webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

234

บทที่ 234 หยุดลม

หลังจากที่คุยเรื่องหนังกับจ้าวร่างเสร็จแล้ว เจียงเซ่อเองก็ไม่ได้รีบที่จะให้เซี่ยเชาฉวินช่วยนัดเจอหลิวเย่แต่อย่างใด

ถ้าอยากจะเกลี่ยกล่อมหลิวเย่ละก็ อย่างน้อยเธอก็ต้องพอมีอะไรที่จะเป็นตัวยืนยันให้หลิวเย่ได้บ้าง และตอนนี้เธอก็คิดแค่ว่าจะตั้งใจฝึกซ้อมไปก่อน

เมื่อวันที่ยี่สิบเจ็ดมาถึงเจียงเซ่อก็ต้องโบกมือลาเผยอี้อีกครั้ง บินไปฮ่องกงเพื่อเข้าร่วมการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ

จนมาถึงตอนนี้ ทาง Gang Hua Jewelry ก็เพิ่งจะได้ลงข่าวยืนยันเกี่ยวกับที่เจียงเซ่อได้เป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ของตัวแบรนด์แล้ว!

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีข่าวโคมลอยออกมาบ้างแล้ว บอกว่าเจียงเซ่อได้มีความร่วมมีกับทาง Gang Hua Jewelry แต่พอมีข่าวจริงๆ มายืนยันอีกที มันก็ยิ่งทำให้ทุกๆ คนตะลึงกันไปใหญ่

มันก็เป็นเพราะว่าแต่ไหนแต่ไรมา Gang Hua Jewelry ไม่เคยมีพรีเซนเตอร์หรือแบรนด์ แอมบาสเดอร์มาก่อนเลยสักครั้ง แล้วยิ่งเป็น ‘กังหัว’ สองคำนี้แล้วด้วย นั่นมันก็พอสำหรับการเป็นเครื่องยืนยันของตัวสินค้าเองแล้ว

แต่ครั้งนี้จู่ๆ ก็ปล่อยข่าวออกมาว่ามีแบรนด์ แอมบาสเดอร์คนใหม่ และครั้งนี้ก็ไม่ใช่แค่สื่อในฮ่องกงเท่านั้น เพราะแม้แต่สื่อในแผ่นดินใหญ่เองก็เล่นข่าวนี้กันอย่างคึกคักเช่นกัน หลังจากที่ได้คำยืนยันจากทางกังหัวแล้ว สื่อต่างๆ จากแผ่นดินใหญ่ก็พากันเดินทางไปที่ฮ่องกง

และเพราะสถานะของกังหัว การประกาศตัวแบรนด์ แอมบาสเดอร์ในครั้งนี้ก็จะมีการถ่ายทอดสดด้วย

สื่อจากสำนักข่าวต่างๆ เองก็มาถึงกันเรียบร้อยแล้ว โม่อานฉีรวบชุดราตรีของเจียงเซ่อที่เซี่ยเชาฉวินได้เตรียมเอาไว้ให้ และรอช่างสไตล์ลิสต์มาพาเจียงเซ่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

ก่อนหน้านี้ที่อยู่ที่ฝรั่งเศส เซี่ยเชาฉวินก็ได้จัดการหาชุดราตรีให้เจียงเซ่อสวมใส่มาในงานแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์ แอมบาสเดอร์ของ Gang Hua Jewelry เอาไว้ให้แล้ว

ชุดราตรีได้ให้ห้องเสื้อที่อยู่ในระดับไฮน์เอนด์อย่าง Julien เป็นคนตัด ในวันที่ถ่ายโฆษณากังหัวในวันนั้น ทั้งชุดราตรีตุ้มหูและกำไลข้อมือต่างก็เป็นฝีมือของเขาทั้งสิ้น

ชุดราตรีชุดนี้เพิ่งจะได้มาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง และตัวชุดก็เจาะจงให้เป็นแบบเด็กสาวบริสุทธิ์

