webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

104

娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr

ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน

 

 

 

บทที่ 104 สถานะ

 

 

ภาพตรงหน้านี่ทำให้เผยอี้รู้สึกใจสั่นไม่น้อย เขารีบยกผ้าขึ้นปิดหน้าตัวเอง แต่นั่นมันก็ยิ่งทำให้รู้สึกร้อนขึ้นมากกว่าเดิมอีก เหมือนว่าตัวเองก็ได้ความร้อนมาจากผ้าผืนนั้น และเขาก็รู้สึกร้อนไปถึงใบหูราวกับจะเป็นไข้เสียให้ได้ 

ตอนนี้ก็ใกล้จะตีสามแล้ว ช่วงเวลายามค่ำคืนแบบนี้มันเงียบจนแม้แต่เข็มตกลงพื้นก็คงได้ยิน เขาปิดหน้าตัวเองไว้ แต่หูก็ยังได้ยินอะไรชัดเจน

เสียงเนื้อผ้าเสียดสีกันเพราะเจียงเซ่อถอดมันออกมา ทุกเสี้ยวนาทีเสียงมันดังก้องกระตุ้นอยู่ในใจเขา เพียงแค่นั้น มันก็ยากต่อการยับยั้งชั่งใจตัวเองแล้ว 

 

ความคิดบางอย่างในหัวสมองของเขาแทบจะโค่นล้มสติสัมปชัญญะไปเสียหมด เขากดผ้าที่ยังปิดหน้าตัวเองแน่นกว่าเดิม แล้วพูดขึ้นมาด้วยเสียงเบาบาง

 

“เซ่อเซ่อ ไม่ต้องถอดแล้ว......”

 

“อาอี้ อาอี้......” เธองึมงำเรียกชื่อเขาออกมาสองครั้ง น้ำเสียงของเธอมันฟังดูหวานราวกับน้ำผึ้ง พอลากเสียงอีกนิด มันก็ไพเราะจนใจเขาสั่นไปหมด

 

“เสื้อผ้าของฉันล่ะ?”

 

เขากล้าพูดอะไรที่ไหน ตอนนี้ในใจของเขาเหมือนมีกระต่ายกระโดดไปกระโดดมา พอเผยอี้ลองเงี่ยหูฟังอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงเหล่านั้นแล้ว เผยอี้ทำใจกล้าค่อยๆ ลดผ้าที่ปิดหน้าลง สิ่งที่เห็นคือเธอกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ข้างเตียงและกำลังพยายามปีนขึ้นไปข้างบน ผมยาวสลวยของเธอปกคลุมแผ่นหลังเนียนขาวเอาไว้ ทำให้เห็นเอวเล็กที่แสนนุ่มวับๆ แวมๆ ขาเรียวยาวนั่นซ้อนทับกันราวกับภาพที่คอยดึงดูดใจ จมูกของเขาได้กลิ่นหอมเย็นๆ ออกมาจากเส้นผมของเธอด้วย นี่กะจะเอาเขาให้ตายเลยหรือยังไง!

 

แค่ดันเผลอไปมองแค่แปบเดียว เผยอี้ก็ดันรู้สึกว่าเลือดกำเดามันจะไหลออกมาให้ได้

และแน่นอนว่าเธอจะมาคว่ำหน้าอยู่แบบนี้ทั้งคืนไม่ได้ เผยอี้เงยหน้าแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง ทิ้งผ้าในมือลงแล้วเดินเข้าไปในห้องเสื้อผ้าเพื่อเอาชุดนอนของตัวเองออกมา และตอนที่แตะโดนหัวไหล่ของเธอมือของเขาก็สั่นเทาไปหมด

เพราะว่าตอนนี้เมาก็เลยยอมทำตามไปเสียทุกอย่าง แค่จะดันตัวเธอเบาๆ เธอก็หล่นใส่อ้อมกอดเขาเสียพอดิบพอดี

