webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

162

บทที่ 162 หนี้

ในขณะที่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปดี มือถือของโม่อานฉีก็ดังขึ้นมา มือถือของหล่อนเรียกได้ว่าเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดเลยก็ว่าได้ และมันก็ใหม่และดีกว่าของเจียงเซ่อที่เก่าสุดๆ แน่นอน

พอหล่อนรับมันแล้ว ก็ส่งให้เจียงเซ่อทันที

“พี่เซี่ยโทรมาน่ะค่ะ”

เจียงเซ่อยื่นมือไปรับมันมา น้ำเสียงปลายสายอย่างเซี่ยเชาฉวินฟังแล้วเย็นชาไม่น้อย

“เธอเจอกับโม่อานฉีแล้วสินะ?” หล่อนถาม เจียงเซ่อได้แค่ตอบไปรับไป

“นอกจากหล่อนจะเก่งเรื่องภาษาญี่ปุ่นแล้ว หล่อนยังสร้างชื่อมาด้วยมือเปล่าจากคนไม่มีอะไรเลยกลายมาเป็นมืออาชีพได้ หล่อนมีประสบการณ์การติดต่อกับพวกสื่อต่างๆ และก่อนหน้านี้เองก็เคยมีประสบการณ์ในการทำงานกับพวกแบรนด์หรูๆ อย่างชิงเซออีกด้วย แถมยังมีใบขับขี่ด้วย และทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เธอต้องการในตอนนี้”

พอหล่อนพูดใจความสำคัญไปแล้ว ก็เสริมขึ้นมาอีก

“ฉันดูจากกำลังของเธอในตอนนี้แล้ว เธอคงยังไม่มีเงินพอที่จะจ้างบอดี้การ์ดเอาไว้แน่นอน ทั้งเรื่องการแปลภาษา การสัมภาษณ์ต่อสื่อต่างๆ และรวมไปถึงคนไปรับไปส่งเธอ”

เจียงเซ่อได้ยินแบบนั้นแล้ว ตัวเองก็เหมือนไม่มีคำพูดอะไรที่จะต้องพูดออกมาอีก

“ส่วนเรื่องเงินเดือนของหล่อน ฉันเองได้คุยและตกลงเอาไว้แล้ว เงินเดือนจะถูกแบ่งจ่ายเป็นสามครั้ง หลังจากเซ็นสัญญากันแล้ว ก็จะจ่ายแค่หนึ่งส่วนสามก่อน กลางปีจะจ่ายอีกหนึ่งส่วน และส่วนสุดท้ายจะเป็นปลายปี”

“ส่วนเรื่องรถ เรื่องห้องและเรื่องการจ้างช่างแต่งหน้าสไตล์ลิสต์ต่างๆ ฉันจะคุยกับทางบริษัทให้ ว่าจะขอยืมงบจากตรงนั้นก่อน รวมถึงเงินส่วนแรกของโม่อานฉีด้วย ไว้หลังจากนี้เธอค่อยใช้คืนก็พอแล้ว”

เซี่ยเชาฉวินยังไม่ได้คิดถึงเรื่องที่ว่าหลังจากนี้เจียงเซ่อจะสามารถหาเงินมาคืนได้หรือไม่ พอเจียงเซ่อลองคิดดูดีๆ แล้ว เงินเดือนของโม่อานฉีปีหนึ่งก็ปาเข้าไปถึงสามแสนแล้ว แบบนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในส่วนอื่นๆ ที่เซี่ยเชาฉวินพูดถึงอีกหลายๆ อย่าง นี่มันไม่ใช่ปัญหาว่าต่อไปเธอจะรับงานหรือไม่ หรือยอมที่จะรับงงานหรือเปล่าแล้ว แต่มันเป็นการใช้หนี้คืน ต่อไปเธอคงแทบจะไม่มีเวลาเป็นของตัวเองอีก เธอจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกไป

“แล้วถ้าถึงตอนนั้นฉันไม่สามารถคืนได้ล่ะ......”

“เหอะ”

ปลายสายอย่างเซี่ยเชาฉวินหัวเราะขึ้นมา แต่เสียงหัวเราะนั่นกลับไม่ใช่เสียงหัวเราะที่จริงจังเสียเท่าไหร่ ราวกับว่าปลายสายเป็นแค่หุ่นยนต์ที่กำลังคุยด้วย แล้วตอบกลับมาเพียงแค่สองคำเท่านั้น

เจียงเซ่อคิดว่าตัวเองพอจะเดาสีหน้าท่าทางของเซี่ยเชาฉวินในตอนนี้ได้ “ภายในครึ่งปีนี้ ถ้าเธอยังไม่สามารถรับผิดชอบเงินในส่วนนี้ได้ละก็ ฉันก็คงต้องส่งเธอกลับบ้านไปแต่งงานเสียแล้วละมั้ง”

หล่อนพูดจบก็ตัดสายไปทันที พอเจียงเซ่อได้ยินเสียงตัดสายดังขึ้นมา ก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีก

เธอยื่นมือถือกลับไปให้โม่อานฉี หล่อนยิ้มกว้างให้เธอ แล้วรับมือถือกลับไป

“ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว งั้นเรามาเซ็นสัญญากันเลยดีไหมคะ?”

