webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

163

บทที่ 163 Street Snap

ในห้องพักที่ใหม่ถูกแยกออกเป็นสองส่วน ตอนที่เจียงเซ่อมาถึง โม่อานฉีก็ให้เธอดูตามจุดต่างๆ

“พี่เซี่ยบอกว่าคุณมีแฟน คิดว่าคงจะไม่พักที่นี่ ดังนั้นที่ห้องนอนก็อาจจะเปลี่ยนให้เป็นห้องเสื้อผ้าแทน เอาใส่พวกข้าวของเครื่องประดับ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าและของอื่นๆ อีก” และอีกห้องก็ได้กลายเป็นห้องที่เอาไว้แต่งหน้าทำผมเรียบร้อยแล้ว

โม่อานฉีหยิบสมุดโน้ตตัวขึ้นมาจากกระเป๋าของตัวเอง

“เรื่องงานพิธีเปิดกล้องหนัง‘The Occasion of Beiping’ พี่เซี่ยได้วางตารางเอาไว้ให้คุณไปถ่ายรูปในวันที่สิบเจ็ดนี้นะคะ”

ชื่อเสียงของเจียงเซ่อยังไม่ได้มากมายอะไรนัก ในตอนนี้ ก็ยังไม่มีผลงานไหนที่จะเชี่ยวชาญเป็นพิเศษเพื่อนำมาเป็นจุดเด่น ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องที่เป็นข่าวกับจูพ่าน และเรื่องที่เธอมีฉางยวี่หูคอยสนับสนุน มาเพิ่มชื่อให้ตัวเอง แต่ชื่อเสียงพวกนี้มันก็ไม่ได้มากพอที่จะทำให้เหล่านิตยสารต่างๆ มาเชื้อเชิญให้เธอไปถ่ายแบบ

เซี่ยเชาฉวินได้วางแผนให้เธอไปถ่ายแบบ ที่เป็นการถ่ายแบบแบบสตรีท(การถ่ายภาพแบบยกถ่ายในทันที เหมือนเห็นแล้วถ่ายเลย) และเสื้อผ้าเครื่องประดับทั้งหมดก็เป็นของที่หล่อนจัดหามาเอง เหตุผลที่ต้องนัดในวันที่สิบเจ็ด นั่นก็เป็นเพราะว่าในสองวันนี้ยังหาช่างแต่งหน้าและสไตล์ลิสต์ไม่ได้นั่นเอง

แต่ว่าการหาคนของเซี่ยเชาฉวินก็ถือว่าเร็วไม่น้อย ยังไม่ถึงสามวัน ก็ได้ทั้งช่างแต่งหน้าและสไตล์ลิสต์มาแล้ว และได้เซ็นสัญญาว่าจ้างสามปีกับเจียงเซ่อเรียบร้อย

เมื่อวันถ่ายแบบมาถึง เซี่ยเชาฉวินก็ได้เลือกสถานที่ที่จะถ่ายเป็นบริเวณหน้าสถานีโทรทัศน์ ช่างถ่ายภาพที่จะมาถ่ายแบบให้เธอเป็นชายหนุ่มร่างกายสูงใหญ่ และมีคางบุ๋มเป็นเอกลักษณ์คนหนึ่ง ผมของเขาถูกรวบมัดไปไว้ด้านหลัง โม่อานฉีเองก็มาพร้อมกับกับเจียงเซ่อ ในมือของหล่อนมีเสื้อผ้ากองโตที่เจียงเซ่อจะต้องสวมใส่ในวันนี้ หล่อนพูดแนะนำขึ้นมา

“นี่คือมาร์ค เขาทำงานอยู่ใน‘ariecire’มาหกปีแล้ว เขาเคยถ่ายแบบให้กับดารามามากมาย แล้วตอนนี้เขาก็มีสตูดิโอเป็นของตัวเองแล้วด้วย”

ช่างภาพที่มาจากแวดวงนิตยสาร ส่วนมากมักจะเป็นพวกที่มีประสบการณ์สูง โดยเฉพาะอาจจะมีชื่อเสียงเล็กๆ น้อยๆ อีกด้วย คนพวกนี้จะเข้าใจความสัมพันธ์คอนเนคชั่นต่างๆ ดี จึงไม่ค่อยจะกลัดกลุ้มเรื่องของธุรกิจเสียเท่าไหร่

