webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

143

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 143 เจอหน้า

เจียงเซ่อเพิ่งจะเคยเล่นมันเป็นครั้งแรก เลยต้องรอบคอบเป็นพิเศษ เธอจึงเลือกเหรียญสีแดงที่มีค่าน้อยที่สุด

“อันนี้”

เผยอี้พูดชมออกมา “เซ่อเซ่อของฉันนี่เก่งนี่จริงๆ”

เนี่ยต้านและคนอื่นๆ ต่างนั่งมองอย่างเงียบๆ จากนั้นก็พากันลงเหรียญสีแดงเข้าไปในโต๊ะด้วย แค่ครู่เดียวบนโต๊ะก็ก่อเป็นกองขึ้นมาแล้ว

ไม่นานนักก็มีพนักงานมาแจ้งว่าเฝิงหนานมาถึงที่นี่แล้ว และเจียงเซ่อก็เล่นมันชั่วขณะหนึ่ง และชิพที่อยู่ตรงหน้าเธอก็เสียไปเยอะพอสมควร

ที่จริงตั้งแต่ที่เกิดใหม่มา และได้เริ่มมีความสัมพันธ์กับเผยอี้ เจียงเซ่อก็เตรียมตัวเตรียมใจมาตั้งนานแล้ว ว่าต้องมีสักวันที่ตัวเองจะได้เจอเข้ากับ ‘เฝิงหนาน’

แต่ตอนที่พนักงานเปิดประตูเข้ามา เฝิงหนานที่สวมเดรสถักตัวยาว และมีกระเป๋าถือที่ดูเข้ากัน ขาเรียวสวยยืนอยู่บนรองเท้าส้นสูงเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เจียงเซ่อเห็นแบบนั้นก็ทำได้แต่กำไพ่โบกเกอร์ในมือตัวเองแน่น

การที่ได้พบกับ ‘ตัวเองในอดีต’ มันเป็นอะไรที่สะเทือนจิตใจเธอเป็นอย่างมาก มันยิ่งกว่าตอนที่เธอได้บังเอิญเจอว่าหล่อนกำลังกอดจูบกับจ้าวจวินฮั่นจากบ้านเผยอี้ไกลๆ เสียอีก

ใบหน้านั่น สำหรับเจียงเซ่อแล้ว แน่นอนว่ามันต้องเป็นใบหน้าที่คุ้นเคยที่สุด แต่คงเป็นเพราะคนในร่างนั้นเป็นคนอื่น ตอนนี้เธอก็เลยรู้สึกว่าเฝิงหนานเป็นคนแปลกหน้าอย่างบอกไม่ถูก

สายตาของเฝิงหนานมองไปที่เจียงเซ่อก่อน จากนั้นก็มองไปที่เผยอี้ คนที่กัดผมสีทอง เด็กหนุ่มที่เย่อหยิ่งคนนี้ เหมือนว่าหล่อนจะเคยเจอมาแล้ว เมื่อครึ่งปีก่อนตอนที่หล่อนยอมรับในความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองและจ้าวจวินฮั่น ก็เหมือนว่าตอนที่อยู่ในบ้านตระกูลเฝิงจะเคยเห็นเขายืนคุยกับเฝิงจงเหลียง ท่าทางกระวนกระวายและกำลังถามอะไรบางอย่างต่อเฝิงจงเหลียงด้วย

และเฝิงจงเหลียงก็เคยเตือนหล่อนว่า ‘อย่าไปเล่นกับไฟ ถ้าเป็นไปได้ก็อยู่ให้ไกลจากเขาซะ ไม่งั้นจะเป็นการก่อเรื่องให้ตัวเอง’

ตอนนั้นเฝิงหนานก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก เธอเพิ่งจะได้มาเกิดใหม่ เรื่องทั่วๆ ไปของเฝิงหนานก็ใช่ว่าเธอจะรู้ แต่ฟังจากน้ำเสียงของเฝิงจงเหลียงแล้ว เธอเลยคาดว่าเฝิงหนานตัวจริงอาจจะเคยมีเรื่องผิดใจกับเขาก็ได้ และบังเอิญว่าช่วงนั้นหล่อนก็มัวแต่พะวงเรื่องจะลงทุนหนัง เลยไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ แต่ใครจะไปรู้ว่าการมาเจอกับเซี่ยงชิวจี๋ในคืนนี้จะได้เจอกับเขาด้วย

