134

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 134 กลับกลอก

นอกจากมือถือแล้ว ยังมีโซเชียลต่างๆ ที่เธอเองก็เข้าไม่ได้เช่นกัน เพราะเธอไม่รู้รหัสมันเลยสักอย่าง ดังนั้นพวกคนที่เคยสนิทหรือติดต่อกับเฝิงหนานคนเดิมก็ใช้ไม่ได้แล้ว เธอคงต้องลองสืบหาไปเรื่อยๆ ว่าใครที่สนิทและใกล้ชิดกับเธอบ้าง

แต่ว่าเรื่องที่ไปขอยืมอาวุธปืน เฝิงหนานเลยมั่นใจว่าระหว่างเธอและเซี่ยงชิวจี๋จะต้องมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวแน่ๆ ถึงจะยังไม่รู้ว่าทำไมเซี่ยงชิวจี๋ถึงได้ไปช่วยเจียงเซ่อได้ ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองก็มีฐานะสูงส่งขนาดนั้น แต่เธอจำได้ว่า แค่เธอออกปากขอยืมพวกอาวุธในตอนนั้น เขาก็ตอบรับทันที แล้ววันนี้เธอแค่จะขอให้ช่วยเรื่อง ‘เล็กๆ น้อยๆ’ เธอเชื่อว่าเขาต้องไม่ปฏิเสธแน่ๆ

“ฉันจะเอาอะไรมาเชื่อใจเธอกัน?”

พอจูพ่านได้ยินเฝิงหนานพูดแบบนั้น ในใจหล่อนก็เชื่อเฝิงหนานไปเกือบครึ่งแล้วด้วยซ้ำ แต่ว่าเรื่องตอนนี้มันก็ใหญ่มากแล้ว ทุกคำพูดทุกประโยคที่หล่อนจะพูดออกไป แน่นอนว่ามันจะส่งผลต่อตัวหล่อนเองในภายหลังด้วย ดังนั้นหล่อนเลยต้องลองถามออกไปอีกสักครั้ง

แล้วเฝิงหนานก็ตอบกลับมา

“บัตรหนังรอบเก้าโมงครึ่งวันนี้ เธอลองเข้าเน็ตดูสิ บัตรแปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่อยู่ในเขตเมืองหลวง ฉันซื้อมันมาหมดแล้ว” แล้วเธอก็หัวเราะขึ้นเบาๆ “เอาไอ้นี่แหละมาเชื่อ!”

จูพ่านผละมือถือออกมาเปิดเน็ตดู เฝิงหนานเองก็ไม่ได้เร่งรัดอะไรหล่อน รออยู่สักพักใหญ่ จูพ่านก็ถอนหายใจออกมา น้ำเสียงที่พูดขึ้นติดจะดีใจขึ้นมา

“เธออยากให้ฉันทำยังไง?”

“ก็ เธอก้าวพลาดตรงไหน ก็ปีนขึ้นมาจากตรงนั้นสิ” เมื่อคืนในรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ จูพ่านดันไปดึงกระโปรงตัวเองลงจนหน้าอกโผล่ แต่ในเวลาเดียวกัน ตอนนั้นเจียงเซ่อกำลังให้สัมภาษณ์อยู่ มันเป็นเรื่องที่เจียงเซ่อพูดขึ้นมาว่ากำลังฝึกฝนเรื่องการแสดงอย่างหนักเพื่อเตรียมพร้อมกับหนังเรื่องใหม่ที่จะเล่นอยู่

เฝิงหนานสืบหามาเรียบร้อยแล้ว ดูเหมือนว่าเจียงเซ่อจะได้ไปเซ็นสัญญาเล่นหนัง ‘The Occasion of Beiping’ นี่เอง

