118

ตอนที่ 118 ถ่ายทอดสด

ใครจะรู้ล่ะว่าสไตล์ลิสต์ยังไม่ทันได้บอกว่า ‘ช่างเถอะ’ เจียงเซ่อก็พยักหน้า แล้วยังให้ความร่วมมือด้วยการเขยิบเข้ามาใกล้ๆ ทำให้สไตล์ลิสต์หน้าแดงใจเต้นเร็ว รู้สึกเหมือนถูกเธอปราบเสียจนราบคาบ

รูปภาพที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือ เจียงเซ่อถึงแม้หน้าสดแต่กลับเอาอยู่ ใบหน้าเล็กราวกับฝ่ามือนั่น ฟันขาวสวยดวงตาสดใส สองโหนกแก้มระเรื่อ แม้จะอยู่ห่างจากหน้าจอโทรศัพท์ แต่ก็ยังสามารถมองเห็นความสดใสนั่นได้

สไตล์ลิสต์ค่อนข้างตื่นเต้น เธอกดความคิดที่อยากจะส่งเวยป๋อออกไปเอาไว้ โชคยังดีที่อย่างน้อยก็ยังจำหน้าที่ของตัวเองได้ เธอช่วยจัดการชายกระโปรงแทนเจียงเซ่อ ทั้งยังถามเบอร์รองเท้าที่เจียงเซ่อใส่ เลือกรองเท้าส้นเข็มออกมาให้สวม ออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อเป็นเพื่อนเจียงเซ่อ

ในขณะแต่งหน้า คนของสถานีโทรทัศน์ได้เข้ามาหาครั้งนึง นำสคริปท์ที่ปริ้นแล้วมาให้ มองไปที่เจียงเซ่อก่อนแวบหนึ่ง ก็เดาฐานะของเธอออกได้ เขาเดินเข้าไปใกล้แล้วค่อยพูดว่า

“คุณเจียง นี่คือหนึ่งในคำถามหลักๆ ที่พี่เซิ่งจะถามในอีกสักครู่นะครับ”

ตามปกติของสถานีโทรทัศน์ ที่พนักงานนำมาให้คือคำถามหลักๆ ที่เซิ่งจิ้งจืออาจจะถามตอนสัมภาษณ์ในรายการ คนของสถานีโทรทัศน์นำมาให้เจียงเซ่อได้ลองอ่านก่อน เพื่อจะได้เตรียมคำตอบที่เหมาะสมไว้

นอกจากการพูดกันตามปกติในรายการแล้ว ก็ต้องดูการปฏิกิริยาของแต่ละคนด้วย รายการถ่ายทอดสดแบบนี้ ถ้ากึ๋นของแต่ละคน หรือไหวพริบไม่เพียงพอ แล้วเกิดเหตุการณ์ตอบคำถามไม่ได้อย่างนี้ ก็จะถูกลดขั้นกลายเป็นเพียงของประกอบฉากเอาได้ง่ายๆ

เจียงเซ่อหยิบสคริปท์ขึ้นมาดู อ่านคร่าวๆ ก่อนแวบหนึ่ง คำถามที่ทำเครื่องหมายเน้นไว้นั้นไม่เยอะมากนัก มีแค่สองสามข้อ อันที่จริงในสองสามคำถามนี้เซิ่งจิ้งจือจะถามทั้งหมดหรือไม่นั้นก็ไม่รู้

เกี่ยวกับสถานการณ์นั้น เจียงเซ่อเองมีแผนอยู่ในใจแล้ว เธอไม่ใช่นางเอกในเรื่อง ‘99 love letter’ ความจริงแล้วอาจจะมีโอกาสที่เซิ่งจิ้งจือถามถึงเรื่องที่จ้าวร่างดูจะดูแลเธอเป็นพิเศษ

เธอกล่าวขอบคุณ แล้วค่อยๆ จำคำถามไม่กี่แถวในสคริปท์

คำถามไม่ซับซ้อนอะไร ข้อนึงถามถึงตอนจบหนังเรื่องใหม่ของจ้าวร่าง อีกข้อเป็นความรู้สึกในการถ่ายทำ ยังมีอีกข้อที่ถามถึงสาเหตุของการเข้าวงการบันเทิง

คนของสถานีโทรทัศน์บอกเวลาเข้ารายการในอีกสักครู่กับเธอ แล้วกำชับเธอไม่ต้องตื่นเต้นและระวังอะไรมากนัก เขาพูดไปอีกสักพักถึงบอกรายละเอียดที่เหลือก่อนจะเดินจากไป

เจียงเซ่อแต่งหน้าเสร็จ ช่างทำผมลองจับผมยาวๆ ของเธอ ลังเลสักพัก แล้วไม่ได้จัดทรงอะไรเพิ่มเติม

อันที่จริงเส้นผมยาวๆ ของเธอก็ดีอยู่แล้ว ดำขลับเงาสลวย ม้วนขึ้นมาก็ค่อนข้างน่าเสียดาย

