娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง
ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr
ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน
บทที่ 133 จนตรอก
“เธอเป็นใคร เธอจะเอาอะไรมาช่วยฉันได้?”
พอจูพ่านคว้ามือถือได้หล่อนก็ถามออกไปทันที
ปลายสายอย่างเฝิงหนานหัวเราะออกมาเบาๆ ดูท่าจะมีความสุขไม่น้อย
ตอนนี้น้ำเสียงของจูพ่านมันแหบเหลือเกิน แถมเสียงขึ้นจมูกอีกด้วย เหมือนกับว่าเพิ่งจะร้องไห้มา
ในความทรงจำก่อนหน้านี้ หล่อนเป็นดาราสาวนางเอกแนวหน้าแสนหยิ่งยโสของซื่อจี้หยินเหอ พอตอนนี้ได้หล่อนมาอยู่ในกำมือ ก็อยากจะหาวิธีช่วยหล่อนเสียหน่อย
เฝิงหนานยังจำได้ว่าก่อนที่เธอจะได้มาเกิดใหม่ เธอเองก็ได้เห็นจูพ่านตัวจริงจากที่ไกลๆ แล้ว แต่ทว่าจุดยืนของทั้งคู่ในตอนนั้นมันเทียบกันไม่ได้เลยสักนิด ตอนที่จูพ่านเดินเข้ามา ท่าทางสง่าราวกับเจ้าหญิง มีคนคอยล้อมหน้าล้อมหลังอยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนั้นเธอเป็นแค่คนที่อยู่ในวงการมานาน กว่าจะได้ก้าวขึ้นมาเป็นดาราระดับสามได้ก็แสนจะยากลำบากเหลือทนแล้ว
ตอนที่ทั้งสองคนเจอกัน จูพ่านน่ะ แม้แต่จะมองกันให้ชัดๆ ก็ยังไม่เคยเลยสักครั้ง
แล้วตอนนี้ล่ะ? หล่อนร้องไห้จนเสียงขึ้นจมูก ไม่เหลือเค้าของจูพ่านที่เธอเคยเจอในครั้งแรกเลยสักนิด
“เอาอะไรมาช่วยงั้นเหรอ? ก็ฐานะของฉัน ว่าที่สามีของฉัน กับเงินของฉันยังไงล่ะ” เฝิงหนานนึกถึงเรื่องในอดีต เธอพูดเร็วขึ้นมาอีก
“เอาฐานะที่ฉันเป็นฉันยังไงละ!”
จูพ่านยกถุงน้ำแข็งขึ้นประคบตาตัวเอง แล้วเปลี่ยนท่าทางมานั่ง จากนั้นก็ถามออกไป
“เธอเป็นใครกันแน่?”
ในสถานการณ์แบบนี้ แม้แต่ผู้จัดการอย่าง ailsa ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงด้วยซ้ำ จูพ่านจึงไม่คิดว่าคนแปลกหน้าที่โทรมาหานี่จะสามารถช่วยเธอได้จริงๆ พอตัวเองถามออกไปแบบนั้น ปลายสายก็หัวเราะใส่กลับมาอีก เธอหงุดหงิดจนคิดที่จะวางสายไป แต่เฝิงหนานก็พูดขึ้นมาก่อน
