webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

174

บทที่ 174 วิธีสิ้นหวัง

พอเจียงเซ่อลองคิดดูดีๆ แล้ว ถ้าเธออยากจะแสดงให้มันเข้าถึงบทบาทจริงๆ เธอก็ต้องศึกษาอย่างละเอียดที่สุด

ในบุคคลทั่วๆ ไปน้อยนักที่จะเห็นคนที่มีความสิ้นหวังขนาดนี้ แต่ว่าในคุกเรือนจำ หญิงสาวที่ทำผิดกฎหมายเหล่านั้น มันง่ายมากที่จะได้เห็น

เธอเลยอยากจะไปที่คุกหญิงที่อยู่ชานเมืองทางตะวันตกดูเสียหน่อย อยากจะลองพูดคุยกับคนร้ายเหล่านั้น อยากจะลองสำรวจปฏิกิริยาและพฤติกรรม เพราะเธอไม่เชื่อว่าตัวเองไม่สามารถเล่นบทนี้ได้

เผยอี้เองก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรอีก เพราะยังไงเธอก็ตั้งมั่นและตัดสินใจแล้ว

ถ้าเจียงเซ่อยืนกรานที่จะไป เผยอี้ก็ไม่คิดจะห้ามหรือกล้าขัดเธอ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เรื่องความปลอดภัยของเจียงเซ่อก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุด

เผยอี้โทรออกทันที ไม่ว่ายังไงก็ต้องบอกกับทางนั้นเอาไว้และถามให้มั่นใจว่ามันจะปลอดภัยต่อเจียงเซ่อจริงๆ ดีที่สุดคือย่าให้นักโทษแตะต้องตัวเธอเด็ดขาด

แต่ในอินเทอร์เน็ตโซเชียลมีเดียในตอนนี้ เรื่องที่ต่งหมิงเซิงของบริษัทการลงทุนแห่งหัวเซี่ยได้ถอนทุนออกจากหนังถูกประกาศออกไปแล้ว และได้ลงทุนร่วมกับเจียงหนานมีเดียในการลงทุนหนังเรื่องใหม่ที่ชื่อว่า ‘revenge’!

หน่วยข่าวกรองหัวเซี่ยของสื่อข่าววัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศได้บอกความถึงความจริงออกมาแล้ว จากนั้นสื่อที่เหลืออื่นๆ ก็ค่อยๆ พากันลงข่าวตามกันติดๆ ข่าวเพิ่งออกไปแค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น แต่กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนของคนทั้งคนได้เลย

ตั้งแต่วันนั้นที่ต่งหมิงเซิงบอกว่ามีความคิดที่จะถอนทุนออก หลินซีเหวินแห่งบริษัทซ่างเจียก็สั่งให้มีการประชุมแบบไม่มีเวลาพักกันเลยทีเดียว ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะช่วยกันวางแผนหาทางพูดให้ต่งหมิงเซิงเปลี่ยนใจไม่ถอนทุนออก

ผู้นำของบริษัทซ่างเจียก็คือหลินซีเหวิน ส่วนผู้ตามก็คือลูกน้องทีมงานของเขาเอง พวกเขาทำงานล่วงเวลามาหลายวันแล้ว เพื่อหนังเรื่อง The Occasion of Beiping เรื่องนี้แล้ว ทุกคนต่างยินยอมที่จะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้

หนังเรื่องนี้หลินซีเหวินได้เตรียมและรวบรวมข้อมูลมานานหลายปีแล้ว อีกทั้งยังได้เชิญโหวซีหลิ่งกลับมาเขียนบทด้วยตัวเองอีกด้วย จนกระทั่งงานเปิดกล้องหนังก็ได้จัดขึ้นไปแล้ว ก่อนหน้านี้เรื่องเงินลงทุนมันก็ลงตัวอยู่แล้ว แต่พอต่งหมิงเซิงมาบอกว่าจะถอนทุนออกในตอนนี้ ทำให้เงินที่เข้ามาลงทุนมากมายกลายเป็นอยู่ในสภาวะขาดทุนเสียอย่างนั้น!

หลายปีก่อน หลินซีเหวินเองก็ถ่ายหนังมามากมาย และแต่ละเรื่องก็ทำเงินได้ไม่น้อยเลย บริษัทของเขาเองก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย แต่ว่าสภาวะขาดทุนแบบนี้ มันอาจจะเป็นตัวชี้ชะตาของการดำเนินบริษัทต่อไป

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาก็ยังไม่ได้คิดที่จะยอมแพ้และปล่อยวาง ‘The Occasion of Beiping’ ที่อุตส่าห์เตรียมมันมาหลายปีแน่ๆ ถ้าเกิดเขายอมแพ้ก็แสดงว่าสิ่งที่เขาพยายามมามันก็เป็นความหวังที่สูญสลายไปหมด แล้วแบบนั้นเขาจะทนได้อย่างไรกัน?

