娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง
ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr
ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน
บทที่ 144 ไม่ธรรมดา
หลายตาผ่านไป ตรงหน้าของเซี่ยงชิวหรานและอีกสามคนก็มีชิพกองพูนขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความภูมิใจ
แต่ตาต่อมา พอเหล่าเซี่ยงชิวหรานมองไพ่ในมือของตัวแล้วก็รีบเอ่ยปากขอยอมแพ้กันอย่างรวดเร็ว แต่ยังมีเฝิงหนานที่ยังคงแน่วแน่ที่จะเล่นต่อ หล่อนก้มมองไพ่ในมือตัวเองอีกครั้ง จากนั้นก็มองลงไปยังชิพที่มีตัวเลขมากน้อยต่างๆ ตรงหน้า และเลื่อนมันไปยังกลางโต๊ะ
“ยังอยากจะลงอีกไหมล่ะ?”
น้ำเสียงการพูดของหล่อนเรียบนิ่ง แสงสะท้อนของไฟทำให้เรือนผมของเธอที่ห้อยตกลงมาราวกับงูตัวหนึ่ง มันเคลื่อนไหวไปตามการขยับของหล่อน
เผยอี้มีท่าทางสนุกขึ้นมา มือที่วางอยู่บนเอวของเจียงเซ่อนั้นลูบผมยาวของเธอที่ตกลงมา เขาไม่พูดอะไร ทำแค่เลื่อนชิพของตัวเองไปไว้ตรงกลางด้วย
การกระทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าจะกำลังจะดวลพนันกับเฝิงหนาน!
ตั้งแต่ที่เฝิงหนานเข้ามาในห้อง แววตาของเจียงเซ่อมันก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง สิ่งที่เซี่ยงชิวจี๋พูดเอาไว้ก่อนหน้านี้มันก็พิสูจน์ตรงจุดนี้ได้ว่า ทั้งสองคนคงต้องเคยมีเรื่องผิดใจกันมาก่อนแน่นอน
ถึงแม้ว่าเนี่ยต้านก็ยังคิดไม่ออก ว่าคนที่เกิดมาในฐานะที่สูงศักดิ์อย่างเฝิงหนานจะไปมีเรื่องผิดใจกับเจียงเซ่อได้ยังไง แต่สิ่งที่เขารู้คือ แววตาของเผยอี้มันเป็นประกายไปหมดเมื่อเจียงเซ่อกับเฝิงหนานกำลังจะดวลพนันกัน เขาเลยรีบดึงเฉิงหรูหนิงที่กำลังคิดจะพูดถึงการกระทำของเผยอี้เอาไว้
เฝิงหนานเองก็เห็นการกระทำทั้งหมดของเผยอี้แล้ว จากนั้นเธอก็ดันชิพทั้งหมดของตัวเองไปยังกลางโต๊ะ แต่แล้วเผยอี้ก็เรียกพนักงานให้เอาชิพมาอีก และแน่นอนว่าหล่อนก็ทำตามอีกเช่นกัน
ถ้าเป็นคนอื่นก็ว่าไปอย่าง แต่คนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาคือเจียงเซ่อ เฝิงหนานจะแพ้ให้ใครก็ได้ แต่จะไม่ยอมแพ้ให้กับเจียงเซ่อเด็ดขาด
เธอเองก็ทำตามเขาทุกอย่าง ตะโกนเรียกให้พนักงานเอาชิพมาให้อีก ไปๆ มาๆ ตรงกลางโต๊ะก็ถูกถมจนสูงขึ้น
เฉิงหรูหนิงเองก็เริ่มเห็นว่าสถานการณ์มันดูแปลกๆ แล้วเช่นกัน เซี่ยงชิวจี๋และอีกสองคนกก็พากันเอามือซุกกระเป๋ากางเกง ไม่พูดอะไรสักคำ
พอเล่นมาสักพักหนึ่งแบบนี้ เจียงเซ่อก็รู้สึกเบื่อขึ้นมา ‘เฝิงหนาน’ คนนี้มองเธอด้วยแววตาที่ไม่หวังดีนัก ถึงแม้ว่าหล่อนจะปกปิดท่าทางอารมณ์ของตัวเองเก่งแค่ไหน แต่ใบหน้าและแววตามันปกปิดความรู้สึกจริงๆไม่ได้หรอก ตอนที่เธอได้นั่งมองตัวเองที่อยู่ตรงหน้า ทั่วทั้งร่างมันก็เหมือนถูกยึดเอาไว้อยู่กับที่ ต้องพยายามปกปิดท่าทางและอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ให้หมด
หล่อนเป็นใครกันแน่นะ?