“เธอมีเรื่องผิดใจกับดาราใหม่คนนั้นไช่ไหมล่ะ? ถึงได้ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้น่ะ! ฉันสามารถหาคนมาทำลายพวกคอมเม้นท์ต่างๆ ในอินเทอร์เน็ตได้ ขึ้นอยู่ที่เธอจะเลือกยังไงแล้วล่ะ”
เธอยกมือขึ้นขยี้ปลายจมูกตัวเองเบาๆ แล้วพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชาไม่น้อย
“ฉันรู้ว่าวันนี้เธอจะต้องออกมาแถลงข่าวช่วงบ่าย นักข่าวต้องแห่กันมาเยอะแน่ๆ ขอแค่เธอกัดเจียงเซ่อให้ตาย ไม่ว่าเธอจะพูดยังไง แค่เธอสามารถลบชื่อเสียงของมันได้ เรื่องยุ่งๆ ของเธอ ฉันจะจัดการให้เอง”
เรื่องที่วุ่นวายที่สุดของจูพ่านในตอนนี้ นอกจากจะเป็นเรื่องที่เธอไปโชว์เนื้อหนังมังสาแล้ว ยังมีเรื่องที่มีคนมาปลอมตัวเป็นแฟนคลับของเธอในอินเทอร์เน็ตอีก
แต่เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเลย ที่ดูจะวุ่นวายสุด ก็คงเป็นพวกบริษัทเน็ตเวิร์คพวกนั้น เพราะเธอดันไปหาเรื่องกับคนที่ไม่ควรยุ่งเข้าให้
ก็เพราะว่ามีคนพวกนี้คอยยื่นมือเข้ามาช่วย เรื่องมันถึงได้ดูยุ่งยากขนาดนี้ อีกทั้งยังมีเรื่องที่ทาง
บริษัทก็เข้ามายุ่งด้วย พวกสื่อใหญ่ต่างๆ หรือแม้แต่เว็บเพจต่างก็ไม่กล้าที่จะลบพวกคอมเม้นท์หรือรูปภาพของจูพ่านทิ้งเลยสักราย ทำให้เรื่องมันลุกลามมาถึงทุกวันนี้
หญิงสาวปลายสายที่โทรเข้ามา ฟังเสียงดูแล้วน่าจะมีอายุไม่มากนัก แต่น้ำเสียงและคำพูดก็ฟังดูเหมือนจะมีแผนการเตรียมเอาไว้แล้วเหมือนกัน แต่ตอนนี้จูพ่านไม่กล้าที่เดิมพันอะไรทั้งนั้น
หล่อนนึกถึงที่ ailsa เตือนเอาไว้ ว่าหล่อนไม่ควรที่จะหาเรื่องใส่ตัวอีก
Ailsa บอกเอาไว้ว่า ตัวเธอได้เห็นพวกกลุ่มทายาทนั่นแล้ว แล้วประวัติของคนพวกนั้น ailsa เองก็ยังไม่สามารถสืบหาได้หมดด้วย แต่รู้แค่ว่าไม่ควรไม่ยุ่งด้วยเด็ดขาด
ดาราใหม่ที่ชื่อเจียงเซ่อนั่นก็คงจะเป็นของเล่นชิ้นหนึ่งของพวกเขา ที่อีกไม่นานก็คงโดนเบื่อ
ขอแค่เธอยอมอดทนกล้ำกลืนความเจ็บปวดตอนนี้เอาไว้ก่อน รอให้เรื่องพวกนี้ซาลงไป ไม่แน่ว่าทางบริษัทอาจจะให้โอกาสเธออีกครั้งก็ได้
แต่เรื่องที่เธอก่อลงไป ทำเอาบริษัทหัวหมุนและโมโหไม่น้อย เธออาจจะไม่มีวันที่จะได้โผล่หัวออกมาจากซื่อจี้หยินเหอ อีกเลยก็ได้
“ทำไมล่ะ? เธอไม่เกลียดมันเหรอ?”
