webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

139

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 139 ผลสุดท้าย

ซูเยี่ยนจวินไม่กล้าแม้แต่จะปิดบังสักนิด เขาเล่าทุกสิ่งทุกอย่างไปตามความจริงทั้งหมด

“บริษัททุ่มการลงทุนกับจูพ่านไปมากโข ผู้จัดการส่วนตัวของหล่อนอย่าง ailsa เองก็มาขอความเห็นใจและขอโอกาสจากผม เธอบอกว่าจะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง”

แต่ใครจะไปรู้ว่าในงานสัมภาษณ์ จูพ่านกลับไม่ได้พูดตามสคริปที่ทางบริษัทตระเตรียมไว้ให้เสียอย่างนั้น แต่กลับพูดในสิ่งที่ตัวเองอยากจะพูด จนสุดท้ายเรื่องมันก็แย่ลงแบบนี้

เขากับ ailsa สนิทสนมกันพอสมควร ตอนที่เกิดเรื่องขึ้น ailsa เองก็โทรมาขอโทษขอโพยกับเขาแล้ว

ตอนนี้ซูเยี่ยนจวินรู้สึกกลุ้มใจและท้อแท้มาก ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ เขาน่าจะเลือกเก็บตัวจูพ่านเอาไว้สักระยะจะดีกว่า ถึงมันจะเสียหายจากการลงทุนไปบ้าง แต่อย่างน้อยในบริษัทก็ยังมีดาราสาวที่เป็นเหล่านางรองอีกตั้งมากมาย เอามาปั้นใหม่ก็ยังได้

แต่มานึกเสียใจตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว

“เยี่ยนจวิน แกทำให้ฉันรู้สึกผิดหวังที่อุตส่าห์เชื่อใจมาโดยตลอด” ได้ยินมาว่านอกจากฉางยวี่หูที่คอยอยู่เบื้องหลังเจียงเซ่อแล้ว เรื่องนี้มันก็เกี่ยวโยงไปถึงเหล่าทายาทของกลุ่มวงการทหารอีกด้วย แถมคนในกลุ่มวัฒนธรรมเองก็ออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก ตอนนี้ในใจของลัวหยิ่นมันเหมือนมีไฟร้อนสุมจนแทบจะเผาไปทั้งดวง

แต่ใบหน้าของเขากลับหัวเราะออกมา

“หน้าแก่ๆ ของฉัน โดนแกทำจนป่นปี้หมดแล้ว!”

ซูเยี่ยนจวินยินยอมที่จะให้เขาดุด่าว่ากล่าวแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่ไม่อยากให้เขาพูดกับตนด้วยคำพูดอ่อนโยนแบบนี้เลย ซูเยี่ยนจวินก้มหน้าลง “ลุงเขย ขอโอกาสให้ผมอีกสักครั้งเถอะนะครับ ผมจะไปขอโทษด้วยตัวองเลย”

“ฉันให้โอกาสแกมามากมายพอแล้ว” ลัวหยิ่นกวักมือ ผู้จัดการเดินเอามือถือไปให้ดูตรงหน้าเขา “ฉันโทรหาฉางยวี่หูมาเกือบจะครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ก็ไม่มีใครรับสาย ในเน็ตก็ขุดคุ้ยข้อมูลส่วนตัวของฉันจนแทบจะทั้งตระกูลอยู่แล้ว ในกลุ่มแฟนคลับของเธอ คนเหล่านั้นก็มีฐานะไม่ต่างจากฉันเลยด้วย”

เขาชำเลืองหางตามอง หน้าผากของซูเยี่ยนจวินมีเหงื่อซึมออกมาเต็มไปหมด

“ก่อนจะทำอะไร ทำไมไม่ลองคิดพิจารณาให้มันดีกว่านี้?”