บทหน้าจอคอมพิวเตอร์ของบริษัท ตอนนี้มันกำลังอยู่ในหน้าข่าวสารของวันนี้ซึ่งหลินซีเหวินเป็นคนเปิด ดูตัวหนังสือที่โชว์เด่นหราอยู่บนหน้าจอนั่นแล้ว ตัวเขาก็ได้แต่นั่งกุมหัวตัวเองแบบนั้น มาประมาณเจ็ดนาทีกว่าแล้ว

คนกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่ในห้องประชุมต่างก็ไม่กล้าที่จะส่งเสียงออกมา เพราะบนจอนั่นมันชัดเจนอยู่แล้วว่า

บริษัทการลงทุนแห่งหัวเซี่ยถอนตัวออกจาก ‘The Occasion of Beiping’ แล้วหนังใหม่ของหลินซีเหวินจะต้องพบกับวิกฤติกาลความล้มเหลวหรือไม่?

เพื่อนเก่าเกิดความคิดเห็นไม่ตรงกัน เรื่องนี้เกี่ยวกับดาราใหม่หรือไม่?

ส่วนด้านล่างก็เป็นการรายงานข่าวทั่วไปซึ่งถึงคนของบริษัทซ่างเจียจะไม่ได้ไปดูมันอีก แต่ก็พอจะรู้ว่ามันถูกเขียนว่าอย่างไร

เพราะเป็นถึงทีมงานของบริษัท ทุกคนต่างก็รู้ดี ว่าการที่บริษัทการลงทุนแห่งหัวเซี่ยถอนทุนออกเป็นเพราะพวกเขากังวลที่หลินซีเหวินตั้งใจจะดันดาราใหม่คนนั้น พวกเขากลัวว่าดาราใหม่จะไม่สามารถแสดงบท ‘โต้วโค่ว’ ในเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ได้ดีพอ และต่งหมิงเซิงก็คิดว่าเย่หยิงเฟยเหมาะสมกับบท ‘โต้วโค่ว’ มากกว่าใคร

แต่สถานการณ์ในตอนนั้นคือ เย่หยิงเฟยปฏิเสธกับเขาอย่างชัดเจนที่จะรับเล่นบทนี้ และเพราะว่าโหวซีหลิ่งชื่นชอบและพึงพอใจในตัวเจียงเซ่อ หลินซีเหวินจึงตกลงตัดสินใจเซ็นสัญญาว่าจ้างเจียงเซ่อ และกำกับเอาไว้ว่าเธอคือ ‘โต้วโค่ว’

ครั้งแรกที่หัวโถวได้ตัดสินใจว่าจะร่วมลงทุน พวกเขาก็ได้สิทธิ์ที่จะเสนอนักแสดงหลักอย่างพระเอกนางเอกแล้ว และพวกเขาก็ได้เสนอให้เป็นนักแสดงของหัวซิง ดังนั้นบท ‘โต้วโค่ว’ ที่เป็นบทตัวประกอบแบบนี้ หลินซีเหวินเองก็คิดว่าตัวเองควรที่จะได้สิทธิ์ในการเลือกมัน แต่ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายต่งหมิงเซิงจะใช้จุดสำคัญมาแทงข้างหลังกันแบบนี้

แถมตอนนี้ก็ยังมีหน้ามาประกาศว่ากำลังจะร่วมลงทุนหนังใหม่กับเจียงหนานบันเทิง และนั่นมันก็ทำให้หลินซีเหวินเกิดนึกขึ้นมาได้ว่า ต่งหมิงเซิงคงมีความคิดที่จะถอนทุนออกตั้งนานแล้ว เพราะแต่ก่อนมีบ้างที่เขารู้สึกว่านางเอกไม่เหมาะสม แต่เขาก็แค่พูดๆ เท่านั้น

เขาร่วมงานกับต่งหมิงเซิงมานาน ก็ถือได้ว่าเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่คนหนึ่ง แต่ไม่คิดไม่ฝันมาก่อน ว่าต่งหมิงเซิงจะทำกันได้ขนาดนี้

“ไอ้สารเลวต่งหมิงเซิง!”

หลินซีเหวินที่นั่งเงียบมาอยู่นาน จู่ๆ ก็ค่อยๆ หัวเราะ ‘หึหึ’ ออกมา พร้อมๆ กับคำด่าสาปและมือที่ตบลงบนโต๊ะดัง ‘ปึง’ เส้นเลือดในตาแดงก่ำ พร้อมกับมองไปรอบๆ ห้อง

“ผู้กำกับหลิน หรือเราควรที่จะทำให้ไม่ขาดทุนไปมากกว่านี้”

‘The Occasion of Beiping’ กำลังขาดแคลนเงินทุน ตอนนี้คงถ่ายทำได้ไม่ราบรื่นนัก ยิ่งเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นถ้าดึงดันที่จะทำต่อไปแล้วละก็ มันก็ยิ่งเหมือนดึงตัวเองให้ตกลงไปในหลุมลึก

หลินซีเหวินอยู่กับวงการนี้มานาน แล้วทำไมจะไม่รู้ถึงผลเสียร้ายแรงที่จะตามมา ได้แต่นั่งขบเคี้ยวฟันตัวเองกำหมัดแน่น

หนังเรื่องนี้มันน่าเสียดายเกินไปแล้ว ถ้าหากได้ถ่ายทำออกมาละก็ โอกาสที่หลินซีเหวินจะได้รางวัลใหญ่ก็มีมากโข

ถ้าหากว่าต่งหมิงเซิงต้องการที่จะถอนทุนคืน ถ้าเขาพูดให้เร็วกว่านี้ เขาก็คงไม่กลายเป็นเหมือนผู้ร้ายที่ลอบแทงหลินซีเหวินหรอก

“ติดต่อกับทางซื่อจี้หยินเหอหรือยัง?”