ในวงการช่างภาพ มาร์คเป็นคนหนึ่งที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง ตารางงานการถ่ายของเขาเรียกได้ว่ายาวจนไปถึงท้ายปีเลยด้วยซ้ำ แต่ครั้งนี้เป็นเพราะว่าเซี่ยเชาฉวินอาศัยชื่อของตัวเอง ไปขอเวลาสักวันเพื่อเจียงเซ่อ

และเพราะว่ามันเป็นการถ่ายแบบแนวสตรีท เสื้อผ้าที่เลือกมาใส่จึงไม่สามารถจะเปิดอะไรได้มาก เพราะถ้าคนอื่นเห็นเข้า อาจจะคิดว่านี่มันเป็นการแต่งตัวที่ดูสวยเกินไปหน่อย และมันก็จะดูปลอมและไม่เป็นธรรมชาติ

แต่ไม่ว่ายังไงจะตามใจตัวเองเกินไปก็ไม่ได้ ไม่งั้นเดี๋ยวก็จะกลายเป็นว่าเหมือนภาพดาราที่ถูกแอบถ่ายตาม ‘ถนน’ ไม่ก็ตาม ‘สนามบิน’ อะไรแบบนั้น ทำให้ไม่สามารถสื่อถึงความสามารถและฝีมือที่มีได้

ตอนนี้ยังเป็นช่วงเวลาของฤดูหนาว และในเขตเมืองหลวงเองก็มีหิมะตกแล้ว เสื้อผ้าที่จะให้สวมใส่ก็คงจะบางมากไม่ได้ แต่ก็มาสามารถหนาเกินไปเช่นกัน

ภาพดาราที่จะไปอยู่ในกล้อง อย่างน้อยก็ต้องให้ได้เห็นรูปร่างของตัวดาราอย่างชัดเจน ถ้าสวมเสื้อที่มันหนาแล้วละก็ ภาพที่ถ่ายได้ก็จะกลายเป็นคนที่ดูอ้วนบวมไปเสีย

ชื่อเสียงของเจียงเซ่อยังมีน้อย แบรนด์เสื้อผ้าต่างๆ ที่จะช่วยสนับสนุนก็ยังมีไม่มากนัก

ดังนั้นสไตล์ลิตส์จึงสามารถแมทช์เสื้อผ้าได้เท่าที่มี พวกเขาเลือกเป็นชุดเดรสกระโปรงไหมพรมสีขาวและรองเท้าบูทส้นเข็มและยาวขึ้นมาหุ้มข้อเท้าเอาไว้คู่หนึ่ง ส่วนตัวนอกมีเพียงแค่เสื้อคลุมขนแกะสีน้ำตาลอ่อนตัวใหญ่เท่านั้น บวกกับหมวกปีกกว้างแบบย้อนยุคสีขาวที่ทำจากขนแกะอีกใบ ปลายหมวกที่ไม่ได้พับขึ้นแบบนี้ มันให้ความรู้สึกที่เห็นแล้วเป็นสง่ามากๆ พอสวมเข้าไปแล้ว กรอบหน้าของคนใส่ยิ่งดูเล็กลงไปอีก

ในตอนที่เจียงเซ่อแต่งตัวและออกมาจากห้องผ้าม่านที่ถูกสร้างขึ้นให้เป็นห้องเปลี่ยนเสื้ออย่างง่ายๆ แล้ว ขาคู่นั้นที่ไม่ได้ถูกปกคลุมออกมายืนอยู่ข้างนอก แค่โดนลมพัดมาโม่อานฉีก็รู้สึกหนาวแล้ว

ลมหนาวที่พัดผ่านเมืองหลวงแห่งนี้ได้นำเอาเกล็ดหิมะมาด้วย ทุกครั้งที่พัดมาปะทะที่ใบหน้า มันก็เหมือนกับกำลังโดนคมมีดเล็กๆ บาดเอา และความเย็นของมันก็ซึมเข้าเนื้อจนทำให้รู้สึกปวด

