娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง
ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr
ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน
บทที่ 122 สารภาพ
เสี่ยวสือเหลี่ยวเลอ : ……จู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บปวดแทนพี่ซิ่งของฉันแล้วสิ
สาวน้อยผมสั้น : จูพ่านกำลังปล่อยไก่แล้ว! ในหนัง ‘99 Love Letter’ ก็เห็นเธอคอยช่วยเหลือและอยู่ข้างหลี่ชิงหยางมาโดยตลอด แถมหวานกันจนฉันนี่เลี่ยนไปเลย หนังจบแล้วก็ยังเพ้ออยู่ว่าอยากให้พี่ซิ่งของฉันกับเธอน่ะอยู่ด้วยกันจริงๆ แต่ตอนนี้เหมือนโดนแหกหน้าเลย! โลกสวยเกินไปแล้วฉันเนี่ย!
ทำนองสะเนาะไพเราะเพราะพริ้ง : ที่นี่ไม่ใช่ซ่องนะคะ! หวังว่าครั้งต่อไปพี่จิ้งจือจะเอาคนที่เป็น ‘ศิลปินนักแสดง’ จริงๆ มาพูดคุยกัน ไม่ใช่ดาราที่ไม่มีความคิดแบบนี้
ต้นป๋ายหยาง: หนังก็สนุก การแสดงของพี่ซิ่งก็ดี หญิงสาวในฝันก็สวย แต่ก็น่าเสียดายแทนหลี่ชิงหยาง ที่ตอนจบต้องมาคู่กับคนตกอับอย่างจูพ่าน!
……
ส่วนแฟนคลับของจูพ่าน ก็ยังมีบางคนที่ยังยืนหยัดต่อเธออยู่เช่นกัน
รักพ่านพ่านของฉันตลอดไป : อาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้นี่ แล้วมันก็เป็นชุดเกาะอก ขยับนิดขยับหน่อยมันก็หลุดแล้ว
จูจู : ฉันแปลกใจนะ ก็แค่หน้าอกโผล่ แล้วมันยังไงล่ะ? ตอนอาบน้ำพวกเธอไม่ถอดเสื้อผ้ากันหรือไง?
รักสุดหัวใจ : เสื้อมันหลุดง่ายเกินไปต่างหาก ดูก็รู้แล้วว่ามันหลุดง่าย
……
คอมเม้นท์ของแฟนคลับส่วนน้อยส่วนนี้ไม่ได้ทำให้ทุกคนพอใจเลยสักนิด ทั้งสองฝ่ายจึงเริ่มตีกันอีกครั้ง
สำนักพิมพ์ทะเลทราย: คนที่ข้างบนบอกว่ามันเป็นเสื้อเกาะอก ขยับนิดขยับหน่อยก็หลุดงั้นเหรอ งั้นก็กำลังจะบอกว่าหน้าอกของจูพ่านมันแบนเรียบใช่ไหมล่ะ?
ผาแดงที่เก่าแก่ : ถ้ารู้ว่าชุดตัวเองมันหลุดง่าย แล้วทำไมไม่ใช้อะไรที่ไม่หลุดง่ายเหมือน ‘หญิงสาวในฝันล่ะ?’
ฤดูร้อนมาถึงแล้ว : ฉันว่าแค่มีใครบางคนอยากจะอวดมากกว่า อยากจะแย่งซีนไง แถมยังทำตัวเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก
ท่ามกลางผู้ชมที่นั่งดูอยู่ด้านล่างเวที ผู้ดูแลจูพ่านที่ยืนดูอยู่หลังกล้องกำลังสั่นไปทั้งตัว
จนกระทั่งจู่พ่านเริ่มจับสิ่งผิดปกติได้ หล่อนก็รีบดึงกระโปรงขึ้นมาทันที
แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์แบบนั้นไปแล้วก็ทำเอาพูดถึงเรื่องนี้ราวกับเป็นเรื่องตลก รอยยิ้มของจ้าวร่างเองก็เริ่มฝืดเช่นกัน จนกระทั่งรายการจบลง ทุกคนก็พากันลุกขึ้นจับมือกัน พอกล้องหยุดการถ่ายแล้ว ยังไม่ทันจะได้ลงจากเวทีกัน จ้าวร่างก็ระเบิดความโหโหออกมาทันที เขาชี้ไปที่จูพ่านแล้วด่ากราด
“นี่เธอเป็นบ้าอะไรห้ะ?”
เมื่อกี้ตอนที่ถ่ายอยู่เขาก็เก็บความโมโหเอาไว้มาตลอด จนกระทั่งทนไม่ไหวอีกต่อไป “นี่ไม่ใช่ที่ที่จะเธอมาเรียกร้องความสนใจด้วยวิธีต่ำๆ แบบนี้หรอกนะ!”