พอเขาพูดถึงตรงนี้ ลัวหยิ่นก็กระชับผ้าคลุมขนสัตว์บนขาตัวเองขึ้นมา เปลือกตาค่อยๆ ปิดลง “ในเมื่อแกรู้อยู่แล้วว่าคนที่อยู่เบื้องหลังดาราใหม่คนนั้นเป็นพวกกลุ่มทายาท แล้วแกได้หาข้อมูลให้มันชัดเจนกว่านี้ไหม ว่าคนที่สนับสนุนเธอเป็นใคร?”

ความสัมพันธ์ของกลุ่มทหารมันช่างสลับซับซ้อน และความสัมพันธ์ของรุ่นลูกรุ่นหลานเองก็ค่อนข้างสนิทชิดเชื้อกัน ไม่ว่าใครคนไหนจะทำอะไรมันก็รู้ไปทั้งวงการ

ถ้าไปทำอะไรให้ผิดใจแค่คนเดียว มันก็เหมือนไปผิดใจกับคนทั้งแวดวงนั่นเอง

“นอกจากฉางยวี่หูแล้ว สิ่งที่ฉันได้ยินมา ก็คือพวกกลุ่มวัฒนธรรมเองก็ออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย แกก่อเรื่องใหญ่แล้วรู้ไหม”

ซูเยี่ยนจวินไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา ได้แต่ก้มหัวยอมรับความผิดทุกอย่าง เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลซึมออกมาเรื่อยๆแบบไม่มีท่าว่าจะหยุด

“เรื่องนี้ แกไม่ต้องมาสนใจแล้ว ส่วนเรื่องภาระหน้าที่ที่ทำอยู่ก็พักมันไปก่อนเถอะ ส่วนเรื่องผู้จัดการของจูพ่านนั่น สั่งให้เธอลาออกซะ ถือว่าเป็นการขอขมา ส่วนเรื่องของดาราคนนั้นก็ให้คนอื่นมาจัดการแทน ยกเลิกสัญญาทุกอย่างออก ทั้งโฆษณาทั้งหนังละคร หยุดกิจกรรมทุกอย่างไปซะ!” เขาหยดของเหลวที่อยู่ในขวดยาดมที่มีลวดลายสวยงามลงบนมือแล้วถูกันไปมา

“สิ่งที่บริษัทไม่เคยขาด ก็คือศิลปิน แต่คนที่บริษัทอยากจะประคับประคอง ก็คือคนที่เชื่อฟัง!”

คำพูดนั้นของลัวหยิ่นมีความหมาย ประโยคที่ว่า “คนที่บริษัทอยากจะประคับประคอง ก็คือคนที่เชื่อฟัง” มันเป็นการกล่าวถึงจูพ่าน แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นการตักเตือนซูเยี่ยนจวินนั่นเอง

ซูเยี่ยนจวินรู้สึกเหมือนขามันชาไปหมด จากนั้นก็ได้ยินผู้ช่วยของลัวหยิ่นพูดขึ้น

“นายครับ พี่ฉางรับโทรศัพท์แล้ว”

ใบหน้าของลัวหยิ่นเผยรอยยิ้มออกมาพร้อมกับรีบยกมือไปรับมือถือ จากนั้นก็โบกมือให้ซูเยี่ยนจวินออกไป

ตอนที่ซูเยี่ยนจวินเดินออกมาจากบ้านของลัวหยิ่น ร่างทั้งร่างของเขามันก็ซวนเซไปมา

ทั้งๆ ที่เขาทุ่มเททำทุกอย่างมาตั้งหลายปี กว่าจะได้เข้ามาทำงานในซื่อจี้หยินเหอ กว่าจะปีนได้มาถึงจุดๆ นี้ เขาต้องเสียแรงกายและหยาดเหงื่อมามากแค่ไหน แล้วทำไมทุกอย่างมันต้องมาพังลงเพราะเรื่องๆ เดียวด้วย

พอนึกถึงจูพ่านที่ชอบทำอะไรบุ่มบ่ามและไม่ยอมเชื่อฟังแล้ว ซูเยี่ยนจวินก็ได้แต่สูดลมหายใจเข้าลึก แล้วหลับตาลง

