webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

197

บทที่ 197 โอกาส

เฝิงหนานรู้สึกว่าตัวเองพราดไปก้าวหนึ่ง และรู้สึกก้าวพลาดมาเรื่อยๆ

หล่อนฟังที่จ้าวจวินฮั่นพูด รู้สึกใจมันไม่สงบลงเลยสักนิด กลับกันมันรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า

ถ้าหล่อนสามารถเอาหนังเรื่อง ‘Evil’ มาไว้ในมือได้ตั้งแต่แรก ตอนนี้หล่อนก็คงได้บทนางเอกในหนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับที่ฉันรักเธอ’ ของจ้าวร่างแล้ว แบบนั้นใช่ไหม?

ตอนนี้ในใจของเธอมันร้อนรนและวุ่นวายไปหมด จ้าวจวินฮั่นพูดต่อ

“ได้ยินมาว่าเซี่ยเชาฉวินรู้จักกับหลิวเย่ พอหล่อนตอบรับจ้าวร่างแล้ว จ้าวร่างก็เลยปล่อยบทโจวเหวยออก เดี๋ยวก็คงจะไปพูดกับหลิวเย่ว่าให้แสดงบทลั่วเซิ่นในเรื่อง ‘Evil’ด้วย

ในใจของเฝิงหนานยิ่งลนเข้าไปใหญ่ หล่อนกัดฟันแน่น แล้วพยายามยิ้มออกมา

“เซี่ยเชาฉวิน?”

หล่อนเหมือนจะพอจำได้ ว่าตอนที่เจียงเซ่อเซ็นสัญญาเข้าซื่อจี้หยินเหอ ผู้จัดการที่มาดูแลเธอก็คือเซี่ยเชาฉวิน

ถ้าหากว่าคนแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างจ้าวร่างคือเซี่ยเชาฉวินละก็ งั้นนางเอกของหนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับที่ฉันรักเธอ’ คือเจียงเซ่ออย่างนั้นสิ?

เธอคิดได้อย่างนั้น กรามของเธอก็กัดแน่นขึ้นอีก ทำให้เนื้อแก้มบนใบหน้าของเธอมันกระตุกอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากที่เจียงเซ่อได้หยุดพักช่วงเทศกาลวันตรุษไป เวลาชีวิตของเธอยิ่งยุ่งมากขึ้น หลังจากที่ทีมงานกองถ่าย ‘The Occasion of Beiping’ กลับมาที่ตี้ตูกันหมดแล้ว เธอก็ได้ถ่ายส่วนของเธอจนหมด และได้ทำเรื่องลาหยุดกับทางมหาวิทยาลัยสามเดือนเรียบร้อย หลังจากที่บอกลาเผยอี้แล้ว เธอก็เดินทางไปซีหังกับโม่อานฉีทันที

จ้าวร่างและทีมงานกองถ่ายของ ‘เกี่ยวกับที่ฉันรักเธอ’ ต่างก็ไปถึงจุดถ่ายทำและเตรียมฉากทุกอย่างเอาไว้แล้ว ส่วนของซีนตัวประกอบก็ถ่ายเสร็จแล้วมตอนนี้ก็เหลือแค่รอเธอ

ถึงแม้จะมีคนมาเตือนมาพูดถึงเรื่องที่ช่วงหลังๆ บัตรหนังของ ‘99 Love Letter’ มันขายได้ไม่ดีนักก็เพราะเธอและจูพ่าน แต่ในความคิดของจ้าวร่างแล้ว เจียงเซ่อเป็นคนที่สงบและสุขุมที่สุด

จ้าวร่างเองก็ไม่ได้คิดว่าจะเอาเรื่องที่ตั๋วหนัง ‘Love letter’ ขายได้ไม่ดีไปโทษเธอ แม้แต่ตอนที่เธอมาถึงที่กองถ่าย เขาก็ยังรู้สึกดีใจอยู่เลย

พอเขาเห็นเจียงเซ่อเดินเข้ามาในกองถ่ายแล้ว ใบหน้าก็ยังเผยความแปลกใจออกมาไม่น้อย

เพราะตั้งแต่แรกหนังเรื่องนี้ก็ได้กำหนดไว้ว่านางเอกคือจ้าวรั่วจวิน แต่กลับกลายเป็นว่าจ้าวรั่วจวินโดนเขี่ยออกเสียอย่างนั้น เห็นได้ยินมาว่าเปลี่ยนตัวนางเอก หังยวี๋อีนึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเจียงเซ่อ คนที่เคยเล่นเป็นตัวประกอบในหนังของกู้เจียเอ่อ

ต้นทุนของเธอในปีนี้ดีมาก การไต่ขึ้นสู่ที่สูงก็เร็วใช่ย่อย ทั้งๆ ที่เธอก็เป็นแค่ดาราใหม่ในวงการหนังภาพยนตร์เหมือนกัน แต่ทั้งบุคลิกท่าทางส่วนตัว ฐานะและจุดยืนต่างๆ กลับอยู่สูงกว่าใครๆ ก่อนหน้านี้ในเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ หังยวี๋อีได้แสดงเป็นพระเอกของเรื่อง แต่เจียงเซ่อได้แค่แสดงเป็นแอร์โฮสเตสที่เดินผ่านเขาไปมาและพูดบทแค่สองสามประโยคเท่านั้น