พอคิดถึงตรงนี้ขึ้นมา ในใจของเธอมันก็ปะทุขึ้นมา

ก่อนที่จะได้มาเกิดใหม่ ตอนที่มีข่าวว่าจะทำหนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ออกมา คนที่จะมากำกับหนังเรื่องนี้ก็คือหลินซีเหวิน และหลินซีเหวินก็จะอาศัยหนังเรื่องนี้ ในการเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ดีเด่นในปลายปีหน้า และถ้าเทียบกับหนังเรื่องอื่นๆ ที่เข้าฉายในเวลาไล่เลี่ยกันนั้น หนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ก็ลงชิงรางวัลหนังที่มีเนื้อเรื่องดีที่สุด และรางวัลหนังที่มีเครื่องแต่งกายที่อลังการที่สุดอีกด้วย!

และนักแสดงที่จะเข้ามารับเล่นหนังเรื่องนี้ก็จะถูกยกระดับขึ้นเพราะความลึกซึ้งของหนังเรื่องนี้ และเมื่อหนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ ออกฉาย ก็คงจะได้รับผลตอบรับที่ดีไม่น้อย

ที่จริงก็ใช่ว่าเธอจะไม่เคยสนใจเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ แต่ทว่านางเอกของเรื่องนี้อย่างพานอวิ้นเป็นคนที่หลินซีเหวินเลือกมาเองตั้งแต่ปีที่แล้ว และมันก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว

ส่วนบทผู้หญิงอื่นๆ ที่อยู่ใน ‘The Occasion of Peiping’ บทที่ดูจะโดดเด่นขึ้นมาอีกก็คือบท ‘โต้วโค่ว’ นั่นเอง

แต่บทๆ นี้ต้องแสดงเป็นผู้หญิงที่เร่ร่อนพเนจรอีกทั้งยังเป็นโสเภณี ก่อนที่เฝิงหนาจะมาเกิดใหม่เธอเองก็อยู่ในวงการมานานหลายปี เกี่ยวกับเรื่องที่คนดูจะเกิดความไม่ชอบ เธอเองรู้ดีเสมอ

บทพิเศษแบบนี้ ถ้าเธอเลือกแสดงไปและเผยสู่สายตาคนดูแล้วละก็ เธอก็คงจะโดนตัดสินว่าเธอเป็นนักแสดงสายนั้น และคงจะเป็นเรื่องยากที่เธอจะกลับมาเล่นบทที่บริสุทธิ์อีก

ถ้าคนดูจดจำบทบาทที่แสดงไปแล้ว และในอนาคตถ้าโด่งดังขึ้นมา บทที่ผู้กำกับส่วนมากจะป้อนมาให้ ก็คงเป็นบทประมาณนี้ตลอด

ดังนั้นในตอนนั้นเฝิงหนานจึงไม่ลังเลที่จะยอมแพ้เรื่องบท ‘โต้วโค่ว’ ไป และเธอก็จำได้ว่าในเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ คนที่จะได้มาเล่นบท ‘โต้วโค่ว’ ก็คือเย่หยิงเฟย เพราะหล่อนเป็นนักแสดงที่เซ็กซี่ รูปร่างดีและมีลูกเล่นแพรวพราว เย่หยิงเฟยมีคุณสมบัติทุกอย่างที่ตรงกับบท ‘โต้วโค่ว’ และถึงแม้ว่าหนังจะถูกฉายออกไปแล้ว หล่อนก็จะยังมีคนดูที่คอยสนับสนุนเสมอ

ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา หนังหรือบทที่เย่หยิงเฟยรับเล่น ส่วนมากก็เป็นพวกบทเมียน้อยทั้งนั้น หล่อนเล่นบทที่อยู่ในอารมณ์เดียวกันมาตลอด คงยากที่จะหลุดจากบทเหล่านั้นมาได้

พอเฝิงหนานได้มาเกิดใหม่ เธอกลายเป็นคนที่เพียบพร้อมไปหมดเสียทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่เหมือนกับชีวิตก่อนหน้าเลยสักนิด และเธอก็คงไม่อยากจะไปยุ่งกับบทอะไรแบบนี้ เพราะมันจะทำให้ไม่มีความก้าวหน้า

