webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

119

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

 

 

 

บทที่ 119 มาแล้ว

 

สิ้นเสียงของเซิ่งจิ้งจือ ในบล็อกที่เอาไว้ให้คนดูส่งคอมเม้นท์ก็เริ่มตื่นเต้นและครึกครื้นมากขึ้น 

คนโคตรอัจฉริยะ : มาถึงก็ถามหาสาวสวยเลย พี่จิ้งจือของฉันนี่บ้าดีเดือดชะมัด!

สามแพร่ง : ถามเลยๆๆ!

สาวกระโปรงเขียว : หญิงสาวในฝัน หันมาเร็ว!”

หนูน้อยหมวกแดงกับหมาป่าตัวโต : รีบออกมาเร็วหญิงสาวในฝัน!

ผู้วิเศษ : หนังของจ้าวร่างเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีเลย คิดไม่ถึงว่าบัตรวันแรกจะขายได้ถึงสองสองร้อยหกสิบกว่าล้าน ดูท่าตอนนี้หุ้นของหัวเซี่ยคงจะขึ้นไปอย่างรวดเร็วเลยล่ะ

นมเปรี้ยวนะ : ……พี่ชายที่เคารพ อย่าหลงประเด็น

คอมเม้นท์ต่างๆ เริ่มไหลขึ้นไปเรื่อยๆ พอเซิ่งจิ้งจือถามจบ จ้าวร่างก็ยิ้มขึ้นมา

“แน่นอนสิครับ ผมเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้นมาตลอดอยู่แล้ว

เซิ่งจิ้งจือแสดงสีหน้าแปลกใจขึ้นมา “หรือว่า วันนี้เธอมาด้วยหรือครับ?”

“ผู้ชมออกจะกระตือรือร้นให้ความรักมาขนาดนี้แล้ว จะไม่มาได้ยังไงกันล่ะ ใช่ไหม?”

จ้าวร่างยิ้มแล้วขยับท่าทางการนั่ง แต่รอยยิ้มของจูพ่านที่นั่งอยู่อีกฟากของฟากก็เริ่มฝืดเต็มที 

ตั้งแต่ที่เริ่มสัมภาษณ์ในรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ นี่มา ไม่ว่าเซิ่งจิ้งจือจะพูดอะไรออกมา เรื่องเหล่านั้นก็จะเกี่ยวกับดาราใหม่คนนั้นตลอด แต่กลับไม่พูดถึงเนื้อหาของตัวหนัง แถมยังไม่มีการถามว่าพวกเธอแสดงหนังเรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง สนุกไหม เหมือนกับว่าตัวเองกำลังโดนมองข้ามยังไงบอกไม่ถูก

เธอลอบเบนสายตาไปมองชุยซิ่ง แต่หล่อนกลับเห็นว่าเขากำลังยิ้ม สีหน้าของเขาไม่มีความโกรธเคืองอะไรเลยสักนิด หล่อนก้มหน้าลง พยายามรักษาอารมณ์ตัวเองต่อหน้ากล้องที่กำลังถ่าย ริมฝีปากของเธอเม้มเข้าหากันแน่น

ไอ้ท่าทางแบบนี้เธอฝึกมันมาอยู่นานพอสมควร มันเป็นใบหน้าที่เหมาะต่อการออกกล้อง พอเธอนั่งตามที่ตัวเองต้องการเรียบร้อยแล้ว ก็ทำให้แฟนคลับในเน็ตพากันชื่นชมและสนับสนุนจูพ่านเข้าไปอีก

เฉิงหรูหนิงที่นั่งอยู่ข้างล่างเวทีพูดตำหนิออกมา “ดาราคนนี้นี่”