เห็นจูพ่านเงียบอยู่นาน ปลายสายอย่างเฝิงหนานจึงเกิดความแปลกใจไม่น้อย
แน่นอนว่าเธอเกลียดเจียงเซ่อมาก แต่สิ่งที่ ailsa พูดมามันก็ถูก ตอนนี้เธอไม่ควรที่จะทำอะไรโง่ๆ ตามใจตัวเองอีกแล้ว เธอแค่ต้องทนผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ รอให้เรื่องเหล่านี้มันหายไป ก็อย่างที่ ailsa บอก เมื่อเจียงเซ่อกลายเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่ายสำหรับพวกกลุ่มทายาทเมื่อไหร่ ตอนนั้นแหละ ที่ทางบริษัทจะออกมาช่วยดึงเธอขึ้นมาเหมือนเดิม
แต่ถ้าเธอยังมาก่อเรื่องเพิ่มอีกละก็ ก็คงจะไม่มีวันได้ย้อนกลับมาอีกแล้ว
ถึงแม้ว่าจูพ่านจะเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง แต่เรื่องไหนมันสำคัญกว่า เธอรู้ดีเสมอ
“ไม่รู้หรอกนะคะว่าคุณไปได้ยินเรื่องพวกนี้มาจากไหน แต่เรื่องระหว่างฉันกับคุณเจียงเซ่อ เราสองคนทำงานในกองถ่ายเดียวกัน ฉันว่าคงจะต้องมีคนเข้าใจผิดแน่ๆ เลยค่ะ” หลังจากที่ตัดสินใจไปแล้ว จูพ่านก็รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอย่างไรออกไป
แต่คำพูดพวกนี้ หลอกคนอื่นได้ก็หลอกไป แต่มันไม่สามารถหลอกเฝิงหนานได้หรอก
“งั้นถ้าฉันพูดแบบนี้ล่ะ เรื่องที่เธอต้องเจออยู่ตอนนี้ ทั้งคนในเน็ตที่คอยแต่จะใส่ไฟให้เธอ ทั้งบัตรหนัง ‘99 Love Letter’ ที่โดยผลกระทบตั้งแต่เมื่อคืนจนทำให้จ้าวร่างโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เลยไม่อยากจะออกมาพูดให้เธออีก” เฝิงหนานกดเสียงต่ำลง “เรื่องบัตรหนังในวันนี้ เธอไม่ต้องห่วงเลยนะ ส่วนเรื่องวุ่นวายบนอินเทอร์เน็ต ฉันเองก็หาวิธีแก้ปัญหานี้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว ขอแค่เธอต้องกัดเจียงเซ่อให้ตายซะ ทำให้เธอกลับมาอ้าปากแก้ตัวไม่ได้อีก ถึงตอนนั้นก็จะไม่มีเรื่องอะไรอีกต่อไป ส่วนเรื่องที่เหลือ ซื่อจี้หยินเหอเองก็ยังไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงไม่ใช่หรือไง?”
สิ่งที่เธอพูดออกมาทั้งหมดมันคือเรื่องจริง จูพ่านนั่งตัวตรงขึ้น จากที่ตัดสินใจไปแล้ว ก็กลับมาลังเลอีกครั้งหนึ่ง
เธอปรายตาไปมองผู้ช่วยที่ยังยืนอยู่ในห้อง จูพ่านยกมือปัดไล่ให้ผู้ช่วยสาวคนนั้นให้ออกไป ก่อนจะถามกลับ
“เธอเป็นใครกันแน่?”
“เธอไม่ต้องสนใจหรอกว่าฉันคือใคร ตอนนี้คนพูดถึงเธอไม่ค่อยดีนัก จ้าวร่างเองก็คงไม่มีทางที่จะออกมาช่วยเธอพูด นั่นก็เพราะเรื่องที่บัตรหนังมันขายได้น้อยลงไม่ใช่รึไง? ถ้าหากว่าวันนี้ยอดขายบัตรหนังมันเพิ่มขึ้น จ้าวร่างจะยังมาโมโหเธอได้อีกหรือ?”
เฝิงหนานยกนิ้วม้วนผมตัวเองเล่น แล้วหัวเราะออกมาเบาๆ
“จะทำยังไง ก็คงต้องดูที่การตัดสินใจของเธอแล้วล่ะนะ”
จูพ่านกำมือถือแน่น แล้วลองหยั่งเชิงถามไปอีกรอบ
“คนที่คอยช่วยดาราใหม่คนนั้น กับพวกบริษัทที่ทำเรื่องพวกนี้ เธอรู้แล้วหรอว่าเป็นใคร? เธอมีวิธีช่วยฉันอย่างนั้นเหรอ?”
