webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

219

บทที่ 219 ตั้งใจทำงาน

แต่สิ่งที่เจียงเซ่อไม่รู้ คือตอนนี้ในใจของ Maki มันทึ่งมากกว่าเธออีก ข้อมูลของเจียงเซ่อทางกังหัวกรุ๊ปเองก็ได้ส่งให้หล่อนดูแล้ว เธอเพิ่งจะเป็นแค่เด็กสาวอายุสิบแปดปี กำลังศึกษาอยู่ เพิ่งเข้าวงการมาไม่นาน แต่ตอนนี้ได้เป็นทั้งแบรนด์ แอมบาสเดอร์ของ Gang Hua Jewelry และแบรนด์กางเกงแบรนด์หนึ่งของอิตาลี

สำหรับระยะเวลาแค่นี้ Maki จึงคิดว่าเธออาจจะไม่ได้รู้อะไรมากมายนัก แต่พอ Maki ได้ลองพูดคุยกับเธอจริงๆ แล้ว ก็พบว่าเธอไม่ใช่คนพูดมาก แต่แบรนด์สินค้าที่รู้จักหลายๆ แบรนด์ก็ถือว่าไม่ธรรมดาเลย ราวกับว่าได้ศึกษาเรื่องพวกนี้มาบ้างแล้ว มันทำให้ Maki ต้องมองเธอใหม่ทันที

ตลอดการเดินทางทั้งคู่ต่างก็พูดคุยกันอย่างสนิทสนม ระยะเวลาการเดินทางต้องใช้เวลาถึงสิบสองชั่วโมง หลังจากที่เจียงเซ่อไปถึงและลงจากเครื่องบินแล้ว ก็เหมือนว่าตัวเธอเองจะค่อนข้างสนิทกับเจียงเซ่อขึ้นมามากทีเดียว

ที่ฝรั่งเศสนี่ก็มีร้านค้าของกังหัวเช่นกัน หลังจากที่ได้รับข่าวล่วงหน้าต่างก็พากันมาต้อนรับ หลังจากแวะทานอาหารที่ร้านอาหารและกลับมาถึงที่พักแล้ว เจียงเซ่อก็นั่งแหมะลงอยู่บนโซฟาและไม่คิดจะลุกไปไหนอีก

ถึงตอนที่อยู่บนเครื่องบินจะได้งีบไปบ้าง แต่มันก็ไม่ได้สบายสักเท่าไหร่

โม่อานฉีเดินเข้าไปใกล้บริเวณเฟรน วินโดว*หน้าต่างบานเปิดขนาดใหญ่ เป็นหน้าต่างบานกระจกขนาดเกือบเต็มกำแพง หล่อนมองออกไปข้างนอกนั่น และลองพูดขึ้นดู

“เซ่อเซ่อ เธออยากจะลงไปเดินเล่นหน่อยไหม?”

โรงแรมที่พักอยู่มันอยู่ใกล้ๆ กับ Rue du Faubourg Saint-Honoré Street*ถนนแหล่งชอปปิ้งและแหล่งอารยะธรรมประวัติศาสตร์ นอกจากตรงข้ามจะมีร้านชาเนลอยู่แล้ว โม่อานฉีก็ยังแอบเห็นร้านรวงแบรนด์อีกหลายร้านเลย

เจียงเซ่อส่ายหัว แล้วพยายามดึงตัวเองให้ลุกขึ้น

“พี่ไปเถอะ ฉันจะอาบน้ำพักผ่อนเสียหน่อย”

ตอนนี้เวลาท้องถิ่นของอยู่ที่หกโมงเย็นแล้ว ช่วงเวลาที่มีชีวิตชีวาและความครึกครื้นกำลังจะเริ่มขึ้น พอโม่อานฉีได้ยินว่าเจียงเซ่อจะนอน ก็อดยอกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองไม่ได้

“เดี๋ยวช่วยล็อกห้องด้วยนะคะ ส่วนมื้อค่ำก็ไม่ต้องเรียกก็ได้”

“ฉันลองหาข้อมูลดูแล้วนะ ที่โรงแรมนี่มีอาหารที่ขึ้นชื่อตั้งหลายอย่าง เธอจะไม่ลองหน่อยจริงๆ หรือ?”

เจียงเซ่อส่ายหน้า “พรุ่งนี้มีงาน ฉันเลยไม่อยากเกิดอาการพักผ่อนไม่พอน่ะค่ะ ถึงตอนนั้นจะกลายเป็นว่าฉันทำอะไรก็ไม่มีชีวิตชีวาเสียเปล่า”

ที่จริงการที่บินมาฝรั่งเศสเวลาก็ต้องคลาดเคลื่อนอยู่แล้ว ถ้าเธอเลือกที่จะออกไปเดินเที่ยวเล่นแล้วละก็ ถึงเธอจะสนุก แต่เจียงเซ่อก็อยากที่จะเก็บพลังงานเอาไว้ใช้ทำงานในวันพรุ่งนี้มากกว่า จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่องานด้วย