ในข้อมูลที่หามา เธอเองก็จำได้ว่าหลินซีเหวินก็ได้เลือกที่จะให้เย่หยิงเฟยเป็นคนแสดงแล้วนี่ แต่เย่หยิงเฟยดันมีความคิดแบบเดียวกันกับเธอ และปฏิเสธที่จะเล่นบท ‘โต้วโค่ว’ ไปเสียอย่างนั้น และความคิดนี้มันก็เหมือนกับความคิดของเฝิงหนานในอดีตด้วย

ในชาติก่อนหลินซีเหวินก็ยังขอให้เย่หยิงเฟยมารับเล่นบทนี้ตั้งหลายครั้ง แถมยังเสนอค่าตัวที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวอีกต่างหาก สุดท้ายก็สามารถเกลี้ยกล่อมให้เธอเข้ามาเป็นนักแสดงของ ‘The Occasion of Beiping’ จนได้

พอเฝิงหนานได้มาเกิดใหม่ ถึงแม้ว่าเรื่องเหล่านี้จะไม่เหมือนกับที่เธอได้รู้มาเมื่อชาติก่อน แต่เธอก็ไม่นึกไม่ฝัน ว่าสุดท้ายแล้วบท ‘โต้วโค่ว’ จะกลายเป็นของคนที่เธออยากจะฆ่าให้ตายอย่างเจียงเซ่อ!

ถ้ารู้อย่างนี้ ถึงแม้ว่าบทนี่เธอจะไม่เอา แต่ก็ไม่ควรที่ให้เจียงเซ่อได้มันไป เธอน่าจะผลักดันให้เย่หยิงเฟยให้ยอมรับเล่น ‘The Occasion of Beiping’ นี่ซะ และสุดท้ายก็คงจะไม่มีโอกาสให้เจียงเซ่อแน่ๆ

เมื่อคืนหลังจากที่ได้ดูการสัมภาษณ์ของเจียงเซ่อในรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ แล้ว เฝิงหนานเองก็เห็นและได้ยินมาหมดแล้ว ในสัมภาษณ์เจียงเซ่อบอกว่ากำลังฝึกซ้อมอย่างหนักในเรื่องการแสดง คำพูดนั้นทำเอาเธอยากจะหัวเราะอออกมาดังๆ เสียให้ได้

ถ้าคนที่พูดประโยคนี้เป็นคนอื่นก็แล้วไปสิ แต่พอเจียงเซ่อบอกว่ากำลังฝึกซ้อมการแสดง ไม่ว่ายังไงเฝิงหนานก็ไม่มีทางเชื่อหรอก!

โลกก่อนหน้านี้ เจียงเซ่ออยู่ในวงการบันเทิงอยู่หลายปี เธอไม่มีความรู้ความสามารถอะไรทั้งนั้น ตั้งแต่เริ่มเธอก็อาศัยหน้าตาตัวเอง และอาศัยผู้ชาย จนกระทั่งตัวเองพอจะมีชื่อเสียงอันน้อยนิดขึ้นมา แต่บทที่เธอได้เล่นส่วนมากก็จะเป็นแค่ตัวประดับเท่านั้นเอง แน่นอนว่ามันไม่ต้องใช้ฝีมือการแสดงเลยด้วยซ้ำ และตัวเธอเองก็ไม่ได้มีมันอยู่แล้วด้วย

อะไรคือการที่บอกว่ากำลังเรียนอยู่กับรุ่นพี่อาวุโสกัน รอให้ทุกคนได้เห็นการแสดงจริงๆ ของเธอก่อนเถอะ จะได้รู้ว่าเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ!

