webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

202

บทที่ 202 แก้วตาดวงใจ

ในปากของเจียงเซ่อยังมีกลิ่นของหอมๆ ของน้ำแอปเปิ้ลติดอยู่เลยด้วยซ้ำ น้ำผลไม้พวกนี้เพิ่งเอาขึ้นมาจากการแช่เย็น ริมฝีปากนุ่มของเธอประทับอยู่บนมุมปากของเผยอี้ สัมผัสนุ่มหยุ่นแบบนั้นทำให้เผยอี้หักห้ามใจไม่ไหวอีกต่อไป เขาคว้าอุ้มตัวเจียงเซ่อให้ขึ้นมานั่งอยู่บนตักของเขา

“อย่าขยับ”

เขาอดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลง เจียงเซ่อยังคงให้มือทั้งสองข้างประคองใบหน้าของเขาเอาไว้ เพื่อไม่ให้เขาขยับเข้ามาใกล้ตัวเองมากกว่านี้ แต่ก็ยังเคลื่อนหน้าเขาไปจุ๊บเขาอยู่

ขาของเธอเกี่ยวอยู่กับเอวสอบของเขา เธอประคองใบหน้าของเขาแล้วค่อยๆ กดเขาลง เส้นผมของเขาคล้อยตกลง เหมือนมีลมพัดผ่านใบหน้าไป เธอหลับตาลง จากนั้นก็รับรู้ถึงสัมผัสปลายลิ้นชื้นของเขา

ลิ้นของเขาเกี่ยวกระหวัดราวกับงู ที่ค่อยๆ รัดเอาปลายลิ้นของเธอไม่ยอมปล่อย เขาดูดมันและทำเหมือนจะกลืนกินมันลงไปให้ได้ ทุกครั้งที่กัดลงมา มันก็ทำให้เธอรู้สึกสั่นไปทั่วร่างกาย

หูได้ยินแต่เสียงลมหายใจหอบขึ้นจมูกแล้วเสียงครางพอใจในลำคอของเขา ราวกับว่ากำลังได้ลิ้มลองอาหารรสเลิศ ราวกับว่าได้ลืมสิ่งรอบข้างไปจนหมดสิ้นแล้ว เหมือนไม่ว่าอะไรก็ไม่สำคัญเท่าสิ่งนี้อีก สัมผัสได้เพียงแค่ความต้องการของเขาที่เหมือนจะมีมากขึ้นทุกทีๆ และเธอก็ทำได้แค่ใช้มือเกาะไหล่เขาเอาไว้จนตัวอ่อนยวบ

เผยอี้เลื่อนมือไปโอบเอวนุ่มเล็กของเธอเอาไว้ ตัวเธออ่อนปวกเปียกอยู่บนตัวของเขา ทั้งร่างกายของเธอไม่มีตรงไหนที่ไม่น่าชื่นชม ความหอมที่อยู่ทุกซุกทุกมุม มันติดชัดอยู่ในหัวใจของเขา เสียจนแทบไม่มีสติหลงเหลืออยู่แล้ว

มือของเขาค่อยๆ เลื่อนขึ้นเลิกชายเสื้อเชิ้ตที่อยู่บนเอวของเธอขึ้น เขานึกถึงเจียงเซ่อในคืนวันเกิดของเธอคืนนั้น คืนที่เธอเมาและถอดเสื้อตัวเองออกจนเหลือแต่ความสวยงามที่แท้จริง หน้าอกที่นูนเด่นออกมาถูกห่อหุ้มไว้ด้วยบิกินี่ รัดเอาไว้แน่นหนา ราวกับโดนความสวยงามนั้นดูดวิญญาณไป ราวกับกำลังอยู่ในงานเลี้ยงที่แสนยิ่งใหญ่