Ailsa รีบเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้มแหยๆ
“พี่จ้าว เอ่อ พ่านพ่านคงไม่ได้ตั้งใจน่ะค่ะ พี่ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ”
จูพ่านโดนด่าจนหน้าแดงไปหมด หล่อนไม่คิดมาก่อนว่าจ้าวร่างจะบันดาลโทสะขนาดนี้ แวบหนึ่งที่หล่อนเกิดกลัวขึ้นมาในใจ
เผยอี้ที่อยู่ข้างล่างเวทีเองก็ถอดเสื้อนอกของตัวเองออกมา จากนั้นก็ก้าวขึ้นไปบนเวทีทันที เสื้อตัวใหญ่ถูกนำไปคลุมตัวของเจียงเซ่อเอาไว้ แถมยังรวบตัวเธอมาไว้ในอ้อมแขนอีก
“หนาวรึเปล่า?”
เธอสวมแค่เสื้อบางๆ เอง ถึงแม้ว่าในห้องส่งนี่จะเปิดฮีตเตอร์ไว้แล้วก็เถอะ แต่มือของเธอกลับเย็นเฉียบไปหมด พอได้เสื้อคลุมของเผยอี้มาทับไว้แบบนี้ก็ค่อยอุ่นขึ้นมาหน่อย
พวกเนี่ยต้านเองก็ตามขึ้นมา เหล่าทีมงานที่เห็นแบบนั้นก็เกิดลังเลไม่กล้าเข้าไปไล่
ดูๆ แล้วเผยอี้ไม่น่าใช่คนธรรมดาๆ ทั่วไป แล้วที่นั่งที่ลุกออกมาก็ไม่ใช่ว่าจะได้บัตรมาง่ายๆ เสียด้วย
จนกระทั่ง Ailsa สังเกตเห็นเผยอี้และคนอื่นๆ ก็นึกถึงคำพูดที่ว่ามีกลุ่มทายาทกำลังจ้องเล่นงานจูพ่านอยู่ เห็นแบบนี้แล้ว ยังจะไม่เข้าใจอะไรได้อีก
“พอไหวอยู่” เจียงเซ่อตอบ เผยอี้จึงรวบมือทั้งสองข้างของเธอขึ้นมากุมเอาไว้
แล้วเป่าลมลงไปเบาๆ แถมยังถูๆ มือให้เธออีกต่างหาก
“ออกจากที่นี่ก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
เขาทำทุกอย่างแบบไม่ปกปิดอะไรทั้งนั้น ทำเอาทั้งคนที่อยู่บนเวทีและล่างเวทีต้องชำเลืองมอง เจียงเซ่อพยักหน้า ราวกับว่าไม่ได้ต้องการจะปิดบังอะไรใครถึงความสัมพันธ์ที่มี และนั่นก็ยิ่งทำให้เผยอี้ดีใจไม่น้อย รอจนเธอเดินไปบอกลาเซิ่งจิ้งจือ จ้าวร่าง ชุยซิ่งและคนอื่นๆ เรียบร้อยแล้ว เขาถึงค่อยดึงเจียงเซ่อกลับมา แล้วตามเธอไปที่หลังเวที
พอเธอเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หลังเวทีแล้ว เนี่ยต้านกับเฉิงหรูหนิงและบรรดาพี่น้องหลายคนต่างมองตากันไปมา เพราะการกระทำก่อนหน้านี้ของเผยอี้ เนี่ยต้านเองก็เห็นหมดแล้ว เลยเกิดความประหลาดใจขึ้นมาไม่น้อย
คนนิสัยอย่างเผยอี้เนี่ยนะ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่รู้จักเอาใจใส่คนอื่นขนาดนี้?
ระหว่างที่กำลังดำเนินรายการ เขาก็เอาแต่นั่งฟังไปอย่างตั้งอกตั้งใจ เหมือนกลัวจะพลาดว่าเจียงเซ่อจะพูดอะไรบ้าง หรือเจียงเซ่อจะทำอะไรบ้างอย่างนั้นแหละ แถมพอรายการจบลงแล้วก็รีบเอาเสื้อไปคลุมตัวให้อีก ทำเหมือนว่ากำลังดูแลเด็กอย่างไรอย่างนั้น แปลกประหลาดจริงๆ นั่นแหละว่าไหม?
แต่ก่อนนอกจากเฝิงหนานแล้ว ทุกคนต่างก็ไม่คิดว่าเขาจะมาเอาใจใส่ต่อผู้หญิงคนไหนอีก แม้แต่คนอื่นๆ ที่ยังอยู่ในห้องส่งก็ไม่ไว้หน้ากันเลย แถมไม่กลัวว่าจะโดนซุบซิบอีก
ท่าทางแบบนี้ คงจะไม่ใช่อย่างที่เฉิงหรูหนิงเคยพูดเอาไว้ว่า ‘แค่เล่นๆ’ แล้วละมั้ง ดูเหมือนจะปักหลักไปแล้วด้วยซ้ำ พอเนี่ยต้านลองมาคิดดูดีๆ แล้ว ก็รู้สึกว่านานพอสมควรที่ไม่ได้ยินเขาพูดถึงเฝิงหนาน แต่ที่ได้ยินบ่อยๆ กลับกลายเป็น ‘เซ่อเซ่อ’ ไปเสียได้
เจียงเซ่อสวยจริงๆ อันนี้ยอมรับ แต่กับเผยอี้ที่เกิดมาในฐานะแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่สวยขนาดไหนก็ไม่เคยทำให้เขาสนใจได้นี่? หรือว่าเขาจะแค่หลงใหล?
