199

บทที่ 199 อะไร

เจียงเซ่อหันหน้าไปจ้องตาเขา จ้องอยุ่ครู่หนึ่งก่อนจะยกมือขึ้นทั้งสองข้างไปประคองหน้าเขาเอาไว้ นิ้วมือของเธอสอดเข้าไปในกลุ่มปลายเส้นผม เผยอี้รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโดนมอมเมาจนต้องค่อยๆ ก้มหน้าลง หน้าผากทั้งสองคนติดกัน เจียงเซ่อพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเบาๆ

“อาจจะตอบรับช้ากว่านี้หน่อย”

“เพราะอะไร?”

เขาไม่เข้าใจ เจียงเซ่อคล้องแขนกับคอเขา เหมือนว่าไม่อยากให้เขาพูดอะไรอีก

เนี่ยต้านซื้อเรือยอร์ชเอาไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ซื้อมาจากอิตาลีเลยทีเดียว สีขาวทั้งลำ การออกแบบสวยงามและมีระดับ

เนี่ยต้านเชิญผู้หญิงสวยๆ และคนที่มีชื่อเสียงหลายคนมาด้วย ตอนที่เจียงเซ่อและเผยอี้เดินจูงมือกันมา เขาและเฉิงหรูหนิง และสองพี่น้องตระกูลเซี่ยงก็อยู่บนเรือยอร์ชกันแล้ว

การออกเรือไปเที่ยวครั้งนี้ เจียงเซ่อสวมเพียงแค่กางเกงขาสั้น ส่วนด้านบนเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาว เผยอี้เองก็ไม่ได้แต่งตัวอะไรมากมาย แต่โม่อานฉียังเอาชุดบิกินี่ชุดว่ายน้ำที่เดี๋ยวทั้งสองคนจะเปลี่ยนไปด้วย หิ้วของตามขึ้นไปบนเรือยอร์ช

คนมากันมาเยอะพอสมควรแล้ว เจียงเซ่อมองไปรอบๆ อย่างสนใจ หลายคนที่เห็นก็เหมือนจะรู้จักและคุ้นอยู่บ้าง แม้แต่คนของตระกูลเซี่ยก็มา นอกจากนี้ หางตาของเธอยังเหลือบไปเห็นลูกสาวของตระกูลเฝิงอีกด้วย เฝิงหนานเองก็อยู่ในท่ามกลางหมู่คน

“เธอมาที่นี่ทำไม?”

เผยอี้เองก็เห็นเฝิงหนานแล้ว เขาดึงแว่นกันลงเล็กน้อย

เนี่ยต้านสวมกางเกงขาสั้นสีส้มสะดุดตา ส่วนท่อนบนสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น เขามองผ่านเผยอี้ไป ก็พบว่าเป็นเจียงเซ่อ เขาเลียริมฝีปาก

“มากับคนในตระกูลเฝิงนั่นแหละ”

ได้ยินมาว่าเฝิงหนานกลับมาที่ฮ่องกงได้ครึ่งเดือนแล้ว “ได้ยินมาว่าไปทำให้คุณปู่โกรธเข้า เลยโดนส่งให้มาสำนึกผิดที่บ้านเก่า”

ครั้งนี้เนี่ยต้านทำให้เหมาะสมที่สุดแล้ว เขาส่งคำเชิญไปในนามรุ่นที่สอง แน่นอนว่าเฝิงหนานก็คงได้รับเช่นกัน

แต่ก่อนตอนที่เผยอี้ชอบเฝิงหนาน ไม่ว่าจะมีกิจกรรมอะไรที่ฮ่องกง ทุกคนก็จะต้องส่งคนไปเชิญถึงที่ แต่ครั้งนี้แค่ส่งคำเชิญเป็นตัวหนังสือไปเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าเฝิงหนานจะมาจริงๆ

เนี่ยต้านเองก็รู้แล้วว่าตอนนี้เผยอี้ไม่ชอบเฝิงหนาน เลยทำได้แค่ตบๆ ลงบนไหล่ของเขา

“หรือว่า หาสักวิธี ไล่เธอไปดีล่ะ?”

ลูกหลานสาวของตระกูลเฝิงหันมามองเจียงเซ่อ ทุกคนต่างรู้สึกแปลกใจ และสายตาที่มองไปที่เฝิงหนานเองก็แปลกๆ

“เผยอี้เขามีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

“แล้วทำถึงถามฉันล่ะ?”

เฝิงหนานรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาไม่น้อย หล่อนสวมชุดบิกินี่ ท่าทางดูเบื่อหน่ายอยู่ไม่น้อย

ตั้งแต่ที่เกิดใหม่มา หล่อนรู้สึกพอใจกับร่างกายของเฝิงหนานตัวจริงมากทีเดียว ถ้าไม่มีชาติตระกูล ถ้าไม่มีฐานะ เทียบความสูงของตัวเธอก่อนจะมาเกิดใหม่ที่สูงแค่ร้อยหกสิบห้า ก็กลายเป็นสูงใกล้จะร้อยเจ็ดสิบเต็มที ขาคู่ที่เรียวยาว ที่เป็นจุดสำคัญก็คือสีผิวที่ขาวและผุดผ่องเพราะได้รับการดูแลมาอย่างดี มันขาวราวกับน้ำนม ขาวจนสว่าง

สิ่งเดียวที่รู้สึกไม่พอใจ ก็คงจะเป็นหน้าอกนี่ล่ะมั้ง

ก่อนที่จะมาเกิดใหม่หน้าอกเธอใหญ่ใช่ย่อย แต่ของเฝิงหนานมันก็แค่พอใช้ได้ ไม่ใหญ่แต่ก็ไม่เล็ก

หล่อนสวมชุดบิกินี่ รูปร่างของเธอที่อยู่ท่ามกลางหญิงสาวมันก็ดูโดดเด่นอยู่ไม่น้อย และเหมือนว่าจะมีคนเข้าไปชวนคุยอยู่หลายคนแล้วด้วย

เมื่อครึ่งเดือนก่อนเธอขายห้องไปห้องหนึ่งเพื่อนำเงินไปลงทุนหนัง เอาทุนของตัวเองไปให้กับทีมงานเพื่อบทนางเอก และนั่นก็ทำให้เฝิงจงเหลียงโกรธมาก หนังยังไม่ทันได้เริ่มถ่าย เขาก็ส่งเธอมาอยู่ที่ฮ่องกงสักพักแล้ว

ตอนที่เธอเห็นว่าเจียงเซ่อมา แค่เงยหน้าขึ้น แว่นกันแดดสีดำมันก็บดบังสายตาที่แสนแค้นเอาไว้ ทำให้สีหน้าหล่อนเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร พอเฝิงซือหย่งที่นั่งอยู่ข้างๆ หล่อนได้ยินแบบนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา

“แล้วทำไมถึงจะไม่ถามพี่ล่ะ? เผยอี้นี่สนิทกับพี่ไม่น้อยเลยนะ ไม่ใช่หรือ?”

“ว่าไงนะ”

เฝิงหนานที่ได้ยินแบบนั้นก็นั่งตัวตรงขึ้น เพราะว่าหล่อนรีบมาก ทำให้แว่นกันแดดที่สวมอยู่มันไหลลงมา

คนที่พูดคือลูกสาวของลุงสอง อายุน้อยกว่าหล่อนสามปี ตอนนี้ยังเรียนอยู่ที่ฮ่องกง ตระกูลเฝิงเองก็กำลังจะหาคู่แต่งงานให้หล่อนด้วย

เรื่องแบบที่เฝิงซือหย่งถือว่าเจอได้บ่อยๆ ในฮ่องกง พวกนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงรุ่นใหญ่ชอบเด็กสาวที่มีการศึกษาสูงๆ เพื่อที่จะหาคู่ให้กับลูกหลาน ส่วนมากก็มักจะหาคนที่คู่ควรและเหมาะสมที่สุดให้ ยิ่งโดยเฉพาะกับเด็กสาวที่เอาแต่เคร่งกับการเรียน เฝืงซือหย่งเองก็อายุไม่น้อยแล้ว แต่เวลาที่อยู่ในรั้วโรงเรียน ในหนึ่งปีเธอไปโรงเรียนแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้นเอง

“เขากับฉันสนิทกันอย่างนั้นหรือ?”

เฝิงหนานเองก็ถามตอบกลับไปทันที เฝิงซือหย่งพยักหน้า

“ก็ใช่น่ะสิคะ ตั้งแต่เด็กๆ ที่พี่ไปตี้ตูกับคุณปู่ พี่ก็เป็นเพื่อนเล่นกับเขาตั้งแต่เด็กๆ เขาก็เลยสนิทกับพี่มากๆ ปีก่อนๆ ที่พี่กลับมาฮ่องกง เขาก็จะมากับพี่ตลอดแหละ แล้วทำไมตอนนี้เขาถึงมีแฟนได้ พี่ไม่รู้อย่างนั้นเหรอ?”

พอเฝิงหนานได้ยินอย่างนั้น ในใจของเฝิงหนานเหมือนมีพลังมาหาศาล รู้สึกอยากจะสบถคำหยาบออกมา

หล่อนจะไปรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน?