แม้แต่ชุดชั้นในก็ยังถอดออกเหรอ! ความหอมของผิวเนื้อขาวมันค่อยๆ กระจายออกมาเพราะแค่เธอขยับตัว ร่างกายอวบอิ่มและโค้งกลึงตามรูป เผยอี้เห็นแค่แวบเดียวภาพมันก็ติดอยู่ในหัวหมดแล้ว

 

“อา เซ่อเซ่อ......” เขาว่าเขาโดนยั่วยุมามากพอแล้วในคืนนี้ เขาหลับตาปี๋ แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะสายไปเสียแล้ว

 

เพราะพูดได้ว่า ในหัวของเขาสามารถพรรณนาถึงภาพสีของดอกเหมยสองดอกและภูเขาสีอ่อนนั่นได้เป็นอย่างดี ยามที่สัมผัสโดนมันก็ทั้งนิ่ม ทั้งขาว ทั้งอุ่นและหอมหวาน พอเผยอี้ถูกเจียงเซ่อขยับเข้ามาใกล้เบาๆ แถมยังโดนเธอพิงก็เลยนั่งแปะลงบนพื้นพรม

 

จู่ๆ ก็เกิดไม่รู้ว่าจะเอามือเอาเท้าไปไว้ตรงไหนดี เลยตัดสินใจพยุงเธอขึ้นก่อน ส่วนตัวเองก็พิงหลังอยู่ข้างเตียง ฟันขบกันแน่น

ตอนนี้แค่คิดขึ้นมาก็ถือว่าผิดแล้ว เขาทำหน้าท่าทางเหมือนกับว่ากำลังได้รับบทลงโทษที่แสนทารุณในตอนที่หยิบชุดนอนขึ้นมาสวมให้เธอ แล้วก็เรียกความกล้ามาอุ้มคนเมาขึ้นเตียงให้เรียบร้อย 

พอคิดดูดีๆ แล้วก็กลัวว่าตัวเองจะไม่มีความอดทนพอเหมือนกัน เขาดันเธอเข้าไปกลางเตียง และเพราะกลัวว่าเธอจะลุกขึ้นมาถอดเสื้อผ้าอีกก็เลยห่มผ้าให้เรียบร้อย ราวกับว่าจะใช้มันกดเธอเอาไว้

ที่จริงตอนนี่มันก็ปลายเดือนพฤศจิกาแล้ว ข้างนอกหน้าต่างนั่นมีลมพัดมาเป็นระลอกๆ แต่หน้าผากและแผ่นหลังของเขากลับมีเหงื่อชุม นั่งพิงเตียงตัวตรงแน่ว

มือของเขายังสั่นอยู่เลยด้วยซ้ำ ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าก่อนหน้านี้ตัวเองเอาความอดทนมาจากไหนถึงได้ผลักเธอออกไปได้

เขาน่ะแอบชอบเธอมานานแสนนาน การที่เธอมาอยู่ในอ้อมแขนของเขามันก็เป็นแค่ความฝันที่ไม่รู้ว่าตัวเองฝันแบบนั้นไปกี่ครั้งแล้ว การที่ได้มีโอกาสดีๆ แบบนี้เขาก็ควรต้องคว้ามันเอาไว้สิ จะได้เป็นไปตามที่เคยปรารถนาเอาไว้

แต่ก็กลัว กลัวว่าถ้าเธอตื่นมาแล้วจะเสียใจ กลัวเธอจะร้องไห้ เขาน่ะทะนุถนอมเธอเหลือเกิน กลัวว่าเธอจะคิดว่าตัวเองโดนเอาเปรียบ และก็คงไม่คิดว่าความใกล้ชิดสนิทสนมของระหว่างเราทั้งสองจะกลายเป็นแบบนั้น นั่นมันเหมือนเป็นการดูหมิ่นเธอ 

 

