娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง
ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr
ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน
บทที่ 123 พิจารณา
การสารภาพรักกลายๆ ของเผยอี้ถูกทำลายเสียแล้ว เขาอุตส่าห์ฉกฉวยโอกาสนี้ ดึงความกล้าของตัวเองออกมาเพื่อพูดในสิ่งที่ไม่ง่ายเลยสำหรับเขา
เขาหันไปมองด้วยสีหน้าดุร้าย แล้วก็เห็นว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้หล่อนเองก็อยู่บนเวทีเหมือนกัน และเหมือนจะเป็นพวกเดียวกันกับผู้หญิงที่ชื่อจูพ่านด้วย
พอเห็นว่าเขาเองก็หันมา รอยยิ้มบนใบหน้าของ Ailsa ก็ฝืดลง แล้วหล่อนก็ค่อยๆ ก้าวเข้าไปให้เร็วขึ้น
“วางใจเถอะค่ะ ฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร”
เผยอี้ได้ยินอย่างนั้นแล้วก็ยิ้มเยาะออกมา
“แล้วเธอจะกล้าคิดร้ายอะไรเหรอ?” เขายังอยู่ตรงนี้ ยังไงก็แล้วแต่ ตอนนี้เผยอี้รู้สึกว่าตัวเองกำลังคิดร้ายยิ่งกว่าAilsa เสียอีก
เนี่ยต้าน เฉิงหรูหนิงและคนอื่นๆ อดไม่ได้ที่หัวเราะออกมา Ailsa เองก็แสร้งหัวเราะตามไปด้วยเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพูดเรื่องของตัวเองออกมา
“คุณเจียง ดิฉันเป็นผู้ดูแลศิลปินของบริษัทซื่อจี้หยินเหอ นี่เป็นนามบัตรของฉันค่ะ” Ailsa รู้ดีว่าตัวเองไม่สมควรที่จะเอ่ยถึงจูพ่านต่อหน้าคนเหล่านี้ จึงทำแค่แนะนำตัวแล้วหยิบนามบัตรของตัวเองออกมาจากกระเป๋าหนัง แล้วยื่นให้เจียงเซ่อ
“ได้ยินมาว่าคุณยังไม่ได้เซ็นสัญญากับบริษัทไหนใช่ไหมคะ?”
พอเจียงเซ่อยื่นมือมารับมันไป Ailsa ก็พูดต่อ
“คุณลองเอาเก็บไปคิดดูก่อนก็ได้นะคะ” หล่อนลอบมองเผยอี้แวบหนึ่ง ก่อนจะทำมือเป็นสัญลักษณ์โทรศัพท์ให้เจียงเซ่อ “ถ้าเกิดสนใจในบริษัทเราละก็ โทรหาฉันได้ทุกเวลาเลยนะคะ”
พอหล่อนเห็นว่าเจียงเซ่อเก็บนามบัตรเข้ากระเป๋าตัวเองไปแล้ว หล่อนก็ลอบถอนหายใจโล่งอก
“งั้นดิฉันไม่รบกวนพวกคุณแล้วละค่ะ”
เพราะจูพ่านดันทำลายตัวเองเสียแล้ว ตอนนี้ชาวเน็ตมีความคิดเห็นต่อจูพ่านค่อนข้างแย่มากๆ นั่นก็เพราะก่อนหน้านี้ดันไปทำนมหกในรายการสด ‘คนดังนั่งคุย’ น่ะสิ ทำให้จ้าวร่างโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ พอรายการจบก็อาละวาดด่ากราดใส่จูพ่านทันที ด่าแบบเสียๆ หายๆ เลยด้วยซ้ำ แถมยังขู่อีกว่าต่อไปจะไม่มีวันร่วมงานกันอีกแล้ว
ก่อนหน้านี้ทางเบื้องบนของบริษัทซื่อจี้หยินเหอเองก็โทรมาถามถึงสถานการณ์นี้แล้ว แต่รายการ ‘คนดังนั่งคุย’ เป็นรายการสด จะปิดยังไงก็ปิดไม่มิดแล้ว