เฝิงหนานชะงักไปแค่เพียงเสี้ยววิ จากนั้นหล่อนก็พบว่าเจียงเซ่อนั่งอยู่ในอ้อมแขนของเขา

คำถามและข้อสงสัยในหัวของหล่อนมันอันตรธานหายไปหมด ม่านตาดำหดตัวลง แววตาสะท้อนเงาของใบหน้าที่เธอคุ้นเคย แม้แต่เนื้อแก้มบนหน้าของหล่อนก็ยังกระตุกอย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่

แต่ท่าทางที่เหมือนจะควบคุมสติตัวเองไม่ได้ของเธอมันก็เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววิเดียว พอเธอรู้ตัวว่าตัวเองกำลังแสดงท่าทางแบบไหนออกไป เธอก็รีบก้มหน้าปิดบังแววตาตัวเองทันที

แต่เจียงเซ่อเห็นหมดแล้ว ใบหน้าและแววตาที่มองมาที่เธออย่างแปลกๆ นั่น ราวกับว่ากำลังสงสัยในตัวเธอ ชั่ววินาทีนั้น รังสีเจตนาร้ายมันแผ่ออกมาจากตัวหล่อนจนเธอรู้สึกได้อย่างชัดเจน

นี่มันดูแปลกๆ รึเปล่า!

เธอเม้มริมฝีปากแน่น และเขยิบถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว มือของเผยอี้ที่ตั้งไว้อยู่บนพนักพิงโซฟาเองก็เลื่อนลงมาวางไว้บนไหล่ของเธอ และดึงให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอด

ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้?

เฝิงหนานมองเจียงเซ่ออยู่ครู่หนึ่ง ฟันคมกัดกันแน่น และมันก็แรงจนหล่อนได้กลิ่นคาวเลือดในปากของตัวเอง

ทำไมหล่อนไม่คิดเลยสักนิด วันนี้เซี่ยงชิวจี๋ก็บอกแล้วว่ากำลังนั่งสังสรรค์อยู่กับเพื่อนๆ แน่นอนว่าเจียงเซ่อก็ต้องอยู่ด้วยเช่นกัน

กับเจียงเซ่อที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสวยๆ แบบนี้ มันทำให้เฝิงหนานรู้สึกแปลกใจมากขึ้นกว่าเดิม เธอดูเด็กและบริสุทธิ์ พอนั่งอยู่กับเผยอี้แบบนั้นแล้ว ทั้งสองคนก็ดูจะสนิทสนมกันไม่น้อย

เนี่ยต้านและคนอื่นๆ เองก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ ภายในห้องนี้ ท่าทางของเฝิงหนานดูหม่นๆอย่างบอกไม่ถูก แต่เพียงแวบเดียวก็กลับมายิ้มให้เหมือนเดิม

“เล่นไพ่โป๊กเกอร์กันอยู่เหรอ?”

พอเธอพูดขึ้น เนี่ยต้านก็เผลอกัดมุมปากตัวเองเข้า เขารีบยกมือขวาขึ้นปิดปากทันที

จังหวะการพูดของเฝิงหนานดูแปลกๆ ไป แต่ก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงการหึงหวงของเผยอี้ ทั้งสี่คนต่างก็ไม่ค่อยติดต่อหรือไปมาหาสู่กับเฝิงหนานนัก แต่ก็โตด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เจอหน้ากันก็บ่อยพอสมควร

เธอเป็นคนยังไง เนี่ยต้านและคนอื่นๆ ต่างก็รู้และเข้าใจดีเช่นกัน วิธีและจังหวะการพูดของเธอ มันแตกต่างกับตอนนี้โดยสิ้นเชิง

แต่ก่อนเธอมักจะไว้ผมยาวตรงและมีสีดำขลับ แต่ตอนนี้กลับดัดลอนและทำเป็นสีแดงม่วง เธอแต่งหน้าด้วย ใบหน้าที่เคยสวยมีสง่าราศี กลับกลายเป็นใบหน้าที่ดูเจ้าชู้และแพรวพราวหยาดเยิ้ม

ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เดินเข้ามาในเลยด้วยซ้ำ แต่กลิ่นน้ำหอมก็ลอยนำเข้ามาแล้ว ก็จริงอยู่ที่ว่าแต่ก่อนเฝิงหนานก็ใช้น้ำหอม แต่ก็เป็นแค่กลิ่นอ่อนๆ แบบให้ความรู้สึกๆ สดชื่นอะไรแบบนั้น แต่ตอนนี้กลับฉีดน้ำหอมเสียจนเหมือนกับกลิ่นเหล้า เรียกว่าฉุนเลยจะดีกว่า

“พี่เฝิงหนาน มาแล้วเหรอครับ”

เฉิงหรูหนิงที่ไม่รับรู้สึกอะไรเลยก็ลุกขึ้นมาทักทายเธอ แต่พอเห็นว่าทุกคนดูแปลกๆ ไป ก็ยืนหันซ้ายหันขวา

“ทำไมพวกนายไม่ลุกขึ้นล่ะ?”