“ยังไงพรุ่งนี้ถ้าทำงานเสร็จแล้ว ก็ไปเดินๆ ชื่นชมความงามเสียหน่อย เวลาที่จะไปเดินเล่นสนุกสนานก็มากกว่าด้วย ถ้าพี่ชอบ ถึงตอนนั้นพวกเราก็อยู่ต่อที่โรงแรมนี่อีกสักสองวันก็ได้ ส่วนค่าใช้จ่ายฉันออกเอง”

โม่อานฉีลุกขึ้นมา กะว่าจะเข้าไปพยุงเธอ แต่เจียงเซ่อก็หลบออกก่อน

“ฉันขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ”

พอเธออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยและแปะแผ่นมากส์เสร็จก็ออกมา เหมือนว่าโม่อานฉีจะออกไปแล้ว เจียงเซ่อหยิบมือถือขึ้นมา แล้วส่งข้อความไปบอกเผยอี้ว่าตนถึงที่ฝรั่งเศสเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนั้นก็ส่งหาเซี่ยเชา ฉวินเช่นกัน

ที่จริงเผยอี้ก็บอกแล้วว่าช่วงนี้จะติดต่อเขาไม่ได้ ดังนั้นจริงไม่มีข้อความอะไรตอบกลับมา แต่เป็นข้อความของเซี่ยเชาฉวินที่ส่งตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว ข้อความของหล่อนก็เหมือนกับคำพูดที่หล่อนใช้พูดทั่วๆ ไป ‘พรุ่งนี้เช้าเจอกัน’

พอเจียงเซ่อเป่าผมเสร็จแล้ว ก็จัดการของๆ ตัวเองให้เรียบร้อย เวลาก็ใกล้จะทุ่มหนึ่งแล้ว เธอปิดมือถือและเตรียมตัวจะเข้านอน พอตื่นขึ้นมาอีกที ก็ประมาณแปดโมงเช้าพอดี

โม่อานฉีและเธอพักอยู่ในห้องเดียวกัน แต่ภายในห้องก็ได้เพิ่มเตียงแยกเอาไว้แล้ว เมื่อคืนก็ไม่รู้ว่ากลับมาตอนกี่โมง เจียงเซ่อล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้ว เดินออกมาก็ยังเห็นหล่อนนั่งหาวอยู่เลย

“เมื่อคืนฉันได้คุยโทรศัพท์กับพี่เซี่ยแล้ว เขาบอกว่าจะมาถึงที่โรงแรมตอนประมาณเก้าโมงเช้า”

หล่อนใช้มือสางผมตัวเอง แล้วเอื้อมมือไปบีบยาสีฟันให้เจียงเซ่อ ก่อนจะหยิบแปรงสีฟันของตัวเองขึ้นมาเช่นกัน ก่อนจะมองใบหน้าของเจียงเซ่อด้วยความอิจฉา

เจียงเซ่อเกิดมาสวยอันนั้นก็รู้อยู่แล้ว ผิวพรรณก็ดี ได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่ม ผิวพรรณของเธอก็เลยเหมือนได้รับสารอาหารจนเปล่งปลั่ง ทั้งๆ ที่ยังไม่ทันได้ทาครีมประทินผิวอะไรสักอย่าง แต่ผิวของเธอก็ดูใสสุขภาพดีสุดๆ แก้มมีสีเลือดฝาด ขอบตาไม่หมอง

“ตารางงานวันนี้เริ่มตั้งแต่ตอนสิบโมงเช้านะ”

เจียงเซ่อพยักหน้า เธอแปรงฟันไปพลาง และฟังโม่อานฉีอ่านตารางงานให้ฟังไปพลาง

การถ่ายโฆษณาให้กับกังหัวในวันนี้เป็นเครื่องเพชรทั้งหมด มีทั้งการถ่ายวีดิโอและภาพนิ่ง สิ่งที่ต้องถ่ายก็มีมากมายพอตัว ภายในสองสามวันนี้คงจะยุ่งมากๆ

“ได้ยินมาว่า เมื่อวานหลังจากที่เรามาถึงที่ฝรั่งเศสแล้ว กังหัวก็ได้ส่งคนอีกกลุ่มมาพร้อมกับบอดี้การ์ด เพื่อมาส่งชุดเครื่องประดับไข่มุก และต่อจากนี้ก็จะมีส่งมาเรื่อยๆ ด้วย”

เจียงเซ่อล้างหน้า ทาเครื่องบำรุงผิวแต่ไม่ได้แต่งหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนั่งรอออกข้างนอกพร้อมโม่อานฉี เธอติดต่อไปหา Maki ก่อน และนัดเจอกันที่ห้องอาหาร

นอกจากพนักงานในโรงแรมจะบริการได้อย่างทั่วถึงแล้ว อาหารที่มีก็เลิศรสและมีชื่อเสียงพอสมควร

