webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

106

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

บทที่ 106 หนังรอบปฐมทัศน์

คอมพิวเตอร์ที่อยู่ในห้องคือคอมเก่าของผู้ให้เช่าหอ และในเครื่องก็ยังคงเก็บข้อมูลอะไรไว้มากมาย แต่ก่อนเจียงเซ่อไม่เคยคิดเอะใจ อีกอย่างเธอก็เช่าห้องนี้อยู่มาหลายเดือนแล้วด้วย บางทีก็มีใช้คอมบ้าง แต่ก็ไม่เคยดูเลยว่าใจคอมมีอะไรอยู่บ้าง

พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ยิ่งพอเห็นว่าเผยอี้มีท่าทางช็อคไปขนาดนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

พอถึงเวลาเที่ยงเจียงเซ่อก็ถามเผยอี้ว่าอยากจะทานอะไร เขาก็เกิดลังเลขึ้นมา

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้ามาในห้องของเจียงเซ่อ และเขาก็ยังไม่อยากที่จะเดินออกไปง่ายๆ แบบนี้ “ตอนเย็นฉันจองร้านอาหารไว้แล้วน่ะ”

ที่นั่นน่ะเป็นร้านอาหารที่เฝิงหนานชอบมากๆ แห่งหนึ่ง อาหารส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารดั้งเดิมของหัวเซี่ย วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ และที่จริงเขาก็เตรียมไวน์แดงเอาไว้เพื่อที่จะมอบให้เธอด้วยซ้ำ

มันเป็นช่วงหลังจากที่เขาซื้อคฤหาสน์ที่ฝรั่งเศสเอาไว้แล้ว เขาเป็นคนเลือกองุ่นเพื่อมาหมักไวน์เองกับมือ เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เขาได้หมักไวน์ เลยอยากจะให้เธอได้ชิมมันเป็นคนแรก นี่ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความหมายมากสำหรับเผยอี้ และมันก็ไม่เหมือนใครด้วย

แต่พอเมื่อคืนได้เห็นเธอเมาแบบนั้นแล้ว ก็พอจะเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเธอคออ่อนพอสมควร ของขวัญชิ้นนี้คงจะให้เธอไม่ได้อีก

เค้กที่สั่งทำมาตั้งหลายวันก็กินไม่ได้ เขาล่ะรู้สึกเบื่อแบบนี้จริงๆ แต่พอได้ยินเจียงเซ่อถามถึงมื้อเที่ยงขึ้นมา และด้วยความที่ไม่อยากให้เธอต้องหิว เลยเขย่ากุญแจรถไปมา

“หรือเราออกไปกินข้าวนอกกันดี”

เจียงเซ่อคิดอะไรนิดหน่อย แล้วลุกขึ้น

“เหมือนว่าฉันจะมีของกินอยู่นะ”

ห้องเช่าห้องนี้มีตู้เย็นเล็กๆ อยู่ด้วย เธอจำได้ว่าสองวันก่อนเคยซื้อพวกวัตถุดิบอาหารมาด้วย แต่ว่ามีอาหารอยู่สองกล่องที่มันหมดอายุเสียแล้ว

แต่ในตู้เย็นก็ยังมีมันฝรั่งอยู่สองสามหัว และไข่ไก่อีกสองสามใบ เอาจริงเธอก็ใช่ว่าจะมีฝีมือในการทำอาหาร แต่พอมาเกิดใหม่ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียว เลยต้องมีบ้างที่ต้องฝึกทำอาหารด้วยตัวเอง ก็ถ้าเผยอี้ไม่รังเกียจ อาหารมื้อนี้มันก็ยังพอทำให้อิ่มท้องได้

เขาเดินตามไปยืนอยู่หลังเจียงเซ่อ พอเห็นว่าเธอเข้าห้องครัวไปก็อยากจะตามเข้าไปด้วย แต่ก็โดนเจียงเซ่อไล่ออกมา

ในโซนครัวไม่ได้กว้างอะไร เขาเลยไปยืนนิ่งๆ อยู่ตรงประตูทางเข้า มองเธอเอาข้าวไปล้างแล้วนำเข้าหม้อหุง ภาพแบบนั้นถือว่าเป็นมุมใหม่ของเธอเลย

