webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

198

บทที่ 198 ขอแต่งงาน

ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันมากว่าหกปี ทั้งสองคนต่างก็หลอมรวมเข้าไปในชีวิตส่วนตัวของกันและกัน ทุกครั้งที่โจวเหวยนึกถึงจางเจินขึ้นมาก็จะรู้สึกสะเทือนไปทั้งใจ นึกถึงคำพูดที่เขาเคยพูด เดินไปตามทางที่เขาเคยเดิน สิ่งเหล่านั้นมันถูกฝังอยู่ในใจของเธอมาโดยตลอด เธอเคยคิดว่าตัวเองลืมมันไปหมดแล้ว แต่ความทรงจำทั้งหมดมันกลับเด่นชัดขึ้นมาในใจ

ฉากๆ นี้ผ่านไปอย่างราบรื่น ฉากต่อไปคือฉากที่ต้องถ่ายสภาพวิวโดยรอบ ยามค่ำคืนกำลังย่างกรายเข้ามา เป็นฉากที่โจวเหวยและจางเจินกำลังจะเลิกกัน

ทางทีมงานได้เตรียมเหมารถแท็กซี่มาแล้วคันหนึ่ง ตอนนี้ถนนโล่งแล้ว หลังจากที่เจียงเซ่อถ่ายฉากที่เลิกกับหังยวี๋อีเสร็จ ก็จะเป็นฉากที่เธอต้องขึ้นรถแท็กซี่ไป

รถรางกล้องเตรียมพร้อมถ่ายเธอเรียบร้อย อีกด้านหนึ่งก็มีช่างกล้องอีกคน เขาสวมรองเท้าสเก็ตเอาไว้ และวิ่งตามรถแท็กซี่ที่เจียงเซ่อขึ้นไป

เจียงเซ่อโบกมือ รถแท็กซี่เข้าไปจอด ช่างกล้องจับภาพไปที่ข้างนอกรถ กล้องได้จับภาพตอนที่เธอขึ้นไปอยู่บนรถเรียบร้อยแล้ว ถึงค่ำคืนจะมืดแต่กล้องก็สามารถถ่ายใบหน้าของเจียงเซ่อที่มีน้ำตาไหลลงมาได้อย่างชัดเจน ช่างกล้องเกาะรถตามถ่ายไปประมาณสิบกว่าเมตร พอใกล้จะปล่อยมือออก ภาพเจียงเซ่อที่นั่งอยู่ในรถก็ค่อยๆ ไกลออกไปเรื่อยๆ

ฉากนี้เพราะว่าจ้าวร่างไม่พอใจกับแสง เลยโดนถ่ายใหม่ไปกว่าเจ็ดแปดรอบถึงจะผ่านไปได้

หนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับที่ฉันรักเธอ’ ที่ได้มาถ่ายที่ซีหังดูเหมือนว่าผ่านไปได้อย่างราบรื่น แต่เผยอี้ก็ยังคงกังวลอยู่เสมอ ทุกๆ ครั้งที่ถึงวันหยุดสุดสัปดาห์เขาก็มักจะบินมาหาเจียงเซ่อที่ซีหัง

ดีที่ฉากระหว่างเจียงเซ่อกับหังยวี๋อีเป็นแค่เรื่องราวในอดีต และไม่ได้มีซีนที่ชิดใกล้หวือหวาอะไร เพราะแค่นี้ เผยอี้ก็ระทมใจพอแล้ว ทุกครั้งที่เขามองไปที่หังยวี๋อีก็เอาแต่ส่งรังสีอันน่าสะพรึงกลัวไปให้ เวลาที่เจียงเซ่อต้องเข้าฉากกับหังยวี๋อีก็รู้สึกอกสั่นขวัญหายอยู่ตลอดเวลา

ตอนแรกคิดว่าหนังเรื่องนี้จะถ่ายเสร็จประมาณต้นเดือนมิถุนายนเสียอีก แต่แค่ปลายเดือนพฤษภาคมก็เสร็จแล้ว

ก่อนอื่นก็ต้องไปร่วมงานปิดกล้องของหนังเรื่องนี้ก่อน พอเจียงเซ่อกลับมาถึงตี้ตู เธอก็โทรหาเซี่ยเชาฉวิน จากนั้นเธอก็คิดว่าตอนนี้ก็ถ่ายหนังตวามคิวหมดแล้ว จากที่ลาเรียนเอาไว้สามเดือน เธอก็กะว่าจะพักสักสองวันแล้วจะกลับไปเรียนอีกครั้ง

ตอนเย็นของวันพฤหัสบดี เนี่ยต้านก็โทรมาเผยอี้ เขารับสายและคุยกันอยู่สองสามประโยค ก่อนจะหันมาจุ๊บลงบนศีรษะของเจียงเซ่อ

“เซ่อเซ่อ อาต้านชวนพวกเราไปเที่ยวที่ฮ่องกงด้วยกัน”

พรุ่งนี้เป็นวันศุกร์ มีเวลาเที่ยวถึงวันจันทร์แล้วค่อยกลับมาก็ได้ เขาเอื้อมมือโอบไหล่เจียงเซ่อเข้ามา