“แน่นอน!”
เฝิงหนานตอบออกมาอย่างไงลังเลเลยสักนิด
“เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องมากังวลเลย แค่เธอกัดเจียงเซ่อให้ตาย เรื่องพวกนี้ฉันจะเป็นคนสะสางให้เธอเอง”
หลังจากที่เมื่อคืนจ้าวจวินฮั่นพูดถึงเรื่องเจียงเซ่อออกมาอย่างไม่ใส่ใจอะไรนัก เฝิงหนานก็ได้สั่งให้คนไปสืบเรื่องพวกนี้มาแล้ว สิ่งที่ทำให้เฝิงหนานต้องกัดฟันแน่นก็คือ ไม่รู้ว่าเจียงเซ่อทำอะไรถึงได้ไปรู้จักมักจี่กับพวกเซี่ยงชิวจี๋และพวกเพื่อนๆ ของเขาได้
ตั้งแต่ที่เกิดใหม่มา เธอก็ได้พบกับเซี่ยงชิวจี๋โดยบังเอิญอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนนั้นเซี่ยงชิวจี๋เรียกเธอว่า ‘พี่เฝิงหนาน’ เฝิงหนานเลยคิดว่าคนๆ นี้อาจจะเป็นคนที่เคยสนิทและคุ้นเคยกันดีกับเฝิงหนานคนเก่า พอลองสืบหาดูแล้ว เธอก็ได้ข้อมูลของเซี่ยงชิวจี๋มาพอสมควร
ได้รู้ว่าเขาเป็นคนของตระกูลเซี่ยงที่เป็นตระกูลทหาร ฐานะอยู่ในระดับเดียวกัน แถมยังอยู่ในแวดวงลูกหลานลูกท่านหลานเธออีกด้วย กลุ่มคนที่คบอยู่ก็เป็นพวกรุ่นราวคราวเดียวกันในกลุ่มทายาท ซึ่งเป็นกลุ่ม ที่เธอเคยหวังว่าจะได้ผูกสัมพันธ์กันในอดีต
ตอนนั้นที่เธอร่วมลงทุนหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ และเพื่อที่จะซื้อใจจางจิ้งอานให้ได้ เธอเลยลองใช้ความสัมพันธ์ระหว่างเฝิงหนานและเซี่ยงชิวจี๋ดู คอยสั่งให้เซี่ยงชิวจี๋ ไปยืมพวกอาวุธปืนมาจากค่ายทหาร
ถึงแม้ว่าตอนนั้นเธอจะต้องรออยู่ระยะหนึ่ง ถึงเซี่ยงชิวจี๋จะไม่ได้ติดต่ออะไรเธอกลับมาอีก แต่เธอก็พอจะรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเฝิงหนานแล้ว
สิ่งที่น่าเสียดายอีกอย่างหนึ่งคือ เพราะเธอไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเฝิงหนานคนก่อน และกลัวว่าตัวเองจะเผยพิรุธออกมา ดังนั้นตอนที่เธอได้มาเกิดใหม่และพบว่ามือถือของเฝิงหนานมีรหัสในการเปิดปิดมือถือ เธอเปิดมันไม่ได้ และสิ่งที่เธอคิดขึ้นมาเป็นอย่างแรก ก็คือการทำลายมือถือนี่ไปซะ จากนั้นก็ซื้อเครื่องใหม่เสียเลย
พอเป็นแบบนี้แล้ว ถึงมันจะลดปัญหาตอนนั้นไปได้มาก แต่ก็เหมือนว่าจะสร้างปัญหาให้เธอได้เยอะเหมือนกัน