แต่พอเธอหยิบมีดขึ้นมาและเตรียมจะหั่นมันฝรั่งเท่านั้นแหละ เผยอี้ก็รีบเดินเข้าไปอย่างตกใจ

แต่ก่อนเฝิงหนานเองก็ทำอาหารไม่เป็นหรอก ก็เหมือนกับเขานั่นแหละที่แม้แต่ห้องครัวก็คงไม่เคยย่างกรายเข้าไป แม้แต่สิบนิ้วก็จะโดนน้ำเย็นๆ ก็ไม่ได้เด็ดขาด แม้แต่จะทานผลไม้ก็ต้องมีคนปอกมาให้เรียบร้อย

พอตอนนี้มาเห็นว่าเจียงเซ่อหยิบมีดขึ้นมา เขาก็รีบเดินเข้าไปในห้องครัวทันที และไม่คิดเลยสักนิดที่พูดออกไป

“ฉันทำเอง”

เพราะที่จริงตัวเขาเองก็ไม่เคยทำมาก่อน แต่พอส่งมีดนั่นไปไว้ในมือของเผยอี้แล้ว เขาก็บอกให้เจียงเซ่อออกไปอยู่ข้างนอกแทน เธอเองก็เห็นเขากำลังสำรวจดูว่าเปลือกมันต้องปอกยังไง แต่ก็ยังมีความกระหยิ่มยิ้มย่องหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป แล้วก็ไม่รู้ว่าส่งไปที่ไหนอีก ครู่เดียวมือถือของเขาก็มีเสียงแจ้งเตือนดัง ‘ติ๊ดๆๆ’ มาติดๆ กัน

เขาปอกเปลือกออกมาค่อนข้างแย่มากเลยทีเดียว ปอกเสร็จแล้วก็ยังบ่นออกมาอีก

“มันกินยังไงวะเนี่ย?”

“ไม่งั้นลองเปิดเน็ตหาดูไหม” เจียงเซ่อเองก็ไม่ค่อยได้ทำกับข้าวนัก บางทีไปซุปเปอร์มาเก็ตก็เลือกซื้อมามั่วๆ

เธอเสนอวิธีขึ้นมา แต่เผยอี้ยังมีความหวังกับคอมพิวเตอร์อยู่ เขาเลยส่ายหัวปฏิเสธแบบไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ เขาหยิบมือถือขึ้นมา สักครู่หนึ่งก็โหลดวิธีทำอาหารมาดู

และในขณะนั้นเองเจียงเซ่อก็ได้รับโทรศัพท์จากรูมเมทอย่างเฉินยวี่เวย ตั้งแต่เมื่อคืนที่เจียงเซ่อออกไป เด็กสาวทั้งสามคนก็ยังอยู่เล่นกันต่อจนถึงตีสามกว่าถึงได้กลับหอ จากนั้นก็นอนจนถึงตอนนี้เพิ่งจะตื่นขึ้นมา

ตอนนั้นทุกคนต่างก็ดื่มกันหมด แต่ก็ยังสามารถจดจำท่าทางของเผยอี้ในตอนที่มองเจียงเซ่ออย่างตื่นเต้นได้ดี เฉินยวี่เวยถามเจียงเซ่อมาว่าเธอกำลังคุยๆ กับเผยอี้อยู่ใช่ไหม เจียงเซ่อเองก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร พูดคุยกันอีกนิดหน่อยก็วางสายไป พอเข้าไปดูในห้องครัวอีกรอบ ข้างในมันก็เละไปหมด

มันฝรั่งที่มีอยู่ก็ใช่ว่าจะเยอะอะไร แล้วพวกมันก็ยังมาโดนเผยอี้ทำลายทิ้งอีก เขาเดินไปล้างมือแล้วออกมาจากห้องครัว

“พวกเราไปหาอะไรทานข้างนอกกันดีกว่า”

และแน่นอนว่าตอนนี้เจียงเซ่อก็ไม่มีความคิดอื่นอีกแล้ว

สรุปแล้วทั้งสองคนก็ได้ออกมาทานข้าวข้างนอกกัน จากนั้นเผยอี้ก็มาเดินเล่นด้วยกันกับเจียงเซ่อ

ในขณะนั้นเองเนี่ยต้านก็โทรเข้ามา แค่รับสายเสียงหัวเราะเยาะของเนี่ยต้านก็แทรกเข้ามาทันที

“พี่อี้ ห้องครัวเมื่อตอนเที่ยงเป็นยังไงบ้างครับเนี่ย?”