เขาเลื่อนมือไปดึงเชือกบิกินี่บนคอขาวออก เขาสัมผัสได้ว่าเนื้ออ่อนนั่นกำลังเต้นระริก และก็เต้นขึ้นมาอีก เหมือนมันค่อยๆ กรีดลงบนใจเขาเบาๆ จนทำให้เขารู้สึกชาไปทั้งร่างกาย และพลิกตัวกดเธอลงกับโซฟา

ครั้งนี้เธอไม่ดื้อ เส้นผมสีดำขลับสยายอยู่บนโซฟาสีขาวสะอาด ยอมทำตามทุกอย่างตามที่เผยอี้ต้องการโดยไม่ขัดขืน

“ฮะ เฮ้ย”

เสียงของเฉิงหรูหนิงดังแทรกเข้ามา เผยอี้หยุดเคลื่อนไหวร่างกาย แล้วรีบจัดเสื้อของเจียงเซ่อให้เรียบร้อย แล้วเงยหน้าขึ้นตะคอกใส่ทันที

“ไสหัวไป”

“ไสตอนนี้เลยครับ ไสหัวตอนนี้เลย”

เฉิงหรูหนิงรีบวิ่งลงบันไดไปจนดัง ‘ตึงๆๆ’ แถมยังได้ยินเสียงโวยวายตามมาอีก

“เนี่ยต้าน ไอ้เวร นี่แกหลอกให้ฉันไปโดนพี่แกฆ่าใช่ไหม”

เผยอี้ยังหอบอยู่ ตอนนี้เขารู้สึกอยากจะบ้าตายจริงๆ ในตัวของเขาเหมือนมีไฟลุกโชนขึ้นมา และไม่มีวี่แววว่าจะมอดลงได้ง่ายๆ เสียด้วย

ท่าทางของเขาดูน่าสงสารตอนที่หันไปมองเจียงเซ่อ เธอยังคงหลับตาอยู่ แก้มทั้งสองข้างแดงจัด ริมฝีปากสีแดง บวมช้ำ บนลำคอขาวกมีรอยจ้ำแดงๆ ที่เขาเพิ่งจะดูดไป หน้าอกขยับขึ้นลงราวกับเม็ดไข่มุกที่กำลังลอยอยู่บนผิวน้ำ เขามองแวบหนึ่ง ก่อนจะทรุดตัวซุกหน้าลงบนลำคอของเจียงเซ่อพร้อมกับโอดครวญออกมา

“เซ่อเซ่อ......”

แรงดึงดูดของเธอที่มีต่อเขามันรุนแรงมากจริงๆ เพียงแค่แปบเดียวก็ทำให้เขาลืมไปแล้วว่าตัวเองยังอยู่บนเรือยอร์ชของเนี่ยต้าน จนควบคุมสติตัวเองไม่อยู่แบบนี้

ที่จริงเผยอี้เองก็แอบรู้สึกขอบคุณเฉิงหรูหนิงที่เข้ามาขัดเอาไว้เสียก่อน เพราะเธอเป็นคนที่สำคัญมากในใจของเขา เป็นแก้วตาดวงใจที่เขาแสนทะนุถนอม เป็นดอกไม้ที่เขาหล่อเลี้ยงเอาไว้ ไม่ว่าจะพูดอะไรก็กลัวจะกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงไปหมดเสียทุกอย่าง เขาอยากจะขอเธอแต่งงานจริงๆ ไม่ใช่ว่าพูดเล่นๆ หรือเห็นว่ามันเป็นเรื่องเล่นๆ เลยสักนิด

เพราะเธอเป็นสิ่งที่ล้ำค่าสำหรับเขาเหลือเกิน ล้ำค่ามากๆ จึงไม่ต้องการที่จะให้ครั้งแรกของเราทั้งสองต้องมาอยู่ในที่แบบนี้

ถ้าไม่ใช่เพราะเฉิงหรูหนิงละก็ เผยอี้ก็ไม่อยากจะคิดเลยว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป

