webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

225

บทที 225 โดยที่ไม่ได้คิดอะไร

ด้านหลังของโรงเรียนมีหอสมุด และมันก็อยู่ยาวนานมากว่าเจ็ดสิบแปดสิบปีแล้ว และที่นั่นก็มีต้นผาซานหู่ขึ้นอยู่เต็มไปหมด ช่วงเวลาในฤดูใบไม้ร่วง ซึมซับเอาบรรยากาศ และสิ่งอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป ทำให้ใบผาซานหู่กลายเป็นสีแดงเพลิง ทำให้ตึกห้องสมุดแห่งนั้นกลายเป็นที่ที่สวยงามอย่างมาก

แต่ก่อนสิ่งที่เฝิงหนานชอบที่สุดก็คือการได้ไปหมกตัวนั่งอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน เธอชอบบรรยากาศที่เงียบสงบ ชอบสถานที่ที่เหมือนดั่งกลอนดั่งภาพวาด

เธอที่เป็นเด็กสาวในตอนนั้นกับเธอในตอนนี้ไม่เหมือนกัน ที่ยังมีแต่ความไร้เดียงสาและยังอ่อนต่อโลก ตอนนั้นเผยอี้รู้แค่ว่าเขาต้องทำดีต่อเธอให้มากๆ ยังโง่และไม่เข้าใจว่าความรู้สึกดีๆ ที่มีในตอนนั้นก็คือความชอบ รู้แค่ว่าหลายปีต่อมา เขาก็ยังสามารถจำทุกๆ คำพูดของเธอได้ ยังจำสิ่งต่างๆ ที่เธอชอบได้ ไม่จำเป็นต้องไปพยายามนึกถึงมันเลยด้วยซ้ำ ตอนที่เขาซื้อคฤหาสน์กลางสวนนี้เอาไว้ และเป็นคนเลือกที่จะปลูกต้องผาซานหู่เอาไว้ตรงห้องๆ นี้ เขาก็ได้รู้ว่าตัวเองคงกู่ไม่กลับแน่ๆ แล้ว

ต้นผาซานหู่พวกนั้นเพิ่งจะโตได้แค่สองสามปีเอง แต่มันก็โตพอจนเกือบจะพันไปรอบผนังห้องแล้ว

เจียงเซ่อวางหนังสือลง แล้วเดินตามเขาไปที่หน้าต่างนั่น เธอเอียงตัวเข้าไปใกล้ ก่อนจะค่อยๆ คลี่ยิ้มขึ้นแล้วหันไปมองเผยอี้ เขาเองก็หันหน้ามาเช่นกัน แสงแดงสาดส่องลงมาบนผมของเธอ บนใบหน้าของเธอ เจียงเซ่อผิงตัวกับขอบหน้าต่างแล้วมองเขายิ้ม ส่วนเผยในตอนนี้เริ่มมีภาพต่างๆ ผุดขึ้นมาเป็นฉากๆ

แสงแดดลอดผ่านเข้ามาตามผ้าม่านสีขาวที่ปลิวไสว เผยอี้ยื่นมือไปจับมันเอาไว้ แล้วเลื่อนไปไว้ข้างๆ ตัวเธอ แววตาเผยความรู้สึกที่เฝ้าปรารถนา “สวยมากจริงๆ”

ผ้าคลุมสีขาวบางถูกเขาเปิดขึ้นและปล่อยไปไว้ด้านหลังของเธอ ในความคิดของเขา เธอกำลังสวมชุดเจ้าสาว เป็นภาพวันที่เธอได้แต่งงานกับเขา

“ถ้าพวกเราแต่งงานกันแล้ว เรามาจัดงานแต่งงานกันที่นี่ ดีไหมครับเซ่อเซ่อ?”

แววตาจองเขาเต็มไปด้วยความหวังอันแรงกล้า ดวงตาสุกใสทอแสงและมีเงาของเธออยู่ในนั้น หางตาของเจียงเซ่อเหลือบไปเห็นต้นผาซานหู่ที่ขึ้นเต็มอยู่บนกำแพงข้างนอกนั่น ก็เกิดคิดถึงช่วงเวลาตอนที่ตัวเองยังเป็นเด็ก เหมือนว่าตัวเองกำลังได้กลับไปอยู่ในวันวาน เหมือนความทรงจำมันค่อยๆ เอ่อล้นออกมาจากรูขุมขนและแล่นไปทั่วร่างกายจนไปถึงใจของเธอ

“เอาสิ”

เธอคิดเหตุผลที่จะมาปฏิเสธไม่ได้แล้ว เพราะบางทีความรู้สึกก็ใช่ว่าจะสามารถให้สติปัญญามาตัดสินได้

เผยอี้เปิดผ้าม่านออกจนสุด แล้วรวบเธอเข้าไปกอดแน่น

ก็อย่างที่ผู้ดูแลบ้านบอกเอาไว้ ปีนี้ที่บอร์โดอากาศดีมาก องุ่นก็สุกเร็ว และช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ก็จะเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวพวกมันแล้ว

