webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

109

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

 

บทที่ 109 แย่งชิงบัตร

จ้าวร่างยกไมโครโฟนขึ้นมา จากนั้นก็ยิ้มมองทุกคนที่อยู่ในงาน

“ที่จริง จนมาถึงตอนนี้แล้ว มันก็เหลือเวลาอีกแค่ไม่ถึงสองชั่วโมงหนังก็จะเข้าอย่างเป็นทางการแล้วนี่ครับ แล้วทำไมพวกเรา ไม่เก็บความลับนี้เอาไว้จนถึงนาทีสุดท้ายไปเลยล่ะ?”

“ในหนังตอนที่พี่ซิ่งเห็นหญิงสาวในความฝัน มองออกชัดเจนเลยนะคะว่าแววตาเป็นประกายมาก พวกเราก็แค่คิดว่า ต้องเป็นผู้หญิงที่สวยขนาดไหนนะ ที่ทำให้พี่ซิ่งแสดงออกมาได้สมจริงขนาดนั้น? หรือว่านั่นคือความรู้สึกจริงๆ ของนักแสดงกันเอ่ย?”

จ้าวร่างหันไปมองชุยซิ่งแวบหนึ่ง แล้วตอบออกมาอย่างขำๆ

“งั้นคำถามนี้ต้องเอาไปถามชุยซิ่งเองแล้วล่ะ แต่ว่าสำหรับผมแล้ว ชุยซิ่งถือว่าเป็นนักแสดงมืออาชีพ ถ้าหากว่าทุกคนมองเห็นว่าเขาดูหลงใหลแค่ไหน ผมก็คงตอบว่าฝีมือการแสดงของชุยซิ่งน่ะเยี่ยมยอดที่สุดแล้ว”

การชื่นชมแบบนั้นทำเอาชุยซิ่งดีใจไม่น้อย ทั้งสองคนยืนอยู่บนเวทีและช่วยเหลือซึ่งกันและกันไปมา ทำให้สัมผัสได้ถึงความสนิทสนมในกองถ่าย

แต่ที่เห็นค่อนข้างชัดคือจูพ่านที่ดูจะอึดอัดไม่น้อย วันนี้หล่อนเองก็เดินเข้างานมาอย่างส่ง่าผ่าเผย แต่งานปฐมทัศน์ในค่ำคืนนี้ ถึงแม้ว่าคนที่แสดงเป็นหญิงสาวใจฝันจะไม่ได้มา และแม้แต่ในหนังก็ตัดเหลืออยู่แค่นั้น แต่การเป็นตัวละครที่พักพิงที่สุดท้ายของหลี่ชิงหยาง มันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะโดนคนถามถึงตัวละครหญิงสาวในฝันคนนั้น และก็มีคนเอาหล่อนไปเปรียบเทียบกับคนนั้นอีก ถามจูพ่านว่าคิดว่าใครจะสวยกว่ากัน

จุดยืนของจูพ่านในวงการบันเทิงก็ไม่ได้ต่ำเลย รูปร่างหน้าตาก็ไม่เลว หล่อนเข้าสู่วงการมาก็หลายปีแล้ว แถมหล่อนก็ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นนางเอกของทางช้างเผือกเลยด้วยซ้ำ แต่วันนี้กลับโดนเอาไปเปรียบเทียบกับดาราใหม่เสียอย่างนั้น หล่อนจึงอดไม่ได้ที่จะอารมณ์เสีย รอยยิ้มบนใบหน้าเลยฝืดแบบนั้น

งานปฐมทัศน์หนังในคืนนี้ แขกสื่อมวลชนที่เข้ามาร่วมงานต่างก็พกคำถามกันอย่างเต็มที่

เหอฉงรับของที่ระลึกจากทีมงานหนังเรียบร้อยแล้ว ตอนที่เธอเดินออกมาจากที่จัดงาน พอดูเวลา ตอนนี้ยังไม่ถึงห้าทุ่มเลยด้วยซ้ำ

ตอนนี้ในใจของเธอมันไม่สามารถระงับความตื่นเต้นได้เลย และไอ้ความตื่นเต้นนี่ก็เป็นเพราะสายตาของชุยซิ่งที่มองไปยังหญิงสาวในฝันคนนั้นนั่นแหละ เธอคิดถึงมันตั้งแต่ตอนนั้นจนกระทั่งหนังจบก็ยังหยุดคิดไม่ได้เลย

หนังเรื่อง ‘99 Love Letter’ จะเข้าโรงตอนเที่ยงคืนนี้จนถึงตีหนึ่ง ตอนนี้เธอแทบไม่อยากกลับบ้านเลย ยังไงก็ถือโอกาสหยิบมือถือขึ้นมากดจองบัตรหนังเลยละกัน รอแย่งบัตรหนังได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน

แต่นึกไม่ถึงเลย เธอกดเว็บเข้าไปเพื่อที่จะจองบัตรหนัง แต่โรงหนังที่อยู่ในเมืองหลวงที่เพิ่งจะเปิดขายบัตรไปได้ไม่กี่นาทีบัตรก็หมดแล้ว!

“นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว ทำไมยังมีคนไม่นอนเยอะขนาดนี้เนี่ย รอดูหนังงั้นเหรอ?”

เธอเกิดร้อนรนขึ้นมาทันที แล้วก็รีบหาบัตรของโรงหนังที่อยู่ไกลไปอีกหน่อย อย่าว่าแต่ใกล้ๆ เลย แม้แต่โรงหนังที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองหลวง จะใกล้จะไกลก็โดนคนแย่งกดจองหมดไปตั้งแต่เที่ยงคืนแล้ว!

ในมือถือก็เริ่มมีข้อความส่งเข้ามาเรื่อยๆ และส่วนมากก็เป็นแฟนคลับของเธอที่ทักมาถามถึงเรื่องหนัง และมีคนถามเข้ามาด้วยว่าเธอจะไปดูหนังรอบแรกตอนตีหนึ่งไหม

เหอฉงตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว อีกด้านก็ยังคงตามหาบัตรหนังต่อไป

เธอร้อนใจอยากจะดูหนังรอบแรกของเรื่องนี้มากๆ ความสงสัยในใจของเธอมันเก็บมาตั้งแต่อยู่ในงานแล้ว นี่เธอติดกับจ้าวร่างซะแล้วสิ

และในขณะที่เหอฉงกำลังร้อนรนจนทำอะไรไม่ถูกนั้น เธอก็เงยหน้าขึ้นมามองไปรอบๆ ตัว ก็พบว่ายังมีแขกอีกหลายคนที่ได้รับเชิญมางานในคืนนี้ก็กำลังเขี่ยมือถือไปมาเหมือนกัน มีบางคนถึงขั้นว่าโทรหาทางโรงหนังว่าต้องการบัตรเลยด้วยซ้ำ

พอได้เห็นว่ามีคนโทรไปขอบัตรแบบนั้นแล้ว เหอฉงก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เธอมีเพื่อนนักเรียนอยู่คนหนึ่ง หลังจากที่จบการศึกษาแล้วเขาก็เข้าทำงานที่รุ่ยเหอมีเดีย และอยู่ในวงการนี้มานานพอสมควรแล้ว รู้สึกว่าตอนนั้นที่มีงานเลี้ยงรุ่น ได้ยินมาว่าตำแหน่งงานในรุ่ยเหอของเขาอยู่ในระดับกลางแล้ว

และเหมือนจะได้ยินมาว่ากลุ่มที่ลงทุนให้กับหนังเรื่องนี้มากที่สุดก็คือรุ่นเหอมีเดีย บางทีเพื่อนเก่าคนนี้อาจจะสามารถช่วยเธอหาบัตรหนังล่วงหน้าได้

พอคิดได้อย่างนั้น เหอฉงก็ยกมือถือขึ้นมาเพื่อติดต่อไปอย่างไม่ลังเล พอเจอเบอร์ติดต่อเพื่อนเก่าเจอแล้วเธอก็กดโทรออกทันที

เพราะหนังเรื่อง ‘99 Love Letter’ จะเข้าฉายแล้ว เธอมั่นใจว่าเพื่อนคนนี้คงยังไม่นอนแน่ๆ และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เสียงรอสายดังขึ้นแค่สองครั้งเท่านั้น ปลายสายก็รับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว

ทั้งสองทักทายและถามสารทุกข์สุกดิบกันสองสามประโยค จากนั้นเหอฉงก็รีบพูดถึงเรื่องต้องการบัตรหนังเรื่อง ’99 Love Letter’ ทันที เธอต้องการบัตรของรอบเที่ยงคืนนี้ และต้องการให้เขาช่วย

แต่เอาจริงๆ แล้วตั้งแต่ที่เรียนจบมา ถึงแม้ว่าจะยังติดต่อกับพื่อนเก่าคนนี้อยู่บ้าง แต่พอเหอฉงพูดเพื่อขอให้ช่วยขึ้นมา ตัวเธอเองก็รู้สึกไม่ค่อยดีนัก แต่ตอนนี้เธอไม่อยากจะคิดแบบนั้นแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ที่ได้ไปเข้าร่วมงานปฐมทัศน์มา ไม่มีอะไรจะมาเทียบกับความใคร่รู้ในใจของเธอได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นความสงสัยของเธอมันก็มากขึ้นทุกทีๆ

 

ถ้าคืนนี้เธอไม่ได้บัตรหนังละก็ คืนนี้เธอก็คงจะนอนไม่หลับไปทั้งคืน

 

เพื่อนเก่าคนนั้นตอบรับคำขอของเธอออกมาอย่างสบายๆ นี่ถือว่าเป็นการลงทุน หนังรอบแรกในคืนนี้เธอมีที่นั่งอย่างแน่นอน ถือเป็นน้ำใจเล็กน้อยๆ จากเพื่อนคนหนึ่ง

