webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

124

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

 

 

 

 บทที่ 124 น้ำใสใจจริง

 

เจียงเซ่อรู้จุดนี้ดี เธอถึงไม่พูดถึงมันขึ้นมา ความจริงแล้วในใจเธอ ยังคงแบ่งเส้นระหว่างสองคนไว้อย่างชัดเจน

ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะมีนัดเจอกันบ้าง กินข้าวด้วยกัน และถึงแม้ว่าในวันเกิดเธอจะรับของขวัญจากเขาไป แต่เธอก็ยังรักษาระยะห่างเอาไว้เสมอ พอลองมาคิดๆ ดูถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองแล้ว เขาเองก็ไม่เคยที่จะก้าวข้ามเส้นนั้นของเธอไปได้เลย

เผยอี้อยากจะพูด แววตาทอแสงความเจ็บปวด 

“แล้วถ้าเป็นฉันลงทุนล่ะ?”  

เขาพูดออกไปอย่างระมัดระวัง เจียงเซ่อหันหน้ามามอง พร้อมกับรอยยิ้มยิงฟันเล็กๆ ที่แทบทำเอาเขาเคลิบเคลิ้มตามไปแล้วแต่ก็ได้ยินเธอถามขึ้นมาก่อน

“งั้นอาอี้ นายอยากจะได้ฉันเป็นลูกจ้าง หรืออยากได้ฉันเป็นแฟนสาวกันแน่?” 

ประโยคนั้นดั่งหยดน้ำที่พรมลงมา แทรกซึมเข้าไปทั้งหัวใจ ทำลายความคิดต่างๆ นานาจนหมดสิ้น

แน่นอนว่าเขาอยากได้แฟนสาว แต่เขาก็ทนไม่ได้ที่จะเห็นเธอกลายเป็นเบี้ยล่างของใครๆ จนต้องลำบาก

เซี่ยงชิวหรานเป็นคนเสนอความคิดเห็นนี้มา บอกให้เขาเปิดบริษัทเลยสิ เอาเฉพาะเธอเท่านั้นเลย แล้วก็ดูแลแทคแคร์เธอให้เหมือนดั่งเจ้าหญิง กลัวทำไมว่าจะไม่มีเงินทุน?

แต่คำตอบของเธอไม่เหมือนกับคำพูดที่เซี่ยงชิวหรานพูดเอาไว้เลยสักนิด 

คำปฏิเสธของเธอทำให้เขานึกถึงตอนที่ตัวเองแอบไปซื้อบ้านพักตากอากาศเอาไว้ที่ฝรั่งเศส นั่นก็เพราะคำพูดนั้นของเธอ เขาใช้เวลาไปถึงสองปีกว่า แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้เห็นมันเลยด้วยซ้ำ นั่นทำให้เขารู้สึกกังวลใจ ไม่รู้ว่ามันจะตรงกับที่เธอคิดเอาไว้บ้างไหม

ระหว่างเราสองคนก็เหมือนมีเขาฝ่ายเดียวที่รักเธอมากกว่า แต่เธอมักจะครึ่งๆ กลางๆ ในความสัมพันธ์ของทั้งสองเสมอ มันทำให้เขาอดที่จะกังวลไม่ได้

ก่อนหน้านี้ที่ลองพูดขอแต่งงานไป เธอก็พูดแค่ว่า ‘มันเร็วไป’ แต่เธอไม่รู้หรอก ว่าเขารอมานานที่จะให้เธอรู้ว่าเขายังอยู่ตรงนี้ และเรื่องที่เขาแสร้งทำตัวเหมือนไม่แคร์อะไรแล้วพูดสารภาพรักออกไปนั่น เขาเองก็เตรียมตัวมานานพอสมควร 

เขาอดทนมาตลอดทาง จนกระทั่งรถมาจอดสนิทอยู่ในโรงจอดรถ เขาก็รีบลงไปเปิดประตูให้เธอ พอเธอปลดเข็มขัดนิรภัยออกมาจากรถแล้ว เขาก็ไม่ยอมปล่อยมือที่ยังค้ำอยู่ข้างๆ เธอเอาไว้ กลับกันพอเหวี่ยงประตูปิดไปแล้ว มือข้างนั้นก็ค้ำลงไปที่รถ กักเธอไว้ในอ้อมแขนของตัวเขา

“เซ่อเซ่อ ฉันไม่เข้าใจ ทำไมถึงยังต้องเลือกอีกล่ะ?”  