หลังจากที่เกิดใหม่มา หล่อนเองก็เคยพยายามสืบเรื่องอะไรหลายๆ อย่าง พยายามที่จะหาสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเองให้มากที่สุด แต่เหมือนว่ามันจะน้อยเหลือเกิน

แค่ตู้ที่มีแต่งหนังสือเต็มไปหมด มันก็ทำให้หล่อนพอที่จะเดานิสัยของเฝิงหนานจริงๆ ออกแล้ว ส่วนมากเธอก็ต้องพึ่งความเข้าใจต่อตัวเฝิงหนานตัวจริงนั่นแหละ

ตอนนั้นหล่อนเอาแต่คิดว่าต้องแต่งงานกับจ้าวจวินฮั่นให้ได้ และหล่อนเองก็เคยได้ยินนิสัยของคุณหนูของวิสาหกิจจงหนานมาบ้าง แต่พอหล่อนลงลึกไปอีก ก็พบว่าเธอเคยอยู่ที่ฝรั่งเศส นอกนั้นหล่อนก็แทบจะสืบหาอะไรไม่ได้เลย เท่าที่รู้มาได้ ก็มีแค่สิ่งที่ไม่จำเป็นอย่างเธอเล่นเปียโนเป็น พูดภาษาอังกฤษได้ เป็นคนชั้นสูงที่มีความสุขุมและเรียบร้อย และพูดภาษากวางตุ้งได้คล่อง

แล้วหล่อนจะรู้ได้ยังไงว่าเผยอี้สนิทสนมกับเฝิงหนาน?

ตั้งแต่ที่เกิดใหม่มา เฝิงจงเหลียงก็ไม่เคยเตือนเธอเลย!

หล่อนนึกถึงตอนที่ตัวเองไปเล่นกับพวกเซี่ยงชิวจี๋ ตอนนั้นเผอี้ยังแสดงออกว่าตั้งใจจะแกล้งหล่อนอยู่เลย แถมยังแกล้งให้เธอแพ้ไปกว่าสิบล้าน กลับมาก็ยังโดนเฝิงจงเหลียงควมคุมอีก โดนให้สำนึกผิดอยู่สักระยะ แล้วตรงไหนกันล่ะที่เรียกว่าสนิทกัน?

เฝิงหนานกำลังจะโต้กลับ หล่อนก็นึกถึงตอนที่ตัวเองได้ตามเฝิงจงเหลียงไปที่บ้านตระกูลเผยช่วงตรุษจีน ตอนนั้นเผยหรุ่ยพูดเรื่องตลกขึ้นมา

เผยหรุ่ยเล่าถึงตอนแรกที่เผยอี้ได้เจอกับเจียงเซ่อ ปากเขาก็เอาแต่พูดว่า ‘หน่ายนาย*คุณย่า’ จนเป็นจุดเริ่มต้นของทั้งคู่

คิดถึงตรงนี้แล้ว เฝิงหนานก็เริ่มรู้สึกนั่งไม่ติดแล้ว หล่อนรู้สึกว่าตัวเองพลาดเรื่องสำคัญไปอีกแล้ว

ตั้งแต่ที่เกิดใหม่มาหล่อนก็เอาแต่มองว่าจ้าวจวินฮั่นเป็นมหาเศรษฐีเพียงคนเดียว จ้าวจวินฮั่นในสายตาเธอเขาทำได้ทุกอย่าง หล่อนคิดมาตลอดเวลาว่าเขาเป็นตระกูลที่มีทั้งเงินและอำนาจ การที่ได้แต่งงานกับเขาเป็นเป้าหมายสูงสุด หลังจากที่ได้มาเกิดใหม่แล้ว หล่อนจึงเอาแต่มุ่งไปทางนั้น

ก่อนที่จะมาเกิดใหม่มันก็เป็นเพราะว่าหล่อนไม่ได้เกิดมามีฐานะสูงส่งและร่ำรวย ชีวิตในวงการของเธอมันก็ไม่ได้ดีอะไรนัก หนังดีๆ หรือต้นทุนดีๆ ไม่เคยตกมาถึงมือหล่อนเลยสักครั้ง พอได้มาเกิดใหม่แบบนี้หล่อนก็เลยตั้งใจที่จะเป็นผู้ชนะในทุกๆ อย่าง ธุรกิจนักแสดงกับจ้าวจวินฮั่น หล่อนไม่ต้องการที่จะเสียอะไรเลยสักอย่าง เพื่อที่จะทดแทนความเสียใจต่างๆ ในโลกที่แล้ว

หลังจากที่พบตัวตนจริงๆ ของเฝิงหนาน และมั่นใจว่าเธอและจ้าวจวินฮั่นต้องเกี่ยวดองกัน หล่อนจึงเข้าหาจ้าวจวินฮั่นอย่างไม่คิดอะไรทั้งนั้น และไม่เคยคิดมาก่อนว่าเฝิงหนานจะมีใครคนอื่นที่ตามจีบอีก

แต่พอตอนนี้ได้ยินที่เฝิงซือหย่งเตือนเธอขึ้นมาแบบนี้แล้ว สีหน้าของเฝิงหนานก็ซีดไปหมด!

พอได้เข้ามาสัมผัสกับคนชนชั้นพวกนี้จริงๆ แล้ว หล่อนก็พบว่าจ้าวจวินฮั่นที่เคยมองว่าสูงส่งนักหนา แท้จริงแล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลยสักนิด เทียบกับพวกเผยอี้ เนี่ยต้าน เฉิงหรูหนิงพวกนี้ไม่ได้เลยสักนิด