คนที่อยู่หลังเวทีเองก็กำลังดูสถานการณ์การออกอากาศอยู่เหมือนกัน พลางหันไปมองที่เจียงเซ่อด้วย สไตล์ลิสต์ช่วยเธอดึงกระโปรงให้เรียบร้อย จากนั้นก็ช่วยสางผมให้เรียบที่สุด เหมือนว่าใกล้จะเรียบร้อยทุกอย่างแล้วสินะ

เขาหันไปมองเซิ่งจิ้งจือที่อยู่ในห้องส่งก่อนจะทำสัญลักษณ์มือโอเคไป แล้วพูดใส่หูฟัง

“พี่เซิ่ง พร้อมแล้วค่ะ”

ภายในห้องส่ง พอเซิ่งจิ้งจือได้ยินเสียงตอบรับแล้ว เขาก็ยืดตัวตรงขึ้น

“ถ้ามาแล้ว เราจะรออะไรกันอยู่ละครับ? เพราะดูเหมือนว่าทุกคนก็คงจะรอมานานแล้วเหมือนกันใช่ไหมล่ะ!”

เนี่ยต้านที่อยู่ด้านล่างเวทีตะโกนขึ้น

“รอมานานแล้วคร้าบบบ!”

ประโยคนั้นทำเอาเซิ่งจิ้งจืออดที่จะขำขึ้นมาได้ หรือแม้แต่พวกเฉิงหรูหนิงที่นั่งด้วยกันก็พากันขำไปด้วย จนเผยอี้ขมวดคิ้วหันไปจ้อง ยังไม่ทันจะพูดอะไร เนี่ยต้านก็รีบยื่นมือไปแตะแขนของเขา

“พะ พี่อี้……” ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร เจียงเซ่อก็เดินออกมาแล้ว

ที่จริง นี่ถือว่าเป็นครั้งที่สอง ที่เนี่ยต้านได้เจอกับเจียงเซ่อ ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าเผยอี้ตามจีบเธอมาสักพัก และก็เหมือนว่าจะจีบติดแล้วด้วย แต่นอกจากการบังเอิญเจอกันที่โรงแรมรุ่ยจี๋แล้ว เนี่ยต้านก็ไม่เคยได้เจอกับเจียงเซ่ออีกเลย

ตอนนั้นที่เจอกันที่โรงแรมรุ่ยจี๋ เขาเองก็ค่อนข้างจดจำและประทับใจในตัวเจียงเซ่อพอสมควร นั่นก็เพราะว่าเธอน่ะสวยมากจริงๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นตอนที่กำลังโดนเหยาเสียงรังควานอยู่ แต่ก็ยังสวยจนต้องจ้องมอง

และถึงแม้ว่าเนี่ยต้านจะรู้อยู่แล้วว่าเจียงเซ่อนั่นมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร แต่พอตอนที่เธอค่อยๆ เดินออกมาจากหลังเวที เขาก็เหมือนโดนทำให้หวั่นไหวไปทั้งใจ

ชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนนั่นมันขับให้ผิวขาวราวกับหิมะของเธอโดดเด่นขึ้นมา ผ้าไหมออแกนซ่านั่นก็บางจนทำให้เห็นหุ่นดีและขาวยาวสวยของเธอ ผมยาวดำขลับถูกทัดไปไว้หลังหู เผยให้เห็นเรียวคางเล็กน่ารักนั่น

ไม่ว่าจะก้มหน้า ไม่ว่าจะกะพริบตา แสงไฟในห้องส่งแห่งนี้ทำให้เธอที่ยืนอยู่ ไม่ว่าเธอกำลังทำอะไร มันก็เป็นเหมือนดั่งภาพวาดอันแสนสวยงามและสง่า 

เธอพกรอยยิ้มเล็กๆ มาด้วย ตอนที่เธอเดินออกมาจากหลังเวที เธอค่อยๆ ก้าวออกมาราวกับสายลมที่พัดมาเบาๆ ผู้ชมในห้องส่งที่กำลังนั่งดู ต่างก็อดไม่ได้ที่จะร้อง ‘ว้าว’ ออกมาเบาๆ

ทั้งเฉิงหรูหนิงและคนอื่นๆ ต่างก็ได้ยินชื่อของเจียงเซ่อมานาน ตั้งแต่ที่เผยอี้ตามจีบเธอ พวกเราก็เริ่มหาข้อมูลและตรวจสอบเธอมาบ้างแล้ว

รูปเองก็เคยเห็น แต่ถ้าจะให้เทียบกับรูปภาพแล้วละก็ ความหวั่นไหวในตอนที่ได้เห็นตัวจริงมันรุนแรงกว่าเห็นรูปเสียอีก

ชุยซิ่งเองก็ใช่ว่าจะเพิ่งได้เจอเจียงเซ่อครั้งแรก เขายับยั้งกิริยาที่ไม่เหมาะสมของตัวเองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนและยิ้มออกมา ส่วนจูพ่านที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาก็อ้าปากข้าง มือสองข้างกำเข้าหากันแน่น

“ยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการ ‘คนดังนั่งคุย’ นะครับผม”

เซิ่งจิ้งจือเองก็ได้ยินมาจากทีมงานบ้างแล้ว ว่าดาราใหม่ที่จ้าวร่างพามานั้นสวยมากจริงๆ

แต่พอมาได้เห็นจริงๆ แล้ว คำว่า ‘สวยมาก’ สองคำนี้มันใช้ได้ที่ไหน ต้องพูดว่าทำให้คนทึ่งไปเลยดีกว่า

“ผมว่าตอนนี้ผู้ที่รับชมรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ อยู่ในตอนนี้ก็คงจะรู้สึกแบบเดียวกันกับผมแล้วล่ะ ที่อดไม่ได้ที่จะเผลออุทานออกมา” เซิ่งจิ้งจือลุกขึ้นยืน เจียงเซ่อเองก็รีบเร่งฝีเท้าเข้าไปจับมือทักทายกับเขา

ในเว็บเพจทางการของรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ คอมเม้นท์จากที่ต่างๆ เริ่มไหลทะลักเข้ามาไม่หยุด ชาวเน็ตพากันรัวข้อความจนเซิร์ฟเวอร์แทบจะระเบิด

พลทหารไร้ชื่อ : พระเจ้า พระเจ้า พระเจ้า……

พรรคนักเรียน : เห็นด้วยสุดๆ นี่จะสวยเกินไปแล้ว สวยแบบสวยสุดๆ ไปเลย!

รักอันเป็นนิรันดร์ : จ้าวร่างไปเสาะหาคนสวยแบบนี้จากไหนเนี่ย! ฮือออ ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลยอ่ะ ขอข้อมูลหน่อย มีใครมีใครมีข้อมูลแล้วบ้าง?

Alone Dog : เหมือนเธอกำลังยิ้มให้ฉันอยู่เลย……

เจ้าหนอนน้อย : สมกับเป็น ‘หญิงสาวในฝัน’ จริงๆ ด้วย สวยขนาดนี้ การที่หลี่ชิงหยางเห็นแค่หลังก็ตกหลุมรักแบบนั้น ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้ว

เฉิงเฉินเฉิงแห่งเฉินเฉิง : ในตอนนี้วินาทีนี้ ฉันคงได้แต่บอกว่า เพื่อทำให้บัตรหนังในวันแรกทะลุร้อยล้าน ฉันเลยอุทิศตัวซื้อตั๋วหนังไปตั้งสองใบ และมันคุ้มจริง!

คนแปลกๆ ในดินแดนแปลกๆ : มันทำให้ฉันนึกถึงกลอน ‘สาวงาม’ ในเรื่อง ‘บทกลอน เว่ยเฟิง’ ขึ้นมา นิ้วเรียวงดงาม ผิวพรรณเกลี้ยงเกลา รอยยิ้มหยาดเยิ้ม ดวงตาสุกใส

อยู่ที่ตึกตะวันตก : เหมือนเธอมองฉันอยู่เลยอ่ะ 

เจียงจิ้นจิ่ว : ข้างบนอย่าเพ้อ!

