webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

105

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

 

 

 

บทที่ 105 กระตุ้น

 

ที่จริงตอนที่พูดประโยคนั้นออกไป ในใจของเผยอี้เองก็ไม่ได้มีความมั่นในสักเท่าไหร่หรอก ก่อนหน้านี้ก็เลยหาเรื่องพูดอย่างอื่นไปเรื่อย แต่ในใจกลับคิดอยู่ตลอดว่าอยากจะพูดมานานแล้ว

 

“เซ่อเซ่อ ขอร้องล่ะนะ” แววตาของเผยอี้เต็มไปด้วยการอ้อนวอนและดูกังวล ในมือของเขาถือน้ำแร่ที่เพิ่งดื่มแล้วครึ่งขวด อีกข้างก็ยังมีฝาของมันอยู่ด้วย แต่เจียงเซ่อก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะตอบ

ตั้งแต่ที่มาเกิดใหม่ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

พอลองมาคิดดูดีๆ แล้ว เธอเติบโตแบบธรรมดา เพื่อนที่อยู่รอบๆ ก็ใช่ว่าจะไม่มีผู้ชาย แต่ที่สนิทกันที่สุดก็คือเผยอี้นี่แหละ

อาจจะเป็นเพราะเขาอายุน้อยกว่าเธอถึงห้าปี บวกกับทั้งสองตระกูลของเราก็สนิทกันมานาน เขากับเธอก็ถือได้ว่าโตมาด้วยกัน มันก็เลยยากที่จะมีใจมาคอยคิดระวัง

ก่อนที่จะมาเกิดใหม่เธอก็เคยพูดคุยเจอหน้าจ้าวจินฮั่นมาก่อน เมื่อเอามาเทียบกันกับเผยอี้ เขาเป็นคนที่เธอรู้จักนิสัยใจคอดียิ่งกว่าใคร

เขาเองก็บอกตั้งหลายครั้งว่าจะจีบเธอ การกระทำก็ชัดเจนไม่น้อย และเมื่อคืนที่เธอเมา เขาก็ไม่ได้ฉวยโอกาสทำเรื่องไม่ดีต่อเธอด้วย

แทนที่จะต้องไปเริ่มใหม่กับใครคนอื่นอีก การที่เธอยอมตอบรับเผยอี้ก็คงไม่ใช่เรื่องที่แย่อะไร

ยิ่งไปกว่านั้นคือ ช่วงเวลาว่างก็มักจะมีเขาเข้ามาเติมเต็มอยู่เสมอ ถึงจะตอบรับไปแต่สถานการณ์ก็คงไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมนัก

 

“ก็ลองดู”

 

ในขณะที่เผยอี้กำลังใจจดใจจ่ออยู่กับการอคอย ในที่สุดเธอก็ค่อยๆ พูดออกมาแล้ว

 

เคยคิดเอาไว้ว่าการที่ตามจีบเธอคงเป็นเส้นทางที่ยากมากแน่ๆ แต่ก่อนเคยทุ่มเทไปตั้งมากมาย กี่ครั้งแล้วที่ได้โอกาสแต่ไม่ยอมรักษามันไว้ให้ดีสุดท้ายก็ทำได้แค่ไปนั่งดื่มเหล้ากับพวกเนี่ยต้านแล้วก็นั่งเจ็บปวดอยู่คนเดียว

แต่ ณ วันนี้เธอกลับไม่ได้ปฏิเสธเขาทันที กลับกันคือบอกว่าจะลองดูๆ กับเขาก่อน เผยอี้รู้สึกว่าตัวเองนี่โง่มากจริงๆนั่นแหละ

 

 

พอขับรถไปส่งเธอถึงที่ห้องพักแล้ว เขามีบางอย่างที่อดกลั้นไว้มาตลอดทาง ลงมาจากรถแล้วถึงได้พูดออกมา

 

“ฉันชอบเธอนะ” ชอบเธอมากๆ มากกว่าที่เธอคิดเอาไว้เสียอีก

 

เขาเงยหน้าขึ้น “เซ่อเซ่อ ถ้าเกิดว่าฉันไม่ได้จีบเธอ ไม่ได้บอกถึงความในใจให้เธอรู้ ก็แค่ทำดีแบบนี้กับเธอไปเรื่อยๆ จะมีสักวันไหมที่เธอจะชอบฉัน?”