ตอนนี้ส่วนมากเขาจะใช้เครื่องจักรในการเก็บองุ่นกันแล้ว แต่เป็นเพราะว่าเผยอี้ได้ซื้อสวนนั้นเอาไว้แล้ว เลยยังให้เก็บด้วยมือเหมือนเดิม

ตั้งแต่ปลายเดือนเป็นต้นไป ในสวนก็เริ่มมีชาวสวนเข้ามากันเยอะแล้ว

เผยอี้ขับรถแทรกเตอร์ออกมา พาเจียงเซ่อไปดูนู่นดูนี่เล่นเรื่อยๆ ไกลๆ นั่นมีคนงานที่กำลังทำงานกันอย่างคึกคัก

“เซ่อเซ่อ ร้อนไหมครับ?”

เผยอี้จอดรถแทรกเตอร์หน้าไร่องุ่น ตอนนี้ไร่มีพวงองุ่นมากมายที่สุกเต็มที่แล้ว แต่ยังไม่มีคนงานมาเก็บมันไป เจียงเซ่อจับหมวกกันแดดที่สวมอยู่เอาไว้ แล้วกระโดดลงจากรถ เผยอี้เองก็ใช้ปลายแขนเสื้อตัวเองเช็ดเหงื่อบนจมูกให้เธอ

“หรือไปนั่งพักตรงนั้นก่อนดีครับ?”

เธอส่ายหัว แล้วเกินความสงสัยขึ้น “อาอี้ ตรงนี้เขาไม่เก็บกันเหรอ?”

“เผย”

ยังไม่ทันที่เผยอี้จะได้ตอบ ก็มีคนตะโกนเรียกชื่อเขามาจากที่ไกลๆ

ความสัมพันธ์ของเขาต่อคนที่นี่ถือว่าไม่เลวเลย ตลอดทางที่ผ่านมาก็มีคนทักทายเขากันเต็มไปหมด และครั้งนี้เหมือนทุกคนจะรู้ด้วยว่าเขาพาแฟนสาวสุดที่รักมาด้วย

เจียงเซ่อหันหน้าไปมอง ก็เห็นเป็นรถแทรกเตอร์ที่กำลังขับมาจากไกลๆ ชายชราสวมเสื้อเชิ้ตเรียบร้อยคนหนึ่งกำลังยิ้มและกวักมือให้กับเผยอี้ เขาหันหน้ามาและแนะนำให้เจียงเซ่อได้รู้จัก

“เขาคือ Pierre คนที่อยู่ไร่ข้างๆ ที่ผมพูดถึง”

ชายชราคนนั้นกระโดดลงมาจากรถแทรกเตอร์ และเดินมาหาทั้งสองคน

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ เผย”

ทั้งสองแตะหมัดทักทายกัน เผยอี้แนะนำเจียงเซ่อให้เขารู้จัก แล้วใบหน้าของเขาก็เผยรอยยิ้มเหมือนรู้กันออกมา

“เธอคือเจ้าของไวน์ขวดนั้นของนายสินะ”

“ใช่ครับ”

เผยอี้ตอบกลับอย่างไม่สะทกสะท้าน

ก่อนหน้านี้เขารู้จะกับ Pierre เพราะไปเรียนการทำไวน์กับเขา และตอนนั้นเขาก็ไม่ได้ปิดบังเหตุผลที่ต้องการเรียนรู้มัน เขาบอกไปตรงๆ เลยว่าจะทำเพื่อมอบให้กับหญิงสาวที่ชอบ

Pierre เองก็มีบ้านอยู่ในไร่ข้างๆ นี้ ความรู้เกี่ยวกับองุ่นและไวน์ของเขาทำให้เจียงเซ่อรู้สึกตื่นตาตื่นใจไม่น้อย

ทั้งชนิดของไวน์และปีของมัน และการหมักต่างๆ เขาพูดออกมาได้อย่างฉะฉานมากๆ

“อย่างองุ่นแถวนี้ ต้องรออีกหน่อยถึงจะเก็บได้ เหมือนเป็นการทิ้งให้มันอยู่บนนี้ก่อน พอมันแห้งแล้ว ความหวานของมันก็จะเข้มข้นขึ้น แล้วค่อยเก็บมันตอนั้น ถ้าเอาไปหมักไวน์มันจะมีรสที่หวานกว่า และน่าจะเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ ด้วย” แล้วเขาก็มองไปที่เผยอี้ “คืนนี้มีงานเลี้ยง นายจะพาแฟนไปเที่ยวหน่อยก็ได้นะ”

เผยอี้พยักหน้า Pierre พูดคุยอีกนิดหน่อย ก่อนจะกดหมวดที่สวมอยู่ลงแล้วเดินกลับไปที่รถแทรกเตอร์ของตนเอง โบกมือให้และขอตัวกลับไปก่อน