คอเสื้อเป็นแบบคอจีน รายละเอียดในแต่ละชั้นแต่ละจุดถูกตัดเย็บด้วยช่างตัดเสื้อที่มีฝีมือประณีตเหนือธรรมชาติ ทำให้มันเป็นกลีบออกมา ถึงเป็นการปิดทรวงอกที่หลักแหลมและสวยงามมากๆ

ตัวกระโปรงเป็นแบบหน้าสั้นหลังยาว กระโปรงข้างหน้าเลยเหนือเข้าขึ้นมายี่สิบเซน ปลายกระบอกเสื้อเป็นแบบทรงเปลือกหอย ทำให้ไหล่ของเธอดูกว้างขึ้น

เพราะกระโปรงตัวนี้ถูกตัดมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นความยาวของประโปรงและความกว้างของเอวจะสวยใส่ได้อย่างพอดี กับเสื้อที่ต้องยืมมาใส่ก็เทียบไม่ได้ด้วยซ้ำ

ตอนที่เธอเปลี่ยนชุดและเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อแล้ว โม่อานฉีก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาอย่างชื่นชม

เพราะเจียงเซ่อมีผิวที่ข่าวมาก ขาคู่นั้นของเธอก็ทั้งยาวและเรียวสวย ยิ่งพอชุดสีเหลืองสว่างมันไปอยู่บนตัวเธอแบบนั้นแล้วมันก็ยิ่งดูไร้ที่ติเข้าไปอีก เหมือนกับดอกไม้ที่แสนนุ่มนวลในฤดูใบไม้ผลิ กิริยาท่าทางดูนุ่มนวลที่สุด

เพื่อป้องกันไม่ให้กระโปรงด้านหลังมันยับตอนนั่ง เจียงเซ่อจึงเลือกที่ยืนแต่งหน้าตลอดจนเสร็จ ขณะนั้นเองก็มีคนของกังหัวเอาเครื่องประดับอย่างกำไลข้อมือและตุ้มหูมาให้เธอตามที่ได้เขียนเอาไว้ในสัญญาข้อตกลง และเครื่องประดับที่เจียงเซ่อได้มามันก็เป็นชุดที่เธอได้ถ่ายโฆษณาที่ปารีสไปนั่นเอง แต่แค่พอเปลี่ยนชุดที่สวมใส่แล้ว มันก็ได้ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปทันที

ช่างทำผมแบ่งผมตรงกลาง และรวบผมตรงยาวสวยของเธอให้ทิ้งตัวมาด้านหลังทั้งหมด

เซี่ยเชาฉวินมองเธอครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าโอเค จากนั้นบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ข้างหน้าห้องก็เดินเข้ามาบอกว่าคุณสวีมาถึงแล้ว

ข้างนอกนั่นมีสื่อมามายมาถึงที่แถลงข่าวกันแล้ว ส่วนเจิ้งซื่อหรงรับหน้าที่เป็นคนคุมสถานการณ์งานอยู่ข้างนอก แถมยังได้ยินเสียงกดชัตเตอร์และเสียงนักข่าวที่ถามคำถามขึ้นมาเป็นระยะๆ ด้วย

สวีโจวจี้อายุราวๆ หกสิบ เป็นคนตัวสูงผอม ไว้ทรงผมที่ดูเรียบร้อยและสมกับเป็นคนที่มีฐานะ สวมชุดสูทสีน้ำเงินเทากำลังเดินขึ้นไปบนเวที

ทุกคนต่างต้อนรับเขาเป็นอย่างดี และนี่ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเจียงเซ่อ ถึงแม้ว่าจะเป็นคนตัดสินใจที่จะให้เจียงเซ่อได้เป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ของสินค้า แต่ตั้งแต่ที่ตกลงเซ็นสัญญากัน นี่ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองได้เจอกัน

สำหรับเจียงเซ่อแล้วสวีโจวจี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน ก่อนที่เธอจะมาเกิดใหม่เธอก็ได้พบกับเจ้าของแบรนด์เครื่องประดับที่สวยงามของฮ่องกงนี่มาหลายครั้งแล้ว แต่มันก็เป็นเพราะช่วงอายุที่ห่างกันเกินไป จึงได้คุยกันแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น