เหมือนแค่หมุนตัวกลับมามองอีกที เธอก็ได้กลายเป็นนางเอกของเรื่อง ‘เกี่ยวกับที่ฉันรักเธอ’ เสียแล้ว แต่บทหนังก็ถือว่าหนักพอสมควร ตอนนี้หังยวี๋อีเริ่มคิดถึงตอนที่เธอจะต้องเข้าฉากด้วยกันเสียแล้ว

การเข้าฉากวันแรก ซีนที่จะได้เริ่มถ่ายก็คือซีนที่โจวเหวยได้เข้าไปร่วมงานศพของแฟนหนุ่มที่กำลังจะเลิกรากัน

ทางทีมงานได้เตรียมฉากๆ นี้เอาไว้เรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเจียงเซ่อต้องเสียเวลาอยู่กับ ‘The Occasion of Beiping’ ฉากๆ นี้ก็คงจะไม่ใช่วันนี้เพิ่งมาถ่ายหรอก

ตอนนี้ทั้งเจียงเซ่อและจ้าวร่างก็ได้ร่วมงานกันมาสองครั้งแล้ว นิสัยใจคอต่างเป็นที่เข้าใจและรู้กัน ระหว่างการถ่ายทำจึงผ่านไปได้อย่างราบรื่น

ถึงมันจะบอกอยู่แล้วว่าเป็นหนังที่เกี่ยวกับความรัก แต่จ้าวร่างจะไม่ใช้มุขความรักความใคร่ของชายหญิงมาทำให้หนังน่าสนใจหรอก แต่จะเจาะถึงแก่นแท้ของความรู้สึกระหว่างชายหญิงคู่นี้ออกมา

ในสถานการณ์แบบนี้ เขาจึงยิ่งเข้มงวดต่อเจียงเซ่อมากขึ้นอีก

ไม่ว่าจะเป็นซีนอารมณ์ที่เศร้าโศกสิ้นหวังในงานศพ หรือจะเป็นซีนอารมณ์ขวัญหายในภายหลังก็ตาม

“โจวเหวยรู้สึกว่าความรักระหว่างตัวเองกับจางเจินมันเริ่มจืดจางลงแล้ว และมีความคิดที่จะเลิก แต่ว่าจางเจินเสียชีวิตไปเสียก่อน เธอจึงได้รู้ว่าจริงๆ ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยสักนิด”

ในขณะที่พักกอง จ้าวร่างก็ได้เข้าไปอธิบายให้เจียงเซ่อฟังถึงบทของนางเอก

“มีอะไรบางอย่าง ที่ถูกกดเอาไว้อยู่ในใจ ไม่อยากจะเปิดเผยมันออกมา เธอต้องสื่อตรงนี้ออกมาให้ได้”

ความจริงแล้วหลังจากที่ถ่ายหนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ของหลินซีเหวินไปแล้ว จ้าวร่างก็พบเจียงเซ่อก้าวหน้าขึ้นอย่างน่าตกใจ เธอควรที่จะเข้าใจตัวบทหนังอย่างถ่องแท้ ดังนั้นจ้าวร่างถึงได้มาพูดให้เธอฟังถึงตัวหนัง มันจะได้ดีขึ้นมากกว่าเดิม

ฉากที่กำลังจะถ่ายเป็นฉากที่โจวเหวยเพิ่งเลิกงานกลับมาถึงบ้าน กำลังเดินผ่านทะเลสาบซีหูอันสวยงาม

เจียงเซ่อท่องบทของตัวเองอีกนิดหน่อย พอมั่นใจว่าจะไม่ผิดพลาดแล้ว เธอก็ทำมือให้จ้าวร่างว่าพร้อมแล้ว จ้าวร่างเห็นอย่างนั้นก็ปรบๆ มือ แล้วตะโกนเสียงดังขึ้น

“เตรียมพร้อมนะ”

ทั้งทีมงานช่างไฟต่างๆ พอกันเช็กความเรียบร้อยของตัวเอง เจียงเซ่อถอดเสื้อคลุมของตัวเองออก ช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นฤดูใบไม้ผลิแต่อากาศบริเวณทะเลสาปซีหูนี่ยังหนาวมากจริงๆ เจียงเซ่อเปลี่ยนชุดแสดงเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวคู่กับกระโปรงยาวสีเขียวอ่อน ผมถูกดัดและปล่อยลงมา พอเดินขึ้นไปบนสะพานแล้ว ไหล่ของเธอค่อยๆ ห่อลง แผ่นหลังที่ตรงมาโดนตลอดเริ่มโค้งงอเช่นกัน