Ailsa เองก็เหนื่อยใจเต็มที ดาราที่เธอเคยดูแลมา จูพ่านถือว่าเป็นดาราสาวที่สามารถทำเงินได้มากกว่าใครๆ แต่พอมันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทางบริษัทก็คงจะต้องสั่งดองเธอเอาไว้ชัวร์ๆ
จนหล่อนนึกถึงคนที่อยู่ร่วมรายการในวันนี้มาตลอดอย่างเจียงเซ่อ เธอทั้งสวย บุคลิกดี มีแบคดี มีภูมิหลังยอดเยี่ยมขนาดนี้ แถมยังเป็นคนที่จ้าวร่างออกปากชมไม่หยุด นี่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่สูงมากๆ สำหรับดาราใหม่
ที่สำคัญที่สุดคือ Ailsaได้ยินมาว่า เธอยังไม่ได้เซ็นสัญญากับบริษัทไหนเลย
ถ้าหากหล่อนสามารถพูดให้เจียงเซ่อยอมเซ็นสัญญากับซื่อจี้หยินเหอได้ ไม่แน่ว่าเรื่องบาดหมางระหว่างเธอกับจูพ่าน ก็อาจจะพอมีข้ออ้างไว้บอกกับคนภายนอกอยู่บ้าง แล้วก็ไม่แน่อาจจะได้แอบเกลี้ยกล่อมให้เธอไปพูดกับคนที่เป็นแบค ว่าไม่ต้องทำลายจูพ่านแล้ว แค่นี้ Ailsa ก็สามารถแก้ปัญหานี้ให้จบลงได้
ช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ทางบริษัทได้ลงทุนกับจูพ่านไปมาก และตลอดเวลาที่ Ailsa อยู่กับจูพ่าน หล่อนเองก็ใช้สมองคิดนู้นนี่อยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าจูพ่านจะมาถูกทำลายชื่อเสียงจนดับไปเสียแบบนี้มันก็น่าเสียดายเกินไป
ดังนั้นพอ Ailsaสอบถามจนแน่ใจแล้ว จึงทำใจกล้าเดินเข้ามาถึงตรงนี้
ใช่ว่าหล่อนจะไม่เห็นว่าเผยอี้กำลังจับมือเธออยู่ ตอนนั้น Ailsa เองก็เริ่มมั่นใจแล้วว่าคนที่คอยสนับสนุนเจียงเซ่อต้องเป็นคนกลุ่มนี้แน่ๆ ก่อนจะเดินจากมาหล่อนยังลอบถอนหายใจโล่งอกด้วยซ้ำ เห็นแบบนั้นแล้ว แปดสิบเปอร์เซ็นต์ หล่อนมั่นใจได้เลยว่าดาราใหม่คนนี้คงจะเป็นแค่ของเล่นของกลุ่มทายาทกลุ่มนั้น แถมจะโดนเห่อได้อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้
ตอนที่เจียงเซ่อเดินออกมาจากที่นั่นพร้อมกับเผยอี้และคนอื่นๆ ที่หน้าตึกสถานีโทรทัศน์แห่งชาติก็มีนักข่าวสื่อมวลชนล้อมกันเต็มไปหมด
ก็ตั้งแต่ที่จูพ่านทำเสื้อหลุดอก เรื่องนี้มันก็ไปถึงหูพวกสื่ออย่างรวดเร็ว เลยมาออกันมากมายขนาดนี้ไงล่ะ
บนรถ สีหน้าของเผยอี้ก็ดูไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่
หลังจากที่โดน Ailsa ขัดจังหวะ เขาก็กักเก็บความโกรธเอาไว้ในใจมาตลอดเพราะว่าตอนนี้เจียงเซ่อยังอยู่ แน่นอนว่าเขาจะไม่แสดงอารมณ์แบบนั้นออกมาเด็ดขาด แต่ในใจนี่กำลังถือมีดแทง Ailsa ไปเสียหลายทีแล้ว
“เซ่อเซ่อ ที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ เธอได้ยินมันรึเปล่า?”