 

“ไม่มีทาง” เธอปลดเข็มขัดนิรภัยออก และปล่อยให้เขาเดินอ้อมมาเปิดประตูให้

 

“อาอี้ ถ้าหากนายไม่บอกฉัน ฉันก็คงไม่คิดอะไรเกินเลยกับเพื่อนคนหนึ่งแน่ๆ”

เพราะในใจของเธอมันสามารถแยกความรู้สึกต่อคนรอบข้างที่เกี่ยวข้องได้อย่างชัดเจน ก็อย่างที่ก่อนจะมาเกิดใหม่ ตอนนั้นเผยอี้ยังไม่ได้บอกความในใจกับเธอ ดังนั้นไม่ว่าเขาจะทำอะไรมากมายแค่ไหน ในใจของเธอก็มองเขาเป็นแค่น้องชาย เธอก็คงไม่นึกที่จะคิดไปในทางอื่นอีก และยิ่งไม่ต้องพูดเรื่องที่เธอจะตอบรับความรู้สึกของเขาเลย

แต่ตอนที่เผยอี้มาสารภาพและแสดงให้เห็น พูดอย่างชัดเจนแล้วว่าในใจของเขาคิดอย่างไรกับเธอ เธอถึงได้เอาเก็บมาคิดตลอด และพอมาตอนนี้ถึงได้บอกให้ลองดูยังไงล่ะ

 

แล้วที่เขามัวแต่คิดมากวุ่นวายมาหลายปีเพื่ออะไรกัน?

สีหน้าของเผยอี้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา พอเห็นว่าเจียงเซ่อลงรถมาแล้ว เขาก็ยกมือจัดเสื้อให้เรียบร้อยอย่างระมัดระวัง

 

ความจริงแล้วเธอก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่มากนัก มีไปทานข้าวกับจ้าวจวินฮั่นครั้งหนึ่ง แถมทั้งสองก็ยังเอาแต่สุภาพเรียบร้อยใส่กัน

ระหว่างเผยอี้และเธอในสมัยก่อนก็ช่างมันไปก่อนเพราะตอนนี้ได้ตอบรับว่าจะลองคบดูแล้ว เลยถามออกไปอย่างมีมารยาทว่า

 

“นายอยากจะเข้าไปนั่งในห้องฉันสักหน่อยไหม?”

 

“แน่นอน!” โอกาสแบบนี้ไม่ควรจะพลาดเลยจริงๆ เขาน่ะจ้องที่จะขึ้นไปที่ห้องของเธอตาเป็นมัน

เขารู้แค่ว่าที่นี่คือห้องพักของเจียงเซ่อ แต่ว่าตั้งแต่ที่เขากับเธอได้เจอและพูดคุยกัน ก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะไปถึงตรงนั้น พอตอนนี้เจียงเซ่อเสนอขึ้นมา เผยอี้ก็ตอบรับพยักหน้าหงึกหงัก

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเชิญเข้าเข้าไปในห้อง ถึงแม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้ว ว่าอย่างเธอคงแค่เชิญเขาเข้าไปนั่งเท่านั้น ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าจะเป็นแบบนั้น แต่ก็ยังทำให้เผยอี้รู้สึกร่าเริงขึ้นมาได้

ในตอนที่ทั้งสองคนเข้าไปในลิฟต์ เขาก็ยังมีความตื่นเต้นอยู่ ยากเหลือเกินที่จะทำให้สงบลงได้

พอตื่นเต้นแล้วเขาก็ยังรู้สึกแย่อีกด้วย ก่อนหน้านี้ที่ที่เขาสารภาพรักกับเจียงเซ่อไป เขากลัวว่าเธอจะไม่ยอมรับ เลยดื่มน้ำไปเสียหลายอึก ตลอดทางที่ขับรถมาส่งเธอเขาก็อั้นมันมาไว้ตลอด ยิ่งตอนนี้มันตื่นเต้นขึ้นมา เขาอยากจะเข้าห้องน้ำมากๆ เลยตอนนี้

 

พอลิฟต์เคลื่อนตัวขึ้นมาชั้นบนแล้ว เขาก็กวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วชี้ไปส่งๆ

 

“ที่นี่มีห้องน้ำบ้างไหม?”

เจียงเซ่อเพิ่งจะหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋า ได้ยินเขาถามแบบนั้นก็ตอบออกไป “ไม่” เธอส่ายหน้านิ่งๆ พลางไขประตูห้อง “นอกจากห้องนี้ นายจะใช้ตรงไหนเป็นห้องน้ำก็ได้”

“……”

 

หอพักที่นี่ก็เป็นแค่หอพักเล็กๆ เท่านั้น ห้องของเจียงเซ่อเองก็ไม่ได้กว้างอะไร แค่เปิดประตูเข้าไป ก็สามารถเห็นห้องทั้งห้องได้หมดแล้ว

 

พอเผยอี้เข้าไปแล้วก็ค่อยๆ รู้สึกแย่ลง พอได้เข้ามาเห็นห้องแบบนี้ ในใจของเขามันก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมา

ห้องที่เธออยู่ในตอนนี้มันเทียบไม่ได้เลยกับห้องของเฝิงหนาน ห้องทั้งห้องมันยังใหญ่ไม่เท่าห้องเสื้อผ้าของเขาด้วยซ้ำ และในข้อมูลที่เนี่ยต้านหามาก็บอกเอาไว้ว่าเธอเช่าหออยู่มาหลายเดือนแล้วด้วย