เจียงเซ่อกำไพ่ในมือแน่น แล้วเธอก็คิดอะไรออก
“ฉันไม่อยากเล่นแล้ว”
และแน่นอนว่าการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของเธอที่เปลี่ยนไป เผยอี้ที่นั่งกอดเธออยู่ข้างๆ ก็เห็นหมดแล้วเช่นกัน ถ้าเธอบอกว่าไม่อยากเล่นต่อ เผยอี้ก็ไม่คิดจะบังคับให้เธอเล่น เขารับไพ่ในมือเธอมา แล้วดันชิพที่เหลือลงไป ปลายคางได้รูปของเขาถูลงบนหัวของเจียงเซ่อเบาๆ ก่อนจะปรายตามองไปที่เฝิงหนาน
“ฉันขอเตือนเธอก่อนนะ เหรียญชิพอันนี้มีค่าเท่ากับหนึ่งแสน” เขาหยิบชิพสีแดงขึ้นมา ข้างบนเหรียญนั้นมีเลข 10 และนี่มันก็เป็นจำนวนที่น้อยที่สุดแล้วในบรรดาชิพทั้งหมด
สีหน้าของเฝิงหนานเปลี่ยนไปทันที
ตรงกลางโต๊ะนั่นมีกองชิพกองใหญ่ราวกับภูเขา ถ้าเป็นอย่างที่เผยอี้พูดจริงๆ ตรงนี้มันก็มีมูลค่ามากกว่าร้อยล้านแล้วไม่ใช่เหรอ?
รอยยิ้มที่มีแต่ความมั่นใจในตัวเองเปลี่ยนเป็นความแข็งทื่อ ราวกับว่าไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน
“ว่าไงนะ? เรื่องจริงหรือเปล่าเนี่ย อย่าแกล้งให้ฉันตกใจสิ”
เผยอี้ยิ้มเย้ยขึ้นมา “แกล้งเหรอ? เธอเห็นว่าฉันล้อเล่นหรือไงล่ะ?”
สีหน้าของเฝิงหนานซีดเป็นไก่ต้ม คืนนี้เธอเรียกชิพเพิ่มไปแล้วถึงสามครั้ง และแต่ละครั้งก็จะมีประมาณยี่สิบเหรียญได้
ถ้าเกิดว่าเผยอี้ไม่ได้กำลังแกล้งเธอเล่นจริงๆ งั้นก็แสดงว่า นอกจากชิพในส่วนของเนี่ยต้านที่เจ้าตัวดันมาให้เธอแล้ว ในส่วนของเธอเองก็ปาเข้าไปห้าสิบล้านกว่าแล้วน่ะสิ?
ทุกครั้งที่เธอเห็นเผยอี้ลงชิพแบบไม่คิดอะไรแบบนั้นแล้ว เธอเองก็ยอมรับว่าลงตามเขาทั้งนั้น บนโต๊ะถึงได้มีชิพกองสูงขนาดนี้ไง
ตอนที่ยังไม่รู้ว่ากองชิพตรงหน้านี้มันมีมูลค่าเท่าไหร่ เฝิงหนานก็ยังไม่รู้สึกอะไร แต่พอตอนนี้ได้มารู้ว่า จำนวนตัวเลขมหาศาลที่ตัวเองลงนั้นมันอยู่ที่เท่าไหร่ เฝิงหนานก็รู้สึกลนลานไปหมด
“นี่มัน......” หล่อนเงยหน้ามองเนี่ยต้าน เนี่ยต้านเห็นแบบนั้นก็พูดขึ้น
“โธ่พี่อี้ จำเป็นต้องให้พี่เตือนด้วยรึไง คิดว่าพี่เฝิงหนานไม่มีปัญญาจ่ายแค่สิบล้านนี่หรือไง? ตลกน่า!”
แต่ตอนนี้เฝิงหนานแทบจะยิ้มไม่ออกอยู่แล้ว ฮีตเตอร์ที่เปิดภายในห้อง ตอนนี้มันกำลังจะทำให้เธอหายใจไม่ออก เหงื่อเย็นๆ ผุดออกมาจากรูขุมขน และทั้งๆ ที่ไพ่ในมือก็เป็นแค่กระดาษเบาๆ แต่หล่อนกลับรู้สึกว่ามันหนักอึ้งเหลือเกิน
“จะกี่สิบล้านก็เถอะ ก็แค่เล่นกันหนุกๆ น่า”
เซี่ยงชิวจี๋ที่เล็งเห็นช่องทางก็รีบสมทบกับเนี่ยต้าน ทำเป็นเห็นดีเห็นชอบด้วยไปเสียหมด
“สำหรับพี่เฝิงหนาน แค่นี้จิ๊บจ๊อยเนอะ”
ขาเรียวเล็กที่ไม่มีอะไรปกปิดของเฝิงหนานหดเข้าหากัน หล่อนเกร็งจนตะคริวจะกินขาอยู่แล้ว มันเริ่มปวดจนอยากจะลุกขึ้นยืน แล้วเอาไพ่ในมือนี่ทิ้งซะ
“ตกลงจะเล่นต่อไหม?”