เข้าก้มหน้าลง แววตาสื่อความรู้สึกที่ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลยออกมา ตัวของเขาก็โน้มลงมาด้วย เพื่อที่จะรอฟังคำตอบของเธอ

การกระทำแบบนี้ทำให้เจียงเซ่อนึกถึงเหตุการณ์ที่จิ่วหลงถางขึ้นมา แสงไฟในโรงจอดรถนี่ค่อนข้างสลัว ตอนนี้เธอกำลังตกอยู่กลางวงแขนของเขาแผ่นหลังชิดติดกับตัวรถ ตอนที่เข้าก้มหน้าลงมา เหมือนกับกับกำลังออดอ้อนกระเง้ากระงอดอะไรแบบนั้น

“ทำไมเธอถึงยังต้องทบทวนเรื่องซื่อจี้หยินเหอนั้นอีก แต่ทำไมถึงไม่ยอมตอบรับคำขอของฉัน?” 

เขาหงุดหงิดแล้วตอนนี้ “ซื่อจี้หยินเหอมีอะไรดี?” เขาเกิดนึกถึง Ailsa ขึ้นมาได้ เกี่ยวกับเรื่องที่หล่อนมาขัดจังหวะช่วงเวลาสำคัญของเขา จนตอนนี้เขาก็ยังโมโหคุกกรุ่นอยู่ในใจไม่หาย ฟันคมกัดกันแน่น

“ผู้หญิงคนนั้นเหมือนพวกโจรขี้ขโมย ไม่เหมือนคนดีเลยสักนิด” 

พอเขาเกิดอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา เขาก็พูดถึง Ailsa อย่างเสียๆ หายๆ ราวกับว่าหล่อนเป็นคนไม่ดีจริงๆ อย่างไรอย่างนั้น ท่าทางของเขาทำให้เธอหลุดหัวเราะออกมา พอเขาเห็นว่าเธอหัวเราะ เขาก็ก้าวเท้าถอยหลังไปเล็กน้อย แล้วโน้มตัวลงไปใกล้เธออีก

“เซ่อเซ่อ ตอบฉันสิ?” 

เขาพยายามโน้มตัวลงไปสุดๆ เพื่อที่จะได้จ้องตาเธอได้ตรงๆ เหมือนกับกำลังจะคั้นเอาคำตอบจากเด็กน้อย

เจียงเซ่อส่ายหัว พิงตัวไปกับรถ

“ไม่เอา” 

แววตาของเขาหม่นลงกว่าเดิม ความผิดหวังค่อยๆ เผยออกมาจากตาคู่นั้น

“ทำไมล่ะ? ชิวหรานก็บอกว่าถ้าทำแบบนี้ก็จะดีต่อตัวเธอเองนะ” 

“แล้วเซี่ยงชิวหรานเขาจะรู้อะไร?” 

เจียงเซ่อย้อนกลับไปอย่างจริงจัง

“นายดูสิ ตัวเขาเองก็ยังทำตัวง่ายๆ แบบนั้น” 

 ก่อนที่เธอจะมาเกิดใหม่ เธอเองก็ได้ยินมาไม่ขาดหูเกี่ยวกับสองพี่น้องคู่นั้น ข้างกายของพวกเขามีแฟนสาวติดตัวอยู่ตลอดเวลา พอเบื่อแล้วก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่มีท่าว่าจะหยุดลงที่คนไหนสักคน

เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา แล้วถามออกไปด้วยรอยยิ้ม

“หรือว่านาย คิดกับฉันเหมือนที่เซี่ยงชิวหรานคิดกับพวกดาราสาวพวกนั้นน่ะเหรอ?” 

