ่อเข้าไปเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ให้กับกังหัวได้ราบรื่นขนาดนี้ มันจะเกี่ยวกับการที่เซี่ยเชาฉวินใช้เส้นสายตัวเองหรือเปล่า

ที่จริงสิ่งที่พวกนี้เดาก็ถือว่าไม่ผิด เพราะตั้งแต่แรกที่สามารถเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ให้กับกังหัวได้ มันก็เป็นเพราะเส้นสายของเซี่ยเชาฉวินเอง แต่ทว่าในยามที่ต้องอยู่ต่อหน้าสื่อมวลชนแล้ว คนอย่างสวีโจวจี้คงจะพูดอะไรแบบนั้นไม่ได้อยู่แล้ว

ในตอนที่เถาเถาเกิดความตื่นเต้นขึ้นมาแบบสุดๆ เขาก็กลับหัวเราะ ‘หึหึ’ ขึ้นมา หางตาของเขาเห็นเองก็เห็นแล้วว่าเจียงเซ่อยังคงดูสงบถึงแม้จะเจอกับคำถามแบบนั้นเข้า ในใจของเขาเองก็พึงพอใจไม่น้อย

“คำถามนี้เป็นคำถามที่ดีมากเลยครับ!”

เขาเลือกแล้วที่จะตอบคำถามของนักข่าวคนนี้ จากนั้นเขาก็พูดออกมาด้วยท่าทางที่จริงจังไม่น้อย

“ทุกคนก็รู้ใช่ไหมครับ การที่ Gang Hua Jewelry เดินมาถึงตรงนี้ได้ พวกเราก็พึ่งคุณภาพของตัวสินค้า และการออกแบบของนักออกแบบเครื่องประดับมาโดยตลอด ถึงได้รู้ว่าต้องทำออกมาแบบไหนลูกค้าถึงจะชื่นชอบมัน จากตอนที่มันยังอยู่ในมือของคุณพ่อ จนมาถึงรุ่นของผมเอง ผ่านประสบการณ์มามากมายมา กว่าเจ็ดสิบแปดสิบปี ในตอนนี้ ยังไม่เคยมีสักครั้งที่จะเซ็นสัญญากับแบรนด์ แอมบาสเดอร์คนไหน แต่ทว่า การที่เมื่อก่อนไม่มี ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีไม่ได้นี่ครับ”

ตอนที่สวีโจวจี้พูดออกมาแบบนั้น ทั้งห้องแถลงข่าวก็ได้ยินแต่เสียงชัตเตอร์รัวๆ นักข่าวแต่ละคนที่ถือเครื่องอัดเสียงเอาไว้ และตั้งใจฟังในสิ่งที่เขาพูดอย่างเงียบๆ

“บุคลิกท่าทางของคุณเจียงนั้น ก็เหมือนกับความสง่า ความงดงามที่ Gang Hua Jewelry มีมาโดยตลอด ถึงแม้ว่า Gang Hua Jewelry จะถูกสร้างขึ้นมาเกือบจะหนึ่งร้อยปีแล้ว แต่สำหรับขั้นตอนการพัฒนาเพื่อความก้าวหน้านั้น มันก็เพิ่งเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ยังเหมือนกับเด็กคนหนึ่งที่กำลังฝึกก้าวเดินครับ”

สวีโจวจี้ยังคงพูดเรื่อยๆ ส่วนเจียงเซ่อก็ยกมือข้างที่ใส่กำไลขึ้น และลูบผมตัวเองเล็กน้อย

กำไลเพชรที่เป็นแบบเส้นเล็กที่ยังมีความทันสมัยไม่ดูแก่นั้นเผยต่อสายตาทุกๆ คน

ถึงแม้ว่าเวลาที่ได้ออกกล้องจะไม่ได้นานนัก แต่ท่วงท่าทีสวยงามของเธอมันก็ทำให้คนที่ได้มองเกิดตาพร่าขึ้นไม่น้อย กำไลนั่นอยู่บนข้อมือเล็กที่ขาวเนียนละเอียดนั่น ทำให้ชาวเน็ตที่ยังอยู่หน้าเว็บของ Gang Hua Jewelry เริ่มโพสคอมเม้นกันแบบบ้าคลั่งอีกครั้ง

ไดอาน่า : กำไลข้อมือนั่นของกังหัวด้วยใช่ไหม? แต่ก่อนไม่เคยเห็นเลยแฮะ ออกมาใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย โคตรสวยเลย!