ยิ่งไปกว่านั้นเธอแต่งหน้าไม่เข้มมาก ช่างแต่งหน้าแค่แต่งเพิ่มให้ส่วนตาเข้มขึ้น ริมฝีปากเพียงแค่แต้มลิปกลอสบางๆ ทรงผมที่อลังการเกินไปจะยิ่งไม่เข้ากันกับการแต่งหน้าของเธอในวันนี้

หลังจากแต่งตัวเรียบร้อย เจียงเซ่อก็หยิบสคริปท์แล้วนั่งลงสักพัก ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากทางด้านนอก หลังจากนั้นก็มีพนักงานของสถานีโทรทัศน์เข้ามา

“จูพ่านและชุยซิ่งมาแล้ว”

คนที่แต่งหน้าอยู่ด้านหลังโต๊ะจำนวนไม่น้อยพอได้ยินก็หันหน้ามามองเจียงเซ่อโดยอัตโนมัติ

คำพูดที่พนักงานบอกกับเจียงเซ่อเมื่อสักครู่ คนที่กำลังแต่งหน้าอยู่ล้วนได้ยินชัดเจน ต่อให้เป็นคนโง่ก็เดาฐานะของเจียงเซ่อออก

สงครามแตกหักครั้งใหญ่ระหว่างนักแสดงนำหญิงในกองถ่ายเรื่อง ‘99 love letter’ และ แฟนคลับ ‘หญิงสาวในฝัน’ บนอินเตอร์เน็ตช่วงนี้กำลังเผ็ดร้อนดุเดือด บนพาดหัวข่าวบันเทิงในช่วงหลายวันมานี้ล้วนดึงดูดความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนไม่น้อย แม้ว่าซื่อจี้หยินเหอจะปล่อยข่าวว่าคู่พระนางมีการติดต่อกันส่วนตัว ดูเหมือนจะสปาร์คกัน ก็ไม่สามารถกลบกระแสประเด็นร้อนนี้ไปได้

เพียงแต่หลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้น นอกจากฝ่ายจูพ่านออกมาแถลงข่าวแล้ว ทางฝ่าย ‘หญิงสาวในฝัน’ ยังไม่ออกมาปรากฏตัวแต่อย่างใด

ทางกองถ่ายเองก็ยังคงนิ่งเงียบ ทำให้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกแปลกใจกับเรื่องราวเหล่านี้มากขึ้น

เมื่อจูพ่านมาถึง หลังจากรู้ว่าเจียงเซ่อเป็นใคร ก็มีคนสงสัยว่าเจียงเซ่อจะมีท่าทีอย่างไรกับเรื่องนี้ ใครจะรู้เมื่อคนที่พูดเพิ่งจะพูดจบสักพัก เจียงเซ่อกลับยังคงถือสคริปท์อยู่ คล้ายกับว่าไม่ได้ยิน

ตอนนี้ใกล้จะหกโมงเย็นแล้ว นอกเหนือจากที่เจียงเซ่อรับโทรศัพท์จากเผยอี้ บอกว่าเนี่ยต้านมาถึงแล้ว ก็ถามว่าเธอหิวหรือเปล่า

เธอปฏิเสธเผยอี้ที่ขอมาเป็นคนส่งข้าวให้ เจียงเซ่อนั่งอยู่พักหนึ่ง เวลาหนึ่งทุ่มถึงจะมีพนักงานมาเร่งช่างแต่งหน้าให้เติมหน้าให้เธอ หลังจากหนึ่งทุ่มสิบนาที การถ่ายทอดสดระหว่าง เซิ่งจิ้งจือ จ้าวร่าง ชุยซิ่ง และจูพ่านก็เตรียมพร้อมเสร็จเรียบร้อย

รายการ ‘คนดังนั่งคุย’ เวลานี้ ถึงจุดดือดเป็นที่เรียบร้อย ชาวเน็ตเป็นจำนวนมากเข้ามาอย่างล้นหลาม ส่งข้อความกันมาเป็นแถวๆ

สาวน้อยแสนสุข : นั่งขายน้ำแตงโมโซดาอยู่แถวหน้า รอทุ่มครึ่งแล้วค่ะ!

รถแข่งบ้าคลั่ง : บอกไปเลยพ่านพ่าน พ่านพ่านสู้ๆ คุณสวยที่สุด!

ตำหนิสวรรค์ : พ่านพ่านสวยสุด พ่านพ่านสวยสุด พ่านพ่านสวยสุด! เรื่องสำคัญต้องพูดสามครั้ง ‘หญิงสาวในฝัน’ ก็คือมือสังหารอยู่เบื้องหลัง ไม่มีทางเทียบได้กับพ่านพ่านของฉัน

มีความสุขทุกๆ วัน : รอทุ่มครึ่ง น้ำแตงโมโซดาข้างหน้านั่นน่ะ มีถั่วไหม?

