娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง
ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr
ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน
บทที่ 121 ขายหน้า
พอเซิ่งจิ้งจือถามจบ เจียงเซ่อก็ตอบทันที
“ที่จริง ฉันยังไม่ได้ถามท่านด้วยตัวเองเลยค่ะ ถ้าพูดออกไปแล้ว ไม่รู้ว่าจะไปกระทบต่อชีวิตส่วนตัวของท่านหรือเปล่า”
ฉางยวี่หูเป็นคนที่ค่อนข้างมีตำแหน่งสูงส่งในหัวเซี่ย ครั้งแรกที่เจียงเซ่อได้เรียนรู้การแสดงจากหล่อน ก็ไม่ได้คิดว่าจะใช้ชื่อเสียงของหล่อนมาทำให้ตัวเองดูดีเลย
สิ้นเสียงคำพูดของเธอ จูพ่านที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ส่งเสียง ‘เหอะ’ ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
“ถ้าเป็นรุ่นพี่ในวงการบันเทิง ก็คงไม่มีใครกลัวว่าจะโดนรบกวนชีวิตส่วนตัวมั้งคะ”
คำพูดของหล่อนฟังดูเหน็บแนมไม่น้อย “แต่ไม่ว่ายังไงตอนนี้เซ่อเซ่อเองก็มีชื่อเสียงแล้วนี่ ไม่แน่ว่าถ้าพูดชื่อออกมา มันก็อาจะเป็นผลดีต่อรุ่นพี่คนนั้นไงคะ”
จ้าวร่างขมวดคิ้ว พอกำลังจะพูดอะไร เจียงเซ่อก็หันไปมองจูพ่าน
“ความคิดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ชื่อเสียงเล็กๆ น้อยๆ ของฉันในตอนนี้ มันยังไม่อาจเทียบกับอาจารย์ท่านนั้นหรอกค่ะ แน่นอนว่ามันไม่ส่งผลดีอะไรกับท่านหรอก” จูพ่านเสยผมทีหนึ่ง ก่อนจะดึงคอเสื้อตัวเองลงมาอีก
“งั้นก็แสดงว่าฉันหยาบคายเองสินะ”
ในห้องส่งตอนนี้มีไอความอึดอัดจนผู้ชมเองก็ยังรู้สึกได้ หรือแม้แต่ชาวเน็ตที่กำลังดูอยู่ก็เช่นกัน
เฉิงหรูหนิงหันหน้าหนี เขาทนฟังคำพูดพวกนี้ไม่ลงแล้ว
“พี่อี้ ให้ผมออกไปโทรศัพท์หน่อยดีไหม ให้คนปลดยัยผู้หญิงคนนี้ออกไปเลยเหอะ ขายขี้หน้าจริงๆ”
ความหมายในคำพูดของจูพ่าน แม้แต่คนโง่ก็ยังฟังออก หล่อนกำลังบอกว่าเจียงเซ่อถือโอกาสใช้สื่อในการโฆษณาตัวเอง
แต่ก็อย่างที่เผยอี้เคยพูดเอาไว้ เจียงเซ่อได้รับการอบรมมาจากฉางยวี่หู แล้วฉางยวี่หูเป็นคนยังไงกันล่ะ? หล่อนเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากๆ ในวงการตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นดาราที่มีชื่อเสียงมากน้อยขนาดไหน ต่างก็อยากจะไปเป็นตัวประกอบของหล่อนทั้งนั้น และคนที่อยากจะให้หล่อนมาช่วยก็มีมากมายเช่นกัน
หรือแม้แต่ผู้ก่อตั้งบริษัทซื่อจี้หยินเหอที่จูพ่านอยู่ ตอนที่เขาเป็นวัยรุ่นก็มีฉางยวี่หูคอยประคับประคองและสนับสนุนมาตลอด ถ้าจูพ่านอยากได้โอกาส ก็ยังมีคนมากมายคอยส่งเสริมเธอ แต่คนที่ชอบเสียดสีคนอื่นแบบนี้จะเอาที่ไหนมาดัง?