จากที่เฝิงหนานดูแล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีแต่ความคิดตื้นๆ แต่มาวันหนึ่งกลับมาพูดจาโอ้อวดไร้ยางอายแบบนี้ มันทำให้รู้สึกอยากจะอ้วกออกมาจริงๆ

“เธอน่าจะรู้อยู่แล้วว่าควรทำยังไง ฉันจะช่วยเธอจัดการเรื่องคอมเม้นท์พวกนั้น ส่วนเรื่องที่เหลือ ผู้ดูแลของเธอก็ยังไม่รู้เลยใช่ไหมว่าจะทำยังไงดี?” เฝิงหนานพูดถึงตรงนี้ จูพ่านเองก็ตัดสินใจเลือกแล้ว และกัดฟันตอบตกลงออกไป!

หลังจากที่เมื่อคืนเธอได้เปิดเผยตัวเองว่าเป็น ‘หญิงสาวในฝัน’ ในหนังของจ้าวร่าง คนในมหา’ลัยก็พากันมองมาที่เธอมากขึ้นไปอีก

เพราะที่จริงตัวเธอเองก็ดังอยู่แล้วในมหา’ลัย และตอนนี้บนเว็บเพจของมหา’ลัยก็มีคนมาถกเถียงเรื่องนี้กันมากขึ้นไปอีก ตอนที่นั่งเรียนในห้อง ก็เต็มไปด้วยเสียงคำถามของเพื่อนนักศึกษามากมาย หรือแม้แต่ตอนที่ศาสตราจารย์เดินเข้ามาในห้อง เขาก็ยังพูดแสดงความยินดีกับเจียงเซ่อที่ได้ไปออกรายการของเซิ่งจิ้งจือ

พอจบคลาสแล้ว นักศึกษามากมายก็กรูกันเข้ามาเอาของให้เธอ และสุดท้าย เธอก็โดนล้อมอยู่ในห้องเสียแล้ว

นักศึกษาที่จบออกไปแล้ว ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนที่มีชื่อเสียงแบบนี้ แต่เจียงเซ่อยังเป็นแค่เด็กปีหนึ่ง ตั้งแต่ที่เข้าเรียนมาเธอก็เป็นที่พูดถึงว่าสวยแค่ไหน อยู่ในมหา’ลัยก็ว่าดังแล้ว ยิ่งตอนนี้มาเข้าวงการบันเทิงอีก แถมยังมีข่าวเกี่ยวกับนางเอกชื่อดังจูพ่านด้วย นั่นมันยิ่งทำให้เป็นที่น่าจับตามองเข้าไปใหญ่

นักศึกษารอบๆ ต่างพากันแย่งพูดเรื่องของตัวเอง แต่ส่วนมากก็จะถามถึงว่าชุยซิ่งเป็นยังไง ตัวจริงเหมือนกับในทีวีไหม อะไรแบบนั้น

และก็ยังมีคนถามเธอว่าได้ถือโอกาสนี้ถ่ายรูปคู่กับชุยซิ่งมาบ้างหรือเปล่า อยากจะขอลายเซ็นบ้าง อยากจะขอถ่ายรูปคู่บ้าง เจียงเซ่อนั่งเก็บของใส่กระเป๋าไปเรื่อยๆ พลางตอบคำถามไปเรื่อยๆ เช่นกัน

ท่ามกลางกลุ่มคน เด็กสาวคนหนึ่งตะโกนถามขึ้นมา

“เจียงเซ่อ ได้ยืนมาว่าเธอไม่ถูกกับจูพ่านงั้นเหรอ?”

เสียงของเธอสามารถกลบเสียงของคนอื่นได้ทั้งหมด เจียงเซ่อหยุดสิ่งที่กำลังทำ แล้วเงยหน้าขึ้นมอง และเธอก็ได้พบกับเด็กสาวคนหนึ่ง หล่อนสวมชุดเสื้อกันหนาวสีแดงตัวใหญ่ กำลังยืนเอียงคอถามเธอ และเหมือนว่าจะคุ้นๆ หน้าด้วย