webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

222

บทที่ 222 โดยที่ไม่กลัวอุปสรรคใดๆ

เซี่ยเชาฉวินพูดขึ้นด้วยท่าทางสุขุม ในขณะที่ไม่รู้จะเอายังไงกับสถานการณ์นี้ ก็เหมือนได้รับการปลอบโยนให้สบายใจมากขึ้น

“ยังไงทุกวันนี้คุณสวีเองก็ต้องการที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว และเขาเองก็คงจะให้ความสำคัญกับโฆษณาชิ้นนี้ไม่น้อย อีกทั้งยังถ่ายมาถึงตอนนี้แล้ว คุณสวีคงไม่ต้องการให้งานมันล่มกลางคันแน่ๆ การที่ตระกูลสวีนำพาธุรกิจมาได้จนขนาดนี้ เพราะเขาไม่คอยมาพะวงหน้าพะวงหลัง แต่เป็นการที่ก้าวต่อไปข้างหน้าโดยที่ไม่กลัวอุปสรรคใดๆ ต่างหาก”

คำพูดของหล่อนเป็นเหมือนสิ่งปลุกใจให้กับ Maki สายตาของหล่อนเผยความศรัทธาออกมา และพยักหน้าลง

หลังจากตัดสินใจแล้ว จากนี้ก็เป็นหน้าที่ของ Basile ที่จะเป็นคนเชิญช่างตัดเสื้อ เจียงเซ่อจึงมีเวลาว่างให้ได้พักผ่อนสองวัน และได้มีเวลาไปเดินเล่นในปารีส

ตอนนี้ที่บ้านตระกูลสวีในฮ่องกง สวีโจวจี้กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนแม้แต่ของตกแต่งชิ้นโปรดก็โดนปัดตกจนแตกกระจาย

“กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!” เขาโกรธจนหัวแทบจะระเบิดอยู่แล้ว เจิ้งซือหรงยืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วยความกระวนกระวายใจไม่น้อย หน้าผากมันชื้นเหงื่อไปหมด แต่ก็ไม่กล้าที่จะยกมือขึ้นเช็ดมัน

ในมือของเขามีเอกสารรายงานของ Maki ที่ส่งจากปารีสมาล่าสุด ภายในเอกสารมีข้อความบอกถึงการเปลี่ยนระยะเวลาแผนการและค่าใช้จ่าย

เจิ้งซือหรงเองก็ไม่กล้าที่จะปิดบังสวีโจวจี้ หลังจากที่ได้รับข่าวแล้ว เขาก็รีบมาหาทันที

โฆษณาชิ้นนี้เป็นมายังไง ในใจของเจิ้งซือหรงรู้ดีอยู่แก่ใจ ตอนนี้ก็ทำได้แค่ก้มหัว โดนสวีโจวจี้ด่าทออย่างกับหมูกับหมา และปล่อยให้เขาระบายจนพอใจก่อน!

“สั่งให้ดำเนินการไปได้ยังไง ตอนนี้ใครเป็นคนรับผิดชอบกันแน่? บอกให้มันกลับมาเดี๋ยวนี้ บอกให้มันเก็บของแล้วออกไปเลย!”

สวีโจวจี้เดินกลับไปกลับมาอยู่ในห้องหนังสือ เดินลนไปได้สองก้าวก็ยังโมโหอยู่ ทนไม่ไหวจนต้องงชี้นิ้วไปที่เจิ้งซือหรง “ฉันไว้ใจให้แกทำงาน ถึงได้มอบหมายงานนี้ให้แก ซือหรง แกทำให้ฉันผิดหวังมากรู้ไหม!”

“ตอนนี้คนที่ดูแลงานที่ปารีสคือ Maki ครั้งนี้หล่อนทำผิดพลาดมากจริงๆ”

เจิ้งซือหรงล้วงมือเข้าไปหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าที่ถูกพับเอาไว้อย่างเรียบร้อยออกมา และยกมือขึ้นกดบริเวณหางตาและหน้าผาก จากนั้นก็เล่าเกี่ยวกับสิ่งที่ Maki ทำไปทั้งหมด จากนั้นก็พูดถึงเซี่ยเชาฉวินขึ้นมา แต่ก็ยังเห็นใบหน้าที่ทะมึนของเขาอยู่ดี

“พี่เชาฉวินบอกว่า โทรมาขออนุญาตจากท่านแล้ว”

“เหลวไหล!”