แต่ก่อนเผยอี้ไม่ชอบเอามากๆ กับคนที่ไม่เคารพเฝิงหนาน แค่เรียกผิดก็โดนแล้วด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่เฝิงหนานปรากฏตัว ทุกคนต่างก็พากันทำความเคารพแทบไม่หวาดไม่ไหว และตอนนี้เฉิงหรูหนิงก็เพิ่งรู้ว่าในกลุ่มพี่น้องมีตนคนเดียวที่ยืนขึ้น

เฝิงหนานที่ได้ยินเขาเรียกหล่อนแบบนั้น ในใจก็เริ่มไตร่ตรองสถานการณ์ตรงหน้า เขาเรียกหล่อนว่า ‘พี่เฝิงหนาน’ ก็แสดงว่าเฝิงหนานก็คงสนิทกับคนกลุ่มนี้อยู่พอสมควร เพราะอย่างน้อยเขาก็เรียกเธอด้วยความสนิทในระดับหนึ่งว่า ‘พี่’

เธอพยายามบังคับไม่ให้สายตาตัวเองมองไปที่เจียงเซ่อ เพราะกลัวว่าถ้ามองไป ความแค้นที่มีอยู่ในใจจะยิ่งพรั่งพรูออกมาจนควบคุมไว้ไม่ได้

เธอส่งกระเป๋าถือที่หนีบไว้ตรงข้อพับให้กับพนักงาน จากนั้นก็มองไปยังโต๊ะตรงกลางนั่น แค่แวบเดียวก็รู้แล้วว่าพวกเขากำลังเล่นอะไรกันอยู่

บนโต๊ะมีเหรียญชิพกองอยู่กระจัดกระจาย ตรงหน้าของทุกคนล้วนแล้วมีคนละกองๆ และหลากหลายสี แต่มีเพียงเจียงเซ่อคนเดียวที่ตรงหน้านั่นว่างเปล่า

เธอสูดลมหายใจเข้าลึก เนี่ยต้านกระแอมไอออกมาทีหนึ่งแล้วหันไปมองที่เผยอี้ ก่อนจะหยั่งเชิงถามออกไป

“พี่เฝิงหนานสนใจจะเล่นเหรอครับ?”

และเผยอี้ก็ไม่ได้ห้ามอะไรเขา เนี่ยต้านเองก็นิ่งเงียบไปเพื่อเดาว่าเผยอี้กำลังคิดอะไร

“เอาสิ” เฝิงหนานกำลังคิดอยู่เลยว่าจะเริ่มทำความสนิทสนมกับพวกเขาอย่างไรดี ชีวิตในวงการบันเทิงก่อนที่จะมาเกิดใหม่นี่ ทำให้หล่อนรู้เป็นอย่างดีว่าคนเหล่านี้มีอำนาจขนาดไหน แต่สิ่งที่หล่อนไม่พอใจเลยจริงๆก็คือ ทำไมเจียงเซ่อถึงได้มารู้จักและมาอยู่กับพวกเขาได้

ตอนที่หล่อนรู้จักเจียงเซ่อ มันก็เป็นเรื่องที่ผ่านมานานพอสมควรแล้ว เธอจึงไม่ค่อยรู้จักความเป็นมาของหล่อนมากนัก ตอนนั้นมันก็เป็นเพราะว่าเจียงเซ่อมายุ่งกับจ้าวจวินฮั่น เฝิงหนานก็เลยเริ่มสืบประวัติเธอดู และพบว่าเธอเกิดมาในฐานะที่ต้อยต่ำ ผ่านเรื่องในวงการบันเทิงมามากและยังกล้าดีมาแอบหวังจะจับผู้ชายแล้วแต่งเข้าตระกูลที่ร่ำรวย