เจียงเซ่อพยักหน้า ไหนๆ เรื่องก็มาถึงตรงนี้แล้ว และคงไม่มีทางให้เธอได้ถอยหลังกลับอีก หลังจากเซ็นชื่อลงไปในเอกสารสัญญาแล้ว สัญญาของลูกจ้างมีระยะเวลาสามปี แต่ในส่วนของสวัสดิการ จะเซ็นเพียงปีเดียวเท่านั้น ส่วนเรื่องเงินเดือนจะถูกพิจารณาอีกทีในปีถัดไป

พอเซ็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าของเจียงเซ่อก็ยังคงความนิ่งอยู่ตลอดเวลา เวลาเพียงไม่กี่นาทีเธอก็ต้องมาแบกรับการจ่ายเงินเดือนเกือบหนึ่งล้านภายในสามปีเสียแล้ว และนี่มันก็ยังไม่ได้รวมค่ากลุ่มช่างแต่งหน้าสไตล์ลิสต์และค่าห้องที่อยู่ใหม่อีก

“แล้วตอนนี้มีงานบ้างไหมคะ?”

เจียงเซ่อเกลี่ยผมที่ตกลงมาขึ้นไปทัดหลังหู ก่อนจะถามออกไป

โม่อานฉีที่ได้ยินแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เพราะหล่อนก็พอจะเข้าใจความหมายที่เจียงเซ่อต้องการสื่อดี “พี่เซี่ยจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้ให้คุณเอง เดี๋ยวช่วงบ่ายๆ ฉันจะไปที่บริษัทร้านค้าต่างๆ ดูก่อน”

หล่อนเองก็ปฏิบัติต่อคนที่ให้เงินเดือนตัวเองดีไม่น้อย เพียงแค่เซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อยก็เริ่มวิ่งเต้นหาบริษัทร้านค้าเพื่อช่วยเจียงเซ่อในทันที ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า และเครื่องประดับต่างๆ นาๆ ในส่วนนี้ทั้งหมดเจียงเซ่อไม่ต้องเป็นคนออก และเป็นตัวที่จะช่วยเจียงเซ่อในการสานสัมพันธ์ต่อแบรนด์ต่างๆ

เพราะดาราในประเทศ ไม่ว่าจะดังหรือไม่ดัง ฐานะจะสูงหรือต่ำ ก็ใช่ว่าจะกลายเป็นที่รู้จักของทุกคนทั้งประเทศ

ก็ดูอย่างจูพ่านที่เพิ่งจะโดนฝังไป หล่อนในซื่อจี้หยินเหอ ก็มีทุนของตัวเองมากมาย มีหนังให้เล่น โฆษณาก็มี แต่ส่วนใหญ่ก็ยังไม่ใช่ในระดับคุณภาพ

บริษัทนิตยสารต่างๆ รวมไปถึงนิตยสารชื่อดังต่างๆในประเทศก็ยังไม่ถึงมือจูพ่านด้วยซ้ำ ไม่ว่าหล่อนจะเคยรับงานมากมายแค่ไหน แต่หล่อนก็ไม่เคยได้เลย ทั้งโฆษณาต่างๆ ก็มีลิมิต จึงไม่ได้รับความนิยมจากแบรนค์นานาชาติเสียเท่าไหร่ เวลาที่มีการประชุมกิจกรรมต่างๆ เสียงส่วนมากที่ได้รับโหวตส่วนมากก็เป็นแค่ แบรนด์ในประเทศทั้งนั้น ถ้ายากจะสวมเสื้อแบรนด์ดังๆ แล้วละก็ ก็ต้องไปขอยืม จากแบรนด์ดังๆ เสียก่อน

แต่ตอนนี้เจียงเซ่ออยู่ในความดูแลของเซี่ยเชาฉวิน และเซี่ยเชาฉวินเองก็ไม่ได้ต้องการจะปั้นเธอให้ไปทางเดียวกับจูพ่าน ดังนั้นเธอจึงต้องเข้มงวดเสียตั้งแต่เริ่มต้น

โม่อานฉีมองเจียงเซ่อแวบหนึ่ง “ตอนบ่ายเธอมีธุระอะไรไหมล่ะ ไม่งั้นฉันจะได้ไปส่งเธอก่อน หรือเธออยากจะไปที่ไหน?”