ลมพัดในคืนเดือนมืด : มิน่าล่ะจ้าวร่างถึงคุมหมากได้อย่างอยู่หมัด ที่แท้ก็มั่นใจมากขนาดนี้นี่เอง

กระต่ายน้อย : จูพ่านดูอึดอัดแปลกๆ น้า

กระต่ายหลงมนุษย์ : จูพ่านดูอึดอัดแปลกๆ น้า +1 

เกมส์ที่รัก : จูพ่านไม่ได้แค่ดูอึดอัดนะเนี่ย แต่ก่อนคิดว่าเธอสวยแล้วนะ แต่ตอนนี้ดูหน้าเธอบวมๆ ยังไงก็ไม่รู้อ่ะ เอ แฟนคลับของจูพ่านไปไหนกันซะแล้วละเนี่ย?

 

   ……

 

คอมเม้นท์ข้อความต่างๆ ไหลขึ้นไปแบบไม่มีท่าทีที่จะหยุดลงง่ายๆ เช่นเดียวกับเหอฉงที่กำลังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เพื่อดูรายการสดนี่ ตอนที่เจียงเซ่อเดินออกมา หล่อนเองก็อ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออกสักคำ ถึงจะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่ตอนนี้หัวใจของเธอมันเต้นดัง ‘ตึกตักๆๆ” ราวกับว่าหลงเสน่ห์ ‘ความสวยงาม’ ของดาราคนใหม่คนนี้เข้าเสียแล้ว

เธอเอนตัวพิงเก้าอี้ พยายามควบคุมลมหายใจของตัวเอง พยายามไม่กระพริบตา เพราะกลัวว่าจะพลาดทุกการกระทำทุกๆท่วงท่าของเจียงเซ่อไป 

ตอนนี้สิ่งที่รอมาหลายวัน ในที่สุดก็ได้รับการตอบรับแล้ว  ความสวยของ ‘หญิงสาวในฝัน’ มันมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้เสียอีก

ในห้องส่งตอนนี้ พอเจียงเซ่อเข้าไปจับมือทักทายกับเซิ่งจิ้งจือเรียบร้อยแล้ว เธอก็หันไปโค้งตัวให้กับจ้าวร่างและนักแสดงนำชายหญิงอีกสองคนด้วย ถึงจะค่อยรวบชายกระโปรง แล้วค่อยๆ นั่งลง

ท่าทางการนั่งของเธอมันดูสุภาพเรียบร้อยมากๆ ทำให้คนที่ได้เห็นรู้สึกประทับใจไม่น้อย

จูพ่านที่นั่งอยู่แทบจะโดนกลบจนเป็นแค่เงาอยู่แล้ว และ ailsa ที่ตามมาดูแลจูพ่านเองก็ได้แต่ยืนถอนหายใจอยู่ตรงมุมห้อง สีหน้าเหมือนว่าไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว

เซิ่งจิ้งจือรอจนเธอนั่งลงเรียบร้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา

“ผมเองก็ได้ดูหนัง ‘99 Love Letter’ มาแล้วนะ ถ้าจะบอกว่าตอนแรกที่เห็น ‘หญิงสาวในฝัน’ ของผู้กำกับจ้าวแล้ว ก็ต้องบอกว่ารู้สึกเชื่อในความรู้สึกของหลี่ชิงหยางในตอนนั้นมากๆ ยิ่งพอตอนนี้ได้พบแล้ว ก็คงต้องพูดว่า ช่างน่าประทับใจจริงๆ”

จ้าวร่างหันหน้าไป แล้วถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“เอ๋? ที่น้องเซิ่งพูด หมายความว่ายังไงกันละเนี่ย?”