webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

135

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 135 เรื่องที่แสนวุ่นวาย

เจียงเซ่อคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็นึกออกว่าเคยได้ยินเพื่อนร่วมโต๊ะเรียนพูดถึงหล่อนคนนี้ขึ้นมา เหมือนว่าจะชื่อหานเจียอี๋นะ เป็นรูทเมทของสาวสวยแห่งคณะศิลปศาสตร์

บนเว็บเพจของมหา’ลัย เพราะเหมือนคนเหล่านั้นจะชอบเอาเธอไปเปรียบเทียบกับโจวหยิงที่อยู่คณะศิลปศาสตร์อยู่หลายครั้ง พวกเพื่อนๆ และคนรอบๆ ข้างของโจวหยิงเลยไม่ค่อยจะชอบเธอนัก วันเกิดเธอวันนั้น หานเจียอี๋ยังเคยพุ่งเป้ามาที่เธอแล้วเลย

เจียงเซ่อเก็บหนังสือใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย แล้วลุกขึ้น

“เธอก็รู้เรื่องแต่สิ่งที่ได้ยินมา อาจารย์ก็เคยสอนเธอเอาไว้ไม่ใช่หรือไง ที่ว่า อย่าเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน จงเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็นน่ะ?”

หานเจียอี๋ได้ยินแบบนั้น ก็ไม่โกรธ หล่อนยกมือถือขึ้นมาแล้วกระหยิ่มยิ้มย่อง

“ก็ใช่ไง เมื่อตอนบ่ายจูพ่านได้จัดงานแถลงข่าวขึ้น เขาให้สัมภาษณ์ว่าเธอพูดโกหกในรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ เมื่อคืนนี้ แล้วเธอยังจะพูดอะไรได้อีกล่ะ?”

คำพูดของหล่อนดึงดูดให้นักศึกษาหลายคนในห้องยกมือถือขึ้นมา คนที่อยู่ข้างๆ หานเจียอี๋เองก็เอนหัวไปดูบนมือถือของหล่อนที่เปิดข่าวเอาไว้

“เมื่อคืนนี้ในรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ เจียงเซ่อได้พูดว่าตัวเองกำลังเรียนการแสดงอยู่กับรุ่นพี่อาวุโสท่านหนึ่ง สงสัยว่าจะเป็นการโอ้อวดตัวเองหรือไม่?” หานเจียอี๋อ่านข่าวนั่นออกมาดังๆ พออ่านจบ ก็ยังหันหน้าจอมือถือแล้วชูให้คนทั้งห้องได้เห็นอีกด้วย จนแน่ใจแล้วว่าทุกคนได้เห็นข่าวนั่นแล้ว หล่อนถึงค่อยมองมาที่เจียงเซ่ออีกรอบ พร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ

“จูพ่านเพิ่งจะให้สัมภาษณ์ไปเมื่อตอนบ่ายสอง ข่าวทั้งหมดก็ออกมาแล้ว เขาเป็นถึงดาราที่แสนโด่งดัง ก็คงไม่กล้าที่จะพูดสุ่มสี่สุ่มห้าออกมาหรอกใช่ไหมล่ะ? เจียงเซ่อ เธอมีอะไรอยากจะแก้ตัวสักหน่อยไหมล่ะ?”

“แก้ตัวเหรอ?”

เมื่อตอนเที่ยงเจียงเซ่อเองก็ได้ยินจากเหล่ารูมเมทแล้วว่าจูพ่านจะออกมาให้สัมภาษณ์ พอตอนนี้มาได้ยินที่หานเจียอี๋อ่านข่าวออกมา เธอก็รู้ได้ทันทีว่าจูพ่านคงกำลังหาจุดสนใจใหม่แน่ๆ คงอยากจะให้คำวิจารณ์ต่างๆ นาๆ เหล่านั้นกลายเป็นของเธอเสียแทน จูพ่านกำลังจะถอนตัวเองออกมาจากจุดนั้นสินะ

พอได้สติกลับมา เจียงเซ่อก็ระงับอารมณ์ร้อนในใจของตัวเองลง แล้วถามออกไปด้วยรอยยิ้ม

“คิดว่าเธอเป็นใครกัน ทำไมฉันถึงต้องมาพูดแก้ตัวต่อหน้าเธอด้วยล่ะ? เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับเธอหรือยังไง?”