ในซื่อจี้หยินเหอ จูพ่านกำลังล็อคตัวเองเอาไว้ในห้องพัก

จะใครหน้าไหนก็คงคิดไม่ถึง หลังจากที่เธอให้สัมภาษณ์จบไปได้ไม่นาน เธอก็ยังนั่งสบายใจที่ตัวเองได้แก้แค้นเจียงเซ่อไปแล้วอยู่เลย แต่จู่ๆ ฉางยวี่หูก็ออกมาปรากฏตัวเสียอย่างนั้น

จูพ่านไม่แม้แต่จะคิดมาก่อนเลยสักนิด ว่า ‘รุ่นพี่อาวุโส’ ที่ออกมาจากปากของเจียงเซ่อ จะเป็นคนที่มีชื่อเสียงขนาดนี้!

ตอนที่ข่าวในเน็ตมันแพร่ออกมา ในใจของเธอมันก็หดเกร็งและรู้สึกกลัวไปแล้วกว่าครึ่ง

เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะติดต่อกับคนที่โทรมาหาเธอเมื่อตอนเที่ยง แต่ปลายสายก็ไม่มีท่าทีว่าจะมีคนรับสายเลยสักนิด

“ailsa ล่ะ? Ailsa อยู่ไหน? ตามเธอมาหาฉันเดี๋ยวนี้!”

จูพ่านรู้สึกอยากจะบ้าตายจนต้องตบโต๊ะลงอย่างแรง ตอนนี้เธอรู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจที่ไร้สติของตัวเองในก่อนหน้านี้เหลือเกิน เธอไม่ควรไปเชื่อนังผู้หญิงแปลกหน้าที่โทรมายุยงเลยจริงๆ เธอเชื่อจนลืมสิ่งที่บริษัทเตือนเอาไว้เสียหมด

ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้น นังผู้หญิงแซ่เฝิงอะไรนั่นก็ไม่รับโทรศัพท์เธอเลยสักสาย แล้วบริษัทจะทำยังไงกับเธอต่อล่ะ ไม่ต้องถามจูพ่านก็พอจะเดาออกอยู่แล้ว

ตอนนี้เธอก็ได้แต่หวังว่าผู้จัดการตัวเองอย่าง ailsa จะกลับมาช่วยกันอีกสักครั้ง ถ้าเกิดว่าครั้งนี้ ailsa ช่วยเธอไปพูดกับพวกเบื้องบนว่าให้เก็บเธอเอาไว้ก่อน ต่อไปเธอก็จะเชื่อฟังทุกอย่าง จะไม่ทำอะไรตามใจตัวเองอีกแล้ว

เธอตะโกนอยู่นาน ผู้ช่วยของเธอก็รีบวิ่งเข้ามาในห้อง พร้อมกับน้ำเสียงที่เหมือนกำลังร้องไห้

“พี่พ่าน พี่ซากำลังทำเรื่องลาออกแล้วคะ!”

คำพูดนั้นของผู้ช่วยทำเอาจูพ่านเสียขวัญไม่น้อย ใบหน้าของเธอซีดเผือดไปทันที

เธอรู้ว่าเรื่องนี้มันใหญ่แค่ไหน และมันคงไม่จบลงง่ายๆ แน่ แต่เธอไม่คิดเลยจริงๆ ว่าเรื่องมันจะหนักหนาขนาดนี้ได้

Ailsa ถือเป็นคนเก่าแก่ของซื้อจี้หยินเหอ หล่อนเคยดูแลนักแสดงมามากมาย อยู่ในฐานะที่พิเศษไม่น้อย ถึงแม้ว่าจะเป็นในวงการแบบนี้ แต่ก็มีคนนับถือและเคารพหล่อนมากมาย