เผยอี้รี่ตาลง แล้วยกข้อมือขึ้นดูเวลา
“รอดูไปก่อน ไว้จบจากนี้ค่อยจัดการหล่อนก็ได้”
การสัมภาษณ์ของรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ ใช้เวลาแค่ห้าสิบนาทีเท่านั้น และตอนนี้มันก็เลยครึ่งชั่วโมงมาแล้วด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงเซ่อได้มาสัมภาษณ์ในรายการ เผยอี้ไม่อยากจะหาเรื่องวุ่นวายให้เธอต้องเสียเวลาไปมากกว่านี้แล้ว
แต่ตัวจูพ่านเองก็ไม่รู้การวางตัวเลยสักนิด ใครเห็นแบบนั้นก็ต้องรู้สึกรังเกียจอยู่แล้ว
“ไม่ต้องทำอะไร เธอก็จบแล้วล่ะ”
ก็ดูอย่างอย่างประโยคที่เธอเพิ่งพูดไปสิ ถ้าความสัมพันธ์ของเจียงเซ่อกับฉางยวี่หูโดนเปิดเผย ถึงพวกเขาจะไม่ลงมือ แต่บริษัทซื่อจี้หยินเหอก็คงจะต้องตักเตือนหล่อนเสียยกใหญ่
สายตาของเผยอี้มองเพียงแค่เจียงเซ่อ ตาไม่กะพริบเลยสักครั้ง
“เอาเถอะ อย่าเพิ่งพูด”
เสียงพูดของเธอค่อนข้างเบา ถึงแม้ว่าตรงอกของชุดกระโปรงจะมีไมค์ติดอยู่ด้วย แต่เขาเองก็นั่งห่างจากเธอระยะหนึ่ง เวลาจะฟังเธอพูดอะไรก็ต้องตั้งใจมากๆ แต่พอพวกเฉิงหรูหนิงพูดแทรกขึ้นมาแบบนี้ เผยอี้ก็กลัวว่าจะพลาดคำพูดของเธอไป
จูพ่านเองก็พูดไปหลายประโยค แต่ถึงแม้จะไม่ได้มีการโต้เถียงกันกับเจียงเซ่อ แต่มันก็ทำให้เซิ่งจิ้งจือเกิดความรู้สึกไม่ดีกับหล่อนเข้าเสียแล้ว
ช่วงนี้ข่าวในเน็ตที่มีการถกเถียงกันเซิ่งจิ้งจือเองก็ได้ยินมาบ้างแล้ว อย่างไรเสีย การที่จ้าวร่างพานักแสดงมารายการในวันนี้ สิ่งที่เขาควรจะทำและควรจะรู้ก็มีคนมาบอกเขาเรียบร้อยแล้ว
เพราะฉะนั้นความขัดแย้งระหว่างเจียงเซ่อและจูพ่านเขาเองก็รู้ดี แต่แค่เซิ่งจิ้งจือไม่คิดมาก่อน ว่าระหว่างการถ่ายทอดสดรายการ จูพ่านจะแสดงออกถึงความไม่สบอารมณ์อย่างชัดเจนขนาดนี้ แถมยังทำหลายครั้งอีกด้วย ถ้าเทียบกันแล้ว ดาราใหม่คนนี้ยังจะดูเข้าใจสถานการณ์มากกว่าอีก ตอนที่สมควรพูดก็พูด ตอนที่ยังไม่ถึงเวลาพูดก็นั่งเฉยๆ ไม่แย่งกล้องแย่งซีนใคร
“ผมเชื่อนะครับ ตามที่หนังของผู้กำกับจ้าวได้เข้าฉายไป ชื่อเสียงของคุณเจียงก็เพิ่มทะยานอย่างต่อเนื่องเลย แล้วหลังจากหนังเรื่อง ‘99 Love Letter’ แล้ว ก็ยังต้องฝึกฝนการแสดงอยู่ งั้นแสดงว่ามีหนังเรื่องใหม่ที่กำลังจะเล่นหรือเปล่าเอ่ย?” จากตอนแรกที่เซิ่งจิ้งจือตั้งใจที่จะเปลี่ยนหัวข้อไปถามจูพ่านบ้าง เขาก็เปลี่ยนใจถามเจียงเซ่อต่อ และคำถามนี้ก็อยู่นอกเหนือสคริปด้วย