สวีโจวจี้ตบโต๊ะดังลั่น และสั่งออกไปทันที

“ติดต่อเซี่ยเชาฉวินให้ฉันเดี๋ยวนี้ หล่อนเอาแต่ช่วยแต่คนอื่นจนไม่เห็นหัวญาติของตัวเอง คิดจะเปลี่ยนนู่นเปลี่ยนนี่เพื่อคนของตัวเองอย่างนั้นหรือ”

“ครับๆๆ”

โทรศัพท์อยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง เจิ้งซือหรงกอเบอร์ของเซี่ยเชาฉวิน ไม่นานเสียงของหล่อนก็ดังออกมา เขาจับโทรศัพท์ไว้ด้วยมือทั้งสองข้างแล้วส่งให้กับสวีโจวจี้ ยังไม่ทันที่สวีโจวจี้ได้พูดอะไร เซี่ยเชาฉวินก็กรอกเสียงใส่ด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“คุณลุง”

เหมือนหล่อนจะรู้แล้วว่าทำไมสวีโจวจี้ถึงโทรมาหา และเหมือนว่าจะเตรียมตัวเตรียมคำพูดเอาไว้แล้วด้วย ไม่มีท่าทีลนลานหรือทำอะไรไม่ถูกเลยสักนิด

น้ำเสียงแบบนั้นทำให้สวีโจวจี้หงุดหงิดไม่น้อย เขากรอกเสียงตอบกลับอย่างเยือกเย็นเช่นกัน

“หึ เชาฉวิน เรื่องถ่ายโฆษณาที่ปารีส มันเป็นยังไงกันแน่?”

“ดิฉันคิดว่ามีเรื่องใหญ่กว่านี้เสียอีก เรื่องแค่นี้คุณลุงถึงกับต้องเสียเงินหลายหยวนเพื่อโทรหาดิฉันเลยหรือคะ?”

หล่อนถามตอบกลับมา น้ำเสียงของหล่อนยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดเข้าไปอีก

“ตารางระยะเวลาได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว เธอรู้หรือเปล่าว่าการที่เธอทำแบบนี้ มันเป็นการทำโดยพละการ?”

“แผนการไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ดิฉันจำได้ว่าคุณปู่เคยพูดเอาไว้ ว่ากฎเกณฑ์มีไว้ทำลาย” เซี่ยเชาฉวินมี ความมั่นใจอยู่ในตัวเองเสมอ หล่อนรู้อยู่แล้วว่าทำไมสวีโจวจี้ถึงได้โมโห

“ช่างภาพี่กังหัวได้จ้างมา เขามีผลงานโดดเด่นอยู่หลายชิ้น และส่วนมากก็เป็นภาพขาวดำทั้งนั้น ถ้าคุณลุงมีเวลาว่างๆ ก็ลองละความสนใจออกจากบุหรี่สักนิด หยิบไวน์ขึ้นมา แล้วก็ลองชื่นชมผลงานของเขาบ้างนะคะ”

“หุบปาก!”

สวีโจวจี้พาลโกรธไปหมด จนตะคอกหล่อนออกไป

แต่เซี่ยเชาฉวินก็ไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย

“ดิฉันรู้ดีว่าการถ่ายเครื่องเพชรเป็นภาพขาวดำมันเสี่ยงมากแค่ไหน แต่ทำไมคุณลุงไม่ลองหน่อยละคะ? ทำไมต้องคาดเดาผลของมันไปก่อนด้วย? ตั้งแต่แรกที่บริษัท Gang Hua Jewelry เดินมาถึงตรงนี้ได้ คุณปู่เองก็กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ อย่างไม่ลังเลเช่นกัน ทำให้ Gang Hua Jewelry ได้แสดงฝีมือออกมาอย่างเต็มที่และเป็นแบรนด์เครื่องประดับที่ดีที่สุดในฮ่องกง และถึงได้มีชื่อเสียงว่าเป็นราชาแห่งเครื่องประดับไม่ใช่หรือคะ ตอนนั้นก็มีคนไม่เห็นด้วยมากมาย คุณลุง ดิฉันรู้ว่าคุณลุงโกรธ แต่ยังไงก็ควรดูผลที่ออกมาก่อนไม่ใช่หรือคะ รอให้มันออกมาก่อนก็ค่อยว่ากันอีกที ที่โทรมาตั้งแต่ตอนนี้ มันไม่เร็วไปหน่อยหรือคะ?”

น้ำเสียงของเธอฟังดูเยือกเย็นไม่น้อย และคำพูดของเธอก็มีความนัย แถมยังพูดถึงบิดาของสวีโจวจี้ที่เสียไปแล้วอีก และมันก็ทำให้สวีโจวจี้พูดอะไรไม่ออกถึงจะยังโกรธอยู่ก็ตาม

“ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เธอก็น่าจะปรึกษาฉันก่อนสักคำ ไม่ใช่ว่าตัดสินใจแทนตามอำเภอใจแบบนี้”

“ดิฉันโทรไปหาเลขาของคุณลุงแล้ว แต่คุณลุงประชุมอยู่”

สวีโจวจี้จากตอนแรกที่เหมือนจะเริ่มสงบลงแล้ว พอได้ยินอย่างนั้นก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีก

“เหลวไหล!”