หานเจียอี๋คงคิดไม่ถึงว่าเธอจะพูดออกมาแบบนี้ หล่อนชะงักนิ่งไปครู่หนึ่ง ใบหน้าเริ่มขึ้นสีจัด พอกำลังจะพูดอะไร เจียงเซ่อก็เก็บของเสร็จเรียบร้อยพอดี แล้วลุกขึ้น

“เธออยู่ฐานะอะไรงั้นเหรอ หรือมีชื่อเสียง หรือมีอำนาจอะไรที่จะมาพูดกับฉันแบบนี้ ที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยนะ ไม่ใช่ที่ที่จะมาให้เธอมาป่าวประกาศข่าวบันเทิง”

พอนักศึกษารอบๆ ได้ยินแบบนั้น ต่างก็อดไม่ได้ที่ก้มหน้าหลุดหัวเราะออกมา

หานเจียอี๋ยังเป็นแค่เด็ก แค่โดนเธอพูดฉีกหน้าแค่นี้ น้ำตาก็ไหลลงมาเสียแล้ว

นักศึกษาทั้งห้องมองไปที่หล่อนด้วยความรู้สึกเห็นใจ เจียงเซ่อไม่คิดจะไว้หน้าเธอเลยสักนิด หล่อนยังยืนมองอยู่อีกแค่แป๊บเดียวแค่นั้น และสุดท้ายก็ทนไม่ไหว วิ่งร้องไห้ออกไป

ตอนที่เจียงเซ่อเดินออกมาจากห้อง เธอก็หยิบมือถือขึ้นมา และพบว่าตอนนี้มันสี่โมงกว่าแล้ว

เพราะตอนที่เรียนอยู่เธอปิดเสียงเอาไว้ พอดูอีกทีก็พบว่าเผยอี้โทรมาหาเธอกว่าเจ็ดแปดสายแล้ว และเธอก็ไม่ได้รับเลยสักสาย

พอเธอลองโทรกลับไปหาเขาดู เขาก็รับอย่างรวดเร็วราวกับว่ารออยู่แล้ว

“เซ่อเซ่อ เลิกเรียนแล้วเหรอ?”

เธอตอบไปเบาๆ ว่า ‘อืม’ แล้วถามออกไป

“อาอี้ นายโทรมาตั้งหลายรอบ มีอะไรหรือเปล่า?”

“เธออย่าออกมาทางประตูใหญ่ของมหา’ลัยเด็ดขาดเลยนะ ตอนนี้มีรถหลายคันมาจอดรอแอบถ่ายเธอแล้วเนี่ย” เมื่อตอนสายๆ พอเขามาส่งเธอที่มหา’ลัยเรียบร้อยแล้ว เขาก็กลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วพอกะเวลาที่เธอเลิกเรียนแล้วขับรถมารอเธอ ก็พบว่ามีรถน่าสงสัยหลายคันจอดอยู่ข้างหน้ามหาวิทยาลัย พอเขาลองโทรหาคนให้ลองไปเช็กดูแล้ว ก็พบว่ารถเหล่านั้นเป็นรถของพวกบริษัทที่คอยตามแอบถ่ายพวกดาราที่กำลังมีข่าวฉาวอยู่นั่นเอง

เขาลองขับรถวนดูไปรอบๆ มหาวิทยาลัย ก็พบว่าตรงประตูทางออกด้านทิศตะวันตกของตึกอวี้หลัน ทางค่อนข้างแคบ เดินรถเข้าออกได้แค่ทางเดียวเท่านั้น นักศึกษาและรถไม่เยอะ และไม่มีพวกปาปารัซซี่ด้วย