พอคิดได้ ไอ้ความคิดไม่ดีที่อยู่ในหัวก็ค่อยๆ ถูกกดลงไป ถึงแม้ว่ามันจะยากที่จะทนก็เถอะ

การที่เธอเข้ามาอยู่ในห้องเดียวกันแบบนี้เขาเองก็ไม่ควรที่จะพลาดโอกาสไปอีก แต่พอนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้แล้ว มันก็ถือว่าเกินความอดทนที่ตัวเองมีเต็มทีแล้ว 

เพราะฉะนั้น พอเขาอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย ในคืนนี้เขาก็ตัดสินใจที่จะนอนในห้องหนังสือ แต่ก็นอนได้ไม่สนิทนัก เพราะต้องตื่นมาแอบดูเธอตั้งหลายครั้งหลายครา และเขารู้สึกว่าการที่เจียงเซ่อมานอนในห้องของตัวเองมันช่างเหมือนฝันเลย

 

 

 

เมื่อคืนนอนดึกมาก ไหนจะดื่มเหล้าไปอีก กว่าเจียงเซ่อจะตื่นก็ปาเข้าไปสิบโมงกว่าแล้ว

 

ผ้าม่านสีเข้มยังไม่ได้ถูกเปิดออก ทำให้แสงแดดข้างนอกสามารถส่องทะลุเข้ามาเห็นเป็นแสงเงาเท่านั้น เธอกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะหาวออกมาและจากนั้นถึงจะลุกขึ้นนั่ง

 

นี่มันเป็นห้องนอนของเผยอี้นี่ เสื้อผ้าของเธอก็ถูกกองเอาไว้รวมกันบนพื้น เจียงเซ่อเลยก้มหน้าดูที่ตัวเอง ก็พบว่าตัวเองกำลังสวมชุดผ้าแพรนุ่มลื่นอยู่ ดูก็รู้แล้วว่าเป็นของเผยอี้ ทั้งตัวใหญ่และยาวแบบนี้

 

เธอยกมือขึ้นขยุ้มรอบคอเสื้อโดยอัตโนมัติ สะบัดผ้าห่มออกแล้วลุกออกจากเตียงทันที

ดูท่าว่าเมื่อคืนเผยอี้คงจะเป็นคนพาเธอกลับมาที่นี่ แต่ว่าตอนไหนที่พามา เธอก็จำอะไรไม่ค่อยได้นัก จำได้แค่ว่าตอนที่กำลังเล่นสนุกกันอยู่ที่จิ่วหลงถาง ตัวเธอเองก็ดื่มเหล้าไป แล้วเผยอี้ก็โทรมาหาเธอ

เธอค่อนข้างคออ่อนเลยทีเดียว ดูท่าคราวหลังคงจะต้องแตะมันให้น้อยลงที่สุดเสียแล้ว

ถึงแม้ว่าเมื่อคืนจะเมาจนจำอะไรไม่ได้  แต่เจียงเซ่อก็ลองลูบๆ แตะๆ ร่างกายตัวเองดีแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร 

 

เธอจึงคิดว่าเผยอี้คงจะแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอเท่านั้น ทำตัวตามปกติและคงไม่มีเรื่องอะไรอื่นๆ อีก

พอเจียงเซ่อคิดถึงตรงนี้ เธอลอบหายใจออกมาเบาๆ อยากจะยิ้มขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

 

แต่ถึงแม้ว่าเผยอี้จะไม่ได้ลงมือทำอะไรกับเธอ แต่เจียงเซ่อเองก็ยังรู้สึกว่ามันคงไม่ดีเท่าไหร่ เธอหยิบเอาเสื้อตัวเองขึ้นมา จากนั้นก็เดินเข้าห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนของเผยอี้ด้วย แถมยังได้แปรงสีฟันกับผ้าขนหนูที่ยังไม่เคยใช้มาด้วย พออาบน้ำเสร็จเรียบแล้วเดินออกมา เธอก็เพิ่งจะได้เห็นว่าเผยอี้มารออยู่ที่หน้าประตูสักพักแล้ว 

 

กิริยาท่าทางของทั้งสองคนต่างก็ไม่เป็นธรรมชาติเลยสักนิด แต่ว่าดูๆ แล้วตอนนี้เผยอี้ดูเขินกว่าเธออีก แค่เผลอจ้องตากับเธอหูของเขาก็แดงจนเห็นได้ชัดเจนเลย!