นี่เป็นเทคนิคที่เธอเคยได้เรียนมาจากรุ่นพี่มา การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ แต่กลับสามารถทำให้ทุกคนมองออกว่าเธอเจ็บปวดและสิ้นหวังมากแค่ไหน จ้าวร่างเองก็พอใจกับภาษากายของเธอมากเช่นกัน เลยไม่มีสั่งให้หยุด

วิวและแสงต่างในตอนนี้ดีมาก ริมทะเลสาบมักจะทำให้รู้สึกเหมือนกำลังมองภาพวาด บริเวณนี้ทางทีมงานได้กั้นทางเอาไว้หมดแล้ว แต่ที่ไกลๆ นั่นยังมีคนไม่น้อยกำลังมองดู ยิ่งตอนที่กำลังถ่ายทำก็ยิ่งออเข้ามาดู พร้อมกับเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปเอาไว้

กล้องค่อยๆ ซูมเข้าไปยังจุดสำคัญ จนเห็นหน้าของเจียงเซ่ออย่างชัดเจน เธอกำลังเดินอยู่บนสะพาน เธอค่อยๆ เดินไปจนถึงหัวสะพาน

ในฉากๆ นี้ต้องถ่ายคู่กับวิวทะเลสาบซีหูสวยๆ และมันจะต้องเป็นซีนที่สวยมากแน่ๆ แต่จ้าวร่างกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง จึงตะโกนขึ้น

“Cut!”

เจียงเซ่อหันหน้ามา แล้วเสยผมขึ้น จ้าวร่างเรียกแคลปเปอร์มาแล้วสั่งออกไป

“เอาพัดมาอันหนึ่ง เอาไปพัดไว้ที่หลังเธอ”

พอเริ่มถ่ายใหม่อีกครั้ง ช่างกล้องก็จับภาพเธอ เธอยังคงแสดงออกมาว่ารู้สึกเสียใจ แคลปเปอร์ที่ไม่รู้ไปสรรหาพัดมาจากไหนได้ก็เอามาพัดอยู่ด้านหลังเธอ

พอเริ่มพัดขึ้นมา ก็โดนจ้าวร่างด่าทันที เพราะเขาบอกว่าพัดแรงเกินไป แต่พอพัดเบาเกินไปก็โดนว่าอีก เหมือนว่าจะได้ผลที่ไม่ดีนัก

มันอยู่ไกลเกินไป แรงลมมันไม่พอ แต่ถ้าเอาเข้าไปใกล้ๆ มันก็กระทบกับมุมกล้องอีก

ตอนนี้แคลปเปอร์ของหนังโดนเพ่งเล็งเสียแล้ว เจียงเซ่อเองก็ทนไม่ไหว เผลอยิ้มออกมาทีหนึ่ง ฉากๆ นี้จึงถ่ายลากไปถึงช่วงบ่าย

ตอนที่โดนสั่งให้เล่นใหม่ เจียงเซ่อสุดหายใจเข้าลึกอยู่สองที เพื่อตกตะกอนความรู้สึกและอารมณ์ของตนเอง พาตัวเองเข้าไปเป็นนางเอกอย่างโจวเหวย

เธอคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่คิดว่าได้สูญเสียความรักที่แฟนหนุ่มเคยมีให้ไปแล้ว เหมือนเป็นผู้หญิงคนนั้นที่กำลังมีความคิดจะเลิกกับแฟนหนุ่ม อยากจะปลดปล่อยชีวิตออกจากชีวิตที่เหมือนจมน้ำอยู่ตลอดเวลา แต่เพิ่งจะได้รู้ข่าวว่าแฟนหนุ่มนั้นได้จากโลกนี้ไปแล้วอย่างโจวเหวย

ขอบตาของเจียงเซ่อเริ่มแดงผ่าว เธอรีบก้าวเท้าขึ้นไปบนสะพาน กล้องเองก็ค่อยๆ ตามเธอไปเรื่อยๆ ลมพัดเข้าที่ผมของเธอ เธอเดินไปอีกสองสามก้าว เดินไปหยุดที่ข้างราวสะพานด้านหนึ่งนิ่งๆ

สายตาของเธอจดจ้องไปยังที่ไกลๆ ของทะเลสาบซีหู อารมณ์ดูด่ำดิ่งและหวิวไปทั้งใจ

ในบทหนังเขียนเอาไว้ว่าเธอโจวเหวยกำลังนึกถึงตอนที่เธอและแฟนหนุ่มมาที่นี่ด้วยกัน ตอนนั้นจางเจินไม่ได้ทำตัวหน้าผิดหวังเหมือนช่วงหลังๆ ความมุ่งมั่นสูงสุดคืออยากให้อาร์ตแกลเลอรี่ที่อยู่ข้างๆ ทะเลสาบซีหูมีภาพวาดของตัวเองอยู่ด้วย

เขาพูดความคิดของตัวเองออกมาอย่างร่างเริงและเต็มไปด้วยความหวัง เขาตั้งใจมากจริงๆ และให้ความสนใจแต่แค่ผลงานจิตรกรรมของเขา