แต่ก็นั่นแหละนะ พอเผยอี้นึกถึงเฉิงหรูหนิงขึ้นมาทีไร เขาก็อดไม่ได้ที่จะเข่นเคี้ยวฟัน และตัดสินใจว่าคงต้องหาเวลาว่างๆ ไปอบรบสั่งสอนเฉิงหรูหนิงให้ดีๆ เสียหน่อยแล้ว ไอ้เด็กนั่นมันจะได้หลาบจำเสียที

“เซ่อเซ่อ ผมทนไม่ไหวแล้ว”

เขายังคงพูดความรู้สึกของตัวเองอย่างตรงไปตรงมาเสมอ เจียงเซ่ออยากจะกำมือให้แน่น แต่ก็ลืมไปว่ายังโดนเขาจับเอาไว้อยู่ เลยกลายเป็นว่ายิ่งจับเขาให้ใกล้เข้ามายิ่งขึ้น

เธอยังคงหอบหายใจถี่ออกมาเบาๆ เขาค่อยๆ ประทับรอบจูบลงบนแก้มและบนปลายคางของเธอ ค่อยๆ รดรินลมหายใจของตัวเองเอาไว้บนตัวของเธอ

บนร่างกายของเธอยังคงมีสัมผัสของเขาเต็มไปหมด เขาขยับตัวเอง จนเกิดช่องว่างเล็กๆ ขึ้น แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความใกล้ชิดและความรู้สึกบางอย่างที่ไม่ชัดเจนนัก

“แต่ก็ต้องทน”

ไหล่ขาวสวยของเธอมันโผล่พ้นออกมานอกเสื้อ เขารู้สึกเหมือนโดนมอมเมาอีกครั้งจนต้องก้มลงไปกัดเบาๆ บนหัวไหล่ของเธอ ทำให้เธอรู้สึกจั๊กจี้และตัวอ่อนปวกเปียก นิ้วเท้าทั้งสิบนิ้วหดแน่น ดีที่เผยอี้ยังไม่กล้าที่จะกัดลงไปแรงๆ

“อาอี้......” น้ำเสียงของเธอมันฟังดูเย้ายวนไม่น้อย แค่เรียกขึ้นมาแบบนี้ก็แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ตัวเธอเองยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตัวเองมีสภาพยังไงบ้างในตอนนี้ แต่เธอก็ยังพยายามเรียกเขาอยู่

“มันหนัก ลุกขึ้นก่อน”

ใบหน้าของเธอยังมีความเขินอายอยู่ไม่น้อย สายตาของเธอเวลาที่มองเขาก็ดูหยาดเยิ้มเหลือเกิน ทำให้ใบหน้าเขาเริ่มจะเปลี่ยนเป็นหมาป่าอีกสักครั้ง

เขาไม่อยากลุกขึ้น แต่สุดท้ายก็พยายามหักห้ามใจตัวเองอย่างสุดฤทธิ์ เขาปล่อยมือเธอออกแล้วไถลตัวนั่งลงกับพื้น

กว่าเขาจะทำแบบนี้ได้ มันก็ทำให้ทั้งตัวของเขามีแต่เหงื่อเต็มไปหมด เขามองไปที่เครื่องดื่มเย็นๆ สองแก้วที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ น้ำแข็งในแก้วละลายจนเกือบจะครึ่งค่อนแก้วแล้ว

เขาเอื้อมไปยกมาดื่มหนึ่งแก้ว แต่ก็เหมือนว่ายังจะไม่ดีขึ้น จึงต้องเอาแก้วของเจียงเซ่อมาดื่มอีกแก้วจนหมด ก่อนจะหันหน้าไปจูบลงบนแขนของเธอ แต่ครั้งนี้เขาไม่กล้าทำอะไรแล้วจริงๆ

เช็ดเหงื่อบนหัวออก แล้วหยิบครีมกันแดดที่ตัวเองโยนทิ้งลงบนพื้นขึ้นมา เมื่อครู่คงจะลนไปหน่อยก็เลยไม่ได้ปิดฝาด้วย แล้วตอนนี้ฝาก็หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้

