webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

215

บทที่ 215 คำวิจารณ์

ในหนังเรื่องนี้ กู้เจียเอ่อได้จัดการใส่ฉากของเธอไปแล้วจริงๆ

ชุดของแอร์โฮสเตสอยู่บนตัวเธอ ซึ่งดูสง่าและงดงามเป็นอย่างมาก ตอนที่เธอออกมา บวกกับไฟในห้องที่ถูกปิดมืด มันเหมือนว่าจู่ๆ ก็มีแสงส่องประกายออกมา เถาเถาสาบานได้เลย ว่าหล่อนได้ยินเสียงช่างภาพที่อยู่ข้างๆ ร้องออกมาเบาๆ ว่า ‘ว้าว’ ด้วย

หล่อนกัดริมฝีปากพยายามกลั้นยิ้มเอาไว้ ในหนังเจียงเซ่อกำลังให้ภาษาฝรั่งเศสพูดเกี่ยวกับเที่ยวบินของสายการบินนั้นๆ และยังพูดแนะนำปารีสอีกสองสามประโยค

น้ำเสียงของเจียงเซ่อทำให้ทุกคนประทับใจเป็นอย่างมาก น้ำเสียงเจื้อยแจ้วพูดออกมาเรื่อยๆ และถึงแม้ว่าคนที่นั่งดูอยู่จะไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่เธอพูดได้ แต่ซับไตเติลที่อยู่ข้างล่างจอก็สามารถทำเข้าใจเธอได้ แต่ก็เหมือนว่ายังไงหลายๆ คนก็มัวแต่สนใจกับความสวยของเธออยู่แล้ว

กู้เจียเอ่อใช้ความสวยของเจียงเซ่อเป็นจุดรวมสายตาให้ทุกคนได้เห็น ทำให้ผู้ที่ได้เข้าร่วมงานหนังรอบปฐมทัศน์ในครั้งนี้ได้รับความตื่นเต้น จากที่หลายๆ คนกำลังรู้สึกเนือยๆ และกำลังเหม่อก็กลับมามีสติ รีบนั่งตัวตรงขึ้นมา

ซีนที่เจียงเซ่อได้ออกไม่ยาวเท่าไหร่ ไม่ถึงสิบวินาทีภาพก็ตัดไปทางอื่นแต่ก็ยังมีเสียงแนะนำของเธอดังอยู่เรื่อยๆ หลายวิผ่านไป กล้องก็ตัดไปอยู่ที่วังเชี่ยนเชี่ยนและโจวหรงเซินแล้ว แม้แต่เสียงก็ไม่ได้ยิน

เถาเถาเผยใบหน้าผิดหวังขึ้นมาทันที แต่รอบๆ ข้างเริ่มส่งเสียงพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันแล้ว

“ดาราใหม่คนนั้น ใช่คนที่ชื่อ เจียงเซ่อหรือเปล่านะ?”

หลังจากที่หนังเริ่มเข้าสู่เนื้อเรื่องหลักจริงๆ แล้ว วังเชี่ยนเชี่ยนและโจวหรงเซินก็ได้รู้จักกัน และตกลงกันว่าเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงจากการโดนพ่อแม่เร่งให้แต่งงาน ทั้งสองจะแกล้งเล่นเป็นคนรักของกันและกัน

ทั้งคู่ต่างก็เป็นประเภทที่ทุ่มใจให้กับงาน ไม่ค่อยสนใจเรื่องความรัก แต่ถ้ามีความรักแล้ว ก็ยังไม่อยากให้การแต่งงานมาเป็นข้อผูกมัดกันและกัน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะความกดดันของพ่อแม่ สังคมและสภาพแวดล้อมต่างๆ ทั้งสองคนเลยตกลงกันอย่างประนีประนอม และตกลงว่าจะช่วยแสดงว่ากำลังรักกันอยู่ เพื่อรับมือสถานการณ์จากพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย หลีกเลี่ยงความวุ่นวายนั้นไป

บนเครื่องบินขากลับจากฝรั่งเศส ที่มันทำให้ทุกคนเริ่มมีความสนใจและอยากดูก็คือ เจียงเซ่อจะได้ออกมาอีกรอบ

เธอวาดรอยยิ้มและพูดว่าเครื่องบินลำนี้กำลังจะมุ่งหน้าไปยังตี้ตู และยังได้แนะนำหัวเซี่ยสั้นๆ ไว้อีกด้วย

วังเชี่ยนเชี่ยนและโจวหรงเซินจูงมือกันลงจากเครื่องบิน ทั้งสองมองหน้ากันและเผยรอยยิ้มออกมา

ผ่านไปไม่กี่เดือน ท้องของวังเชี่ยนเชี่ยนก็ใหญ่ขึ้นแล้ว และกำลังนั่งพูดคุยอยู่กับแฟนหนุ่มย่างยิ้มแย้ม แฟนหนุ่มของหล่อนถาม

“เธอไม่ใช่ว่าเป็นคนไม่ชอบการแต่งงานหรอกหรือ แถมยังเป็นพวกไม่อยากมีลูกอีก บอกว่าคุณค่าของผู้หญิงจริงๆ ไม่ได้อยู่ที่การแต่งงานแล้วมีลูก?”