ที่จริงช่วงบ่ายเธอเองก็ไม่ได้มีอะไรให้ทำ แต่ในตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกถึงความเครียดขึ้นมาแล้ว เรื่องเงินของเธอกำลังตึงเครียดขนาดนี้ จะให้ออกไปนั่งเล่นในร้านคาเฟ่สั่งกาแฟมาแล้วไม่ดื่มเหมือนแต่ก่อนไม่ได้อีก เพราะแบบนั้นมันเป็นวิถีชีวิตในการ “ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย”

และตัวเธอเองก็ขับรถมาเองด้วย คงไม่ต้องให้โม่อานฉีไปส่งหรอก

“ฉันขับรถมาเองค่ะ”

โม่อานฉีได้ยินอย่างนั้นก็พยักหน้า

“งั้นก็โอเค ฉันกำลังกังวลเรื่องค่าน้ำมันจากคุณอยู่เลย”

เจียงเซ่อมองหล่อนแวบหนึ่ง พูดอะไรไม่ออกสักอย่าง

โม่อานฉีหัวเราะขึ้นมาเมื่อถูกเธอมองแบบนั้น อายุของเธอก็ยังดูน้อย แต่กลับไม่มีท่าทางเอาแต่ใจเหมือนเด็กๆ แบบนี้คิดว่าคงอยู่กันด้วยง่ายหน่อย

“อ้อ จริงสิ พี่เซี่ยฝากฉันมาบอกว่า ถ้ายังไม่ได้เปลี่ยนมือถือใหม่ ถ้าอยู่ด้านนอกละก็ห้ามหยิบมันขึ้นมาใช้โดยเด็ดขาด” โม่อานฉีพูดสิ่งที่เซี่ยเชาฉวินย้ำเตือนออกมา จากนั้นก็เตือนเธอขึ้นอีกด้วยท่าทางจริงจัง หล่อนหุบยิ้มลง

“พี่เซี่ยรู้ว่าเธอมีแฟน แต่เวลาทำงานถ้าจะออกไปไหน จะให้ดีก็ไปกับฉันดีกว่า”

เจียงเซ่อพยักหน้า โม่อานฉียังมีธุระอีกมากในช่วงบ่ายนี้ เซี่ยเชาฉวินเป็นผู้หญิงแกร่งคนหนึ่ง จึงรู้สึกว่าอยากจะให้ผู้หญิงคนอื่นๆ บนโลกนี้แกร่งพอๆ กับตัวหล่อนเอง หวังว่าคนอื่นจะจะสามารถก้าวเดินไปอย่างมั่นคงเหมือนตัวเอง และสามารถทำสิ่งที่ตัวเองมอบหมายให้ได้ตามที่ต้องการ

ดังนั้นเวลาของโม่อานฉีเองก็รัดตัวไม่แพ้กัน ตอนนี้ในมือของเธอมีลิสต์รายชื่อบริษัทแบรนด์ต่างๆ กว่าสิบชื่อที่เธอต้องไปติดต่อภายในวันนี้ และอย่างน้อยเธอก็ต้องโน้มน้าวให้ได้เกินครึ่ง ทั้งเสื้อผ้าชุดเดรสรองเท้าแลละกระเป๋าต่างๆ แถมยังต้องรีบหาที่ที่สะดวกและเหมาะสมอีก ภายในวันนี้พรุ่งนี้สองวันจะต้องย้ายของทั้งหมดมาเพื่อให้เจียงเซ่อสวมใส่

เรื่องทั้งหมดก็ชัดเจนแล้ว เซี่ยเชาฉวินเป็นคนที่มีสายตาเฉียบคม โม่อานฉีเองก็ถือว่างานที่หล่อนให้มาเป็นงานที่ราคาสูงมากจริงๆ บ่ายของวันถัดมา โม่อานฉีก็โทรมาหาเธออีกครั้ง เพื่อมาบอกข้อความที่เซี่ยเชาฉวินกำชับมา ว่าได้จัดหาที่อยู่ใหม่ให้เธอเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังติดต่อและทำความร่วมมือกับบริษัทแบรนด์ต่างๆเอาไว้เรียบร้อยทั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายทุกอย่าง

ห้องที่หล่อนหาให้ใหม่เป็นห้องที่ดีพอสมควร มันตั้งอยู่ในใจกลางเมืองหลวง และอยู่ในเครือของอสังหาริมทรัพย์จิ่งไท่ บ้านเรือนและตึกที่อยู่ในละแวกนั้นล้วนแล้วมีทุกสิ่งทุกอย่างครบครัน และที่นั่นก็มีการรักษาความปลอดภัย อย่างน้อยก็มีการคุ้มครองอย่างจริงจัง ดาราหลายคนที่อยู่ที่นี่ก็ไม่เคยมีคนไหนโดนแอบถ่ายหรือโดนรบกวน

เพราะตอนนี้เจียงเซ่อยังเป็นแค่ดาราใหม่ ห้องที่ได้มาจึงไม่ได้กว้างขวางอะไรนัก แต่ถ้าให้เทียบกับห้องที่ตัวเองเคยเช่าเอาไว้แล้ว มันกว้างและดีกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยเลย