webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

110

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 110 โฉมหน้าที่แท้จริง

ตอนที่อยู่ในงานเปิดตัวหนัง ครั้งแรกทีได้ยินเสียงดนตรีนั่นขึ้นมาก็แค่รู้สึกว่ามันเป็นดนตรีที่ยอดเยี่ยมไปเลย เพราะมันคือเพลงที่ซือเจียต้งเป็นคนแต่งขึ้นมา แน่นอนว่าต้องออกมาสวยงามและไพเราะมากๆ อยู่แล้ว

ตอนนั้นในท่ามกลางความมืดมิด เสียงดนตรีเสนาะหูบรรเลงขึ้นมา ความรู้สึกตอนนั้นช่างงดงามมากๆ

แต่พอได้มานั่งอยู่ในโรงหนังแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าเธอได้ดูหนังในงานปฐมทัศน์ไปแล้วก็ได้ พอได้มาฟังอีกรอบแบบนี้แล้ว ก็ทำให้นึกถึงเรื่องราวในหนัง ’99 Love Letter’ ขึ้นมา ในตอนที่ชุยซิ่งได้ยินเสียงนี้ขึ้นมา ก็มีท่าทางตกหลุมรัก

คนดูทั้งโรงหนังต่างก็กำลังเคลิบเคลิ้มและถูกดึงดูดไปกับหนัง ความรู้สึกของทุกต่างก็สงสารคนที่ชอบและรักเปียโนแต่ฐานะทางบ้านกลับยากจนอย่างหลี่ชิงหยาง

ตอนที่เขาเล่นหยอกล้อกับจูพ่านอย่างไม่คิดอะไร ถึงจะเป็นเพียงฉากง่ายๆ ธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ก็ยังสามารถทำให้ทุกคนต้องยิ้มอย่างมีความสุขได้ทุกครั้ง และคนทั้งโรงต่างก็ยิ้มหัวเราะออกมา

เขาแบกถังน้ำแร่เข้าไปในห้างสรรพสินค้า บนไหล่นั่นแบกถังน้ำที่แสนหนักจนต้องต้องงอเอวลงมา

ในตอนนี้เหอฉงรู้สึกสงสารและเจ็บปวดใจต่อผู้ชายในฝันของเธอมาก และเพราะรู้ว่า ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ ใกล้ที่จะถึงฉากที่หลี่ชิงหยางได้เจอกับหญิงสาวในฝันแล้ว

จ้าวร่างเก็บเรื่อง ‘หญิงสาวในฝัน’ มาโดยตลอด และตอนก็จะได้เห็นสาเหตุที่เขาต้องปิดขนาดนี้แล้ว!

เหอฉงนั่งตัวตรงขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว คนอื่นๆ ในโรงหนังก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างเช่นกัน หลายคนที่ขยับตัวขึ้นมานั่งตัวตรงแน่ว แล้วยังขยับเข้าไปข้างหน้าอีกนิดด้วย

เสียงดนตรีอันไพเราะและมีชีวิตชีวาค่อยๆ ดังขึ้นมา หลี่ชิงหยางที่เพิ่งจะไปส่งน้ำเสร็จก็เหมือนกับโดนดึงดูด เดินเข้าไปยังร้านเปียโนนั่น

มีกระจกบานใหญ่กั้นระหว่างเขาเอาไว้ สายตาของเขาทอดไปที่เปียโนหลังที่กำลังถูกบรรเลง จากนั้นเขาก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา แววตาคู่นั้นเกิดประกายวาววับ สีหน้าเหมือนเสียการควบคุมไปชั่วขณะ

และถึงแม้ว่าจะได้เห็นการแสดงของเขามาแล้วรอบหนึ่งแต่ก็ยังรู้สึกประทับใจเหมือนเคย

และในฉากๆ นี้ก็ไม่ได้ถูกตัดออกแล้ว แต่พอมองตามสายตาของชุยซิ่งที่เลื่อนขึ้นไป สายตาที่ค่อยๆไล่มองเปียโนนั่น

เหอฉงกลั้นหายใจและเบิกตาจ้องมอง ในร้านเปียโนนั่น เปียโนหลังสีขาวที่ตั้งอยู่ตรงกลาง มีหญิงสาวคนหนึ่งมัดผมขึ้นอย่างเรียบร้อย กำลังเพลิดเพลินไปในโลกของเสียงเพลง

ในความคิดของเธอ ‘หญิงสาวในฝัน’ คนนั้นสวมกระโปรงแสนสวยงาม หญิงสาวที่กำลังดีดเปิดโนอยู่นั้น มองๆ ดูแล้วแล้วไม่เหมือนกับนักแสดงเท่าไหร่เลย แต่เธอกลับไม่โดนความสวยของเปียโนทั้งหลายกลบเลยสักนิด แถมแผ่นหลังของเธอก็ยังดึงดูดคนดูได้มากอีกด้วย