เผยอี้ก็ขี้เกียจจะไปหามันแล้ว เขาบีบครีมออกมาแล้วทาให้เธอ แล้วพูดขึ้นมาอีก

“วันหลังถ้าจะทาก็ให้ผมทานะ ห้ามให้โม่อานฉีแตะเด็ดขาด”

เขานึกถึงก่อนหน้านี้ที่เขายังไม่ได้ขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าโม่อานฉีแอบจับแอบลูบเธอไปตั้งกี่ครั้งแล้ว รู้สึกหวงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เจียงเซ่อลุกขึ้นนั่งแล้วยกมือขึ้นไปมัดเชือกบิกินี่ให้เรียบร้อย เขานึกถึงการกระทำของตัวเองก่อนหน้านี้ขึ้นมา มันทั้งรู้สึกหอมหวาน และรู้สึกเขินอาย

มันมีบางอย่างที่ทำให้รู้สึกว่าเราทั้งสองคนนั้นใกล้ชิดกันมากกว่าเมื่อก่อนเสียอีก เขายกมือขึ้นช่วยเธอจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วก็นึกถึงเฉิงหรูหนิงขึ้นมาอีก ไม่รู้ว่าเมื่อกี้มันเห็นอะไรไปบ้างหรือเปล่า

“เดี๋ยวผมจะไปคิดบัญชีกับเฉิงหรูหนิงเอง”

ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโหเข้าไปอีก “ไอ้เด็กนั้นรนหาที่ตายจริงๆ”

เจียงเซ่อขำออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ แล้วยืดขาไปดันเขา แต่ก็นึกถึงอีกเรื่องขึ้นมาได้ก่อน

“จริงสิ เรื่องของกู้เจียเอ่อ นายทำใช่ไหม?”

“ครับ”

เขาตอบกลับอย่างสบายๆ มองใบหน้าเธอที่ขึ้นสีเรื่อ กับริมฝีปากที่แดงช้ำนั่นแล้ว ก็ต้องเผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองไม่ได้

“หนังเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ ถูกส่งไปตรวจแล้ว ผมยังไม่ได้ดูตอนที่พี่แสดงเลย”

ตอนที่ ‘ฝันที่เป็นจริง’ ถูกส่งไปตรวจในครั้งนั้น เจียงเซ่อยังถ่ายหนังอยู่ที่ซีหังอยู่เลย ที่จริงเผยอี้ได้เห็นฉากที่เจียงเซ่อแสดงไปแล้ว ตอนนั้นเป็นตอนที่เขายังจำเธอไม่ได้ เธอยังเอาแต่หลบๆ ซ่อนๆ ไม่ให้เขาเจอตัวได้ ในช่วงเวลานั้นก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เขาพลาดไปล่ะนะ

ตอนแรกคิดว่าหลังจากที่เรื่องนี้เข้าฉายแล้ว เขาก็อาจจะยังได้ไปหวนรำลึกถึงตอนที่เธอถ่ายหนังได้อีกสักครั้ง แต่ใครมันจะไปคิดว่าทีมงานของ ‘ฝันที่เป็นจริง’ จะตัดฉากของเธอออกไป

ตอนนั้นเผยอี้แค่คิดว่า ในเมื่อทีมงานของกู้เจียเอ่อเป็นคนลงมือตัดฉากของเธอเอง งั้นก็ลบไปให้หมดทั้งเรื่องไปเลยแล้วกัน

ส่วนเหยาเสียงที่สนใจในตัวเจียงเซ่อ แค่เรื่องนั้นก็ทำให้เขาโมโหไปมากแล้ว แต่เป็นเพราะว่าหาเจียงเซ่อเจอแล้ว เขาเลยไม่ได้ไปสนใจไอ้เจ้าเศษสวะนั่นอีก แต่ใครจะรู้ยังไม่ทันจะได้จัดการมันเลย มันก็อดไม่ได้ที่จะกระโดดออกมาเองแบบนี้