หลังจากที่เหอฉงได้ยินคำยืนยันจากเพื่อนเก่าคนนี้แล้วเธอก็โล่งอกทันที เธอเกิดนึกชมเชยการตลาดของจ้าวร่างขึ้นมา แม้แต่เธอที่มีนิสัยสงบนิ่งก็ยังทำให้อดที่จะตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้แบบนี้

ผู้คนที่เริ่มทยอยกันออกมาก็เริ่มที่หาลู่ทางในการได้บัตรหนังมา เหอฉงคิดอะไรอยู่ในใจครู่หนึ่ง ก่อนจะยกมือถือขึ้นมาเปิดเวยป๋อ

เธอตัดสินใจที่จะดูพวกคอมเมนท์ของเหล่าแฟนคลับที่ทักเข้ามาถามถึงเรื่องหนังก่อนหน้านี้ แต่พอกำลังจะพิมพ์อะไรลงไป ก็รู้สึกขึ้นมาว่าตอนนี้ตัวเองทำงานหยาบเสียแล้ว ยังไงก็ควรจะดูหนังรอบแรกนี่ให้จบก่อนไม่ใช่เหรอ

สุดท้ายเธอก็ทำแค่ลงข้อความเอาไว้ว่าตัวเองจะไปดูหนังรอบแรกก่อน จากนั้นก็ดึงตัวเองออกมาจากโลกของเวยป๋อทันที

เพื่อนเก่าที่คุยกันเมื่อกี้ส่งหมายเลขบัตรมาให้เธอในมือถือ หลังจากที่เห็นตำแหน่งที่อยู่แล้ว มันก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่นี่นี่เอง

เวลาช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้า ทุกวิทุกนาทีเหมือนมันช่างยาวนานเหลือเกิน

เมืองหลวงในเดือนมกราคมแบบนี้หิมะก็เริ่มที่จะตกแล้ว หายใจออกทีไรก็ต้องมีไอขาวพุ่งออกมาด้วย

ตอนนี้ในอินเทอร์เน็ตกำลังถกเถียงกันอย่างคึกคัก ตอนนี้หลายคนที่ยังไม่ได้บัตรก็เริ่มที่จะประกาศหาบัตรหนัง ‘99 Love Letter’ ที่ขายต่อราคาสูงๆ กันแล้ว

เพราะไม่ว่าหนังจะออกมาเป็นยังไง แต่กลยุทธ์ในการเรียกกระแสนิยมให้กับหนังตัวเองแบบนี้ จ้าวร่างถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่หนังเรื่องนี้ของเขาทำออกมาได้ไม่เลวเลย มีทั้งความรักอันสดใสของวัยรุ่น แต่ก็มีความลึกซึ้งอยู่ในนั้น แถมยังมีอีกตัวละครที่เป็นจุดขายในการเรียกคนดูอีกด้วย เหอฉงรู้สึกได้ว่าแม้แต่คนอย่างเธอที่ชอบจำผิดนู่นนี่ หลังจากที่ดูหนังของจ้าวร่างไปแล้วเกือบทั้งหมด เธอก็ยังอยากจะดูในโรงหนังอีกสักรอบจนถึงขั้นขวนขวายไปหาบัตรหนังมาจากการใช้เส้นอีก มีเสี้ยววิหนึ่งที่คิดขึ้นมาว่าไม่อยากจะดูหนังให้มันจบภายในครั้งเดียว และนี่มันก็เหมือนกับการยอมรับหนังของจ้าวร่างแล้ว

เธอเกิดสังหรณ์ใจขึ้นมาแปลกๆ ถ้าตามแนวโน้มที่เกิดขึ้นแบบนี้ หนังของเจ้าร่างก็คงจะสามารถทำยอดให้เกินร้อนล้านได้แน่ๆ

ที่นั่งในโรงหนังถูกจองจนเต็มพื้นที่ แม้แต่หนังใหญ่ก็อาจจะทำไม่ได้แบบนี้ด้วยซ้ำ และยิ่งไม่ต้องพูดถึงนักรักวัยรุ่นในประเทศนเลย มองจากจุดนี้แล้ว จ้าวร่างนี่ช่างฉลาดมากจริงๆ

รอจนเข็มนาฬิกาสั้นมันชี้ไปที่เลขสิบสอง ในที่สุดในโรงหนังก็มีเสียงดนตรีประกอบดังขึ้นมา เหอฉงเองก็นั่งอยู่ในหมู่คนดู

ในตอนที่นั่งอยู่ในความมืดอยู่นั้น เป็นอีกครั้งที่ได้ฟังทำนองดนตรีของซือเจียต้ง และจู่ๆ เหอฉงก็เกิดรู้สึกหดหู่ขึ้นมาทันที