......

ในทีวี ในอินเตอร์เน็ตของสถานีโทรทัศน์หัวเซี่ยตอนนี้กำลังฉายโฆษณาอยู่ เวลานับถอยหลังจากเวลาหนึ่งทุ่มครึ่งอีกสามสิบวินาที หลายๆ คนกดรีเฟรชไม่หยุด เพราะกลัวว่าอินเตอร์เน็ตจะดีเลย์

จนกระทั่งถึงเวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง โฆษณาฉายถึงวินาทีสุดท้าย ภาพทั้งหมดก็เปลี่ยนไปเป็นการถ่ายทอดสดของรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ ทันที

เซิ่งจิ้งจืออยู่ตรงกลางด้านหน้า ด้านข้างโซฟาจ้าวร่างมาพร้อมด้วยชุยซิ่งและจูพ่านสองคน ในตอนที่หันมาเข้าฉาก ใบหน้าทั้งคู่นั้นก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“ทุกๆ หนึ่งทุ่มครึ่งของคืนวันศุกร์ ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่รายการ ‘คนดังนั่งคุย’ ในค่ำคืนนี้ครับ” เซิ่งจิ้งจือพูดเปิดรายการ ทางด้านอินเตอร์เน็ตมีคลื่นข้อความลูกใหญ่ซัดเข้ามา

กระต่ายผู้ตื่นตูม : อ๊า... พ่านพ่านสวยที่สุด เหมาะสมกับพี่ซิ่งมาก

โจวเสี่ยวตง : จูพ่านหน้าตาไม่เลว

ตงอู๋เทียบท่าประตู : ไม่ใช่ว่า ‘หญิงสาวในฝัน’ ในเรื่อง ‘จดหมายรัก’ ต้องมาออกรายการด้วยเหรอ?

สามบรรทัดสองย่อหน้า : คำถามเดียวกัน ‘หญิงสาวในฝัน’ ล่ะ?

ด้านล่างก็เถียงกันไม่หยุด

คืนนี้จูพ่านดูเปล่งประกายมากจริงๆ อาจจะเพราะว่าช่วงมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ยากนักกว่าจะได้มาออกรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ นี้ Alisa เองก็หวังว่าเธอจะกอบกู้ภาพลักษณ์ที่ไม่ดีคืนได้หลังจากเรื่องใส่ความที่เผยแพร่ไปทั่วอินเตอร์เน็ต ด้วยเหตุนี้ในขณะที่ออกรายการ ข้าวของเครื่องใช้ที่เธอใส่นั้นก็ได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์ ช่างแต่งหน้าก็เป็นคนของซื่อจี้หยินเหอ เครื่องประดับต่างๆ ที่ใส่มูลค่าก็ไม่ใช่น้อยๆ ระยิบระยับแวววาว

“ในวันนี้ทางรายการ เชิญผู้กำกับจ้าวร่างผู้ที่ทุกคนต่างชื่นชอบมากมาโดยตลอดมาด้วยนะครับ” พอสิ้นเสียงเซิ่งจิ้งจือ เหล่าผู้โชคดีที่ได้เข้าไปดูถ่ายทอดสดถึงในรายการต่างก็ปรบมือ

เนี่ยต้านที่นั่งอยู่ด้านหน้า หันหน้ามาถามเผยอี้แวบหนึ่ง

“พี่อี้ พี่สะใภ้ทำไมไม่ออกมาด้วยล่ะ?”

คนอื่นๆ เองก็หันหน้ามาหา เผยอี้ไม่ได้พูดอะไร คนบนเวทีต่างนั่งลง เซิ่งจิ้งจือพูดต่อว่า

“ผมเห็นเรื่องที่กำลังร้อนแรงที่สุดในช่วงนี้อยู่บนอินเตอร์เน็ต เกรงว่าต้องให้ผู้กับกำกับจ้าวชี้แจ้งสักประโยคแล้วล่ะครับ คุณเคยพูดไว้ประโยคหนึ่งในคืนวันเปิดตัวของหนังเรื่อง ’99 love letter’ ว่าถ้ายอดตั๋วในวันแรกนั้นสูงถึงหนึ่งร้อยล้าน จะมาเปิดตัวพร้อมกับ ‘หญิงสาวในฝัน’ ผู้ที่ทำให้ทุกต่างต้องประหลาดใจนี่ครับ วันนี้เท่าที่ผมรู้ จากการฉายภาพยนตร์ตั้งแต่วันนั้น ยอดขายตั๋วนั้นสูงถึงสองร้อยสามสิบล้าน เกินกว่าเป้าหมายแรกที่คุณกำหนดไว้ไปตั้งนานแล้ว แล้วเมื่อไหร่จะให้พวกเราได้พบกับ ‘หญิงสาวในฝัน’ กันล่ะครับ?”