น่าเสียดายที่วันนี้เจียงเซ่อยังต้องถ่ายงาน และทานอะไรไม่ได้มากนัก เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากหลังจากที่ถ่ายงานเสร็จ เธอจึงทานให้อิ่มแค่หกส่วนและหยุดทันที

ตอนแรกโม่อานฉีก็ยังรู้สึกอิจฉา แต่ตอนนี้กลับรู้สึกเข้าใจความรู้สึกของเธอเสียแล้ว

สถานที่ถ่ายทำที่ทางกังหัวได้เช่าเอาไว้ก็คือในโรงแรม และฉากต่างๆ ก็ถูกเซตไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนที่เจียงเซ่อไปถึงก็ประมาณเก้าโมงครึ่งพอดี ยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัด

ระบบสวัสดิการของชาวฝรั่งเศสดีไม่น้อย ช่วงเวลาทำงานของตัวเองก็มีระบบระเบียบ

ประมาณสิบโมง ไม่มีคนที่มาเช้ากว่านี้ แต่ก็ไม่มีคนที่มาสาย

พอถึงเวลาพักก็คือปล่อยงาน แต่พอถึงเวลางานก็ไม่อิดออดไม่เกียจคร้าน

ประมาณเก้าโมงสี่สิบได้ โม่อานฉีก็ได้รับสายจากเซี่ยเชาฉวิน ตอนนี้หล่อนมาถึงที่โรงแรมแล้ว เดี๋ยวจะอาบน้ำแต่งหน้าก่อนแล้วค่อยออกมาเจอกัน

“พี่เชาฉวิน”

ทั้งเจียงเซ่อ Maki และคนอื่นๆ ต่างก็เข้ามาทักทายเซี่ยเชาฉวิน เซี่ยเชาฉวินก้มหน้ารับคำทักทายอย่างเรียบนิ่ง สายตามองไปยังเจียงเซ่อ แววตาเผยความพึงพอใจออกมา

เธอยังไม่ได้แต่งหน้า แต่ผิวของเธอก็ดูเปล่งปลั่งมากแล้ว แก้มสองข้างมีสีเลือกฝาด ดวงตาขาวดำชัดเจน ไม่มีลายเส้นเลือด ดูก็รู้ว่าได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ เทียบกับโม่อานฉีที่อยู่ข้างๆ ก็ดูสดใสกว่ามาก

เมื่อวานหลังจากที่มาถึงที่ปารีสแล้วเธอก็มีอาการอยากจะนอนตลอดเวลา เซี่ยเชาฉวินเองก็ได้รู้เรื่องนี้มาจากโม่อานฉีแล้ว

การมีระเบียบวินัยในตัวเองของเจียงเซ่อทำให้เซี่ยเชาฉวินชื่นชอบ หล่อนก้มมองดูนาฬิกา

“ใกล้ถึงเวลาแล้วสินะ”

การออกมาทำงานในรอบนี้ เจียงเซ่อไม่ได้พา Dora ช่างแต่งของตัวเองมาด้วย เพราะกังหัวต้องการที่จะใช้ทีมงานเฉพาะทางของตนเอง คงจะมาถึงในไม่ช้านี้แล้ว

ในขณะที่พูดคุยกันอยู่ ด้านนอกก็เหมือนมีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา Maki หันไปมอง ก็พบว่าเป็นผู้ดูแลของกังหัวที่กำลังพากลุ่มทีมงานเข้ามา

หลังจากทักทายกันแล้ว ชายหนุ่มไว้ผมสั้นสีทองคนหนึ่งยกแขนขึ้นกอดอกข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็เท้าไว้ที่ใต้คาง และมองเจียงเซ่ออย่างพิจารณา

ทั้งช่างแต่งหน้า สไตล์ลิสต์และช่างภาพพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากที่ตกลงเซตแรกกันได้แล้ว นั่นก็คือออกแนวสบายๆ เซ็กซี่เบาๆ

หลังจากได้ข้อตกลง ทั้งสไตล์ลิสต์และช่างแต่งหน้าก็เดินเข้าไปหาเจียงเซ่อด้วยรอยยิ้มและเชิญให้เธอตามพวกหล่อนไป

ทางคนของกังหัวได้หาหญิงสาวชาวฝรั่งเศสที่พูดภาษาหัวเซี่ยได้มาแล้ว เพื่อที่จะมาช่วยเจียงเซ่อในการแปลคำพูดต่างๆ แต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวคนนั้นจะได้แปลอะไร เจียงเซ่อก็พยักหน้าตอบขอบคุณออกไปในทันที

พอเธอพูดภาษาฝรั่งเศสออกมาแบบนั้น เซี่ยเชาฉวินก็ขมวดคิ้ว แววตาแสดงถึงความแปลกใจไม่น้อย

สไตล์ลิสต์เป็นสาวชาวฝรั่งเศสอายุราวๆ สามสิบปี หลังจากที่ได้ยินเจียงเซ่อพูดแล้ว หล่อนก็ร้อง “โว้ว” ออกมาทันที ไม่ได้ปกปิดความชอบใจของตัวเองเลยสักนิด