หลังจากที่จับมือทักทายกันแล้ว สวีโจวจี้ก็วาดยิ้มเต็มใบหน้า ตอนที่อยู่ต่อหน้าเจียงเซ่อก็ไม่ได้มีท่าทางเหมือนกับกำลังพยายามทำอะไรแบบนั้น ราวกับว่าไม่เคยเกิดเรื่องที่สวีป่ายซิงโดนเผยอี้ทำร้าย

หลังจากคุยเล่นกันครู่หนึ่ง และได้เซี่ยเชาฉวินแนะนำกันเล็กๆ น้อยๆ แล้ว เจิ้งซื่อหรงที่อยู่ข้างนอกก็ส่งคนมาดูแล้ว

ที่ห้องจัดแถลงงานคนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ แล้ว และสื่อต่างๆ ก็ดูจะแปลกใจและสนใจเกี่ยวกับการที่กัวหัวมีแบรนด์ แอมบาสเดอร์มากๆ รวมไปถึงเรื่องคนที่ได้เป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์เองด้วย

เจียงเซ่อคล้องแขนสวีโจวจี้ บนเวทีกับเสียงปรบมือที่ดังกึกก้อง เธอเดินออกมาโดยมีสวีโจวจี้เป็นคนนำพา

ทั้งๆ ที่เพิ่งก้าวออกมา ไฟก็ค่อยๆ ส่องสว่างขึ้นไปที่ทั้งสองคน ทำให้เห็นทั้งสองคนท่ามกลางความมืดได้อย่างชัดเจน

ถ้าหากไม่เคยต้องมาอยู่ต่อหน้าคนเยอะๆ ขนาดนี้แล้วละก็ ข้างล่างเวทีที่มีคนแน่นเต็มไปหมด แถมยังเป็นสื่อจากที่ต่างๆ แบบนี้แล้วด้วย มันคงจะทำให้รู้สึกประหม่าได้ไม่น้อยเลย

กล้องแต่ละตัวจับไปที่ทั้งสองคน สวีโจวจี้ที่คิดว่าจะหันไปปลอบใจเจียงเซ่อสักคำสองคำ อยากกำชับให้เจียงเซ่อไม่ต้องกลัวอยู่นั้น ก็พบว่าเจียงเซ่อกำลังเงยยิ้มด้วยอารมณ์ที่สงบ ตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่มีตรงไหนที่ดูไม่เป็นธรรมชาติเลย

งานแถลงข่าวในครั้งนี้ถูกถ่ายทอดผ่านอินเทอร์เน็ตไปทั่วประเทศ คนภายในประเทศไม่น้อยที่กำลังนั่งจ้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือไม่ก็แท็บเล็ต มือถืออย่างให้ความสนใจไม่น้อย

ครั้งนี้เป็นเพราะประสบการณ์ยังน้อย เลยยังไม่ได้รับมอบหมายงานเหมือนกับรุ่นพี่ จึงทำได้แค่นั่งอยู่หน้าคอมกับเพื่อร่วมงานคนอื่นๆ เพื่อดูถ่ายทอดสดแทน

หล่อนรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยที่ไม่มีโอกาสได้ไปเห็นหญิงสาวในฝันใกล้ๆ แต่ก็รู้สึกดีใจแทนหญิงสาวในฝันด้วย

บนเว็บเพจของ Gang Hua Jewelry ในตอนนี้มีคนคนถามข้อสงสัยขึ้นเรื่อยๆ

เพราะ Gang Hua Jewelry ก่อตั้งมานานหลายปี ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ก็ไม่เคยให้ใครมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เลยสักคน

สำหรับผู้บริโภคแล้ว สินค้าเครื่องประดับของ Gang Hua Jewelry มันมีเอกลักษณ์และความพิเศษอยู่ในตัวของมันอยู่แล้ว หลายๆ คนจึงสงสัยว่าเจียงเซ่อจะสามารถดันสินค้าได้จริงหรือ