เผยอี้ถือไพ่เอาไว้ในมือ แล้วถามออกมา
ตอนนี้ในมือเธอมี ‘K’ สองใบ ยังขาดอีกแค่ใบเดียวเท่านั้น เพราะถ้ามี ‘K’ สามใบ มันก็จะกลายเป็นไพ่ที่ใหญ่ที่สุด
แต่เธอก็ยังกังวลอยู่เหมือนเดิม เพราะว่าชิพมากมายมหาศาลที่อยู่บนโต๊ะนี่มันทำให้เธอกลัว ท่าทางของเผยอี้ดูสบายอกสบายใจไม่น้อย ทำให้เธอมองไม่ออกว่าที่จริงสถานการณ์มันเป็นยังไง
อย่างน้อยตอนที่ดันชิพออกมา เขาก็ดูไม่มีความลังเลเลยสักนิด
และตอนนี้ในใจของเฝิงหนานก็เริ่มรู้สึกขัดแย้งกันไปหมด สิ่งที่เนี่ยต้านพูดมาเธอเข้าใจมันดี มันหมายความว่า ชิพจำนวนห้าสิบกว่าล้านนั่น เขาคงไม่คิดจะมาช่วยเธอออกแน่ๆ
เธอในตอนนี้กับเงินจำนวนนั้น ถึงแม้ว่าเธอจะได้ฐานะของ ‘เฝิงหนาน’ มาแล้ว แต่การที่จะเอาเงินออกมามากขนาดนั้น มันก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แน่นอน
ถ้าเกิดเธอยังดึงดันจะเล่นต่อ ถ้าชนะ เธอก็ชนะทั้งร้อยล้านนี่เลย แต่ถ้าแพ้ขึ้นมาล่ะ.....
เฝิงหนานกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ในท้องมันเหมือนมีมวลขนาดใหญ่ไหลวนไปมา ใบหน้าแสนสวยนั่นขึ้นสี ดูท่าหล่อนคงต้องยอมจำนนเสียแล้ว
เธอลังเลอยู่นาน จนสุดท้ายก็อดกลั้นอารมณ์โกรธของตัวเองไม่ได้ หล่อนยกมือขึ้นเรียกให้พนักงานเอาชิพเพิ่มอีก
เหรียญชิพถูกเพิ่มเข้าไปอีกครั้ง และตอนนี้เธอก็เป็นหนี้ฉาวจิ้นเก๋ออยู่เจ็ดสิบล้านกว่าแล้ว
ตอนที่ชิพถูกนำมาให้ เนื้อแก้มเธอยังกระตุกอยู่เลยด้วยซ้ำ แทบไม่กล้าที่จะยื่นมือไปแตะมัน และหล่อนก็มองไปที่เผยอี้อีก จากนั้นก็กลับมาดูไพ่ในมือของตัวเอง
“ก็รอดูว่านายจะต่อไหม” น้ำเสียงของเฝิงหนานแหบแห้ง แห้งจนตัวเองก็ยังรู้ตัวและต้องกระแอมออกมาสองที จากนั้นก็แกล้งลองยื่นมือไปจับชิพเอาไว้ แต่สายตายังมองไปที่เผยอี้ เพื่อที่จะลองหาว่าเขากำลังรู้สึกย่างไร
แต่ท่าทีของเผยอี้ก็ยังเหมือนเดิม ราวกับเชื่อมั่นกับไพ่ในมือของตัวเองมากๆ
และสุดท้ายเฝิงหนานก็ไม่ได้เลื่อนชิพเข้าไป เธอโยนไพ่ตัวเองลงบนโต๊ะ
“เอาเถอะ ฉันไม่เล่นต่อแล้ว”
เธอยอมแพ้ในที่สุด และมันหมายความว่ายังไงเฝิงหนานก็รู้ดี
พอพูดจบ เธอเองก็ยังไม่ค่อยพอใจและอยากจะดูไพ่ในมือของเผยอี้ แต่เผยอี้ก็ยกสูงขึ้น
“อยากดูไพ่งั้นเหรอ ออกชิพมารึยัง?”
ตอนนี้เฝิงหนานอยากจะระเบิดความหงุดหงิดออกมาให้ได้
ทั้งๆ ที่วันนี้ตั้งใจที่จะมาผูกมิตรกับพวกเซี่ยงชิวจี๋แท้ๆ และนั่นก็เพื่อว่าเกิดวันหนึ่งเธอเข้าวงการบันเทิงขึ้นมา ก็จะได้มีคนคอยหนุนหลังและสนับสนุน
ในขณะเดียวกันก็อยากจะลองลอบถาม ว่าทำไมเซี่ยงชิวจี๋และคนอื่นๆ ถึงช่วยเจียงเซ่อขนาดนี้ แต่ยังไม่ทันจะได้อะไรสักอย่าง ก็ต้องมาแพ้แบบนี้แล้ว
“พี่เฝิงหนานเตรียมเงินไว้พร้อมหรือยังล่ะ?”
เนี่ยต้านเป่าลมใส่ผมที่หน้าผากตัวเอง เลิกคิ้วถาม
ตอนแรกที่เขาตัดสินใจแบ่งชิพครึ่งหนึ่งไปให้เฝิงหนานเพราะอยากจะให้หล่อนประทับใจในตัวเขา แต่ตอนนี้กลับเห็นได้ชัดว่าเขาดูจะไม่ค่อยชอบเธอสักเท่าไหร่แล้ว