เจียงเซ่ออยู่ที่ปารีสจนถึงช่วงต้นเดือนกันยายนถึงค่อยกลับประเทศ และตอนนั้นก็เป็นตอนที่หนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ กำลังเข้าฉายพอดี

บนอินเทอร์เน็ตมีข่าวเกี่ยวกับเฝิงหนานเต็มไปหมด เพราะหล่อนถือเป็นหนึ่งในคนที่สร้างเจียงหนานบันเทิงขึ้นมา แถมยังเป็นถึงลูกหลานของตระกูลวิสาหกิจฮ่องกงจงหนาน อีกทั้งคู่หมั้นก็ยังเป็นถึงคนที่มีหน้ามีตาในสังคมอย่างจ้าวจวินฮั่น ตัวหล่อนเองก็ยังสาวและรูปร่างหน้าตาดี ทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่บนตัวของเฝิงหนาน ทำให้ถึงหนังยังไม่ได้เริ่มโปรโมท มันก็สามารถกลายเป็นสิ่งที่เรียกความสนใจได้แล้ว แม้แต่นางเอกของเรื่องอย่างจ้าวรั่วจวินและดาราสาวคนอื่นๆ ที่อยู่ในหนังก็ยังโดนรัศมีของเธอกลบหมด

และนอกจากจะเป็นนักลงทุนแล้วก็ยังควบตำแหน่งบทบาทที่ค่อนข้างสำคัญในหนังอีกด้วย ช่วงโปรโมทหนังเรื่องนี้ จางจิ้งอานก็ยังให้หล่อนได้ติดสอยห้อยตามไปทุกๆ ที่ และมันก็ยิ่งทำให้คนรู้จักหล่อนมากยิ่งขึ้น

ทั้งบนอินเทอร์เน็ตและบนสื่อขาวต่างก็มีแต่ข่าวที่เกี่ยวกับเฝิงหนาน เกือบจะทุกครั้งที่เจียงเซ่อเปิดอินเทอร์เน็ตดู ก็ต้องเจอกับข่าวที่เกี่ยวกับเฝิงหนาน

เฝิงหนานหยิบใช้ฐานะและชาติกำเนิดของตัวเอง หนังที่ยังไม่ทันได้เข้าฉาย แต่ก็สามารถสร้างความสนใจให้กับผู้คนได้แล้ว และเริ่มที่จะมีแฟนคลับขึ้นมา คอยสร้างเพจนู่นๆ นี่ขึ้นมาให้กับหล่อน

ทั้งข้อมูลของหนัง และตัวอย่างของหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ เองก็ออกมาแล้ว เจียงเซ่อเองก็กดเข้าไปดู มันเป็นจุดต่างๆ ที่น่าสนใจของหนังประมาณสองนาที และฉากของเฝิงหนานก็ได้อยู่ในนั้นด้วยเช่นกัน

แต่เบื้องต้น เหล่านักวิจารณ์หนังและคนดูทั้งหลายที่เข้ามาดูล้วนแล้วก็เป็นเพราะชื่อของจางจิ้งอานดึงดูดให้เข้ามาดู และต่างก็รอวันที่จะเข้าไปดูเรื่องเต็มกันแทบไม่ไหว

หนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ จะเข้าฉายในวันที่เก้าเดือนกันยายนพร้อมกันทั่วโลก และถึงจะพลาดจากช่วงเดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนสิงหาคมที่เป็นช่วงเวลาทองคำ*เป็นช่วงที่มีวันหยุดยาวไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อหนังเลย

แค่ชื่อของจางจิ้งอานก็สามารถเป็นเครื่องการันตียอดขายบัตรได้แล้ว ตั้งแต่ที่เขาเริ่มถ่ายเรื่องแรกจนมาถึงตอนนี้ ไม่ว่าจะเรื่องไหนๆ เขาก็สามารถกวาดรางวัลจากงานภาพยนตร์นานาชาติมาได้

หนังเรื่องก่อนหน้านี้ที่เขาถ่ายทำ ต้นทุนและนักแสดงส่วนมากก็ล้วนแล้วมาจากทางฝั่งยุโรปอเมริกาทั้งนั้น นี่ถือว่าเป็นเรื่องแรกที่ได้มีเป็นของหัวเซี่ยเอง ไม่แม้แต่เนื้อเรื่อง ทั้งทุนและนักแสดงต่างๆ ล้วนแล้วเป็นคนที่เลือกจากภายในประเทศทั้งนั้น

ในหนังเจียงเซ่อเป็นเพียงตัวประกอบตัวหนึ่งเท่านั้น พอคิดๆ ดูแล้วนี่ก็เหมือนเป็นประตูบานแรกที่เธอได้เปิดเข้ามาในวงการนี้ เจียงเซ่อจึงคิดว่าจะไปดูเสียหน่อย