ที่จริงการที่เจียงเซ่อต้องฝึกฝนฝีมือการแสดง นั่นก็เพื่อหนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ นั่นเอง แต่แน่นอนว่าเธอจะไม่พูดถึงในตอนนี้
เพราะอย่างไรเสีย การที่คืนนี้จ้าวร่างพาเธอมาเข้าร่วมรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ นั่นก็เพื่อโปรโมทหนัง ‘99 Love Letter’
เจียงเซ่อคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบออกมา
“ฉันคิดว่าจะตั้งใจเรียนก่อน ถ้าหากมีโอกาสก็ค่อยว่ากันอีกทีน่ะค่ะ”
การตอบคำถามที่มีน้ำหนักแบบนั้นให้สายตาของจ้าวร่างแสดงความพึงพอใจออกมา เรื่องที่เจียงเซ่อรับเล่นหนังใหม่นั้น ยังไงก็อยู่ในวงการเดียวกัน แน่นอนว่าจ้าวร่างเองก็ได้ยินมาบ้างแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้พูดถึงหนังเรื่องใหม่ขึ้นมาเพื่อที่จะทำให้ตัวเองมีชื่อมากขึ้น การกระทำแบบนั้นทำให้จ้าวร่างภูมิใจในตัวเธอมากกว่าเดิมหลายเท่า จากนั้นเซิ่งจิ้งจือก็พูดขึ้นมาอีก
“มิน่าล่ะผู้กำกับจ้าวถึงได้ชื่นชมคุณนัก อายุยังน้อย แต่กลับสงบนิ่งไม่ใจร้อน ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากเลยนะครับเนี่ย เหมือนคำพังเพยนั่นไงที่ว่า อยู่บนเวทีต้องทำตัวเหมือนทำงานมาสิบปี อยู่ล่างเวทีต้องทำเหมือนเพิ่งทำงานมาสิบนาที การจะเป็นนักแสดง นอกจากจะต้องมีฝีมือแล้ว การที่ได้เรียนรู้อย่างอื่นอีกมากมายจากโรงเรียนสอนการแสดงก็ถือเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย”
แล้วจ้าวร่างก็ยิ้มขึ้นมา
“ดูท่าจิ้งจือจะเดาผิดแล้วล่ะ มหาวิทยาลัยที่เซ่อเซ่อสอบเข้าน่ะ ไม่ใช่โรงเรียนสอนการแสดงหรอกนะ”
“ไม่ใช่โรงเรียนสอนการแสดงงั้นหรือ” พอเซิ่งจิ้งจือถามแบบนั้นขึ้นมา จ้าวร่างก็พยักหน้า
“พูดก็พูดนะ เธอน่าจะเรียกนายว่ารุ่นพี่มากกว่านะ เพราะเธอเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งยังไงล่ะ เป็นเพื่อนรวมสถาบันกับนายนั่นเอง”
พอจ้าวร่างพูดแบบนั้นออกไป ชุยซิ่งเองก็หันไปมองเจียงเซ่ออย่างประหลาดใจเลยทีเดียว ส่วนจูพ่านที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ขบริมฝีปากตัวเองแน่น ใบหน้านิ่งเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา
มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งมีความหมายว่ายังไงหล่อนเข้าใจดี สายตาของเซิ่งจิ้งจือที่มองเจียงเซ่อไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพียงครู่เดียวก็รู้สึกเหมือนได้สนิทกันขึ้นมาอีกนิดแล้ว