ไอควันสีขาวก็พวยพุ่งออกมาทุกครั้งที่พ่นลมหายใจออกมา ในมือของโม่อานฉีมีเสื้อขดเป็ดอยู่ตัวหนึ่ง เวลาที่เจียงเซ่อสวมมันเข้าไปแล้ว ก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับบุตรสาวที่มีฐานะดี เหมือนกับสาวงามผู้สูงส่งในวังกำลังค่อยๆ เดินออกมา

ในมือของเธอมีกระเป๋าถือใบหนึ่ง และค่อยๆ เดินเข้าไปในฉากที่มาร์คได้จัดเอาไว้

รองเท้าส้นสูงกระทบลงกับพื้นดัง ‘ตึกๆๆ’

“ยกมือขึ้นจับปีกหมวกเอาไว้”

เธอสวมหมวกปีกกว้างสีขาวเอาไว้ หมวกสีนี้มันเข้ากันกับสีน้ำตาลอ่อนมากๆ ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกถึงความนุ่มนวลและอ่อนโยน ขับให้ท่าทางบุคลิกของเธอดูสง่าขึ้นอีกเป็นกอง

ในตอนที่เจียงเซ่อกำลังฟังคำแนะนำของมาร์คไปเรื่อยๆ เสี้ยววินาทีหนึ่งที่เธอยกมือขึ้นไปแตะลงบนปีกหมวก และกดมันลงมาอยู่ในระดับสายตาของตัวเองนั้น เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ทำให้ได้เห็นเสี้ยวหน้า ปลายคาง และริมฝีปากแสนสวยที่ถูกทาทับด้วยลิปสติกนั่น

“ดี!”

มาร์คตะโกนขึ้น แล้วทำมือว่า ‘ok’ ให้ ทำให้รู้ว่าท่านี้ถ่ายแค่ครั้งเดียวก็ผ่านเลยในทันที

โม่อานฉีเดินเข้าไปดู ภาพของเจียงเซ่อที่อยู่ในกล้อง ราวกับภาพที่อยู่ในยุคคลาสสิคอย่างไรอย่างนั้น บนตัวเธอมันเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ดูสุภาพเรียบร้อยและอ่อนโยนราวกับหญิงสาวในวัง เหมือนกับว่าแม้ลมที่พัดผ่านมาจะหนาวเหน็บแค่ไหนก็ไม่สามารถลบความรู้สึกแบบนั้นออกไปได้เลย

หลังจากที่ถ่ายภาพแนวสตรีทเรียบร้อยแล้ว กองถ่ายกลุ่มนี้ก็เริ่มพากันเปลี่ยนสถานที่ใหม่ในทันที

ถ่ายไปได้ครึ่งวันก็ถึงเวลาพักแล้ว ในขณะที่เจียงเซ่อกำลังนั่งพักอยู่นั้น โม่อานฉีที่ยื่นชาขิงร้อนๆ มาให้เธอดื่มคลายหนาว เพราะว่าระหว่างการดำเนินงานนั้น ไม่มีสักครั้งเลยที่ต้องตะโกนหยุดพักขึ้นมา ทำให้งานในครั้งนี้เดินไปได้เร็วกว่าที่ทุกคนคิดเอาไว้

หลังจากที่ถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว มาร์คก็ยังนั่งเลื่อนดูรูปในเครื่องที่ถ่ายในวันนี้ดู องค์ประกอบทุกอย่างในภาพมันดีมากๆ เธอถ่ายไปทั้งหมดแปดชุด และแต่ละชุดก็ถือว่ามีเอกลักษณ์พอสมควร ผู้ช่วยของเขาที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ชะโงกหน้าเข้ามาดูด้วย ก่อนจะทำเสียง ‘จุ๊ๆ’ ออกมา

“ตั้งใจทำงานจริงๆ เลยนะเนี่ย”

อากาศหนาวๆ แบบนี้ เสื้อผ้าที่เธอใส่ก็ใช่ว่าจะหนาอะไร ถึงแม้ว่าดาราสาวส่วนมากจะห่วงสวยมากกว่าอากาศรอบๆ ตัวเอง แต่ในวันที่หนาวขนาดนี้ แถมภายในระยะเวลาสั้นๆ ต้องถ่ายแบบตั้งหลายชุด มันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ลำบากไม่น้อยเลย โดยเฉพาะตอนที่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและต้องหาเสื้อที่ดีที่สุดนั่นอีก น้อยมากที่จะเห็นดาราคนไหนไม่แสดงความหงุดหงิดโมโหออกมา โดยเฉพาะกับดาราที่อยู่ภายใต้การดูแลของเซี่ยเชาฉวินแล้วด้วย