เขาเองก็ยังไม่คิดจะยอมแพ้ตอนนี้หรอก “เจียงเซ่อเซ็นสัญญาเข้าซื่อจี้หยินเหอแล้ว ลัวหยิ่นต้องให้เซี่ยเชาฉวินคอยดูแลเธอแน่ๆ แสดงว่าจะต้องเห็นเธอสำคัญมากเช่นกัน เซี่ยเชาฉวินคอนเนคชั่นกว้างขวาง บางทีอาจจะ……”

หลินซีเหวินยังไม่ทันพูดจบ ประตูห้องประชุมก็ถูกเปิดออก ชายหนุ่มสวมแว่นคนหนึ่งยื่นหัวเข้ามาในห้องประชุม เขามองไปรอบๆ ห้อง และในมือก็ถือมือถืออยู่

“ผู้กำกับหลินครับ มือถือของคุณมีคนติดต่อมา เขาบอกว่ามีเรื่องที่ต้องคุยกับคุณ”

เบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์แปลกที่ไม่คุ้น แต่เบอร์ที่มีเลข ‘8’ ต่อกันหลายๆ ตัวแบบนี้คงไม่ใช่คนธรรมดาๆ ทั่วไปแน่ๆ หลินซีเหวินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรับมือถือมา

จากใบหน้าเคร่งเครียดคิ้วขมวดก็เริ่มนิ่งไปก่อน จากนั้นก็กลายเป็นสีหน้าแปลกใจ ปลายสายอย่างเผยอี้โทรมาหาเขาเพื่อบอกข่าวที่ทำให้ใจชื้นขึ้นมา

“หลินซีเหวิน ทุนที่ถูกหัวโถวถอนออกไป ฉันออกให้หมดแล้ว”

บนอินเทอร์เน็ต เจียงหนานบันเทิงได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่ากำลังร่วมลงทุนกับหัวโถว เจียงหนานบันเทิงเป็นบริษัทที่เพิ่งจะก่อตั้งขึ้นมาได้ไม่นาน ผู้ดูแลกิจการมีชื่อว่าคือจ้าวจวินฮั่นและเฝิงหนาน นักข่าวได้สัมภาษณ์จ้าวจวินฮั่นและคนของบริษัทการลงทุนแห่งหัวเซี่ยแล้ว และทั้งสองฝ่ายก็ยืนยันจริงๆ ว่ากำลังร่วมมือกัน

เกี่ยวกับเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ตั้งแต่ที่มีข่าวรั่วไหลออกไป จนตอนนี้เรื่องมันก็ยิ่งปะทุขึ้นเรื่อยๆ แล้ว และมีผู้คนไม่น้อยที่กำลังมีความสุขต่อความทุกข์ของผู้อื่น

เจียงเซ่อเลื่อนดูเรื่อยๆ มี id หนึ่งที่ชื่อว่า ความฉลาดบนหยกเขียว ได้ทิ้งคำถามเอาไว้ว่า

ความฉลาดบนหยกเขียว : เอาจริงๆ เลยนะ ในใจลึกๆ ของฉันน่ะ เซ่อเซ่อเป็นคนสวย บุคลิกก็ดี บท’โต้วโค่ว’เป็นผู้หญิงที่ต้องตกระกำลำบาก เธอเลือกที่จะเล่นหรือไม่เล่นก็ได้ด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น? เรื่องที่แท้จริงมันเป็นยังไงกันแน่ จะไม่มีใครออกมาพูดถึงเรื่องนี้สักหน่อยเหรอ

ข้อความของเธอได้รับคนส่วนหนึ่งมากดเห็นด้วย และแน่นอนว่าต้องมีคนมาเหน็บแนม

ต้นหลิวสีอ่อนริมแม่น้ำ : ก็การแสดงห่วยแตก คุณสมบัติแย่เกินไปไง ที่หัวโถวถึงกับต้องถอนทุนออก ขั้นตอนการถ่ายทำ ‘The Occasion of Beiping’ ก็รั่วไหล หวังจะให้แผนเล่ห์เพทุบายสกปรกมาเหยียบคนอื่นขึ้นไป คนแบบนี้จะมีหน้าออกมาพูดอะไรด้วยเหรอ?

เจียงเซ่อตามกดดูข้อความหลังจากนั้นต่อ ทั้งสองคนนี้มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และพวกหล่อนก็ทะเลาะกันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วย ระยะเวลายังไม่ถึงครึ่งวันเลยด้วยซ้ำ ข้อความการโต้ตอบกันก็มีถึงเจ็ดแปดร้อยกว่าข้อความแล้ว