ตอนที่เขาหยิบมันฝรั่งขึ้นมาก็เกิดคิดว่าตัวน่ะเก่งและสามารถทำมันได้ แล้วก็ดันเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปลงอวดแบบไม่คิดเลยสักนิด

แต่มันสำเร็จที่ไหนล่ะ เขาก็ไม่ใช่ประเภทที่เข้าห้องครัวเสียหน่อย เพราะงั้นครั้งแรกของเขาก็เลยล้มเหลวไม่เป็นท่า

พอตอนนี้มาโดนเนี่ยหัวเราะเยาะใส่ แต่เผยอี้ก็ทำแค่ปรามๆ ไปเล็กน้อย “พอละ ไม่คุย ฉันจะเดินเล่นกับเจียงเซ่อ”

ถ้าเกิดว่าเป็นเมื่อก่อนที่หัวเราะเผยอี้แบบนี้ มีเหรอที่เรื่องจะจบลงง่ายๆ? ตอนนี้เขากลับทำแค่ดุๆ มาสองคำ แล้วก็ทำเหมือนปล่อยให้เรื่องมันผ่านไป นี่มันทำให้เนี่ยต้านแปลกใจมากๆ

แต่สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจยิ่งกว่า คือการที่เผยอี้บอกว่ากำลังเดินเล่นกับใครบางคนอยู่

ตอนนั้นที่เขาจะตามจีบเจียงเซ่อ เพื่อนพี่น้องก็แทบจะไม่เชื่อกัน เพราอย่างไรเสียความรู้สึกที่เขามีต่อเฝิงหนานมันก็ลึกซึ้งเสียมากๆ ทุกคนก็เห็นมันเป็นแบบนั้นมาแล้วหลายปี และรู้ดีว่าเขาเป็นคนยังไง

ตอนแรกก็คิดว่าที่เขาทำแบบนี้คงแค่อยากจะลองอะไรใหม่ๆ เท่านั้น เพราะยังไงรูปร่างหน้าตาของเจียงเซ่อก็ดูโดดเด่นไม่น้อย แต่ใครจะไปรู้ว่าเขาจะดูถลำลึกเข้าไปเสียแล้ว

“พี่อี้ นี่พี่ชอบขึ้นมาจริงๆ แล้วเหรอ? เดินเล่นกับผู้หญิงน่าเบื่อจะตายชัก เดินไปก็เดินมาอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวก็ตื้อให้ซื้อนั่นซื้อนี่ให้ ถ้าให้ผมพูดตรงๆ นะ ของที่พวกหล่อนยากได้หรือแม้แต่ของที่จะให้เอาไปส่งให้พูดออกมายังไงก็พูดไม่หมดอ่ะ พวกที่ผมเจอๆ มาก็เป็นแบบนั้นหมดแหละ”

เผยอี้หันหน้าไปมองเจียงเซ่อ เธอยังคงนั่งอยู่ตรงหน้าตู้สินค้าที่มีพวกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอยู่เหมือนเดิม แต่ยิ่งเขามองเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกแปลกใหม่ทุกครั้ง คิกถึงภาพเวลาที่เจียงเซ่อคอยลากเขาไปนู้นไปนี่ อ้อนให้เขาซื้อของให้อย่างนู้นอย่างนี้ให้ก็อดจะขำออกมาไปไม่ได้

“แต่ฉันกลับคิดว่ามันก็ไม่เลวเลยนะ ก็หวังอยู่ว่าเธอจะเป็นแบบนั้นบ้าง” ปลายสายอย่างเนี่ยต้านที่ได้ยินเสียงพูดขำๆ แบบนั้นออกมา ตัวเขาเองก็ไม่มีคำพูดไหนจะมาหักล้างอีก