วังเชี่ยนเชี่ยนลูบท้องตัวเอง ไม่ได้พูดอะไรออกมา แค่ยิ้มๆ เท่านั้น

หนังจบลงแค่ตรงนี้พอดี จากนั้นก็เป็นเครดิตจบขึ้นตามหลังมา ไฟรอบๆ สว่างขึ้น ทั้งสื่อและผู้ที่อยู่ในงานต่างก็ยืนขึ้นและปรบมือให้

หนังเรื่องนี้ของกู้เจียเอ่อยังมีความเป็นตัวเขาเองอยู่ตลอดเรื่อง แต่เป็นเพราะว่าเขาได้เพิ่มเรื่องความเปลี่ยนแปลงของหญิงสาวในเรื่อง มาเตือนมาบอกให้กับคุณค่าสำคัญของการเป็นผู้หญิง มันเลยทำให้หนังเรื่องถูกยกระดับมากยิ่งขึ้น

วันถัดมาที่หนังได้ออกฉาย เหล่านักวิจารณ์หนังและชาวเน็ตต่างๆ ก็เริ่มพากันให้คะแนนกับหนังเรื่องนี้

หานรุ่ย ผู้วิจารณ์หนังที่มีชื่อเสียงๆ ได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นในแอคเค้าท์ตัวหนัง : ‘ฉันรู้สึกแปลกใจกับหนังเรื่องนี้ของกู้เจียเอ่อนิดหน่อย มันก็โอนเอียงไปทางดีมาก แต่มันก็เหมือนได้ให้มาอีกระดับหนึ่งของความรู้สึก

เฝิงไม่พูด : ‘กู้เจียเอ่อทำหนังรักมาเยอะแยะจนเชี่ยวชาญแล้ว หนังเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ เรื่องนี้ ถ้าเทียบกับเรื่องอื่นที่เขาเคยสร้างมาแล้วจริงๆ ก็ถือว่ามีข้อแตกต่างอยู่เหมือนกันนะ สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกโดนใจมากๆ ก็น่าจะเป็นตัวละครโจวหรงเซินในเรื่องนี้ เป็นเพราะงานของเขาบวกกับสภาพแวดล้อมรอบข้าง มันทำให้เขากลายเป็นคนไร้ความรู้สึก ต่อหน้าคนรักที่คบกันมาหลายปี เขาก็ดูนิ่งเงียบจนถึงขึ้นเย็นชาเลย ตอนแรกผมก็รู้สึกไม่ค่อยชอบเขาเท่าไหร่หรอก แต่ถึงเขาจะพลาดโอกาสรับสายสุดท้ายจากแฟนเก่า พลาดจากการรั้งแฟนเก่าคนนั้น แต่ก็ไม่ได้พลาดที่จะปล่อยวังเชี่ยนเชี่ยนไป’

ผมรู้สึกมีความสุขแทนเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งก็ยังรู้สึกแย่แทนแฟนเก่าของเขานิดหน่อย และผมก็พบว่า ผมช่างมีชีวิตคล้ายโจวหรงเซินเหลือเกิน

ผมเอาแต่จมดิ่งอยู่กับงาน วันๆ ทำแต่โอทีแบบไม่มีวันหยุดพัก มองข้ามคนในครอบครัวและเพื่อนฝูง เหมือนกับว่าถ้าที่บ้านขอให้ผมกลับไปทานข้าวด้วยแค่เพียงหนึ่งมื้อ มันก็ดูเป็นเป็นคำขอที่มากไปเสียอย่างนั้น

ในตอนที่ผมทำงานอยู่ ตอนที่ผมทุ่มทำงานทำโอทีเพื่อให้ได้ตามที่หัวหน้าต้องการ แฟนของผมก็เคยงอนๆ แล้วพูดกับผมว่า มันก็เดือนกว่าแล้วที่ได้ไปไปทานข้าวด้วยกันเลย สักมื้อเดียว แต่ตอนนั้นผมกลับรู้สึกแค่ว่าเหนื่อยและรำคาญเหลือเกิน

ผมเกลียดความเห็นแก่ตัวและความเย็นชาของโจวหรงเซิน ก็เหมือนกับการที่ผมกำลังเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนั้นเหมือนกัน หนังเรื่องนี้มันทำให้ผมต้องกลับมาย้อนดูตัวเอง และผมคงเลือกที่จะดูหนังเรื่องนี้อีกครั้งด้วย ไม่ได้เพราะอะไรหรอกนะ แต่แค่รู้สึกขอบคุณโจวหรงเซินที่ช่วยเป็นกระจกให้กับผม ที่ช่วยสะท้อนตัวผมออกมาให้ตัวเองได้เห็นอย่างชัดเจนแบบนี้ ผมอยากจะไปขอโทษต่อแฟนสาวของผมมากๆ โชคดีเหลือเกินที่ยังไม่สายเกินไป’