แต่ก่อนเจียงเซ่ออาศัยแค่หน้าตาสวยๆ ของตัวเองในการดึงดูดผู้คนให้เข้าหา แน่นอนว่าคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะกลายเป็นของเล่นของคนนู้นทีคนนี้ที แต่เรื่องที่เธอรู้จักกับกลุ่มทายาทมาตั้งแต่แรกนี่ หล่อนไม่เคยได้ยินเรื่องพวกนี้มาก่อนเลยจริงๆ

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตั้งแต่เกิดใหม่มาเรื่องราวทั้งหมดมันก็เปลี่ยนไป หรือเป็นเพราะโลกก่อนหน้านี้ เจียงเซ่อเคยติดต่อกับกลุ่มทายาทนี่อยู่แล้ว และเดี๋ยวสุดท้ายก็คงกลายเป็นแค่ของเล่นเก่าๆ ที่รอวันโยนทิ้ง

เฝิงหนานรู้สึกหงุดหงิดกับเรื่องราวและสถานการณ์ที่ตัวเองไม่รู้ เธอพยายามเก็บตัวอย่างระมัดระวัง พนักงานเดินเข้ามาเลื่อนเก้าอี้ให้หล่อน และเชิญให้หล่อนนั่งลงข้างๆ เฉิงหรูหนิง เนี่ยต้านที่นั่งอยู่อีกด้านก็แบ่งชิพในกองของตัวเองส่งให้หล่อน

“ไม่ต้องเอาอันใหม่แล้วล่ะ เอาของผมไปนี่แหละ”

เฝิงหนานหันหน้าไปหาเขาแล้วยิ้มขึ้น ก่อนจะพูดออกไปด้วยน้ำสียงแหบๆ

“ขอบใจ”

ตอนที่หล่อนมาถึงก็เล่นเสร็จไปหนึ่งตาพอดี ส่วนเจียงเซ่อเองก็แพ้ไปหลายครั้งแล้ว เผยอี้กวักมือเรียกให้พนักงานเอาชิพมาให้อีก พนักงานเดินเข้ามาแจกไพ่อีกครั้ง และเฝิงหนานก็สังเกตได้ว่า เด็กหนุ่มที่กอดเจียงเซ่อเอาไว้ เขาไม่ได้ปฏิบัติต่อเธอว่าเป็นแค่ของเล่นเลยแม้แต่น้อย กลับกันกลับดูทะนุถนอมกันเสียมากกว่า อีกทั้งทั้งสองก็ดูจะสนิทสนมกันด้วย

เจียงเซ่อเป็นคนเล่น เขาเป็นคนลงชิพ ครู่หนึ่งบนโต๊ะก็เหมือนจะถูกถมอีกแล้ว

ท่าทางของเขาแบบนั้นทำเอาเซี่ยงชิวจี๋และอีกสามคนหัวเราะขำขันขึ้นมา

“อาอี้ พี่เล่นทำแบบนี้ก็เหมือนเธอเล่นเสียไปเรื่อยๆ นะเนี่ย!”

ดูก็รู้ว่าเจียงเซ่อเล่นโป๊กเกอร์ไม่ค่อยเป็น ‘ไพ่สามใบ’ แค่นี้มันก็เหมือนเป็นการทดสอบธาตุแท้ที่อยู่ในใจ ชิพที่ค่อยๆ ถูกโยนลงบนโต๊ะทั้งหลาย ถ้าไพ่ในมือดีก็ยังพอไหว แต่ถ้าไพ่ในมือไม่ดี มันก็ยากที่จะไปต่อ แค่รอเวลาให้มันจบลงเท่านั้น

แล้วยิ่งเห็นได้ชัดว่าเจียงเซ่อเล่นไม่เป็น แต่เธอก็เหมือนจะยังไม่อยากยอมแพ้ เผยอี้เองก็ส่งเสริมเธอไปเรื่อยๆ เงินทั้งหมดที่ควักออกมาก็เหมือนทิ้งลงแม่น้ำหมด แค่เธอพยักหน้า เขาก็โยนชิพลงมา ไม่ว่าไพ่ในมือเธอจะดีหรือไม่ดี แน่นอนว่าคนอื่นมองไม่ออกหรอก และมันก็ง่ายที่เกมจะพลิกด้วย

แต่ว่า ถ้าจับวิธีเล่นของเธอได้ละก็ จะเอาชนะเธอมันก็ไม่ยากนักหรอก