ในห้องๆ นี้ไม่ได้มีของที่ดูเป็นเอกลักษณ์ของเธอมากนัก ก็คงจะมีแต่หนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุดวางไว้อยู่ตรงหน้าต่างข้างเตียง ความเคยชินของเธอยังไม่เปลี่ยนไปเลย

 

หลังจากที่เผยอี้เข้าห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว พอเห็นว่าในห้องมีเตียงของเธออยู่ด้วย เลยถือโอกาสตอนที่เจียงเซ่อหยิบเสื้อผ้าไปอาบน้ำ ลุกจากโซฟาเดินเข้าไปใกล้เตียงของเธอ หยิบเอาผ้าห่มและหมอนที่เธอใช้ขึ้นมากอดเอาไว้ และสูดกลิ่นของมันเข้าปอดลึกๆ

พอเขาทำแบบนั้นแล้วก็กลัวว่าเจียงเซ่อจะเดินออกมาเห็น เขาเลยรีบลุกขึ้นนั่งดีๆ แต่สายตาก็ดันไปเห็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งไว้อยู่อีกมุมของห้อง เลยตะโกนออกไป

“เซ่อเซ่อ ขอฉันใช้คอมของเธอหน่อยได้รึเปล่า?

 

“ได้” เสียงของเธอปะปนมากับเสียงน้ำมที่ไหลลงมา และนั่นก็ยิ่งทำให้เผยอี้รู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาอีก

 

พอเจียงเซ่ออาบน้ำเสร็จออกมา ก็เพิ่งจะรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เผยอี้นั่งอยู่บนเตียง ใบหน้าคมคายของเขาขึ้นสี มือสองข้างที่ค้ำเตียงสั่นระริก เหมือนว่ากำลังได้รับอารมณ์อย่างหนักอย่างไรอย่างนั้น หน้าจอคอมพิวเตอร์ปรากฏรูปของผู้หญิงที่กำลังหายใจหอบถี่และร้องครางออกมา

 

พอเขาได้ยินเสียงฝีเท้าของเจียงเซ่อเดินเข้ามา ปากก็อ้าค้าง นิ้วก็ชี้ไปที่คอม

“เธอ,เขา,เขา……” 

 

เธอเดินเข้าไป แต่ก็เห็นเพียงแค่ผิวเนื้อขาวๆ เท่านั้น เหมือนกับว่าจะเป็นคนสองคนที่ไม่ได้สวมเสื้อผ้าสักชิ้น ยังไม่ทันดูให้ชัดๆ เผยอี้ก็รีบยื่นแขนไปคว้าเอวเธอเอาไว้ ดึงเธอเข้าไปในอ้อมกอด และกดหน้าเธอลงกับแผ่นอกตัวเอง

“ไม่ต้องดู ไม่ต้องดูแล้ว”

 

เขากอดเธอเอาไว้พลางใช้อีกมือไปกดปิดคอมทิ้ง

ใบหน้าของเจียงเซ่อแนบชิดกับแผ่นอกของเขา ที่ถึงแม้จะมีเสื้อโค้ทกั้นเอาไว้แต่ก็ยังสามารถฟังเสียงหัวใจเขาได้อย่างชัดเจน ไม่นานนักเสียงแปลกๆ พวกนั้นก็หายไป เขาบ่นพึมพำขึ้นมา

“ฉันว่าฉันคงต้องไปล้างตาเสียหน่อยแล้ว”

เผยอี้ปฏิญาณออกมา เพราะตั้งแต่แรกเขาแค่อยากจะดูคอมของเจียงเซ่อเท่านั้น อยากจะเห็นว่าปกติเธอเล่นเน็ตอะไรแค่นั้น

เขาไม่คิดเลยว่าหลังจากที่เปิดคอมพิวเตอร์แล้ว จะเห็นของแบบนี้ด้วย

 

เพราะพอมันเกิดขึ้นมาเขาก็ช็อคจนทำอะไรไม่ถูก ถึงได้ไม่ทันปิดมันลงทันที

แต่คอมรุ่นเก่าก็ไม่ได้มีคุณภาพหน้าจอที่ดีเด่อะไร เพราะมันต่างจากภาพชายหญิงที่เขาคิดเอาไว้มาก

 

 เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเจียงเซ่อขึ้นมา เอาเธอไปเทียบกับหญิงสาวในภาพนั่น มันเหมือนกับเป็นการดูหมิ่นเธออย่างบอกไม่ถูก แต่พอเขานึกถึงภาพอันสวยงามขึ้นมาได้ นึกถึงตอนที่ตัวเองกอดเธอเอาไว้ ไอ้ความรู้สึกน่ารังเกียจที่อุตส่าห์กดเอาไว้มันก็พุ่งขึ้นมาอีก