คนภายในห้องส่งต่างก็โดนจ้าวร่างปล่อยระเบิดจนตะลึงงันไปกันหมด แม้แต่แฟนคลับของเซิ่งจิ้งจือเองก็ออกมาโพสคอมเม้นท์ต่างๆ นาๆ
ในเวลาต่อมา จูพ่านก็เหมือนจะกลายเป็นที่ลืมเลือนของทุกคนไปหมดแล้ว แม้แต่ชุยซิ่งที่นั่งมาด้วยกันอยู่ตลอดก็ไม่เหลือ ราวกับว่าตอนนี้เขาสนใจแต่เจียงเซ่อเท่านั้น ส่วนจูพ่านก็ปล่อยให้โดนเบียดตกไป
การสัมภาษณ์ในรอบนี้ เหมือนกับว่ามีแค่ชุยซิ่งและเจียงเซ่อเท่านั้นที่สำคัญ ทำเหมือนว่าจูพ่านเป็นแค่ตัวประกอบในหนังอย่างไรอย่างนั้น
คนดูแลอย่าง ailsa เองก็จ้องจูพ่านตั้งหลายครั้งหลายครา แล้วก็เอาแต่ทำท่าดูเวลาให้จูพ่านดู
หล่อนนั่งอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีใครเห็นหัวมากว่าสิบนาทีแล้ว หลังจากจบรายการนี้ไป ชื่อเสียงของเจียงเซ่อจะต้องเพิ่มขึ้นอีกแน่ๆ แต่หล่อนนี่สิ กว่าจะขอตามจ้าวร่าวมาออกรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ ได้ ก็ดันมาโดนแย่งซีนไปเสียหมด ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ก็คงจะสู้อะไรไม่ได้อีกแล้ว และโอกาสที่ได้มาในครั้งนี้ก็คงจะสูญเปล่า
ในขณะที่กำลังหงุดหงิดโมโหอยู่นั้น จูพ่านเองก็รู้สึกว่าจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ailsa ทำมือกางนิ้วออกมาว่า ‘5’ หล่อนก็รู้ทันทีว่าเหลืออีกแค่ห้านาทีรายการนี้ก็จะจบลงแล้ว
จูพ่านแทบจะไม่ได้คิดเลยด้วยซ้ำ เธอเสยผมขึ้น แล้วก็เอื้อมมือไปดึงกระโปรงตัวเองลงข้างล่าง
วันนี้เธอสวมชุดเดรสเกาะอกสีเหลือง ตรงกระโปรงถูกออกแบบให้เป็นทรงบอลลูน ทำให้หล่อนดูเป็นสาวหวานปนเซ็กซี่
ตัวกระโปรงเป็นถึงแบรนด์ดังของเมืองนอก ส่วนท่อนบนก็ต้องสวมแบบแนบติดไปกับตัว หล่อนจึงสวมเสื้อในไม่ได้
เพราะงั้นด้านในเธอจึงแปะแค่แผ่นปิดหน้าอกเท่านั้น แล้วพอดึงลงมาแบบนี้ มันก็ทำให้แผ่นปิดหน้าอกของเธอโผล่ออกมาอวดโฉม
ในห้องส่งที่กำลังออกอากาศอยู่นี้ นอกเหนือจากผู้ชมที่นั่งดูอยู่แล้ว ก็มีเซิ่งจิ้งจือที่ยังไม่ทันได้สังเกตหรือรู้ตัวอะไรทั้งนั้น แผ่นปิดหน้าอกที่โผล่ออกมานอกเสื้อของจูพ่านถูกกล้องจับเอาไว้หมดแล้ว และมันก็ส่งถึงชาวเน็ตที่นั่งดูอยู่ด้วย
ชาวเน็ตที่กำลังนั่งดูถ่ายทอดสดของรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ ต่างพากันตะลึงงัน
เว่ยเฉิงในฤดูฝน :……
หยางลิ่วจือ :……
ผีเสื้อสีเหลืองในเดือนแปด : …...
กุ้ยเฟยเมาเหล้า : ……