และไม่รู้ว่าเป็นเพราะแสงไฟหรือเปล่า ที่ทำให้เหอฉงรู้สึกภาพตรงหน้ามันงดงามราวกับความฝันไปหมด

ตอนนี้เธอมีเรื่องในใจที่อยากจะพูดเต็มไปหมด ความรู้สึกปั่นป่วนไปทั่วหัวใจ มันมีมาตั้งแต่ตอนที่จ้าวร่างเริ่มโปรโมตหนัง ’99 Love Letter’ แล้ว ทำให้เธอรู้สึกอยากที่จะลองลิ้มชิมรสมัน ตอนแรกก็คิดว่าจ้าวร่างจะเป็นแค่พ่อครัวที่ทำได้แค่โจ๊กจืดๆ ที่ไหนได้ เขากลับต้มได้ดีและยอดเยี่ยมขนาดนี้

หญิงสาวคนนั้นนั่งหันหลังให้กับหลี่ชิงหยาง นิ้วมือนั่นกำลังเต้นระบำอยู่บนเปียโน

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เผยหน้าตาออกมา แต่จ้าวร่างก็สามารถถ่ายทอดฉากนี้ออกมาได้อย่างละเอียดและงดงามมากๆ เธอมีลำคอระหงส์ที่สวยสง่า ผิวเนื้อที่ปรากฏให้เห็นนั้นช่างขาวสว่างใส ชายเสื้อเชิ้ตถูกเก็บเอาไว้เข้าไปในกระโปรงเรียบร้อย การสวมเสื้อผ้าสไตล์ย้อนยุคแบบนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นสิบปีก่อนก็คงมีคนกล้าใส่แล้ว เพราะกลัวว่าจะโดนว่าว่าเชย

แต่หญิงสาวในหนังที่สวมเสื้อผ้าแบบนั้น เหอฉงกกลับสังเกตเห็นเอวและสะโพกที่ดูงอนสวยของของเธอ

หญิงสาวไม่ทันได้สังเกตเห็นคนที่ยืนอยู่นอกกระจกนั่น หลี่ชิงหยางมองไปที่เธออย่างโง่งม แต่กลับกำลังตั้งอกตั้งใจฟังเสียงดนตรีนั่นราวกับตกยู่ในภวังค์ นิ้วสิบนิ้วนั่นเรียวสวยราวกับต้นหอม ถึงแม้ว่าจะได้ดูฉากที่ถูกตัดไปแล้ว แต่เหอฉงก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่พอ

เหอฉงรู้สึกว่าถึงแม้ตัวเองจะเคยดูหนังมาแล้วรอบหนึ่ง รู้ว่าในท้ายที่สุดหลี่ชิงหยางก็จะต้องคู่กับจ้าวหรง อีกทั้งยังเคยรู้สึกซาบซึ้งใจไปกับความรู้สึกของทั้งสองคนที่มีให้กัน ชอบในความซื่อตรงของของหลี่ชิงหยาง และชอบที่จ้าวหรงคอยอยู่ดูแลไม่ไปไหน

แต่ในนาทีนี้ เหอฉงรู้และเข้าใจในความรู้สึกของหลี่ชิงหยางแล้ว ความรู้สึกมึนเมา ในตอนที่เขาได้พบกับ ‘หญิงสาวในฝัน’

หญิงสาวคนนั้นนั่งอยู่หน้าเปียโน ทั้งสง่างามและโดดเด่น ความงดงามที่อยู่ตรงหน้าเปียโนนั่น อีกทั้งเสียงดนตรีที่ถูกบรรเลงออกมาอย่างนุ่มนวลและไพเราะเสนาะหู ใบให้ใบหน้าของคนที่ฟังนั้นผ่อนคลาย

ผู้ชมที่นั่งดูกันอยู่ที่นี่ต่างก็แสดงออกมาว่ารู้สึกคุ้มค่าแค่ไหนที่ได้มาดู และตอนนี้ใครหลายๆ คนก็จำไม่ได้แล้วว่ารู้สึกแปลกใจกับบท ‘หญิงสาวในฝัน’ ขนาดไหน

ไม่รู้ว่าจ้าวร่างไปหาผู้หญิงแบบนี้มาจากไหนกัน ที่สามารถรับบทที่แสนงดงามแบบนี้ได้ดีขนาดนี้