“ไม่ใช่นะ!” เขาส่ายหัวทันที ผมสีทองอ่อนนั่นพลิ้วไปตามแรงสะบัด เขาหน้าตาเหมือนแม่เขามากๆ ตาคมๆ คู่นั้นที่ตวัดขึ้น สีตาดำขลับชวนมอง เวลาที่เขาจ้องมาที่เธอ เจียงเซ่อรู้สึกว่าตัวเองแทบจะต่อต้านเขาไม่ได้เลย 

“ฉันแค่อยากจะให้เธอมีชีวิตที่ดีกว่านี้ อยากจะถนอมเธอ ไม่อยากให้เธอหนีจากฉันไปไหนอีก” 

ไมรู้เลยว่าเขาไปเรียนคำพูดพวกนี้มาจากไหน แววตาของเจียงเซ่ออ่อนโยนขึ้นทันทีที่ได้ยินแบบนั้น เขาอายุยังน้อย อาจจะเป็นเพราะเขาไม่เคยมีแฟนสาวมาก่อน เท่าที่เธอรู้น่ะนะ โตขนาดนี้แล้ว กลับไม่เคยเห็นเขาคบกับผู้หญิงคนไหนเลย ดังนั้นเขาจึงไม่มีสกิลที่จะมาโกหกตบตากันหรอก คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น ไม่คิดจะกั๊กไว้เลยสักอย่าง

แต่ก็เพราะแบบนั้น ความจริงใจของเขาจึงสื่อออกมาพร้อมๆ กับคำพูดของเขาเมื่อครู่ และมันก็มีค่ามากจริงๆ

“ก็ไม่ได้คิดจะไปจากนายอยู่แล้วนี่นา” มุมปากของเธอยกขึ้น แค่ประโยคเดียวก็ทำเอาแววตาของเขาประกายวาววับขึ้นมา แถมหัวใจมันก็เบิกบานไปหมด 

เขายิ้ม เจียงเซ่อเองก็รู้สึกไม่ต่างจากเขา เธอยิ้มกว้างออกมา “ฉันเองก็จริงจังนะ พวกเราก็รู้จักกันมากี่ปีแล้ว? นายคิดว่าฉันเป็นคนตอบรับอะไรง่ายงะ……”

เธอรีบปิดปากทันที และเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาว่าตัวเองกำลังพูดอะไร เธอค่อยๆ โน้มตัวเข้าหาเขาอย่างไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก

“ฉันเองก็จริงจังจังนะ ตั้งแต่ที่พวกเราคบกันมา ถ้าหากว่าเราเหมาะสมกันจริงๆ แล้วอาอี้จะขอฉันแต่งงานอีกครั้ง ฉันก็จะตอบรับ แต่ตอนนี้ ยังไม่ได้นะ” 

เขาทำทีว่าไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูดก่อนหน้านี้ไป แต่ร่างทั้งร่างของเขามันเริ่มสั่นเสียแล้ว ในใจมันตื่นเต้นจนกลั้นไว้ไม่อยู่

ถ้าเกิดจะบอกว่าก่อนหน้านี้ที่เธอปฏิเสธมันทำให้หัวใจของเขาดิ่งลง งั้นประโยคที่เธอเพิ่งพูดไปเมื่อกี้คงทำให้หัวใจของเขามันฮึกเหิมขึ้นมาไม่น้อยเลยทีเดียว 

จิตในของเขามันอยู่ในมือเธอเสมอนั่นแหละ ก่อนหน้านี้เขายังรู้สึกท้อแท้ผิดหวังอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้ไม่ให้ยิ้มออกมามากเกินไป

“ฉันเข้าใจแล้วล่ะ ฉันจะรอเธอนะ!” เขาพูดออกมาอย่างตั้งมั่น แล้วเขาก็ก้มหน้าลงมาอีกครั้ง เสียงหายใจฟังดูตื่นเต้นไม่น้อย เขาแตะหน้าผากลงมาบนหน้าผากของเธอ  

“งั้นถ้าเป็นแบบนี้แล้ว เซ่อเซ่อ ทำไมเธอถึงไม่ยอมให้ฉันเปิดบริษัทล่ะ?” 