บทความที่สวยหรู : แต่ก่อนเคยคิดมาตลอดว่าแบบเครื่องประดับของ Gang Hua Jewelry มันดูเป็นผู้ใหญ่เกินไป และมันก็ดูเหมาะกับที่จะให้แม่ฉันใส่มากกว่า แต่ว่ากำไลข้อมือที่ในแบบที่คุณเจียงสวมอยู่นั่นได้ทำลายความคิดแบบนั้นของฉันไปแล้วสิ!

......

ในขณะที่สวีโจวจี้กำลังพูดอยู่ ก็สังเกตเห็นท่าทางของเจียงเซ่อเองเหมือนกัน และนั่นก็ยิ่งทำให้ในใจของเขาเกิดความพอใจมากขึ้น เขายังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ ประมานสามสี่นาทีผ่านไปก็จบลง

ทุกคนเองก็พอจะเข้าใจความหมายของสวีโจวจี้ดี ถ้าพูดอย่างง่ายๆ ตอนนี้เขาเองก็รู้ว่ากำลังมีคนจับตามองจากอินเทอร์เน็ตอยู่มากมาย สำหรับเครื่องประดับในแบบเก่าๆ ส่วนมากก็จะเป็นที่นิยมเฉพาะผู้หญิงที่อายุสามสิบขึ้นไปแล้วเท่านั้น

ครั้งนี้ที่ทางกังหัวได้เซ็นสัญญากับเจียงเซ่อ ก็เริ่มที่จะมีการเจาะตลาดของเหล่าวัยรุ่นกันบ้าง

มีคนถามขึ้นมา

“แต่คุณสวีไม่คิดบ้างหรือคะ ว่าถ้า Gang Hua Jewelry กลายมาเป็นแบบนี้แล้ว จะค่อยๆ สูญเสียลูกค้าประจำไป?”

“มันไม่มีทางเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นแน่นอนครับ!”

สวีโจวจี้ตอบขึ้นมาอย่างโอ้อวด

“กังหัวเรายึดมั่นในหลักการที่ดีงามและความเพียบพร้อมมาเสมอ และมันก็เป็นสิ่งที่ผมและทีมงานทุกคนในบริษัทตั้งใจที่จะรักษามาโดยตลอด ส่วนความฝันอันใหม่ที่เรากำลังจะผลักดันให้มันเป็นจริงนั้น เป็นสิ่งที่นักออกแบบเครื่องประดับเป็นคนสร้างมันขึ้นมา เพชรทุกเม็ดที่อยู่บนเครื่องประดับถูกเจียระไนและถูกทดสอบมาอย่างดีเสมอครับ”

เขาดีดนิ้วขึ้นมาหนึ่งที พนักงานสาวคนหนึ่งก็ค่อยๆ ดันเครื่องประดับที่ถูกเก็บล็อคไว้อยู่ในตู้กระจกออกมา

ชุดเครื่องประดับที่ถูกนำมาเผยตาสายตาคือกำไลและตุ้มหูคู่หนึ่ง คนตาแหลมหลายคนก็สังเกตได้ว่ามันคือชุดที่เจียงเซ่อกำลังสวมใส่อยู่ด้วย

“มันสวยมากจริงๆ ค่ะ แต่คุณสวีคะ คุณถือว่าได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นถึงเรื่องนี้แล้ว ว่าชุดเครื่องประดับชุดใหม่นี้เหมาะกับคุณเจียงที่เป็นวัยรุ่น ดูสวยงามราวกับภาพฝันจริงๆ แต่มันจะเป็นการยืนยันได้อย่างไรล่ะคะ ว่าชุดเครื่องประดับชุดนี้จะเหมาะกับหญิงสาวที่สง่างามและเฉลียวฉลาด?”

สวีโจวจี้หัวเราะขึ้นมา

“งั้นขอเชิญให้ทุกคนดูบนหน้าจอนะครับ”

ในงานแถลงมีหน้าจอใหญ่อยู่หน้าจอหนึ่ง หน้าจอที่ตอนแรกเปิดฉายถึงประวัติบริษัท การทำงานของทีมงานได้ถูกหยุดเอาไว้ ไฟในห้องรอบๆ เริ่มดับลง ท่ามกลางความมืด หน้าจอนั้นสว่างขึ้นอีกครั้ง และกลายเป็นรูปของเจียงเซ่อที่อยู่บนนั้นแทน ทำให้ตรงหน้าของคนเหล่านั้นสว่างวาบขึ้น