พอเขาวางสายไป เจียงเซ่อก็ซื้อของที่ตัวเองต้องการเสร็จเรียบร้อยพอดี เผยอี้รับใบเสร็จมาอย่างเคยชินแล้วพูดขึ้น

“เดี๋ยวไปดูคอมกันเถอะ”

ไอ้คอมพิวเตอร์เครื่องเก่าที่อยู่ในห้องเช่าของเธอคงใช้ไม่ได้อีกต่อไป ใครจะไปรู้กันว่าด้านในจะยังมีของอะไรอยู่อีกบ้าง

และพอดีกับที่วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ และของขวัญที่เผยอี้เตรียมเอาไว้มันก็ให้ไม่ได้แล้ว ก็เปลี่ยนเป็นซื้อคอมให้แทนเลยละกัน

หลังจากที่ตกลงกับเผยอี้ไปแล้วว่าจะลองคบกันดู แต่ชีวิตความเป็นอยู่หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก เวลาก็ผ่านไปเร็วเช่นเคย หลังจากที่หนังเรื่อง ‘99 Love Letter’ ได้ผ่านการโปรโมตมาสักระยะหนึ่งแล้ว วันเข้าฉายในเดือนแรกก็มาถึง

กระแสในอินเทอร์เน็ตก็มีไม่น้อยที่รอคอยกับหนังเรื่องนี้ของจ้าวร่าง นอกจากจะมีแฟนคลับของชุยซิ่งและจูพ่านแล้ว ก็ยังมีกลุ่มคนเล็กๆ อีกกลุ่มที่พุ่งเป้าไปที่ ‘แผ่นหลังหญิงสาวในฝัน’

การฉายหนังในรอบปฐมทัศน์ได้มีการเชิญคนในวงการบันเทิงมากมายมาเข้าร่วม และในเน็ตก็ยังมีฉากหนังบางส่วนในรอบปฐมทัศน์ปล่อยออกมาอีกด้วย

ในหนังก็ยังคงมีกลิ่นอายหนังของจ้างร่างเช่นเดิม ส่วนชุยซิ่งและจูพ่านก็เล่นเป็นคู่รักที่น่ารักน่าเอ็นดูไม่หยอก

แต่ก็มีนักข่าวและสื่อมวลชนต่างๆ ที่มาเข้าร่วมงานหนังรอบปฐมทัศน์พบว่า จ้าวร่างไม่ได้พานักแสดงที่เล่นเป็น “แผ่นหลังของหญิงสาวในฝัน’ มาด้วย

งานหนังรอบปฐมทัศน์ครั้งนี้ นักเขียนข่าวอิสระอย่างเหอฉงเองก็ได้รับเชิญให้มาเข้าร่วมงานเช่นเดียวกัน

หล่อนมีชื่อเสียงมากในอินเทอร์เน็ต และหล่อนก็มีคอลัมน์พิเศษของตัวเองในสำนักข่าวแห่งหนึ่งด้วย ในขณะเดียวกัน หล่อนก็เป็นแฟนคลับพระเอกของเรื่อง ’99 Love Letter’ อย่างชุยซิ่งอีกด้วย ที่สำคัญหล่อนก็ติดตามชุยซิ่งมาแล้วหลายปี

ครั้งนี้จ้าวร่างดันแอบสร้างมุขตัวละคร ‘แผ่นหลังของหญิงสาวในฝัน’ ขึ้นมาโดยพละการ ซึ่งนั่นก็ทำให้เหอฉงรู้สึกไม่เข้าใจมากๆ ในใจของหล่อน มันก็มีความคิดเหมือนกับแฟนคลับชุยซิ่งคนอื่นๆ นั่นแหละ ที่ไม่คิดว่าจะมีดาราผู้หญิงคนไหนที่จะทำให้ชุยซิ่งตกหลุมรักได้เพียงแค่เห็นแผ่นหลัง

พอหล่อนได้รับคำเชิญให้ไปงานรอบปฐมทัศน์ หล่อนก็หอบเอาสติปัญญาทั้งหมดที่มีหลังจากที่ดูหนังจบแล้ว รอว่าจ้าวร่างจะเอายังไง