ที่จริงเขาแน่นอนอยู่แล้วเรื่องเจียงเซ่อ สำหรับเผยอี้ การที่เขาจะเปิดบริษัทมันก็ไม่ได้ทำให้เขาเสียอะไรเลยด้วยซ้ำ จะทำยังไงก็แล้วแต่เพราะเขาแค่อยากจะทำให้เธอมีความสุขเท่านั้นเอง

“ถ้าเกิดนายเปิดบริษัท การที่ฉันจะเข้าหรือไม่เข้าวงการบันเทิง มันจะต่างอะไรกันไหม?” 

ถ้าเกิดเธอพึ่งแต่เผยอี้ งั้นชีวิตในตอนของเธอมันจะไปต่างอะไรกับในอดีต? ที่ต้องยืนอยู่หลังคนอื่นเสมอ ฟังคนอื่นว่าจะใช้ชีวิตยังไงแบบนั้น

สำหรับเธอ การที่ได้มาเกิดใหม่ จากตอนแรกที่ยังไม่เข้าใจนัก ตอนนี้สำหรับเจียงเซ่อในตอนนี้ มันก็เหมือนกับเป็นโอกาสอันสุดวิเศษไปเลย มันมีความหมายมากๆ กับตัวเธอ มันจะไม่เหมือนเดิมแล้วและเธอก็ไม่ต้องการที่จะให้ใครมาบงการชีวิตเธออีกต่อไป

ความหมายของเธอเผยอี้เองก็เข้าใจดี และเข้าใจกับการตัดสินใจของเธอด้วย ถึงเขาจะลองพูดโน้มน้าวเธออีกสักกี่ครั้ง เธอก็ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนใจ 

ทั้งสองคนเริ่มเปลี่ยนเรื่องคุยกัน และความกังวลที่ยังคั่งค้างอยู่ในใจของเผยอี้ก็ได้รับการปลอบโยนแล้ว ความตึงเครียดของเขาก็โดนปลดออกเช่นกัน จากนั้นก็เพิ่งจะมารู้ตัวและสังเกตเห็นท่าทางของทั้งคู่ในตอนนี้

เขาอยู่ใกล้เจียงเซ่อขนาดนี้ หน้าผากของทั้งคู่อยู่เสมอกัน ตัวเขาเองก็ได้กลิ่มหอมอ่อนๆ ออกมาจากตัวเธอ ลมหายใจอุ่นร้อนรดรินบนใบหน้าของเขา ทำให้ขาของเขามันเกร็งไปหมด

ขนตาของเธอยาวงอนเรียงตัวกัน ยามที่กะพริบขึ้นกะพริบลงมันก็โดนขนตาของเขาเองด้วย  ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้สัมผัส แต่ร่างกายของเขาก็เหมือนมีไฟฟ้าไหลวนไปทั้งร่าง แทบจะไม่มีกำลังทำอะไรสักอย่าง

สายตาของเขาไล่มองผ่านสันจมูกสวยของเธอ ไปถึงริมฝีปากเป็นกระจับ เธอเป็นคนที่ค่อนข้างดูแลตัวเองใบหน้าที่ถูกลบเครื่องสำอางไปแล้วยังมีสีของลิปสติกเบาบางติดอยู่บนริมฝีปาก ดูแล้วให้ความรู้สึกว่ามันควรจะนิ่มไม่น้อย ราวกับของหวานที่มีกลิ่นหอมยั่วยวน หลอกล่อให้อยากลิ้มลองสักคำ