พวกเนี่ยต้านขับรถตามหลังมา เพราะฉะนั้นบนรถจึงไม่มีใครอีกนอกจากพวกเขาสองคน เขาออกรถมาได้สักพักหนึ่งแล้ว เขาก็รวบรวมความกล้าออกมา สายตามองตรงไปข้างหน้าแต่รออยู่นานก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมา เลยหันไปมองเจียงเซ่อทันที
“ก่อนที่จะโดนผู้หญิงคนนั้นทักขึ้นมาน่ะ?”
“ไม่ต้องมองฉัน มองทางข้างหน้าสิ”
เธอสั่งออกไปหนึ่งประโยค แต่เผยอี้ก็ไม่ฟัง เธอเลยยื่นมือไปดันหน้าเขาให้หันไป แต่ก็โดนคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาเอียงหัวลงมา ให้หัวกับไหล่หนีบมือเธอเอาไว้ไม่ให้ชักกลับได้
ผิวหน้าของเขายังมีไรหนวดบางๆ ที่โกนไม่เกลี้ยงอยู่ด้วย และมันก็ทิ่มมือเธอจนจู่ๆ ใจมันก็เต้นเร็วขึ้นมาเสียอย่างนั้น
ไม่ว่าจะเป็นการจับมือกับเขาหรือโดนเขากอด แต่เจียงเซ่อก็ไม่เคยรู้สึกได้ชัดเจนขนาดนี้มาก่อน ตอนนี้ในใจของเธอ เผยอี้ไม่ใช่คนที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กแล้ว ไม่ใช่เด็กผู้ชายที่ชอบเล่นกับเธอบ่อยๆ อีกต่อไป
ราวกับว่า ตอนนี้เธอเพิ่งจะมารู้สึกว่าเขาเองก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ไม่ใช่เด็กอย่างที่เธอคิดมาตลอดอีกต่อไป
“ฉันได้ยินแล้วน่า แต่ว่ามันไม่เร็วไปหน่อยเหรอ?” เธอพยายามดึงๆ มือออกมาอยู่สองที แต่ก็ดึงไม่ออก เผยอี้ดูจะร้อนรนขึ้นมาทันที
“ทำไมถึงเร็วไปกันล่ะ?”
“แล้วทำไมจะไม่เร็วไปล่ะ? พวกเราเพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นานเท่าไหร่เลยนะ เรื่องไปมาหาสู่กันก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย” เขาดูร้อนรนจนหน้าแดงไปหมด เจียงเซ่อเลยปล่อยให้เขากดมือเธอไว้อยู่อย่างนั้น “นิสัยใจคอ ความรู้สึก หรือแม้กระทั่งสิ่งที่ชอบของเราทั้งสองคนก็เหมือนกัน เรารู้จักกันดีแล้วเหรอ?”
เผยอี้พูดอะไรไม่ออกสักคำ
เขารู้จักเฝิงหนานมากี่ปีแล้วล่ะ? แน่นอนว่าพวกเราทั้งสองต่างรู้จักนิสัยใจคอซึ่งกันและกันมาตลอด ไม่ว่าเธอจะชอบอะไร นิสัยยังไง หรือคิดอะไรอยู่ เขารู้มันดีทุกอย่าง
แต่เพราะต้องการที่จะจีบเธอในตอนแรก เพื่อที่จะเปลี่ยนใจเธอที่คิดกับเขาแค่น้องชายคนหนึ่งให้ได้ เขาเลยต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรสักอย่าง แต่ทำไมตอนนี้ถึงยังไม่กล้าพูดออกไปอีกนะ?