จูพ่านคิดว่าเรื่องที่เธอก่อไปในวันนี้ อย่างมากเธอก็คงจะต้องโดนเก็บตัวสักปี ห้ามทำกิจกรรมใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งโฆษณาและหนังละครทั้งหลายที่เคยติดต่อไว้ก็คงจะโดนยกเลิกไปทั้งหมด แต่ถ้าอย่างน้อยเธอยังมี ailsa และอาศัยความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ ไม่แน่ว่าตัวเธออาจจะยังมีความหวังที่จะได้โผล่หัวขึ้นมาบ้าง

แถมเธอยังคิดอีกว่า ขอแค่ ailsa ยังคอยช่วยเธออยู่ ต่อไปนี้เธอก็จะไม่ทำอะไรตามใจตัวเองอีก ถ้าบริษัทสั่งให้ทำอะไรก็จะทำ จะยอมปฏิบัติตามในสิ่งที่ ailsa กำหนดไว้ทุกอย่างเลยจริงๆ

แต่สุดท้าย ผู้ช่วยกลับมาบอกเธอว่า ailsa กำลังจะลาออกแล้วซะอย่างนั้น

จูพ่านหยิบมือถือขึ้นมาโทรหา ailsa ทันที เสียงรอสายดังอยู่หลายครั้ง แต่ ailsa ก็กดตัดสายใส่เธอ แต่จูพ่านก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจและโทรไปอีกรอบ หลายครั้งผ่านไปเข้า สุดท้ายปลายสายก็รับเสียที แต่น้ำเสียงของ ailsa ที่กรอกกลับมาก็ช่างเย็นชาเสียเหลือเกิน

“จนตอนนี้เธออยากจะทำอะไรอีกงั้นเหรอ?”

ailsa พอจะเดาได้ว่าตอนนี้ใจของจูพ่านคงใจฝ่อไม่น้อย หล่อนคลุกคลีกับวงการนี้มานานหลายปี สั่งสมคอนแทคเอาไว้ตั้งมากมาย แต่สุดท้ายมันก็ต้องมาพังลงเพราะการกระทำของจูพ่านแค่คนเดียว

ต้องให้เจอกับตัวก่อนถึงจะรู้ ตอนนี้ตัวหล่อนเองก็ลาออกจากซื่อจี้หยินเหอแล้ว แล้วในวงการนี้จะยังมีที่ที่ไหนให้หล่อนได้ซุกหัวอีกไหม?

ถึงแม่ว่าจะหนีไปกบดานถึงต่างประเทศแล้วค่อยกลับมาใหม่ แต่สิ่งที่หล่อนเคยทำเอาไว้ทุกอย่างก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้อีกแล้ว

จนเป็นแบบนี้จูพ่านก็ยังกล้าบากหน้าโทรมาหา ตอนนี้แม้แต่เสียงของจูพ่านหล่อนก็ไม่อยากจะได้ยินด้วยซ้ำ!

“พี่ซา พี่ซาฉันผิดไปแล้ว พี่ช่วยไปพูดกับพี่ซูให้ช่วยฉันหน่อยเถอะนะ ถ้าบริษัทจะให้ฉันทำอะไรฉันก็จะทำทุกอย่างเลย จะไม่ทำอะไรโง่ๆ แบบนั้นอีกแล้ว ครั้งนี้เป็นเพราะฉันโดนคนอื่นหลอก......”

จูพ่านรีบพูดออกมายาวเหยียด แต่ ailsa กลับหัวเราะเยาะใส่

“พี่ซูงั้นเหรอ? ก็เพราะเลือกที่จะช่วยเธอนี่ไง เขาถึงได้ต้องวางงานทุกอย่างลง แล้วโดนประธานกรรมการลงโทษมา” หล่อนพูดจบก็ตัดสายใส่ โดยที่ไม่คิดจะสนใจเลยด้วยซ้ำว่าปลายสายอย่างจูพ่านจะรู้สึกอย่างไร

พอเสียงตัดสายดังขึ้น ร่างทั้งร่างของจูพ่านก็สั่นเทาไปหมด

การที่ ailsa ต้องกลายมาเป็นแบบนี้ ก็คงจะไม่ได้ล้อเธอเล่นอีกต่อไป