 

ที่จริงเจียงเซ่อเองก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย แต่พอเห็นว่าเผยอี้เป็นแบบนี้แล้ว เธอก็สงบจิตใจตัวเองลง

 

“ในตู้เย็นมีผลไม้อยู่นะ” เขาเริ่มจะหงุดหงิดตัวเองขึ้นมาเล็กๆ ที่ไม่มีความกล้าเอาเสียเลย พอมองไป ถึงแม้ว่าเธอจะสวมชุดเสื้อผ้าอย่างเรียบร้อยแล้ว ในสมองของเขามันก็ดันนึกถึงภาพเมื่อคืนขึ้นมาเสียอย่างนั้น

เผยอี้ก่นด่าตัวเองว่า ‘เจ้าเดรัจฉาน’ อยู่ในใจ แต่พอนึกถึงภาพเป็นบุญตาเมื่อคืนแล้ว เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเลือดลมมันเกิด พลุ่งพล่านขึ้นมา

“อ้อ ในรถยังมีเค้กที่ฉันซื้อให้เธอด้วยนะ!”

เขาลนลานรีบวิ่งลงบันไดไปโดยที่มารอให้เจียงเซ่อพูดอะไร พอเสียงฝีเท้าค่อยๆ วิ่งไกลออกไปแล้ว เจียงเซ่อก็ยกมือขึ้นมาแตะแก้มตัวเอง ก่อนจะลงมาข้างล่างเช่นกัน 

เป็นเพราะว่าเมื่อคืนไม่ได้เอาเค้กใส่ตู้เย็นเอาไว้ แน่นอนว่ามันกินไม่ได้อีกต่อไป

ตอนที่เขาเดินกลับมาด้วยมือที่ว่างเปล่า อารมณ์ของเขาก็เหมือนจะซึมๆ ไปด้วย

 

ตั้งแต่ครั้งนั้นที่เจียงเซ่อมาที่นี่ เขาก็ไม่ลืมว่าต้องซื้อพวกผลไม้เข้ามาด้วยแต่นอกจากนั้น เขาก็ไม่ได้ซื้ออะไรอย่างอื่นอีก

เขาเลือกสตอว์เบอร์รี่ออกมาแล้วเอามันไปล้างในอ่างให้เรียบร้อย แต่เขาก็ยังไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมา

 

“ไม่งั้นพวกเราไปทานข้างนอกกันดีกว่า”

เจียงเซ่อส่ายหน้า แต่ก็ทำเป็นว่ากำลังจัดเสื้อผ้าตัวเองเพราะยังไม่กล้ามองเขาตอนนี้

 

“ไม่ต้องหรอก พวกเพื่อนๆ รูมเมทฉันเมื่อคืนนี้ นายได้หาคนไปส่งพวกเธอไหม?”

 

“อื้ม” เผยอี้ตอบกลับเบาๆ บรรยากาศรอบๆ ตัวทั้งสองคนเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว “เมื่อคืนฉันกำชับเอาไว้แล้วว่าให้หาคนไปส่งพวกเธอแล้ว หลังจากที่เสร็จกันแล้วน่ะนะ”  

พอเขาพูดถึงตรงนี้ สายตาก็ดูลอกแลกแปลกๆ แถมหูก็แดงขึ้นมาอีก

 

“เซ่อเซ่อ พวกเราน่ะ ตอนนี้พวกเรา เอ่อ เธอเป็นแฟนสาวของฉันนะ เธอน่าจะให้ฐานะกับฉัน......”