ตอนนี้ในใจของเผยอี้รู้สึกกลุ้มและรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย แก้มของเขายังคงกดมือขาวนั่นเอาไว้ แถมยังโดนมือนั้นกดๆ สองที เหมือนกับว่ากำลังหยอกเด็กเล่นอย่างไรอย่างนั้น
เขาอดไม่ได้ ที่จะหันหน้าไปขบมือบางนั่นทีหนึ่ง
ฟันคมนั่นขบลงบนมือแบบแทบจะไม่ลงแรงเลยด้วยซ้ำ เพราะมือของเธอไม่เหมือนกับมือของตัวเอง ตอนที่เขาขบลงไป ก็ไม่กล้าที่จะลงแรงเลย เพราะกลัวว่าจะทำให้เธอต้องเจ็บ แถมยังเลียซ้ำอีกสองที
มือของเธอยังมีกลิ่นแฮนด์ครีมที่เป็นกลิ่นมะนาวติดอยู่ด้วย หัวใจเขาเต้นแรง เจียงเซ่อรีบฉวยโอกาสในตอนที่เขาสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนั่นชักมือกลับมา
เผยอี้ยังเอาแต่คิดถึงความรู้สึกเมื่อครู่ ก่อนจะเลียริมฝีปากตัวเองอีกที แต่ก็เกิดความกังวลขึ้นมาอีกว่าเธอจะโกรธรึเปล่า เลยหันหน้าไปมองเธออยู่เป็นระยะๆ
ส่วนเจียงเซ่อก็ยังเอาแต่ถูกมือไปมาไม่หยุด แถมมองไม่ออกว่าเธอกำลังโกรธรึเปล่า
เขาไม่ได้กัดเจ็บอะไร แม้แต่รอยฟันก็ไม่มีให้เห็น แต่ว่าตอนที่เขาขบลงมาเธอก็เกิดจั๊กจี้ไม่น้อย เจียงเซ่อถูมือไปมาอยู่สองสามครั้ง ราวกับว่าไม่ได้เอาเรื่องนี้มาใส่ใจอะไรนัก
ท่าทางแบบนั้นทำให้เผยอี้รู้สึกโล่งใจไม่น้อย แต่ก็ยังยากที่จะอารมณ์ดีขึ้นมาในตอนนี้ มือข้างหนึ่งของเขาจับพวงมาลัย ส่วนอีกข้างก็ลูบคอตรงจุดที่นิ้วเรียวๆ นั้นจับเอาไว้ สัมผัสอ่อนนุ่มนั่นยังติดอยู่เลย เขาลูบมันไปมาก่อนจะทำลายความเงียบในรถนี่
“เซ่อเซ่อ เธอคิดจะพิจารณาซื่อจี้หยินเหอนั่นรึเปล่า?”
เธอนิสัยเป็นอย่างไร เผยอี้รู้ดีที่สุดแล้ว
ถ้าหากว่าเธอไม่คิดที่จะพิจารณาเรื่องซื่อจี้หยินเหอละก็ งั้นก่อนหน้านี้ที่ ‘Ailsa’ ปรากฏตัวเข้ามาแล้วยื่นนามบัตรให้เธอในตอนนั้น เธอก็คงจะไม่รับมันมาแล้ว
“ก็จะลองคิดๆ ดูน่ะนะ”
เจียงเซ่อตอบกลับ แล้วน้ำเสียงของเผยอี้ก็ดูหงอยๆ ลงอีก
“เธอไม่เคยลองคิดดูว่า จะก่อตั้งบริษัทขึ้นมาเองบ้างเหรอ?”
และนี่มันก็เป็นความคิดของเซี่ยงชิวหรานนั่นเอง เขาก็เก็บมันมาคิดอยู่เหมือนกัน พอถามออกไปแล้ว เจียงเซ่อก็ตอบออกมาตรงๆ
“ไม่มีตังค์”
เธอไม่มีตังค์จริงๆ นี่ ตั้งแต่เกิดใหม่มาก็เล่นหนังไปแค่ไม่กี่เรื่องเอง เงินที่มีอยู่ติดตัวก็ใช่ว่าจะมากมายเหลือเฟือ เธอเองก็ต้องประหยัดไม่น้อยเลย
แต่ถึงเธอจะไม่มีเงิน แต่เขามีนี่!