“มันซื้อเรือยอร์ชลำใหม่มา เราจะออกทะเลเที่ยวกัน”

เขาได้ตั้งธุรกิจไว้อยู่ที่อ่าวรีพัลส์เบย์*ฮ่องกงตอนนั้นก็ทำเพราะจะจีบเฝิงหนาน เลยซื้อตึกข้างริมน้ำเอาไว้ด้วย

แต่หลังจากที่ซื้อเอาไว้แล้วก็เพราะส่วนมากเจียงเซ่อยู่ที่ตี้ตู ทำให้น้อยมากที่เผยอี้จะไปค้างที่นั่น ห้องก็ปล่อยทิ้งไว้ ทุกวันนี้ราคาห้องก็เพิ่มขึ้นๆ ทุกวัน

ตอนนั้นพวกเนี่ยต้านเองก็ซื้อๆ ตามเขาไป ที่ตรงนั้นมันติดริมทะเล แถมยังมีท่าเรือเอาไว้ให้จอดเรือยอร์ชส่วนตัวได้อีกด้วย ที่ทะเลก็มีความบันเทิงและสีสันอะไรมากมาย

ก่อนหน้านี้เจียงเซ่อก็เอาแต่ถ่ายหนังที่ซีหัง ปล่อยให้เขาต้องอยู่คนเดียวอยู่นานแสนนาน และตอนนี้เธอก็มีเวลาว่างที่หายากแล้ว ถ้าได้กลับฮ่องกงแบบนี้ เธอก็พยักหน้าตอบรับทันที และตกลงว่าจะไปด้วย

พอเธอตอบตกลงแล้ว เผยอี้ก็จัดการเตรียมตัวทุกๆ อย่างด้วยตัวเองทันที วันถัดมาพอไปถึงที่ฮ่องกง ก็มีพ่อบ้านขับรถมารอรับอยู่แล้ว

คนที่ดูแลบ้านพักตากอากาศให้กับเผยอี้ก็คือหญิงวัยกลางคยอายุประมาณสี่สิบ แต่งหน้าบางๆ สวมชุดกระโปรง เห็นได้ชัดว่ามีบุคลิกที่ดีมาก หล่อนเข้ามาทักทายเผยอี้ก่อน จากนั้นสายตาก็ค่อยๆ เลื่อนมามองที่เจียงเซ่อ

หล่อนอยู่ที่บ้านพักตากอากาศที่เผยอี้ซื้อทิ้งเอาไว้มาหลายปีแล้ว แน่นอนว่าหล่อนรู้เรื่องที่ว่าเผยอี้ตามจีบเฝิงหนานอยู่ และทุกวันนี้ในบ้านพักตากอากาศก็ยังมีรูปของเฝิงหนานอยู่เลยด้วยซ้ำ

หล่อนไม่เคยเห็นมาก่อนว่าข้างกายเผยอี้จะมีผู้หญิงคนอื่นคนไหน ไม่คิดเลยว่าการมาฮ่องกงของเผยอี้ในครั้งนี้ ข้างกายเข้าจะมีเด็กสาวที่ดูสนิทสนมกันอีกคนมาด้วย

“นี่คือพี่ซิน เป็นคนดูแลเรื่องต่างๆ ที่อ่าวรีพัลส์เบย์นี่ พี่เขาเชี่ยวชาญการทำของหวานมากๆ เลย” แล้วเขาก็พูดแนะนำเจียงเซ่อขึ้นมาอีก

“นี่ภรรยาผมครับ”

“มั่วแล้ว”

พอเจียงเซ่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น ก็อดไปได้ที่เงยหน้ามองค้อนเขา เขาสวมแว่นกันแดดสีดำ เรือนผมสีทองถูกพัดจนยุ่งเหยิง พอเขาก้มหน้าลงมาเห็นว่าเจียงเซ่อกำลังเคืองๆ เขาก็หัวเราะออกมา

พี่ซินที่ได้ยินเขาพูดขึ้นมาแบบนั้น ก็หันไปก้มหน้าให้เจียงเซ่อ

“คุณนายเผย”

คำพูดนั้นของหล่อนทำให้เผยอี้พอใจไม่น้อย โม่อานฉีที่ลากกระเป๋าตามเธอมาด้านหลังก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ทำให้เจียงเซ่อต้องรีบแนะนำตัวเองขึ้นมาอย่างตั้งใจ

“ฉันแซ่เจียงค่ะ ชื่อเจียงเซ่อ”

พี่ซินพูดภาษาหัวเซี่ยได้คล่องมาก ตลอดทางหล่อนแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวฮ่องกงให้เธอพร้อมกับร้านอาหารขึ้นชื่อต่างๆ

ที่จริงที่หล่อนพูดมาทั้งหมดเธอเองก็รู้จักหมดแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะออกมาจากฮ่องกับเฝิงจงเหลียงตั้งแต่เด็กๆ แต่ถ้ามีโอกาสดีๆ ในทุกๆ ปีเธอก็จะกลับมาอยู่ที่ฮ่องกงช่วงหนึ่งอยู่แล้ว แต่เธอก็ไม่ได้คิดที่จะไปขัดการแนะนำของพี่ซิน เธอยิ้มและฟังสิ่งที่ซินพูดจนจบ พอกลับมาถึงที่บ้านของเผยอี้ เวลาก็ใกล้หนึ่งทุ่มแล้ว

ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเนี่ยต้านนัก บ้านอยู่ริมชายหาด บริเวณนี้ล้วนแล้วเป็นบ้านตากอากาศส่วนตัวทั้งนั้น คนที่นี่ล้วนแล้วเป็นเศรษฐีในฮ่องกง คนทั่วๆ ไปไม่สามารถเข้ามาได้อยู่แล้ว โม่อานฉีเองก็จะขึ้นเที่ยวเรือยอร์ชในวันพรุ่งนี้ด้วย แน่นอนว่าหล่อนก็ต้องนอนพักที่บ้านของเผยอี้ด้วย

แน่นอนว่าบ้านพักตากอากาศที่นี่ไม่เหมือนกับบ้านพักตากอากาศที่ตี้ตู ที่นี่มืพื้นที่กว้างขวาง หน้าบ้านติดริมทะเล ด้านหลังมีสระน้ำขนาดใหญ่ มีฟิตเนสและร้านเสริมสวยส่วนตัว และมีสนามบาสเล็กๆ อยู่ด้วย ในบ้านพักตากอากาศก็ได้ติดตั้งสัญญาณอินเทอร์เน็ตเอาไว้เรียบร้อย เรื่องความปลอดภัยก็ไม่ต้องเป็นห่วง กล้องวงจรปิดก็ถูกติดเอาไว้และเชื่อมกับบริษัทรักษาความปลอดภัย พอโม่อานฉีเห็นสระว่ายน้ำแล้ว ก็แทบอยากจะสะบัดกระเป๋าเดินทางออกแล้วกระโดดลงไปในสระน้ำเลยด้วยซ้ำ

พอโม่อานฉีไม่ได้อยู่ข้างๆ ตัวแล้ว เผยอี้ก็ชวนเจียงเซ่อไปเดินเล่นที่ริมทะเลด้วยกัน ตอนนี้ที่ชายหาดไม่มีคน เจียงเซ่อถอดรองเท้าออก แล้วค่อยวางเท้าเปล่าลงไปบนผืนทรายนุ่ม ตอนนั้นเองที่เธอรู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัว

หูคอยฟังเสียงลูกคลื่นที่วิ่งกระทบเข้าสู่ฝั่ง เงยหน้าขึ้นมองดวงดาวบนท้องฟ้า ภาพแบบนี้คงหาไม่ได้ง่ายในเมืองที่มีแต่ตึกสูง

“เห็นแบบนี้แล้ว พรุ่งนี้จะต้องอากาศดีมากแน่ๆ” พอเดินจนเหนื่อยแล้ว ทั้งสองคนจึงหาที่นั่งเหมาะๆ นั่งพักกัน เจียงเซ่อพิงตัวกับเผยอี้ แล้วพูคุยกับเขา

“ตอนเด็กๆ ปู่ของฉันเคยบอกว่า ยิ่งดึกเท่าไหร่ดาวก็ยิ่งเยอะ พอวันถัดไปจะต้องมีพระอาทิตย์แน่ๆ”

ที่จริงเผยอี้ดูพยากรณ์อากาศมาแล้ว เนี่ยต้านจะออกทะเล เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะออกวันที่อากาศไม่ดี

แต่เขาไม่อยากจะขัดเจียงเซ่อ ในใจของเขา ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ถูกหมด ไม่ต้องพูดว่าพรุ่งนี้อากาศจะดีหรือไม่ดี ถ้าเจียงเซ่อว่าพรุ่งนี้จะมีดวงดาวเต็มท้องฟ้า หรือบอกว่ามีพระอาทิตย์ เขาก็จะพุดตามเธออย่างไม่อิดออด

ลมทะเลพัดเรือนผมของจนปลิวว่อนปิดหน้าของเธอ กลิ่นหอมอ่อนๆ โชยออกมา นอกจากหูของเขาจะฟังเสียงคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งแล้ว ก็ยังคอยฟังเสียงพูดหวานๆ ของเธอไปด้วย

โชคดีที่ตอนกลางคืนไม่ค่อยมีคน แสงของดวงดาวสวยมากจริงๆ หรือไม่รู้ว่าเป็นเพราะเสียงนุ่มหวานของเธอกันแน่ที่ทำให้เขาเมา บรรยากาศดีมากทีเดียว เขาวางเท้าเปล่าลงบนพื้นทราย เลียริมฝีปากตัวเอง เขารู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย

“เซ่อเซ่อ พี่ว่า ถ้าผมของพี่แต่งงานตอนนี้ พี่จะตอบรับผมไหม?”

เขาทำทีเป็นกล้าพูดแบบนั้นออกมา พูดจบก็กลั้นหายใจรอคำตอบจากเจียงเซ่อ เพราะกลัวว่าจะไม่ทันได้ยินคำตอบของเธอ