เธอปรากฏตัวเพียงสั้นๆ ไม่กี่วิเท่านั้น เหอฉงเองก็เผลอเคาะเท้าตามจังหวะเสียงเปียโนจนเกิดเสียง ‘ตึก ตึก’ ในใจของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังที่อยากจะให้ผู้หญิงคนนั้นหันมา ให้ทุกคนได้เห็นว่าเธอมีหน้าตาอย่างไร อยากรู้ว่าจะสวยและสง่าเหมือนกับร่างกายที่ได้เห็นหรือเปล่า หรืออาจจะดีกว่านั้นก็ได้

และความคิดของคนอื่นๆ ในโรงหนังก็คงเหมือนกับเธอเช่นกัน เพราะตอนนี้ทุกๆ คนต่างก็กำลังมีความรู้สึกเดียวกันกับหลี่ชิงหยาง เข้าใจถึงอารมณ์ของเขาในตอนที่ได้เจอกับแผ่นหลังของหญิงสาวตอนนั้นแล้ว

หลายสิบวินาทีผ่านไป ผู้ชมทุกคนกลับรู้สึกเหมือนเพิ่งจะนั่งรถข้ามภูเขามาด้วยซ้ำ กล้องหยุดอยู่ที่ใบหน้าของชุยซิ่ง และตอนนี้จ้าวร่างก็ไม่ได้ถ่ายไปที่เปียโนอีกเลย อีกทั้งเสียงเปียโนที่ค่อยๆ เงียบหายไปพร้อมๆ กับหญิงสาวคนนั้นด้วย

เขายื่นมือออกไป รมีเพียงกระจกใสบานหนึ่งกั้นท่าทางของหลี่ชิงหยางเอาไว้ หลังจากที่เสียงดนตรีเงียบไป แววตาของเขาก็ค่อยๆ หมองลงไม่สดใสเช่นเคยอีก

ในค่ำคืนนี้ เจียงเซ่อเองก็ยังไม่ได้นอนเช่นกัน หลังจากก่อนหน้านี้ที่ได้ข่าวว่า ‘99 Love Letter’ จะเข้าฉายรอบแรก เผยอี้ก็ได้ซื้อบัตรหนังเอาไว้เรียบร้อย

ขอแค่เขาเป็นคนลงมือ เรื่องแค่นี้ไม่เรื่องลำบากอะไรเขาสักนิด พอถึงเวลาของหนังรอบแรก ถึงแม้ว่าในหนังเจียงเซ่อเล่นเห็นแค่ด้านหลังเท่านั้น แต่เขาก็แอบทำการเหมาบัตรหนังของโรงภาพยนต์ที่อยู่ในเมืองหลวงเอาไว้เสียหลายที่ แถมยังไปบอกให้พวกเนี่ยต้านซื้ออีกตั้งเยอะ

ตอนที่จูงมือเจียงเซ่อข้าไปในโรงหนัง เผยอี้ตื่นเต้นไม่น้อยเลย แต่ก่อนเขาเอาแต่เที่ยวเล่นไร้สาระอยู่กับพวกเนี่ยต้าน และน้อยมากที่จะมาโรงหนังแบบนี้ คนทั่วๆ ไปที่ชื่นชอบหลงใหลดาราอะไรแบบนั้น สำหรับเขาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก

แต่การที่ได้มาดูหนังกับเจียงเซ่อมันไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องที่เธอเป็นคนแสดงในหนัง แต่เขากลับตื่นเต้นมากกว่าเธอเสียอีก

ตอนแรกก็คิดว่าหนังมันไม่ได้น่าดูอะไรนัก แต่พอเผยอี้ได้ดูไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ แล้ว กลับรู้สึกว่ามันมีความหมายไม่น้อยเลย

ในตอนที่หลี่ชิงหยางได้พบกับเจียงเซ่อในร้านเปียโนนั่น ในใจของเขามันก็มีความรู้สึกเดียวกันกับหลี่ชิงหยาง ความรู้สึกที่เจ็บปวด

เขาเองก็เคยได้เห็นตอนที่เฝิงหนานเล่นเปียโน ตอนนั้นเขาก็มีท่าทางเหมือนหลี่ชิงหยาง ความรู้สึกชอบที่อยู่ในใจ แต่ก็ไม่มีความกล้าพอที่จะบอกมันออกไป

หลี่ชิงหยางพลาดที่จะได้พบกับหญิงสาวที่นั่งดีดเปียโน และยังไม่ได้เห็นหน้าเธอเลยด้วยซ้ำ เหลือไว้เพียงความทรงจำที่เด่นชัดอยู่ในใจ และเงาหลังที่ทำให้เขาต้องเหม่อมองนั้น