ความคิดเห็นของแอคเค้าท์ที่ชื่อเฝิงไม่พูดมีเหล่าชายหนุ่มเข้ามาเห็นด้วยมากมาย และคอมเม้นตอบกลับส่วนมากก็เป็นคอมเม้นเห็นด้วยและคนที่มีประสบการณ์เหมือนเขา

และตอนนี้เหอฉวี่เหอฉงเองก็กำลังคิดอยู่ว่าจะเขียนความคิดเห็นอย่างไรดี

ครั้งนี้งานหนังรอบปฐมทัศน์เรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ หล่อนไม่ได้ไปดู แต่หล่อนก็จองบัตรหนังรอบถัดไปและได้ดูเรียบร้อยแล้ว หนังของกู้เจียเอ่อนอกจากจะน่าดูแล้ว สิ่งที่ทำให้เหอฉงรู้สึกตื่นเต้นและประทับใจ ก็คือได้เห็นเจียงเซ่ออยู่ในหนังเรื่องนี้

ในหนังเจียงเซ่อก็ถือว่าไม่ได้แสดงบทที่ต้องใช้ฝีมือการแสดงมากนัก แต่ท่าทางและบุคลิกในการแสดงก็ยังสวยเหมือนเดิม อีกอย่างคือเธอสามารถพูดภาษาฝรั่งเศสได้อย่างคล่องแคล่วและถูกต้องชัดเจน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพากย์เสียงเอาด้วยหรือเปล่า มันถึงได้ฟังแล้วรู้สึกเพลินเหลือเกิน

ตอนที่เหอฉงอยู่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยก็เคยได้มีโอกาสได้เรียนภาษาฝรั่งเศสมาบ้าง น่าเสียดายที่หล่อนยอมแพ้ไปเร็วเสียหน่อย แล้วเปลี่ยนจุดมุ่งหมายไปที่ภาษาอังกฤษแทน

แต่สำหรับเหอฉงแล้ว หล่อนไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญภาษาฝรั่งเศส แต่ก็พอจะฟังสิ่งที่เจียงเซ่อได้พูดแนะนำปารีสได้ ทั้งสำเนียง การออกเสียงมันก็เป๊ะมากๆ แล้ว คงเพราะพวกเขาเชิญคนฝรั่งเศสแท้ๆ มาพากย์เสียงแน่ๆ ถึงได้รู้สึกเหมือนเห็นสิ่งสวยงามอยู่ตลอดแบบนี้

พอหล่อนเริ่มคิดจนได้ที่แล้ว ก็คลิ๊กกดเข้าไอดีเว็บเพจหนังทันที และเริ่มพิมพ์ความคิดเห็นของตัวเองลงไปบ้าง

เหอฉวี่เหอฉง : ‘การที่กู้เจียเอ่อสามารถเอาเนื้อเรื่องอยู่คงไม่ต้องพูดถึงแล้ว ความหวานของความรักและการทำให้คนดูรู้สึกหลงใหล แค่ดูจากสายตาของพระเอกนางเอก ใบหน้าของพวกเขาก็บอกได้อยู่แล้ว

แต่สิ่งที่กระแทกใจฉันเป็นอย่างมากก็คือรอยยิ้มในตอนสุดท้ายของวังเชี่ยนเชี่ยน จากคนที่ไม่อยากแต่งงาน ไม่อยากมีลูก อยากอยู่คนเดียว คนที่ให้ความสำคัญกับจุดมุ่งหมายตัวเอง คนที่คอยบอกว่าอยากจะละทิ้งกฎธรรมชาติที่ผู้หญิงต้องโดนผูกมัดขนาดนั้น แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องตกกลายเป็นทาสของความรักจนได้ แถมยังมีลูกกับแฟนหนุ่มอีก เหมือนกลายเป็นคนละคนกับวังเชี่ยนเชี่ยนในตอนแรกเลย

เธอได้รับความรักมา และได้เปลี่ยนความตั้งใจของตัวเองไป แล้วมันจะคุ้มค่ากับสิ่งที่ผู้หญิงสมัยนี้คิดกันไหมนะ?

แต่ว่าไม่รู้ว่ามีใครพอจะสังเกตเห็นตัวละครแอร์โฮสเตสสาวในเรื่องกันบ้างไหม ซึ่งเธอก็คือเจียงเซ่อ เป็นคนเดียวกันกับคนที่เล่นเป็น ‘หญิงสาวในฝัน’ ในเรื่อง ’99 Love Letter’ ไงล่ะ

ครั้งนี้หญิงสาวในฝันได้เผยใบหน้าที่แท้จริงล่ะนะ ถ้าให้เทียบกับเรื่องแรกแล้ว ประโยคที่สวยงามในหนังรักเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ เรื่องนี้ นี่ถือว่าเป็นสิ่งที่แอบซ่อนอยู่ในหนังหรือเปล่านะ?’