ในกล่องคอมเม้นนั่น มีชาวเพื่อนชาวโซเชียลถามคำถามแบบนี้ขึ้นมามากมาย กังวลว่าเจียงเซ่อจะทำลายชื่อเสียงของแบรนด์นี้เสียเปล่าๆ กลัวว่าเธอจะไม่เหมาะสมกับแบรนด์อันเก่าแก่แบบนี้

อวิ๋นตวนจือซ่าง : ตั้งแต่ที่กำเนิดแบรนด์ Gang Hua Jewelry มาจนถึงทุกวันนี้ ก็ถือว่ามีอายุมากว่าเกือบจะร้อยปีแล้ว เจียงเซ่อยังเป็นแค่ดาราหน้าใหม่ ดูจากหนังที่เธอเคยเล่น รูปภาพที่เธอเคยถ่าย เธอสวยมากก็จริง แต่ว่าอายุเธอไม่น้อยไปหน่อยเหรอ เธอเหมาะสมที่จะได้เป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ ของแบรนด์แบบนี้แล้วจริงๆ หรือ ดูเธอยังไม่ประสีประสาเลยด้วยซ้ำ ครั้งนี้กังหัวเสี่ยงเกินไปรึเปล่า?

คนบนอินเทอร์เน็ตหลายคนก็เหมือนจะเห็นด้วยกับคนๆ นี้ เลยทิ้งคอมเม้นไปเรื่อยๆ เถาเถาที่เห็นแบบนั้นแล้วก็รู้สึกว่าจะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้แล้ว ถึงมีท่าทางหงุดหงิดออกมาไม่น้อย

จริงๆ อีกใจหนึ่งก็กลัวเหมือนกันว่าเจียงเซ่อดูไม่เหมาะกับงานแบบนี้นัก แล้วก็จะกลายเป็นที่ตลกของเหล่าชาวเน็ตเปล่าๆ แต่อีกใจมันก็มีความมั่นใจว่าเธอจะไม่ทำให้ขายหน้าแน่นอน

ตอนนี้หล่อนรู้สึกโมโหมคอมเม้นบนอินเทอร์เน็ตเป็นอย่างมาก จึงอดไม่ได้ที่จะตอกกลับไปหลายประโยค

ตอนนี้ทางฮ่องกงได้ปล่อยรูปที่เจียงเซ่อถ่ายแต่ละรูปออกมาแล้ว และมันทำให้เถาเถารู้สึกกลุ้มใจแต่ก็รอคอย

หล่อนเลื่อนหน้าจอย่างเบื่อๆ เพราะว่าครั้งนี้ตามรุ่นพี่ไปที่ฮ่องกงไม่ได้ หล่อนอยากจะไปเห็นเจียงเซ่อใกล้ๆ อีก และปรารถนาที่จะไปเห็นตอนที่เจียงเซ่อเดินออกมา และทำให้ทั้งงานตกตะลึงแบบนั้นบ้าง

สถานที่จัดงานทำออกมาได้สวยมาก ภาพรอบๆ งานที่อยู่บนหน้าจอนั่น มีทั้งรูปของเครื่องประดับและประวัติย่อๆ ของทางบริษัท

ทั้งๆ ที่หล่อนไม่ได้อยู่ในงาน แต่กลับมีความรู้สึกเหมือนโดนดึงดูดให้มองรูปภาพเหล่านั้น

เจิ้งซื่อหรงเป็นคนตอบคำถามเหล่านักข่าวก่อน เกี่ยวกับแผนโครงการต่อไปของ Gang Hua Jewelry ประมาณยี่สิบนาทีผ่านไป ในที่สุดเถาเถาก็ได้ยินคนๆ หนึ่งตะโกนขึ้นมา

“ขอเรียนเชิญคุณสวีและคุณเจียง”

นาทีนั้นทั้งงานก็มีเสียงปรบมือดังกึกก้อง กั้นเพียงแค่หน้าจอ แต่เถาเถากลับอดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจไปด้วย