เรื่องเร่งด่วนแบบนั้น หล่อนเองก็มีเบอร์โทรส่วนตัวของเขาอยู่แล้ว ถ้าตั้งใจที่จะโทรหาเขาจริงๆ ละก็ ก็น่าจะต้องโทรเข้าเบอร์ส่วนตัวทันที ไม่ว่าโทรหาเลขาแบบนี้

ปลายสายอย่างเซี่ยเชาฉวินตอบกลับอย่างไม่รีบร้อน สวีโจวจี้ดุด่าอีกนิดหน่อย จากนั้นก็บอกให้ถ่ายโฆษณาให้เสร็จก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที

และตอนนี้เขาก็ไม่กล้าที่จะมอบหมายงานให้กับเจิ้งซือหรงอีกแล้ว หลังจากวางสายไป เขาก็นวดดั้งอย่างเครียดๆ

“เหอะ หลังจากที่โฆษณาถ่ายเสร็จแล้ว รีบเอามาให้ฉันดูทันที ส่วนเรื่องนี้นายไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแล้ว”

เจิ้งซือหรงนึกว่าตัวเองจะโดนกำจัดแล้วเสียอีก แต่พอได้ยินเขาพูดออกมาว่าจะรับช่วงต่อเอง เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจโล่งอกออกมา และรีบพยักหน้าทันที ส่วนทางฝากของปารีส วันเวลาผ่านเรื่อยๆ ในที่สุดBasile ก็ได้ส่งรูปการออกแบบชุดของช่างตัดเสื้อมาให้ เป็นชุดสองชุด เป็นชุดดำหนึ่งชุดและชุดขาวหนึ่งชุด

และสำหรับค่าใช้จ่ายของสองชุดนี้ ก็เสียไปทั้งหมดเจ็ดหลัก

ถึงแม้เวลาที่มีอยู่จะเร่งรีบไม่น้อย แต่ชุดราตรีที่ถูกตัดออกมาก็ดูสง่าและหรูหราไม่เบา

ชุดราตรีเป็นผ้าไหม ด้านหน้ามีผ้าชิฟฟอนผืนใหญ่สวยงามและโดดเด่น

ตัวกระโปรงถูกตกแต่งด้วยไข่มุก ตรงหน้าอกเป็นแบบเสื้อทบกัน*เหมือนเสื้อฮันบก และตัวผ้าชิฟฟอนก็สามารถเห็นกระดูกไหปลาร้าสวยๆ ของเธอด้วย ส่วนแขนก็มีแขนเสื้อคลุมเอาไว้

ตัวเสื้อยังมีผ้าคลุมสีแดงให้อีกผืนด้วย บริเวณขอบเองก็มีดิ้นปักอย่างสวยงาม

และเพราะว่าชุดราตรีตัวนี้ถูกตัดขึ้นสำหรับเจียงเซ่อเท่านั้น มันเลยพอดีกับตัวเธอ

หลังจากที่เจียงเซ่อใส่มันเรียบร้อยแล้ว Chloé ก็ชมออกมาทันที

“สวยมากจริงๆ”

ตัวเสื้อเน้นและดันทรวงอกเป็นอย่างดี กระดูกไหปลาร้าที่แสนสวยอยู่ในตัวผ้าชิฟฟอน การออกแบบให้เป็นชุดลากยาวทำให้เห็นรูปร่างของเธอที่ดูดีมากๆ ด้วย

ถ้าด้านบนดูแล้วให้ความรูสึกที่ปิดแน่น งั้นข่างล่างก็คงให้ความรู้สึกว่าเปิดออก

ตั้งแต่เอวคอดจนลงไปข้างล่าง กระโปรงแต่ละชั้นมันบานออก บวกกับไข่มุกเม็ดโตและดิ้นด้ายที่ปักเป็นลวดลายเพิ่มความสง่างามเป็นอย่างมาก ตอนที่เจียงเซ่อเดินออกมา เซี่ยเชาฉวินก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ

ตอนนั้น Basile ออกปากคุยโวเอาไว้เยอะทีเดียว บอกว่าช่างตัดเสื้อคนนี้จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่นอน และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ด้วย

เจียงเซ่อมีใบหน้าเรียวสวย เป็นโครงหน้าทองคำดั่งหงส์งาม ช่างทำผมจับรวบผมของเธอมาไว้ด้านหลังเป็นทรงผมเหมือนสาวชาวฝรั่งเศส เส้นผมถูกรวบเป็นทรงอย่างสวยงาม มันทำให้ได้โชว์โครงหน้าสวยๆ เจียงเซ่อมากขึ้น และได้ทาเจลเพิ่มความมันเอาไว้ด้วย

หลังจากแต่งหน้าเสร็จแล้ว Maki ก็หยิบตุ้มหูขึ้นมา และค่อยๆ สวมให้เจียงเซ่ออย่างระมัดระวัง

เพราะรูตรงติ่งหูของเธอเพิ่งจะได้เจาะหลังจากมาถึงที่ฝรั่งเศสแล้ว เพราะว่ารูยังไม่ได้ขยายอะไรมากนัก แค่กระทบอะไรนิดๆ หน่อยก็แดงขึ้นมาแล้ว และมันก็จะส่งผลกระทบต่อการถ่ายโฆษณาอีกด้วย