“ทำไม นายไปรู้อะไรมาอีกล่ะ”

มาร์คนั่งดูภาพไปเรื่อยๆ แล้วบ่นตำหนิออกไปอย่างไม่สนใจนัก

“คนๆ นี้เป็นดาราใหม่ของพี่เซี่ยเขา แล้วพี่ลองนึกถึงเถาเฉินดูก็จะรู้”

เขาหันหน้าไปมองเจียงเซ่อ ตัวเธอถูกคลุมด้วยเสื้อขนเป็ดที่ทั้งหนาทั้งยาว สองมือประคองแก้วชาร้อนเอาไว้ และพูดคุยกับทีมงานที่อยู่ข้างๆ ไปด้วย “ให้คนในสตูดิโอไปคอยเอาใจนิดหน่อย การถ่ายแบบครั้งนี้ รีบถ่ายให้มันจบๆ แล้วสร้างความสัมพันธ์ที่ดีเอาไว้”

ระหว่างการถ่ายทำก่อนหน้านี้ ไม่ว่าเขาจะพูดให้เจียงเซ่อโพสท่ายังไง หรือไม่ว่าเขาจะสั่งให้เธอทำยังไงถึงจะได้ท่าทีดีออกมา เธอก็ตั้งใจฟังเขาตลอด และตอนที่เริ่มถ่ายเซตถัดไป มาร์คก็ได้รู้ว่าเธอตั้งใจฟังในสิ่งที่เขาสอนอยู่ไม่น้อยเลย

อยากจะได้แบรนด์บริษัทมาสนับสนุน ก็ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ ก็จะมาได้โดยไม่มีเหตุจูงใจ องศาไหนที่จะสามารถขับส่งความสวยของเธอออกมาได้ดี ก็จะสามารถพรีเซนต์สิ่งของของแบรนด์นั้นๆได้ดีด้วย นี่ถือว่าเป็นสิ่งที่ยากอยู่ไม่น้อย แต่เธอกลับทำมันออกมาได้เป็นอย่างดี

แต่ก็มีบางทีที่ความสวยของเธอไปทำให้ของเหล่านั้นดูดรอปลง จึงต้องมีบ้างที่เธอต้องทำท่าเหมือนกำลังเขินอาย อย่างเช่นตอนที่ถ่ายชุดแรก เธอกดปีกหมวกลงและโชว์ใบหน้าเพียงแค่ครึ่งเดียว ริมฝีปากเผยอขึ้นเล็กน้อยรับกับกระเป๋าถือในนิ้วมือเรียวสวย ท่าทางที่ไม่ได้ตั้งใจแบบนั้นทำให้คนอื่นได้เห็นถึงความสวยงามของตัวเธอ การที่เธอไม่ได้โชว์หน้าทั้งหมดก็ไม่ได้ส่งผลเสียอะไร แต่ในขณะเดียวกัน สีปากของเธอก็เข้ากันและส่งให้ตัวกระเป๋าถือที่อยู่ในมือของเธอเด่นขึ้นมาได้

ฉลาด และรู้จักฟังคนอื่น ไม่อวดดี และไม่โอ้อวดความสวยของตัวเอง แถมยังอดทนต่อความลำบากได้ เซี่ยเชาฉวินถือว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวในตำนาน และครั้งนี้ก็เหมือนจะขุดเจอของดีเข้าอีกแล้วสิ!

“เซ่อเซ่อ เดี๋ยวกลับไปถึงบ้านแล้วก็หาซุปขิงดื่มเสียหน่อยนะ แช่น้ำอุ่นสักหน่อยก็ดี อย่าให้เป็นหวัดเลยเด็ดขาดรู้ไหม” โม่อานฉีกำชับเสียเบา ถึงแม้ว่าจะเจอและอยู่ด้วยกันมาแค่แป๊บเดียว แต่หล่อนก็พอจะเดานิสัยของเจียงเซ่อออก