พอนัดกับเจียงเซ่อเรียบร้อยแล้วว่าจะไปเจอกันที่ทางออกทางด้านทิศตะวันตก ตอนที่เธอมา เผยอี้ก็จอดรถรออยู่ตรงนั้นมาสักพักแล้ว เขากล้าถึงขนาดที่ว่าจอดรถขวางประตูเข้าออกไฟฟ้าเลยด้วยซ้ำ แถมด้านหลังรถเขาก็ยังมีรถคันอื่นๆ ที่ต่อแถวรอออกจากมหาวิทยาลัยอีกด้วย รปภ.ของมหา’ลัยเองก็เหมือนจะไม่กล้าเข้าไปไล่เขาอีกเหมือนกัน เขาเอนตัวเอาหลังพิงกับรถตัวเอง สวมเสื้อโอเวอร์โค้ทสีเข้มตัวใหญ่และหันหน้าไปมองเข้ามาในตัวมหาวิทยาลัย พอเห็นว่าเจียงเซ่อกำลังเดินมาจากที่ไกลๆ แล้ว เขาก็ลุกขึ้นยืนตัวตรง แล้วก้าวเท้ายาวๆ เข้าไปหาเธอ

ในมือเธอกำลังถือหนังสือหลายเล่มที่ยืมมาจากห้องสมุด เผยอี้เองก็รีบยื่นมือไปรับมันมา

“ทำไมหนักแบบนี้ล่ะ รู้งี้ฉันเข้าไปรับเธอข้างในเลยดีกว่า”

ตอนที่เธอเดินออกมาจากห้องเรียน ก็คงต้องใช้เวลากว่าสิบนาทีกว่าจะมาถึงตรงนี้ เส้นผมของเธอแผ่กระจายอยู่บนไหล่ ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ

เผยอี้ยกมือขึ้นช่วยเธอเกลี่ยผมไปทัดเอาไว้หลังหู หลังจากปลายนิ้วของเขาสัมผัสกับหลังคอระหงของเธอ ก็ไม่ได้ชักมือกลับไป

“เซ่อเซ่อ ห้องที่เธอเช่าอยู่ คงกลับไปที่นั่นไม่ได้แล้วล่ะนะ”

เธอเงยหน้าขึ้น ดวงตาทอความงุนงงออกมา เผยอี้มีท่าทางอึกอักก่อนจะกระแอมออกมาสองที แล้วเดินไปเปิดประตูรถให้เธอขึ้นไปนั่ง ส่วนตัวเองก็วางของของเธอไว้ที่เบาะหลัง เขาออกรถแล้วค่อยพูดออกมา

“ห้องพักที่เธอเช่าเอาไว้มีคนตามไปเจอแล้วล่ะ”

ทั้งพลังของพวกสื่อและแฟนคลับนี่มันช่างยิ่งใหญ่จริงๆ ถึงแม้ว่าตอนเช้าเธอจะรู้ตัวว่ามีคนจำเธอได้แล้ว และต่อมาในเวยป๋อก็เริ่มพากันเดาว่าเธอพักอยู่ที่ไหน เธอเองก็คิดแล้วว่าตัวเองก็คงจะต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้เข้าสักวัน และเธอคงต้องหาที่อยู่ใหม่แล้วด้วย

แต่เธอไม่คิดว่าแค่วันนี้ก็จะเกิดเรื่องขึ้นถึงขนาดนี้ เธอยังไม่ทันจะได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ บ่ายวันนี้ที่อยู่ของเธอก็โดนหาเจอเสียแล้ว

“เมื่อตอนบ่ายจูพ่านออกมาให้สัมภาษณ์ แถมยังพูดเรื่องเหลวไหลต่อหน้าพวกนักข่าวอีก ตอนนี้ที่ตึกห้องพักเธอกับบริเวณรอบๆ นั่นก็มีพวกนักข่าวมาออกันเต็มไปหมด” เผยอี้เองก็กำลังปกปิดความในใจที่แท้จริงของตัวเองไว้อย่างแนบเนียน ก่อนจะหันไปมองเจียงเซ่อเป็นพักๆ

“ถ้ายังไง ช่วงนี้เธอก็ไปอยู่ที่บ้านฉันก่อนก็ได้นะ?”