เนี่ยต้านยืนครุ่นคิด เฉิงหรูหนิงที่กำลังนั่งรออยู่บนโซฟาในห้องรับรองหลังเวทียกขาขึ้นไขว่ห้างแล้วพูดขึ้น
“พวกนายรู้สึกกันป่ะ ว่ารุ่นน้องคนสวยคนนั้นดูคลับคล้ายคลับคลากับพี่เฝิงหนาน บุคลิกก็โครตใกล้เคียง”
เนี่ยต้านขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เซี่ยงชิวหรานถีบเฉิงหรูหนิงไปหนึ่งที
“ไอ้นี่ก็วอนจริงๆ เลย”
ก่อนหน้านี้ไอ้คำว่า ‘รุ่นน้องคนสวย’ นั่นก็เกือบจะโดนเผยอี้เตะปากแตกไปแล้วทีหนึ่ง ตอนนี้ก็ยังไม่เข็ดจะเรียกขึ้นมาอีก “ดูๆ แล้วพี่อี้คงนะจริงจังนะ น่าสงสารชายหนุ่มผู้ไม่มีประสบการณ์จริงๆ คงจะทนไม่ไหว พอเห็นสาวสวยก็เลยหลง แถมหลงหัวปักหัวปำด้วยสิ”
“ฉันเองก็รู้สึกว่าน้องสะใภ้คนนี้คล้ายเฝิงหนานอยู่เหมือนกันนะ ถึงจะหน้าตาไม่เหมือนกัน แต่รู้สึกได้ถึงบุคลิก ลักษณะท่าทางเหมือนกันมากๆ” เซี่ยงชิวหรานเองก็สนับสนุนความคิดนี้ เฉิงหรูหนิงนั่งลูบขาตัวเองไปมา
“บางทีเขาอาจจะชอบเพราะแบบนี้ก็ได้มั้ง”
ในขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน เผยอี้ก็ยังยืนรออยู่ตรงทางเข้าหลังเวที ท่าทางแบบนั้นทำเอาทุกคนอดไม่ได้ที่จะขำออกมา
พอเจียงเซ่อลบเครื่องสำอางเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็ยื่นเสื้อคลุมคืนเผยอี้ไป ส่วนพวกเนี่ยต้านเองก็ทำหน้าหนาเดินเข้าไปร่วมวง หวังจะให้เธอจำหน้าพวกเขาเอาไว้
ที่จริงเจียงเซ่อเองก็รู้จักพวกเนี่ยต้านกันหมดแล้ว แต่พอมาเกิดใหม่แบบนี้ พวกเขาก็เลยจำเธอไม่ได้แค่นั้นเอง ทั้งสามสี่คนก่อกวนอยู่ครู่หนึ่ง คนที่ยังอยู่บริเวณหลังเวทีเองก็พากันชะโงกหน้ามามอง ส่วนเผยอี้ก็จับมือเจียงเซ่อสอดเข้ามาในกระเป๋าเสื้อแบบไม่สนสายตาใครๆ
“พอๆ หยุดกวนได้ละ ฉันจองร้านอาหารเอาไว้ นี่มันก็สามทุ่มแล้วด้วย พวกแกไม่หิว แต่ภรรยาฉันหิวแล้ว”
เจียงเซ่อยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมา เฉิงหรูหนิงอดใจไม่ไหวพูดออกมาแทน
“พี่อี้ เขาตอบตกลงจะแต่งกับพี่รึยังเหอะ? ไปเรียกเขาว่าภรรยาซะแล้ว”
“จะไปไหนก็ไปไป!”
เผยอี้พาลโกรธขึ้นมา กว่าเขาจะพูดคำว่า ‘ภรรยา’ ขึ้นมาได้ ในใจของเขาเองก็ปั่นป่วนไม่น้อยเลย แถมกลัวว่าเจียงเซ่อจะปฏิเสธอีกด้วย
ตั้งแต่ที่ทั้งสองคบกันมาจนถึงตอนนี้ มันก็แทบจะไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย แล้วที่ดูจะใกล้ชิดกันมากที่สุดก็น่าจะเป็นอ้อมกอดที่เพิ่งได้มาในวันนี้ เขาพยายามเก็บความกังวลในใจไป ทำตัวเหมือนไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น
“พวกแกไม่รู้หรือไง ตามกฎหมาย อายุสิบแปดก็สามารถลงว่าแต่งงานแล้วได้แล้ว ยังไงก็เป็นภรรยาของฉันอยู่ดีนั่นแหละน่า!”
เฉิงหรูหนิงชะงักไป แต่ในตอนที่เผยอี้กำลังรอคำตอบจากเจียงเซ่อด้วยท่าทางจริงจังแบบนั้น ก็ดันมีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมา
“คุณเจียง”