เมื่อช่วงบ่าย หลังจากที่เผยอี้ได้รู้เรื่องที่จูพ่านออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวแบบมั่วซั่วแล้ว ที่จริงตัวเขาเองก็เกิดโมโหขึ้นมาไม่น้อยเลย แต่เพราะมีเรื่องที่ที่อยู่ของเจียงเซ่อถูกเปิดเผย แถมยังมีพวกนักข่าวมาดักรออยู่ข้างล่างตึกเสียขนาดนั้น เผยอี้เลยนึกถึงโอกาสนี้ขึ้นมา

“เพราะปกติฉันก็อยู่ที่บ้านหลังนั้นคนเดียวอยู่แล้ว ส่วนเรื่องความปลอดภัยกับความเป็นส่วนตัวเธอก็ไม่ต้องกังวลเลยนะ พวกนักข่าวไม่มีทางที่จะหาเธอเจอแน่ๆ” เขาพยายามเหลือเกินที่จะไม่ให้มุมปากของตัวเองยกขึ้น “ถ้าเกิด ถ้าเกิดว่าเธอรู้สึกว่าแบบนี้มันดูไม่ดี พวกเราจะมาทำสัญญากันก็ได้นะ ไว้ถ้าเกิดมีวันไหนที่มีคนมาเจอจริงๆ ก็จะได้มีเหตุผลมารองรับไงล่ะ”

เขาลอบมองเจียงเซ่อเป็นระยะๆ

“แน่นอนว่า ฉันไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะดูไม่ดีหรอกนะ แต่ฉันแค่กลัวว่าคนอื่นเขาจะมองเธอไม่ดีมากกว่า”

เจียงเซ่อนั่งกำสายเบลล์เอาไว้ไม่พูดอะไรออกมา

ตอนนี้เรื่องมันวุ่นวายไปกันใหญ่ พอกลับมาถึงที่บ้านของเผยอี้ เจียงเซ่อก็เลือกที่จะเปิดคอมพิวเตอร์ทันที ข่าวเรื่องที่จูพ่านออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงบ่าย ตอนนี้ก็ถูกยกขึ้นเป็นหัวข้อพาดข่าวใหญ่เสียแล้ว

ในรูปประกอบข่าว ดวงตาของหล่อนแดงก่ำ หยาดน้ำตาคลอเบ้าจะไหลแหล่ไม่ไหลแหล่ แฟนคลับของจูพ่านต่างก็ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับหล่อน

นักข่าวยังมีวีดีโอสั้นๆ จากในงานสัมภาษณ์มาลงเอาไว้ด้วย ในคลิปนั่น จูพ่านสะอึกสะอื้นจนตัวโยน

“เมื่อคืนในรายการของพี่เซิ่ง ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะดึงกระโปรงตัวเองลงแบบนั้นเลยนะคะ แต่ว่าตอนนั้น ฉันได้ยินนักแสดงสาวที่เล่นหนังเรื่องเดียวกัน พูดว่ากำลังฝึกฝนการแสดงอยู่กับรุ่นพี่อาวุโสคนหนึ่ง ตอนนั้นฉันแค่แปลกใจน่ะค่ะ เลยไม่ทันได้ระวังตัวเองจนทำกิริยาที่ไม่เหมาะสมออกไปแบบนั้น ทำให้แฟนคลับที่กำลังใส่ใจฉัน รวมไปถึงผู้กำกับจ้าว ทีมงาน ‘99 Love Letter’ อีกทั้งยังพี่เซิ่งและรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ ต่างก็ต้องได้รับผลกระทบที่ไม่ดีไปด้วย ฉันขอถือโอกาสนี้ในการขอโทษต่อทุกคนจริงๆ ค่ะ”